ให้กระทู้นี้เป็นพื้นที่เล็กๆ ให้เราได้ระบายความผิดที่เราได้ทำลงไป และเผื่อบางทีเรื่องเราของเราอาจไปเตือนสติใครที่คิดจะทำ
เคยมั้ยที่ทำอะไรลงไปแล้วรู้สึกได้ถึงผิดชอบชั่วดีแต่ก็ทำ เคยเกลียดการคบซ้อนการนอกใจ แต่มาวันนึงกลับทำเสียเอง...
ใช่เราเคยเป็นแบบนั้น...
เราคบกับแฟนมา 7 ปี ทะเลากันก็บ่อย จะเลิกกันก็หลายหน เราเป็นคนงี่เง่าสารพัด รู้ตัวดีทุกอย่าง ตลอดเวลา 7 ปี
เราไม่เคยนอกใจ ไม่เคยมีคนอื่นเลย เพราะเราเกลียดการกระทำแบบนั้น เราคิดถึงใจเขาใจเราเสมอ...คิดว่าถ้าเราไม่อยากให้ใครทำแบบนี้กับเรา เราก็ไม่ควรทำแบบนี้กับเขา
เวลา 7 ปี ทำให้เราเริ่มคิดจริงจังคิดอยากจะสร้างครอบครัว เริ่มกดดันตัวเองเริ่มคิดเยอะคิดมากขึ้นว่าคนที่คบกันมานี้จะเป็นคนที่ใช่รึป่าว
มีเหตุการณ์นึงที่เราทะเลาะกับแฟนแล้วรู้สึกว่าทัศนคติเราไม่ตรงกัน มองยาวถึงอนาคตเมื่อแต่งงานกันมีลูกด้วยกันแล้วไม่น่าจะไปรอด
ด้วยเหตุผลนี้และเหตุบังเอิญที่มีผู้ชายคนนึงได้เข้ามาในชีวิต เราเริ่มคุยกัน อารมณ์มันย้อนกลับไปในจังหวะที่ความรักดูสวยงามที่สุดคือตอนจีบกันใหม่ๆ
ที่เราจะใช้สมองใช้มารยาใช้อะไรหลายๆอย่าง หยอดกันไปหยอดกันมา จะชอบหรือไม่ชอบอะไรประมาณนั้นคือสำหรับเรา เราชอบช่วงเวลานี้ที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คน สุดท้ายการคุยกันมันทำให้รู้สึกดี เราแอบคุยกันผ่านไลน์ นั่นคือความผิดรู้สึกละอายใจตลอด แต่ถามว่าหยุดทำมั้ย ก็ไม่!!
ผู้ชายคนที่เราคุยด้วย เค้ารู้ว่าเรามีแฟนแล้ว แต่เราไปโกหกว่าเรามีปัญหากับแฟนแล้วเหมือนจะเลิกกัน ผู้ชายคนนี้เหมือนจะจริงใจนะคะ แต่เราก็ไม่ฟันธงนะว่าดีจริงหรือเปล่า เพราะมันก็คือคำตอบที่เราอยากจะรู้เหมือนกัน ผู้ชายคนนี้บอกว่าจะรอ... รอวันที่เราเลิกกับแฟน ผู้ชายคนนี้เค้าก็เหมือนจะรู้นะคะ ว่าเค้ากลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปกับเราเค้าก็ไปไม่ถึง แต่ก็ไม่รู้ว่าใครยื้อใคร มันก็มีช่วงอาทิตย์แรกที่คุยกันเราก็เป็นคนจะยุติเรื่องทั้งหมดจะเลิกคุย
แต่ตลกมากเลยที่เราดราม่าไปเป็นวันเหมือนคนอกหัก บอกเลยความรู้สึกตรงนี้มันสอนให้เราได้รู้ว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกของใครแม้กระทั่งตัวเอง
เราคิดว่าเราจะไม่หวั่นไหวสุดท้ายเราก็โอนอ่อนไปตามสิ่งเร้า บางทีคิดน้อยไปก็อาจจะตัดสินใจเลิกกับแฟนเอาได้ง่ายๆเพราะคิดว่าความรู้สึกกับคนใหม่มันใช่กว่า แต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะทักไปและวนกลับไปคุยต่อ ตลอดเวลาเกือบๆเดือน เรากะ ผู้ชายคนนั้นทำเหมือนเป็นแฟนกันไลน์มาปลุกทุกเช้า ทักทายเวลาพักกลางวัน กลับบ้านก็รายงานกันตลอด มีไปดูหนัง กินเบียร์กันบ้าง (ไปกันหลายคนและ2คนบ้าง) มีจับมือบ้าง โอบไหล่บ้าง แค่นั้น
