ตอนที่1
สวัสดีครับ กระทู้นี้เราจะแชร์เรื่องราวที่ได้ผจญภัยในประเทศรัสเซีย 2เมืองใหญ่นั้นคือมอสโคว และเซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์ก 10 วันเต็ม มีหลงมีงงมีมึน
หลากหลาย ตกใจกับคนรัสเซียกับใบหน้าที่นิ่งเรียบเฉย แต่คนรัสเซียน่ารักจิตใจดีมาก หน้าเค้าเป็นแบบนั้นเอง มันคือความประทับใจที่บอกไม่ถูก แรกๆไปก็กลัวแต่โดยรวมสวยดีงามมาก ไม่เสียดายและผิดหวังเลยที่ได้มา รัสเซีย แม้ภาษาอังกฤษ คนรัสเซียไม่พูดเลยก็ตามใช้ภาษามือเลยจ้าเข้าใจจบ555
เราว่างแผนไป2 เมืองหลักๆนั้น มอสโค เซ็นปีเตอร์สเบอร์ก แรกๆก็กลัวกับการไปเอง เราได้จองตั๋วกับสายการบิน เฮทิเอด สายการบินของอาหรับอิมิเรสต์
ตามกระทู้นี้กันเลยครับ
สายการบินเจ้านี้เอทิเฮดพาเราไปสู่มอสโค เครื่องออกจากสุวรรณภูมิ 8.30 ราคาตั๋วที่เราได้21000 บาทถือว่าราคาใช้ได้ เวลาไปถึงที่มอสโคว19.00 พอดีมืดเลย
โดยเราจะเวะเปลี่ยนเครื่องที่อาบูดาบี สายการบินเอทิเฮด ถ้าพูดถึงสายการบินนี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวเป็นสายการบินที่เติบโตเร็วมากๆ เครื่องบินใหม่เกือบทุกลำ บินจากอาบูดาบีมามอสโคใช้เครื่อง a320 ทันสมัยพอสมคร พนักงานตอนรับยิ้มแยมดีมากบริการสุดยอด แนะนำสายการบินนี้ดี ราคาไม่แพงมาก แถมยังติดtop10ของโลก
มีจอส่วนตัวมีที่เสียบชาร์ตแบตมือถือ เรียกว่า full service จริงๆ
ถึงสักทีสำหรับการเดินทางอันแสนยาวนานจากกรุงเทพเมื่อวานวันที่5 8.40ถึงเซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์กวันที่6 19.35 เวลาในรัสเซียช้ากว่าเมืองไทย4ชั่วโมง อุณหภูมิ-1องศา อากาศค่อนข้างอึมครึม มีหิมะนิดหน่อย เราได้จองตั๋วรถไฟมาจากเมืองไทยครับ เพื่อที่จะนั่งรถไฟตู้นอนจากมอสโควไป
เซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์ก นั่งรถไฟนอนจากมอสโคออกเวลา ตี1.40น ถึงเช้า 9.35 ที่เซ็นปีเตอร์สเบอร์ก ราคาที่จองจากเมืองไทยไปกลับ3000กว่าบาทเองครับ
สภาพรถไฟชั้น2ตู้นอนรถไฟมีห้องประตูล๊อคอย่างดี ห้องหนึ่งมี4เตียง ค่อนข้างสะอาด แต่ยังไม่ทันสมัยเท่าของยุโรปตะวันตก ราคาไปกลับตีเป็นเงินไทย3700บาท เนื่องจากค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกมาก คนที่มาเที่ยวถือว่าได้ประโยชน์ 1บาท=.053 เมื่อต้นปีที่แล้ว1 บาท=.099
ถึงแล้วที่เซ็นปีเตอร์เบริก โรงแรมที่เราจองคือโรงแรมidillia in ที่เซ็นปีเตอร์เบอร์กห้องใช้ได้นอนรวมได้ห้องน้ำส่วนตัวติดกับสถานีรถไฟsantpeterburg glavny ลากกระเป๋าไม่ไกล แรกๆหายากมากตึกไหนหว่ามันเหมือนกันทุกตึก ล๊อบบี้อยู่ในตึกชั้น2 ต้องกดออ๊อดเข้าไป พอถึงเจอคุณ ป้าต้อนรับดีมากแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยสื่อสารกันภาษามือก็โอเคโดยรวมผ่าน สรุปวันนี้ไม่อุปสรรคปัญหาราบรื่นที่สำคัญไม่หลง โรงแรมนี้ตกคืนต่อคน500บาทไทยรวมอาหารเช้า ห้องหนึ่งนอนได้3 คน
เตียงนอนนุ่มสบายสะอาดดีงาม
มองออกนอกหน้าต่างห้องนอนอากาศหนาวมาก
