ใครว่านิวยอร์คแพง? แต่เชื่อไหมว่าเราสามารถพาคุณเที่ยวนิวยอร์คได้ด้วยงบไม่เกิน 350 บ/วัน จริงๆ

สมัยเราเรียน ป ตรี ที่สถาบันหนึ่งในเมืองไทย ความที่เราเรียนศิลปะ เราได้ยินมาว่า นิวยอร์ค คือที่สุด ประมาณว่าใครชอบศิลปะและอยากเรียนต่อทางด้านอาร์ท ต้องไปที่นี่
สุดท้ายเราอยู่ที่นี่นานถึง 12 ปีก่อนที่จะย้ายกลับเมืองไทย ตลอดเวลา 12 ปีในนิวยอร์ค ความที่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน้อต และประหยัดทุกวิถีทาง ทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิต ศิลปะและดนตรีในงบประมาณที่ต่ำสุดๆ เราเลยอยากมาแบ่งปันทิปการท่องเที่ยวในนิวยอร์ค สำหรับคนที่มีความฝันเยอะแต่งบน้อย(เหมือนเรา) ได้มีโอกาศไปสัมผัสนิวยอร์คกันสักครั้ง
วิธีการเที่ยวนิวยอร์คในงบไม่เกิน 350 บ หรือ 10 ดอลล่าห์ต่อวัน มาจากการคำนวนว่าถ้าใน 7 วันคุณเที่ยวโดยใช้บัตร Metro card เป็นหลัก และไปเที่ยวตามสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คของเมือง ในเงื่อนไขที่แจ้งไว้ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ 4.58 ดอลล่าห์ หรือประมาณ 160 บ/วัน/คน (งบนี้ไม่รวมค่าอาหารและที่พัก) แต่เราแน่ใจว่าถ้าไม่โดนหลอก คุณสามารถเที่ยวในนิวยอร์คได้ด้วยงบเท่านี้แน่นอนค่ะ
เดือนไหนน่าเที่ยว?

บางคนอาจจะบอกว่าน่าเที่ยวทุกเดือน - ไม่จริ๊งงงง อย่าไปเชื่อ!
เราอยู่ที่นั่น 10 กว่าปี มันจะมีบางเดือนที่แม้แต่เราเองยังไม่อยากอยู่นิวยอร์คเลย YY ไปดูกันค่ะ
มค-มีค: อย่าไปเลย เพราะหนาวจัดมากค่ะ หนาวแบบวัวตายควายล้ม มีหิมะสวยๆก็จริงแต่หนาวจับจิตค่ะ
เมย-พค: มีหิมะแต่ไม่หนาวจัดค่ะ ใครชอบหิมะ แนะนำช่วงนี้
มิย: ใครชอบดอกไม้บานต้องไปเดือนนี้ เพราะดอกเชอรี่ที่เหมือนซากุระจะบานพร้อมกันทั้งเมือง สวยมากๆ ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินก็ราคาไม่แพงด้วยค่ะ
กค-สค: หน้าร้อน สนุกค่ะ มีกิจกรรมฟรีๆมากมาย โดยเฉพาะตามสวนสาธารณะใหญ่อย่าง Central Park, Prospeck Park มีละครและคอนเสิร์ตฟรีเกือบทุก ส/อ แต่ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินจะแพงหน่อยนะคะ
ปลาย สค-ต้น กย: ใครอยากดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้องช่วงนี้ค่ะ
ตค-พย: เริ่มหนาวค่ะ แต่ยังเที่ยวสนุกอยู่ ช่วงปลายเดือนตุลามีพาเหรดคืนวันฮัลโลวีน และปลาย พย มีบัลลูนพาเหรดเช้าวัน Thanksgiving สนุกมากค่ะ
ธค: เป็นช่วงก่อนคริสมาสต์ ตามห้างและร้านค้าจะจัดตู้โชว์อย่างสวยงามโดยเฉพาะที่ห้าง Macy’s ตรง 34 st และมีประดับไฟที่ต้นคริสมาสต์ใหญ่ที่ 42st หน้าตึก Rockyfeller อันนี้ดูฟรีเช่นกัน ในเมืองยังมี Flea market หรือตลาดนัดฝรั่งขายพวกของขวัญกิ๊ฟเก๋ น่าเดินมาก อย่างเช่นที่ Union square แต่ใครใจไม่แข็งพอ ผ่านไปนะคะ