การที่เราคุยกับผู้ชายคนนี้ มันทำให้เรางี่เง่ากะแฟนน้อยลง เพราะเวลาที่แฟนไม่มีเวลาให้เราก็ยังมีผู้ชายคนนี้
เราเป็นคนที่ติดแฟนมากเหมือนกัน กะเพื่อนไม่ค่อยได้ไป เวลาที่เราติดแฟนมากๆ แฟนจะคอยออกห่างเรา แต่พอเราไม่ตามเค้าจะกลับมาหาเราเอง
บางทีเราก็เหมือนคนเสียสูญอ่ะ ต้องอยู่กะแฟนติดกะแฟน คือเอาจริงๆ เราไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นไม่อยากทำตัวแบบนั้นแต่ไม่รู้จะทำไง มันเหงามันไม่มีใตร
บอกเลยว่าเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่พอมีคนมาช่วยดึงดูดความสนใจมันก็ดีขึ้นนะคะ
แต่เราต้องกลับมาตระหนักได้เองว่าสิ่งที่เราทำมันผิด ระหว่างที่คุยกับอีกคน คนรอบข้างบางคนจะสนับสนุนความคิดเราว่า เออ...ก็ยังไม่ได้แต่งงานเราก็ควรจะให้โอกาสตัวเองได้เลือก
วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราลองออกไปเที่ยวกะคนๆนั้นไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วมันทำให้เราได้รู้ว่า เราชอบที่จะอยู่กับแฟนเรามากกว่า เราเป็นตัวของตัวเอง
เราไม่ต้องตื่นมาแต่งหน้าเต็มเราไม่ต้องมานั่งไดร์ผม เราทำตัวสบายๆในรถ เราร้องเพลง เราทำท่าบ้าๆบอๆ แกล้งเล่นกับแฟน จับมือกันเที่ยว
ให้แฟนถ่ายรูปให้ กินของที่อยากกินด้วยกัน มันโคตรมีความสุขอ่ะ
แล้วกับผู้ชายคนนี้มันคืออะไรล่ะ... มันคือความเห็นแก่ตัวของเรา เค้าไม่ควรจะเป็นตัวเลือกของใคร
แต่เราว่าเค้าเองก็อาจจะไม่ได้ชอบในแบบที่เราเป็นก็ได้
เพราะเราใช้เวลาเดินเที่ยวกันแค่ 3 ชม.เอง เราอึดอัด เราเลยทำทีว่าร้อนแดดร้อนแล้วให้พากลับ แต่จริงแดดก็ร้อนมากอ่ะ
หลังจากกลับมาถึงบ้านเราก็ทักไปทำเหมือนไม่มีอะไร เค้าก็ตอบมาเหมือนปกติ แล้วก็เงียบไป เราเองก็ชัดเจนกับความรู้สึกแล้วว่าเรารักแฟนมาก
เราจะกลับไปเสี่ยงกับความรัก 7 ปีที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปได้ถึงไหน แต่ก็คงจะทำให้ดีที่สุด ถ้าจะไม่ได้ไปด้วยกันก็ให้มันจบลง แล้วต่างคนต่างไปเริ่มต้นใหม่
ไม่เอาอีกแล้วกับคำว่าคบซ้อน มองหาใครมาเป็นตัวเลือก เพราะสุดท้ายเราไม่สามารถรักใคร 2 คนในเวลาเดียวกันได้
เราอยากขอโทษผู้ชายคนนั้น คงไม่ต้องพูดลาอะไร เพราะเขาเองก็คงไม่เลือกเรา และเราก็ไม่เลือกเขา มันก็ดีแล้วล่ะ
ขอโทษตัวเองที่ทำให้ตัวเองต้องเป็นคนเลวเป็นคนเห็นแก่ตัว สำหรับแฟนเราคงไม่ขอโทษเราจะเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ลึกสุดใจ และเวลาช่วยทำให้มันเลือนไป
เราได้สติว่าปัญหามันเกิดขึ้นที่ตัวเรา ให้แก้ที่ตัวเราเอง อย่าดึงใครเข้ามา เพราะมันจะทำให้ปัญหาที่มีมันแก้ยากเข้าไปอีก
การคบซ้อนคือความเห็นแก่ตัว ไม่มีใครอยากเป็นตัวเลือกของใคร
เคยมั้ยที่ทำอะไรลงไปแล้วรู้สึกได้ถึงผิดชอบชั่วดีแต่ก็ทำ เคยเกลียดการคบซ้อนการนอกใจ แต่มาวันนึงกลับทำเสียเอง...