หลังจากที่เช็คอินที่โรงแรมและลงทะเบียนวีซ่า คนละ200รูเบิล เป็นกฎหมายที่รัสเซียนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนวีซ่าที่โรงแรม ที่พักที่เราพักเป็นที่แรก หลังจากเก็บกระเป่าล้างหน้า พร้อมออกไปลุยกันเลย วันแรกเรากะลังจะไปpeterhof palace เริ่มจากเมโทสีแดงไปลงสถานนีavtovaต่อรถตู้หน้าสถานีราคาค่ารถ50รูเบิลต่อคน สรุปผ่านพ้นการเดินทางแบบไม่หลงสบายๆแม้จะสื่อสารภาษากันไม่ได้ก็ตาม
แถวเมโท ต้องระวังเรื่องนักล่วงจากที่สังเกตจะเยอะมากไปต้องช่วยกันดูแลนะครับ สายตาเราพอจะมองออกว่าใครอะไรอย่างไร ชุกมากระวังพยายามแยกเงินกับกระเป่าบัตรไว้คนละที่เลยอย่าไว้ในกระเป่าเป้
ถึงแล้วจ้า Peterhof Palace (พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ) ที่แรกที่เรามาเยือนวันแรกเลย Peterhof Palace (พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ)สร้างในปี ค.ศ.1705 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดย Peterhof เป็นภาษาดัตช์ แปลว่า บ้านของปีเตอร์ ซึ่งพระองค์ใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับล่าสัตว์ในฤดูร้อน (ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า พระราชวังฤดูร้อน) โดยมีความประสงค์จะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส เพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย โดยได้รวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่าง ๆ มากมายในการก่อสร้าง ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างราว 10 ปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระราชวังที่งามเกินกว่าจะมีที่ใดมาเทียบเท่า
หน้าหนาวสภาพอย่างที่เห็น ถ้าหน้าร้อนจะสวยกว่ามีดอกไม้เปิดน้ำพุดูดีกว่าหน้าหนาว
วิธีการเดินทาง จะว่าง่ายก็ง่ายยากก็ยากเอาล่ะว่ะไปกันนั่งเมโท เพื่อไปลงที่สถานี AVTOVO (А́ВТОВО) สายที่ 1 (สีแดง) เมื่อเดินออกจากสถานี AVTOVOก็เดินข้ามฝั่งถนนโดยการลอดอุโมงค์เพื่อไปขึ้นรถตู้ซึ่งสังเกตได้จากจะมีกลุ่มรถตู้สีขาวจอดเรียงรายกันอยู่หลายคันคล้ายกับวินรถตู้บ้านเรา ซึ่งส่วนมากรถทุกคันวิ่งผ่านพระราชวังปีเตอร์ฮอฟทั้งนั้น แต่ป้ายรถตู้เป็นภาษารัสเซียทั้งนั้นเดินตรงไปถามคนขับว่า “ปีเตอร์ฮอฟ” หากเขาพยักหน้าก็เป็นอันถูกต้องค่ารถประมาณ 65 รูเบิลจ่ายที่คนขับโดยตรงตอนลงรถ ระยะทางจากวินรถตู้ไปพระราชวังปีเตอร์ฮอฟประมาณ 22 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็มาถึง
พระราชวังปีเตอร์ฮอฟเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวันเวลา 9.00 น. ถึง 19.00 น. (วันเสาร์เปิดถึง 22.00 น.) ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์อยู่ที่คนละ 550 รูเบิล (ประมาณ 330 บาท)
เดินรอบๆวัง เดินจนสุดจะเจออ่าวฟินแลนด์ อ่าวนี้จะออกสู่ทะเลบอลติก ติดกับยุโรปเหนือ สแกนดิเนเวีย ตรงข้ามจะเป็นชายแดนประเทศฟินแลนด์ อ่าวช่วงนี้จะเป็นน้ำแข็ง ขาวโพน ช่วงนี้อากาศ2อาศา
เสียดายเข้าไปด้านในพระราชวัง เค้าไม่ให้ถ่ายรูปนะครับ ได้แต่เดินดุอย่างเดียวถ้าหน้าร้อนคนเยอะเยอะมหาสาลกว่านี้เราอยากแนะนำมาหน้าหนาวดีกว่าราคาถูกคนน้อยแม้จะไม่มีน้ำพุดอกไม้ก้ตามแต่หนาวบรือๆๆๆ