เที่ยวนิวยอร์คอย่างไร โดยใช้เงินน้อยที่สุด
เราขอแนะนำว่า
1 ให้ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินที่เรียกว่า Subway แบบ 7 Days Unlimited Pass หากใครอยู่เกิน 7 วัน จะซื้อเพิ่มเป็นแบบ 1 day unlimited เพิ่มก็ได้ค่ะ ให้ใช้ซัปเวย์เป็นพาหนะหลักในการเที่ยวในมหานครนิวยอร์ค ตั๋วนี้ซื้อได้ตามเครื่องขายตัวอัตโนมัตในสถานีรถไฟใต้ดินทั้งหลายค่ะ
อ่านรายละเอียดราคา และตารางการเดินรถที่เว็บด้านล่างนะคะ
http://www.mta.info
2 ไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆในวันที่เค้าเปิดให้เข้าชมฟรี เกือบทุกที่เค้ามีวันเปิดให้เข้าฟรีค่ะ ซึ่งสถานที่เหล่านี้ถือว่าเป็น Icon ของเมืองนิวยอร์ค เฉพาะสถานที่ที่เข้าได้ฟรีก็มีมากจนเที่ยวกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วค่ะ บางที่ก็จะขอเป็นเงินบริจาคที่เราจะให้เท่าไหร่ก็ได้ (อย่าไปคิดว่าเด๋วเค้าจะหาว่าเรางก จ่ายนิดเดียว บอกเลยค่ะว่านิวยอร์คเกอร์แท้ เค้าจ่ายกันแค่เพ็นนีเดียว เพราะเค้าถือว่าสถานที่เหล่านี้ อยู่ได้ด้วยเงินภาษีของเค้าที่จ่ายกันแพงอยู่แล้ว ดังนั้นเค้าก็ให้กันแค่นี้แหละค่ะ) บางสถานที่อาจจะไม่ฟรียัง แต่เค้ามีส่วนลดให้กับนักเรียนด้วย
3 กินถูก-นิวยอร์คเป็นเมืองของอาหารนานาชาติ มีทั้งถูกทั้งแพง ส่วนมานิวยอร์คแล้วต้องกินอะไร ที่ไหนอร่อย ตามไปอ่านกันต่อได้ที่เพจของเรานะคะ
https://www.facebook.com/wildwalkstories/photos/pcb.1418584161594319/1418583221594413/?type=3&theater
MTA: รถไฟใต้ดิน

เราขอให้เริ่มต้นด้วยการซื้อ MTA 7 Days Unlimited Pass ราคา 32 USD ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัส ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายใน 7 วัน (ตกวันละ 4.58 ดอลล่าห์ หรือประมาณ 160 บ/วัน/คน) คือคนนิวยอร์คเกือบทุกคนใช้ MTA ไม่ค่อยมีใครขับรถกันค่ะ เพราะมันเป็นการเดินทางที่สะดวกและถูกที่สุดแล้ว ใครจะไปเที่ยว New York City ส่วนมากก็ต้องไปลงเครื่องที่ JFK airport ก็สามารถซื้อได้ตามตู้ขายบัตรที่สถานนีได้เลย แล้วใช้ในการเข้าเมืองไปหาที่พักค่ะ
นอกจากนี้เราสามารถขอแผนที่เส้นทางการเดินทางได้จากบู้ทขายบัตรในทุกสถานนี หรือดาวน์โหลดได้จากที่นี่ค่ะ
http://web.mta.info/nyct/maps/subwaymap.pdf
ส่วนโปรแกรมการเดินรถสามารถดูได้จากเว็บของ MTA ซึ่งรถวิ่งบ่อยมากค่ะโดยเฉพาะช่วงRush hours คือ 7-9:00 และ 16-18:00 ส่วน ส/อ ก็จะมีน้อยลง และบางสถานนีอาจจะมีปิดซ่อมแซม ดังนั้นเพื่อกันแห้วและหลง สามารถเช็คข่าวสารกันได้จาก
http://www.mta.info