ใช่เราเคยเป็นแบบนั้น...
เราคบกับแฟนมา 7 ปี ทะเลากันก็บ่อย จะเลิกกันก็หลายหน เราเป็นคนงี่เง่าสารพัด รู้ตัวดีทุกอย่าง ตลอดเวลา 7 ปี
เราไม่เคยนอกใจ ไม่เคยมีคนอื่นเลย เพราะเราเกลียดการกระทำแบบนั้น เราคิดถึงใจเขาใจเราเสมอ...คิดว่าถ้าเราไม่อยากให้ใครทำแบบนี้กับเรา เราก็ไม่ควรทำแบบนี้กับเขา
เวลา 7 ปี ทำให้เราเริ่มคิดจริงจังคิดอยากจะสร้างครอบครัว เริ่มกดดันตัวเองเริ่มคิดเยอะคิดมากขึ้นว่าคนที่คบกันมานี้จะเป็นคนที่ใช่รึป่าว
มีเหตุการณ์นึงที่เราทะเลาะกับแฟนแล้วรู้สึกว่าทัศนคติเราไม่ตรงกัน มองยาวถึงอนาคตเมื่อแต่งงานกันมีลูกด้วยกันแล้วไม่น่าจะไปรอด
ด้วยเหตุผลนี้และเหตุบังเอิญที่มีผู้ชายคนนึงได้เข้ามาในชีวิต เราเริ่มคุยกัน อารมณ์มันย้อนกลับไปในจังหวะที่ความรักดูสวยงามที่สุดคือตอนจีบกันใหม่ๆ
ที่เราจะใช้สมองใช้มารยาใช้อะไรหลายๆอย่าง หยอดกันไปหยอดกันมา จะชอบหรือไม่ชอบอะไรประมาณนั้นคือสำหรับเรา เราชอบช่วงเวลานี้ที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างคน 2 คน สุดท้ายการคุยกันมันทำให้รู้สึกดี เราแอบคุยกันผ่านไลน์ นั่นคือความผิดรู้สึกละอายใจตลอด แต่ถามว่าหยุดทำมั้ย ก็ไม่!!
ผู้ชายคนที่เราคุยด้วย เค้ารู้ว่าเรามีแฟนแล้ว แต่เราไปโกหกว่าเรามีปัญหากับแฟนแล้วเหมือนจะเลิกกัน ผู้ชายคนนี้เหมือนจะจริงใจนะคะ แต่เราก็ไม่ฟันธงนะว่าดีจริงหรือเปล่า เพราะมันก็คือคำตอบที่เราอยากจะรู้เหมือนกัน ผู้ชายคนนี้บอกว่าจะรอ... รอวันที่เราเลิกกับแฟน ผู้ชายคนนี้เค้าก็เหมือนจะรู้นะคะ ว่าเค้ากลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปกับเราเค้าก็ไปไม่ถึง แต่ก็ไม่รู้ว่าใครยื้อใคร มันก็มีช่วงอาทิตย์แรกที่คุยกันเราก็เป็นคนจะยุติเรื่องทั้งหมดจะเลิกคุย
แต่ตลกมากเลยที่เราดราม่าไปเป็นวันเหมือนคนอกหัก บอกเลยความรู้สึกตรงนี้มันสอนให้เราได้รู้ว่าอย่าเล่นกับความรู้สึกของใครแม้กระทั่งตัวเอง
เราคิดว่าเราจะไม่หวั่นไหวสุดท้ายเราก็โอนอ่อนไปตามสิ่งเร้า บางทีคิดน้อยไปก็อาจจะตัดสินใจเลิกกับแฟนเอาได้ง่ายๆเพราะคิดว่าความรู้สึกกับคนใหม่มันใช่กว่า แต่สุดท้ายแล้วเราก็เลือกที่จะทักไปและวนกลับไปคุยต่อ ตลอดเวลาเกือบๆเดือน เรากะ ผู้ชายคนนั้นทำเหมือนเป็นแฟนกันไลน์มาปลุกทุกเช้า ทักทายเวลาพักกลางวัน กลับบ้านก็รายงานกันตลอด มีไปดูหนัง กินเบียร์กันบ้าง (ไปกันหลายคนและ2คนบ้าง) มีจับมือบ้าง โอบไหล่บ้าง แค่นั้น