ก่อนกลับแวะ ชมสถาปัตยกรรมแบบฉบับรัสเซียโดยแท้ นั่นคือ โบสถ์แบบรัสเซียออร์โธดอกซ์ ที่ไม่มีที่ไหนในโลกนอกจากรัสเซีย (อาจจะมีบางประเทศที่ติดกับรัสเซีย แต่มันก็ไม่เหมือนซะทีเดียว)โบสถ์ออธอดอกซ์ซึ่งเป็นจุดสังเกตก่อนถึงพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ
แต่เราแวะขากลับได้ ทางผ่านพอดี
หลังจากชมพระราชวังจนจุใจเย็นพอดี ก็ถึงเวลากลับที่พัก ก่อนกลับชมความสวยงามของสถานนีเมโท รัสเซียทั้งมอสโกและเซ็นปีเตอร์
มีสถานนีเมโทที่สวยสวยที่สุดในโลกตั้งแต่ไปมานะ เกือบทุกสถานนีตกแต่งแบบอลังการมาก และเมโท แต่ละที่จะขุดลึกไป10เมตรเลยทีเดียวคล้ายกับลอนดอนบางสถานนี เมโทช่วงเย็นคนจะแน่นนิดหนึ่งเพราะเป็นเวลาเลิกงาน ค่าเมโท คนละ31รูเบิล1ครั้ง
คนเยอะครับแน่นเลยเวลาเลิกงานพอดีเปะ
คนเพียบ
หมดเวลาสำหรับวันนี้ เนื่องจากยังไม่ได้พักผ่อนอาบน้ำเลยตั้งแต่มาที่นี้ แต่ก่อนกลับแวะ
ถนนเนฟสกี้ (Nevsky Prospekt)
สร้างในปี ค.ศ.1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยมีความยาว 4.5 กิโลเมตร เริ่มต้นที่หน้าพระราชวังฤดูหนาวและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟมอสโก จุดเด่นอยู่ที่สถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นทั้งย่านการค้า ย่านที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของพระราชวัง โรงละคร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย
ถ่ายรูปมือสั่น555หิวแล้วครับหาไรกินกันร้านไหนจะสั่งเป็นปะเนี่ยโอ้ย555
ก่อนกลับโรงแรมแวะกินอาหาร เจอร้านหนึ่งตรงถนนถนนเนฟสกี้ (Nevsky Prospekt) เหมือนฟาสฟัดดีที่ไปชี้ๆเอา เลยได้สั่ง
หมดไปคนล400 รูเบิลอาหารใช้ได้กินแบบประหยัดก็ถือว่าคุ้มค่า อิ่มสบาย
เค้กอร่อยครับขอบอก
[CR] 10 วัน กับ รัสเซีย หลงๆมึนๆ สุดประทับใจ
ตอนที่1
สวัสดีครับ กระทู้นี้เราจะแชร์เรื่องราวที่ได้ผจญภัยในประเทศรัสเซีย 2เมืองใหญ่นั้นคือมอสโคว และเซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์ก 10 วันเต็ม มีหลงมีงงมีมึน
หลากหลาย ตกใจกับคนรัสเซียกับใบหน้าที่นิ่งเรียบเฉย แต่คนรัสเซียน่ารักจิตใจดีมาก หน้าเค้าเป็นแบบนั้นเอง มันคือความประทับใจที่บอกไม่ถูก แรกๆไปก็กลัวแต่โดยรวมสวยดีงามมาก ไม่เสียดายและผิดหวังเลยที่ได้มา รัสเซีย แม้ภาษาอังกฤษ คนรัสเซียไม่พูดเลยก็ตามใช้ภาษามือเลยจ้าเข้าใจจบ555
เราว่างแผนไป2 เมืองหลักๆนั้น มอสโค เซ็นปีเตอร์สเบอร์ก แรกๆก็กลัวกับการไปเอง เราได้จองตั๋วกับสายการบิน เฮทิเอด สายการบินของอาหรับอิมิเรสต์
ตามกระทู้นี้กันเลยครับ
สายการบินเจ้านี้เอทิเฮดพาเราไปสู่มอสโค เครื่องออกจากสุวรรณภูมิ 8.30 ราคาตั๋วที่เราได้21000 บาทถือว่าราคาใช้ได้ เวลาไปถึงที่มอสโคว19.00 พอดีมืดเลย
โดยเราจะเวะเปลี่ยนเครื่องที่อาบูดาบี สายการบินเอทิเฮด ถ้าพูดถึงสายการบินนี้ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียวเป็นสายการบินที่เติบโตเร็วมากๆ เครื่องบินใหม่เกือบทุกลำ บินจากอาบูดาบีมามอสโคใช้เครื่อง a320 ทันสมัยพอสมคร พนักงานตอนรับยิ้มแยมดีมากบริการสุดยอด แนะนำสายการบินนี้ดี ราคาไม่แพงมาก แถมยังติดtop10ของโลก