บัตรนี้ซื้อปุ๊ปก็จะเริ่มนับวันตั้งแต่วันที่เราซื้อ ไม่ใช่วินาทีที่ซื้อนะคะ และถ้าวันไหนเราไม่ได้ใช้มัน เค้าก็ยังนับว่าเป็นอีก 1 วันที่ซื้อมาอยู่ดี ดังนั้นอย่านอนอยู่โรงแรมเฉยๆ ออกไปเที่ยวกันให้คุ้มค่ะ
ส่วนสถานที่เที่ยว มีหลากหลายมากค่ะ เราจะพาไปเที่ยวที่ต่างๆที่เป็นไฮไลท์ของเมืองกันในงบประมาณไม่เกิน 350 บ หรือ 10 USD/วัน ค่ะ โดยใช้วิธีไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ในวันที่เค้าเปิดให้เข้าชมได้ฟรี และบางที่ก็คิดค่าตั๋วเป็นเงินบริจาค ซึ่งเราจะให้แค่ดอลล่าห์เดียว หรือต่ำกว่านั้นก็ได้ค่ะ
ตามมากันเลยค่า
Central Park: ฟรี
59-110 St ใน Manhattan นั่งซัปเวย์สาย A,B,C,D,1,2,3,N,Q,R,W

เซ็นทรอลปาร์ก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองนิวยอร์คที่ใครๆต้องมา ที่นี่สวยทุกฤดูค่ะ เช่นในฤดูใบไม้ผลิ ก็มีดอกเชอรี่ที่คล้ายกับซากุระบานพร้อมกันหมด คือถ้าไปนี่คงไม่อยากไปไหนต่อ คงอยากนอนใต้ต้นไม้ทั้งวัน

แต่ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง จากปลาย สค-ต้น กย ส่วนช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ มิย-ต้น สค ก็จะเป็นฤดูร้อนที่มีคอนเสิร์ตและละครเวทีกลางแจ้งให้ดูกันค่ะ

เซ็นทรอลปาร์กนอกจากจะเป็นปอดของเมืองนิวยอร์ค มันเป็นศูนย์กีฬาและกิจกรรมสารพัด ซึ่งส่วนมาก “ฟรี” ค่ะ รายละเอียดกิจกรรมต่างๆของเซ็นทรอลปาร์กดูได้จากลิ้งค์ด้านล่างค่ะ
https://www.centralpark.com/search/event/upcoming-events/#page=1
ใครไปที่นี่แนะนำให้ไปถ่ายภาพของ น้ำพุ Bethesda และสะพานรอบๆสวนค่ะ สวยมากๆ แต่ถ้าฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไม่แนะนำนะคะ
ข้างในเซ็นทรอลปาร์กยังมีสวนสัตว์ด้วยชื่อ Central Park zoo ที่อยู่ในการ์ตูนย์เรื่อง Madagasca ไงคะ มีหนังหลายร้อยเรื่องถ่ายที่ Central park นี่ แต่ที่สวนสัตว์นี้ไม่ฟรีนะคะ
Statue of Liberty หรือ Lady Liberty: ฟรี
นั่งซัปเวย์สาย E แล้วไปต่อ Path Train

Lady Liberty เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของนิวยอร์ค เพราะนิวยอร์คได้ชื่อว่าเป็นเมืองของอิสระภาพ ความหวัง และอนาคตที่ดีกว่า สมัยก่อนคนที่อพยพมาอเมริกาโดยเฉพาะพวกยุโรปมักจะมากันทางเรือ ซึ่งมาเทียบท่าที่นิวยอร์คนี่ เวลาเรือวิ่งเข้าอ่าวมาก็จะเห็นรูปปั้นนี้ก่อน รูปปั้น Lady Liberty จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของนิวยอร์คไปโดยปริยาย ที่รูปปั้นนี้สามารถนั่งเรือไปเที่ยวได้นะคะ

แต่เสียเงินและต้องไปยืนจองหลายชั่วโมงกว่าจะได้ตั๋ว หากใครอยากได้รูปสวยๆแนะนำให้นั่ง Path Train ที่แถว Wall street ข้ามแม่น้ำฮัดสันไปที่ฝั่งนิวเจอซี่ ไปลงที่ Jersey city จะเห็นได้ดีกว่า ช่วงเย็นๆจะถ่ายรูปได้สวยมากๆค่ะ