การที่เราคุยกับผู้ชายคนนี้ มันทำให้เรางี่เง่ากะแฟนน้อยลง เพราะเวลาที่แฟนไม่มีเวลาให้เราก็ยังมีผู้ชายคนนี้
เราเป็นคนที่ติดแฟนมากเหมือนกัน กะเพื่อนไม่ค่อยได้ไป เวลาที่เราติดแฟนมากๆ แฟนจะคอยออกห่างเรา แต่พอเราไม่ตามเค้าจะกลับมาหาเราเอง
บางทีเราก็เหมือนคนเสียสูญอ่ะ ต้องอยู่กะแฟนติดกะแฟน คือเอาจริงๆ เราไม่ได้อยากเป็นแบบนั้นไม่อยากทำตัวแบบนั้นแต่ไม่รู้จะทำไง มันเหงามันไม่มีใตร
บอกเลยว่าเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้ แต่พอมีคนมาช่วยดึงดูดความสนใจมันก็ดีขึ้นนะคะ
แต่เราต้องกลับมาตระหนักได้เองว่าสิ่งที่เราทำมันผิด ระหว่างที่คุยกับอีกคน คนรอบข้างบางคนจะสนับสนุนความคิดเราว่า เออ...ก็ยังไม่ได้แต่งงานเราก็ควรจะให้โอกาสตัวเองได้เลือก
วันนี้เป็นครั้งแรกที่เราลองออกไปเที่ยวกะคนๆนั้นไปยังสถานที่ต่างๆ แล้วมันทำให้เราได้รู้ว่า เราชอบที่จะอยู่กับแฟนเรามากกว่า เราเป็นตัวของตัวเอง
เราไม่ต้องตื่นมาแต่งหน้าเต็มเราไม่ต้องมานั่งไดร์ผม เราทำตัวสบายๆในรถ เราร้องเพลง เราทำท่าบ้าๆบอๆ แกล้งเล่นกับแฟน จับมือกันเที่ยว
ให้แฟนถ่ายรูปให้ กินของที่อยากกินด้วยกัน มันโคตรมีความสุขอ่ะ
แล้วกับผู้ชายคนนี้มันคืออะไรล่ะ... มันคือความเห็นแก่ตัวของเรา เค้าไม่ควรจะเป็นตัวเลือกของใคร
แต่เราว่าเค้าเองก็อาจจะไม่ได้ชอบในแบบที่เราเป็นก็ได้
เพราะเราใช้เวลาเดินเที่ยวกันแค่ 3 ชม.เอง เราอึดอัด เราเลยทำทีว่าร้อนแดดร้อนแล้วให้พากลับ แต่จริงแดดก็ร้อนมากอ่ะ
หลังจากกลับมาถึงบ้านเราก็ทักไปทำเหมือนไม่มีอะไร เค้าก็ตอบมาเหมือนปกติ แล้วก็เงียบไป เราเองก็ชัดเจนกับความรู้สึกแล้วว่าเรารักแฟนมาก
เราจะกลับไปเสี่ยงกับความรัก 7 ปีที่ไม่รู้ว่าจะเดินไปได้ถึงไหน แต่ก็คงจะทำให้ดีที่สุด ถ้าจะไม่ได้ไปด้วยกันก็ให้มันจบลง แล้วต่างคนต่างไปเริ่มต้นใหม่
ไม่เอาอีกแล้วกับคำว่าคบซ้อน มองหาใครมาเป็นตัวเลือก เพราะสุดท้ายเราไม่สามารถรักใคร 2 คนในเวลาเดียวกันได้
เราอยากขอโทษผู้ชายคนนั้น คงไม่ต้องพูดลาอะไร เพราะเขาเองก็คงไม่เลือกเรา และเราก็ไม่เลือกเขา มันก็ดีแล้วล่ะ
ขอโทษตัวเองที่ทำให้ตัวเองต้องเป็นคนเลวเป็นคนเห็นแก่ตัว สำหรับแฟนเราคงไม่ขอโทษเราจะเก็บเรื่องนี้ไว้ให้ลึกสุดใจ และเวลาช่วยทำให้มันเลือนไป
เราได้สติว่าปัญหามันเกิดขึ้นที่ตัวเรา ให้แก้ที่ตัวเราเอง อย่าดึงใครเข้ามา เพราะมันจะทำให้ปัญหาที่มีมันแก้ยากเข้าไปอีก