*** ค่าตั๋ว Path train ไปกลับ 5.50 USD หรือประมาณ 180 บ ค่ะ
Museum mile: ฟรี
5 Ave. จากช่วง 82-110 St. นั่งซัปเวย์สาย E,M,N,R,W,7

ถนนเส้นที่สำคัญที่สุดเส้นหนึ่งในนิวยอร์คคือ ถนนสายที่ 5 หรือ 5th Avenue เพราะเป็นเส้นที่วิ่งผ่านพิพิธภัณฑ์ ห้างหรูๆ บูติคดังๆ และเซ็นทรอลปาร์ก รวมทั้งสถานที่สำคัญอื่นๆ ทำให้อพาทเมนต์บนถนนเส้นนี้แพงชนิดที่เรียกว่า ต้องรวยจริงๆเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ บนถนนเส้นนี้ในช่วงที่ตัดกับ 82st ไปจนถึง 110 st ถูกเรียกว่าเป็น museum mile เพราะมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่หลายแห่ง ในขณะที่บริเวณที่ 5 Ave ตัดกับ 59 st ไปจนถึง 42 st เป็นย่านแฟชั่นระดับกูตู หากใครไปเดินห้างดังๆในบริเวณนี้ อย่าง Saks, Bergdorf Goodman, Henri Bendel หรือ Cartier ก็มักจะมีโอกาศได้เห็นเหล่าเซเล็บทั้งเทศและไทยที่นั่นเสมอ Trump Tower ก็อยู่บนถนนสายนี้นะคะ
The Met หรือ The Metropolitant Museum: เงินบริจาค
5 Ave และ 72 St. นั่งซัปเวย์สาย 6

The Met Museum นับได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลกค่ะ ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองนิวยอร์คนี้ โดยเฉพาะคนที่รักศิลปะ ห้ามพลาดนะคะ เพราะงานศิลปะชิ้นสำคัญๆของโลกนับพันชิ้น ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่นี่ ที่สำคัญที่นี่ไม่เรียกเก็บค่าเข้าชม แต่ขอเป็นเงินบริจาคแทนซึ่งเราจะให้เท่าใดก็ได้ค่ะ ยกเว้นแต่นิทรรศการพิเศษเท่านั้น ที่ทางพิพิธภัณฑ์จะขายบัตรในราคาแพงกว่าปกติ ในช่วงฤดูร้อนเค้ายังเปิดดาดฟ้าเป็นบาร์ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปจิบเบียร์เย็น ซึ่งทำให้ได้เห็นมุมสวยๆของนิวยอร์คและเซ็นทรอลปาร์กด้วย
Moma หรือ Mesum of Modern Art: ฟรี ทุกวันศุกร์ 16-20:00 น
5 Ave กับ 53 St. นั่งซัปเวย์สาย E,M

นิวยอร์คเป็นเมืองแห่งศิลปะและงานออกแบบในทุกสาขาค่ะ ที่นี่จึงมีพิพิธภัณฑ์ต่างๆเยอะมาก โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ Moma นี่ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เพียงแต่งานศิลปะที่นี่จะเป็นงานศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งต่างจากงานที่จัดแสดงใน The Met

จริงๆแล้ว Moma นี่ไม่ฟรีนะคะ แต่เค้าจะเปิดให้เข้าชมฟรีเฉพาะช่วงวันศุกร์ตอนเย็นเท่านั้น หากใครอยากไปชมงานที่นี่ แนะนำว่าให้รีบไปเข้าแถวรอตั๋วฟรีสักบ่าย2 พอได้ตั๋วแล้วก็รอเข้าตอน 4 โมงเย็นได้เลยค่ะ
Saint Thomas church บน 5th ave: ฟรี
5 Ave กับ 53 St. นั่งซัปเวย์สาย E,M

อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้แวะไปเที่ยวกันคือ วิหารวัดนักบุญโทมัสบน 5 Ave ค่ะ โบสถ์นี้ถูกสร้างด้วยรูปแบบโกธิค มีอายุเกือบ 200 ปี อยู่ไม่ไกลจาก Moma ค่ะ เรียกได้ว่าอยู่ปากซอยเลยทีเดียว
โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่เหล่านิวยอร์คไฮโซจะมาเข้าพิธีมิสซากันทุกเช้าวันอาทิตย์ค่ะ และยังอยู่ในหนังและซีรี่สุดฮิตอย่าง Sex and the city ด้วย ดังนั้นหากใครไป Moma วันศุกร์ หลังจากได้ตั๋วแล้วและมีเวลาเหลือก่อน 4 โมงเย็น ให้ลองแวะไปเที่ยวที่โบสถ์นี้ดู ข้างในสวยงามมากและฟรีด้วยค่ะ
เด๋วว่างแล้วจะมาต่อให้นะคะ
เที่ยวนิวยอร์ค 7 วัน ด้วยงบไม่เกิน 350 บ/วัน
สุดท้ายเราอยู่ที่นี่นานถึง 12 ปีก่อนที่จะย้ายกลับเมืองไทย ตลอดเวลา 12 ปีในนิวยอร์ค ความที่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน้อต และประหยัดทุกวิถีทาง ทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิต ศิลปะและดนตรีในงบประมาณที่ต่ำสุดๆ เราเลยอยากมาแบ่งปันทิปการท่องเที่ยวในนิวยอร์ค สำหรับคนที่มีความฝันเยอะแต่งบน้อย(เหมือนเรา) ได้มีโอกาศไปสัมผัสนิวยอร์คกันสักครั้ง
วิธีการเที่ยวนิวยอร์คในงบไม่เกิน 350 บ หรือ 10 ดอลล่าห์ต่อวัน มาจากการคำนวนว่าถ้าใน 7 วันคุณเที่ยวโดยใช้บัตร Metro card เป็นหลัก และไปเที่ยวตามสถานที่ที่เป็นแลนด์มาร์คของเมือง ในเงื่อนไขที่แจ้งไว้ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันจะอยู่ที่ 4.58 ดอลล่าห์ หรือประมาณ 160 บ/วัน/คน (งบนี้ไม่รวมค่าอาหารและที่พัก) แต่เราแน่ใจว่าถ้าไม่โดนหลอก คุณสามารถเที่ยวในนิวยอร์คได้ด้วยงบเท่านี้แน่นอนค่ะ
เดือนไหนน่าเที่ยว?
บางคนอาจจะบอกว่าน่าเที่ยวทุกเดือน - ไม่จริ๊งงงง อย่าไปเชื่อ!
เราอยู่ที่นั่น 10 กว่าปี มันจะมีบางเดือนที่แม้แต่เราเองยังไม่อยากอยู่นิวยอร์คเลย YY ไปดูกันค่ะ
มค-มีค: อย่าไปเลย เพราะหนาวจัดมากค่ะ หนาวแบบวัวตายควายล้ม มีหิมะสวยๆก็จริงแต่หนาวจับจิตค่ะ
เมย-พค: มีหิมะแต่ไม่หนาวจัดค่ะ ใครชอบหิมะ แนะนำช่วงนี้
มิย: ใครชอบดอกไม้บานต้องไปเดือนนี้ เพราะดอกเชอรี่ที่เหมือนซากุระจะบานพร้อมกันทั้งเมือง สวยมากๆ ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินก็ราคาไม่แพงด้วยค่ะ
กค-สค: หน้าร้อน สนุกค่ะ มีกิจกรรมฟรีๆมากมาย โดยเฉพาะตามสวนสาธารณะใหญ่อย่าง Central Park, Prospeck Park มีละครและคอนเสิร์ตฟรีเกือบทุก ส/อ แต่ช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินจะแพงหน่อยนะคะ
ปลาย สค-ต้น กย: ใครอยากดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้องช่วงนี้ค่ะ
ตค-พย: เริ่มหนาวค่ะ แต่ยังเที่ยวสนุกอยู่ ช่วงปลายเดือนตุลามีพาเหรดคืนวันฮัลโลวีน และปลาย พย มีบัลลูนพาเหรดเช้าวัน Thanksgiving สนุกมากค่ะ
ธค: เป็นช่วงก่อนคริสมาสต์ ตามห้างและร้านค้าจะจัดตู้โชว์อย่างสวยงามโดยเฉพาะที่ห้าง Macy’s ตรง 34 st และมีประดับไฟที่ต้นคริสมาสต์ใหญ่ที่ 42st หน้าตึก Rockyfeller อันนี้ดูฟรีเช่นกัน ในเมืองยังมี Flea market หรือตลาดนัดฝรั่งขายพวกของขวัญกิ๊ฟเก๋ น่าเดินมาก อย่างเช่นที่ Union square แต่ใครใจไม่แข็งพอ ผ่านไปนะคะ
เที่ยวนิวยอร์คอย่างไร โดยใช้เงินน้อยที่สุด
เราขอแนะนำว่า
1 ให้ซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินที่เรียกว่า Subway แบบ 7 Days Unlimited Pass หากใครอยู่เกิน 7 วัน จะซื้อเพิ่มเป็นแบบ 1 day unlimited เพิ่มก็ได้ค่ะ ให้ใช้ซัปเวย์เป็นพาหนะหลักในการเที่ยวในมหานครนิวยอร์ค ตั๋วนี้ซื้อได้ตามเครื่องขายตัวอัตโนมัตในสถานีรถไฟใต้ดินทั้งหลายค่ะ
อ่านรายละเอียดราคา และตารางการเดินรถที่เว็บด้านล่างนะคะ
http://www.mta.info
2 ไปเที่ยวสถานที่สำคัญๆในวันที่เค้าเปิดให้เข้าชมฟรี เกือบทุกที่เค้ามีวันเปิดให้เข้าฟรีค่ะ ซึ่งสถานที่เหล่านี้ถือว่าเป็น Icon ของเมืองนิวยอร์ค เฉพาะสถานที่ที่เข้าได้ฟรีก็มีมากจนเที่ยวกันไม่หวาดไม่ไหวแล้วค่ะ บางที่ก็จะขอเป็นเงินบริจาคที่เราจะให้เท่าไหร่ก็ได้ (อย่าไปคิดว่าเด๋วเค้าจะหาว่าเรางก จ่ายนิดเดียว บอกเลยค่ะว่านิวยอร์คเกอร์แท้ เค้าจ่ายกันแค่เพ็นนีเดียว เพราะเค้าถือว่าสถานที่เหล่านี้ อยู่ได้ด้วยเงินภาษีของเค้าที่จ่ายกันแพงอยู่แล้ว ดังนั้นเค้าก็ให้กันแค่นี้แหละค่ะ) บางสถานที่อาจจะไม่ฟรียัง แต่เค้ามีส่วนลดให้กับนักเรียนด้วย
3 กินถูก-นิวยอร์คเป็นเมืองของอาหารนานาชาติ มีทั้งถูกทั้งแพง ส่วนมานิวยอร์คแล้วต้องกินอะไร ที่ไหนอร่อย ตามไปอ่านกันต่อได้ที่เพจของเรานะคะ
https://www.facebook.com/wildwalkstories/photos/pcb.1418584161594319/1418583221594413/?type=3&theater
MTA: รถไฟใต้ดิน
เราขอให้เริ่มต้นด้วยการซื้อ MTA 7 Days Unlimited Pass ราคา 32 USD ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัส ไม่จำกัดจำนวนครั้งภายใน 7 วัน (ตกวันละ 4.58 ดอลล่าห์ หรือประมาณ 160 บ/วัน/คน) คือคนนิวยอร์คเกือบทุกคนใช้ MTA ไม่ค่อยมีใครขับรถกันค่ะ เพราะมันเป็นการเดินทางที่สะดวกและถูกที่สุดแล้ว ใครจะไปเที่ยว New York City ส่วนมากก็ต้องไปลงเครื่องที่ JFK airport ก็สามารถซื้อได้ตามตู้ขายบัตรที่สถานนีได้เลย แล้วใช้ในการเข้าเมืองไปหาที่พักค่ะ
นอกจากนี้เราสามารถขอแผนที่เส้นทางการเดินทางได้จากบู้ทขายบัตรในทุกสถานนี หรือดาวน์โหลดได้จากที่นี่ค่ะ
http://web.mta.info/nyct/maps/subwaymap.pdf
ส่วนโปรแกรมการเดินรถสามารถดูได้จากเว็บของ MTA ซึ่งรถวิ่งบ่อยมากค่ะโดยเฉพาะช่วงRush hours คือ 7-9:00 และ 16-18:00 ส่วน ส/อ ก็จะมีน้อยลง และบางสถานนีอาจจะมีปิดซ่อมแซม ดังนั้นเพื่อกันแห้วและหลง สามารถเช็คข่าวสารกันได้จาก http://www.mta.info
บัตรนี้ซื้อปุ๊ปก็จะเริ่มนับวันตั้งแต่วันที่เราซื้อ ไม่ใช่วินาทีที่ซื้อนะคะ และถ้าวันไหนเราไม่ได้ใช้มัน เค้าก็ยังนับว่าเป็นอีก 1 วันที่ซื้อมาอยู่ดี ดังนั้นอย่านอนอยู่โรงแรมเฉยๆ ออกไปเที่ยวกันให้คุ้มค่ะ
ส่วนสถานที่เที่ยว มีหลากหลายมากค่ะ เราจะพาไปเที่ยวที่ต่างๆที่เป็นไฮไลท์ของเมืองกันในงบประมาณไม่เกิน 350 บ หรือ 10 USD/วัน ค่ะ โดยใช้วิธีไปเยี่ยมชมสถานที่เหล่านี้ในวันที่เค้าเปิดให้เข้าชมได้ฟรี และบางที่ก็คิดค่าตั๋วเป็นเงินบริจาค ซึ่งเราจะให้แค่ดอลล่าห์เดียว หรือต่ำกว่านั้นก็ได้ค่ะ
ตามมากันเลยค่า
Central Park: ฟรี
59-110 St ใน Manhattan นั่งซัปเวย์สาย A,B,C,D,1,2,3,N,Q,R,W
เซ็นทรอลปาร์ก ถือว่าเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองนิวยอร์คที่ใครๆต้องมา ที่นี่สวยทุกฤดูค่ะ เช่นในฤดูใบไม้ผลิ ก็มีดอกเชอรี่ที่คล้ายกับซากุระบานพร้อมกันหมด คือถ้าไปนี่คงไม่อยากไปไหนต่อ คงอยากนอนใต้ต้นไม้ทั้งวัน
แต่ช่วงเวลาที่น่าเที่ยวที่สุดคือช่วงฤดูใบไม้ร่วง จากปลาย สค-ต้น กย ส่วนช่วงฤดูร้อนตั้งแต่ มิย-ต้น สค ก็จะเป็นฤดูร้อนที่มีคอนเสิร์ตและละครเวทีกลางแจ้งให้ดูกันค่ะ
https://www.centralpark.com/search/event/upcoming-events/#page=1
ใครไปที่นี่แนะนำให้ไปถ่ายภาพของ น้ำพุ Bethesda และสะพานรอบๆสวนค่ะ สวยมากๆ แต่ถ้าฟ้าเริ่มมืดแล้ว ไม่แนะนำนะคะ
ข้างในเซ็นทรอลปาร์กยังมีสวนสัตว์ด้วยชื่อ Central Park zoo ที่อยู่ในการ์ตูนย์เรื่อง Madagasca ไงคะ มีหนังหลายร้อยเรื่องถ่ายที่ Central park นี่ แต่ที่สวนสัตว์นี้ไม่ฟรีนะคะ
Statue of Liberty หรือ Lady Liberty: ฟรี
นั่งซัปเวย์สาย E แล้วไปต่อ Path Train
Lady Liberty เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดของนิวยอร์ค เพราะนิวยอร์คได้ชื่อว่าเป็นเมืองของอิสระภาพ ความหวัง และอนาคตที่ดีกว่า สมัยก่อนคนที่อพยพมาอเมริกาโดยเฉพาะพวกยุโรปมักจะมากันทางเรือ ซึ่งมาเทียบท่าที่นิวยอร์คนี่ เวลาเรือวิ่งเข้าอ่าวมาก็จะเห็นรูปปั้นนี้ก่อน รูปปั้น Lady Liberty จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของนิวยอร์คไปโดยปริยาย ที่รูปปั้นนี้สามารถนั่งเรือไปเที่ยวได้นะคะ
*** ค่าตั๋ว Path train ไปกลับ 5.50 USD หรือประมาณ 180 บ ค่ะ
Museum mile: ฟรี
5 Ave. จากช่วง 82-110 St. นั่งซัปเวย์สาย E,M,N,R,W,7
ถนนเส้นที่สำคัญที่สุดเส้นหนึ่งในนิวยอร์คคือ ถนนสายที่ 5 หรือ 5th Avenue เพราะเป็นเส้นที่วิ่งผ่านพิพิธภัณฑ์ ห้างหรูๆ บูติคดังๆ และเซ็นทรอลปาร์ก รวมทั้งสถานที่สำคัญอื่นๆ ทำให้อพาทเมนต์บนถนนเส้นนี้แพงชนิดที่เรียกว่า ต้องรวยจริงๆเท่านั้นถึงจะอยู่ได้ บนถนนเส้นนี้ในช่วงที่ตัดกับ 82st ไปจนถึง 110 st ถูกเรียกว่าเป็น museum mile เพราะมีพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่หลายแห่ง ในขณะที่บริเวณที่ 5 Ave ตัดกับ 59 st ไปจนถึง 42 st เป็นย่านแฟชั่นระดับกูตู หากใครไปเดินห้างดังๆในบริเวณนี้ อย่าง Saks, Bergdorf Goodman, Henri Bendel หรือ Cartier ก็มักจะมีโอกาศได้เห็นเหล่าเซเล็บทั้งเทศและไทยที่นั่นเสมอ Trump Tower ก็อยู่บนถนนสายนี้นะคะ
The Met หรือ The Metropolitant Museum: เงินบริจาค
5 Ave และ 72 St. นั่งซัปเวย์สาย 6
The Met Museum นับได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลกค่ะ ถือได้ว่าเป็นหน้าเป็นตาของเมืองนิวยอร์คนี้ โดยเฉพาะคนที่รักศิลปะ ห้ามพลาดนะคะ เพราะงานศิลปะชิ้นสำคัญๆของโลกนับพันชิ้น ถูกเก็บรักษาและจัดแสดงไว้ที่นี่ ที่สำคัญที่นี่ไม่เรียกเก็บค่าเข้าชม แต่ขอเป็นเงินบริจาคแทนซึ่งเราจะให้เท่าใดก็ได้ค่ะ ยกเว้นแต่นิทรรศการพิเศษเท่านั้น ที่ทางพิพิธภัณฑ์จะขายบัตรในราคาแพงกว่าปกติ ในช่วงฤดูร้อนเค้ายังเปิดดาดฟ้าเป็นบาร์ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปจิบเบียร์เย็น ซึ่งทำให้ได้เห็นมุมสวยๆของนิวยอร์คและเซ็นทรอลปาร์กด้วย
Moma หรือ Mesum of Modern Art: ฟรี ทุกวันศุกร์ 16-20:00 น
5 Ave กับ 53 St. นั่งซัปเวย์สาย E,M
นิวยอร์คเป็นเมืองแห่งศิลปะและงานออกแบบในทุกสาขาค่ะ ที่นี่จึงมีพิพิธภัณฑ์ต่างๆเยอะมาก โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ทางศิลปะ Moma นี่ก็เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
เพียงแต่งานศิลปะที่นี่จะเป็นงานศิลปะสมัยใหม่ ซึ่งต่างจากงานที่จัดแสดงใน The Met
Saint Thomas church บน 5th ave: ฟรี
5 Ave กับ 53 St. นั่งซัปเวย์สาย E,M
อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากให้แวะไปเที่ยวกันคือ วิหารวัดนักบุญโทมัสบน 5 Ave ค่ะ โบสถ์นี้ถูกสร้างด้วยรูปแบบโกธิค มีอายุเกือบ 200 ปี อยู่ไม่ไกลจาก Moma ค่ะ เรียกได้ว่าอยู่ปากซอยเลยทีเดียว
โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่เหล่านิวยอร์คไฮโซจะมาเข้าพิธีมิสซากันทุกเช้าวันอาทิตย์ค่ะ และยังอยู่ในหนังและซีรี่สุดฮิตอย่าง Sex and the city ด้วย ดังนั้นหากใครไป Moma วันศุกร์ หลังจากได้ตั๋วแล้วและมีเวลาเหลือก่อน 4 โมงเย็น ให้ลองแวะไปเที่ยวที่โบสถ์นี้ดู ข้างในสวยงามมากและฟรีด้วยค่ะ
เด๋วว่างแล้วจะมาต่อให้นะคะ