มีจอส่วนตัวมีที่เสียบชาร์ตแบตมือถือ เรียกว่า full service จริงๆ
ถึงสักทีสำหรับการเดินทางอันแสนยาวนานจากกรุงเทพเมื่อวานวันที่5 8.40ถึงเซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์กวันที่6 19.35 เวลาในรัสเซียช้ากว่าเมืองไทย4ชั่วโมง อุณหภูมิ-1องศา อากาศค่อนข้างอึมครึม มีหิมะนิดหน่อย เราได้จองตั๋วรถไฟมาจากเมืองไทยครับ เพื่อที่จะนั่งรถไฟตู้นอนจากมอสโควไป
เซ็นต์ปีเตอร์สเบอร์ก นั่งรถไฟนอนจากมอสโคออกเวลา ตี1.40น ถึงเช้า 9.35 ที่เซ็นปีเตอร์สเบอร์ก ราคาที่จองจากเมืองไทยไปกลับ3000กว่าบาทเองครับ
สภาพรถไฟชั้น2ตู้นอนรถไฟมีห้องประตูล๊อคอย่างดี ห้องหนึ่งมี4เตียง ค่อนข้างสะอาด แต่ยังไม่ทันสมัยเท่าของยุโรปตะวันตก ราคาไปกลับตีเป็นเงินไทย3700บาท เนื่องจากค่าเงินรูเบิลของรัสเซียตกมาก คนที่มาเที่ยวถือว่าได้ประโยชน์ 1บาท=.053 เมื่อต้นปีที่แล้ว1 บาท=.099
ถึงแล้วที่เซ็นปีเตอร์เบริก โรงแรมที่เราจองคือโรงแรมidillia in ที่เซ็นปีเตอร์เบอร์กห้องใช้ได้นอนรวมได้ห้องน้ำส่วนตัวติดกับสถานีรถไฟsantpeterburg glavny ลากกระเป๋าไม่ไกล แรกๆหายากมากตึกไหนหว่ามันเหมือนกันทุกตึก ล๊อบบี้อยู่ในตึกชั้น2 ต้องกดออ๊อดเข้าไป พอถึงเจอคุณ ป้าต้อนรับดีมากแม้จะพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยสื่อสารกันภาษามือก็โอเคโดยรวมผ่าน สรุปวันนี้ไม่อุปสรรคปัญหาราบรื่นที่สำคัญไม่หลง โรงแรมนี้ตกคืนต่อคน500บาทไทยรวมอาหารเช้า ห้องหนึ่งนอนได้3 คน
เตียงนอนนุ่มสบายสะอาดดีงาม
มองออกนอกหน้าต่างห้องนอนอากาศหนาวมาก
หลังจากที่เช็คอินที่โรงแรมและลงทะเบียนวีซ่า คนละ200รูเบิล เป็นกฎหมายที่รัสเซียนักท่องเที่ยวต้องลงทะเบียนวีซ่าที่โรงแรม ที่พักที่เราพักเป็นที่แรก หลังจากเก็บกระเป่าล้างหน้า พร้อมออกไปลุยกันเลย วันแรกเรากะลังจะไปpeterhof palace เริ่มจากเมโทสีแดงไปลงสถานนีavtovaต่อรถตู้หน้าสถานีราคาค่ารถ50รูเบิลต่อคน สรุปผ่านพ้นการเดินทางแบบไม่หลงสบายๆแม้จะสื่อสารภาษากันไม่ได้ก็ตาม
แถวเมโท ต้องระวังเรื่องนักล่วงจากที่สังเกตจะเยอะมากไปต้องช่วยกันดูแลนะครับ สายตาเราพอจะมองออกว่าใครอะไรอย่างไร ชุกมากระวังพยายามแยกเงินกับกระเป่าบัตรไว้คนละที่เลยอย่าไว้ในกระเป่าเป้
ถึงแล้วจ้า Peterhof Palace (พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ) ที่แรกที่เรามาเยือนวันแรกเลย Peterhof Palace (พระราชวังฤดูร้อนปีเตอร์ฮอฟ)สร้างในปี ค.ศ.1705 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดย Peterhof เป็นภาษาดัตช์ แปลว่า บ้านของปีเตอร์ ซึ่งพระองค์ใช้เป็นที่พักผ่อนสำหรับล่าสัตว์ในฤดูร้อน (ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า พระราชวังฤดูร้อน) โดยมีความประสงค์จะให้พระราชวังนี้มีความงดงามยิ่งกว่าพระราชวังแวร์ซายส์ในฝรั่งเศส เพื่อแสดงออกถึงความเจริญรุ่งเรืองของรัสเซีย โดยได้รวบรวมสถาปนิกและช่างฝีมือจากประเทศต่าง ๆ มากมายในการก่อสร้าง ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างราว 10 ปี เมื่อเสร็จสมบูรณ์จึงกล่าวได้ว่าเป็นพระราชวังที่งามเกินกว่าจะมีที่ใดมาเทียบเท่า
หน้าหนาวสภาพอย่างที่เห็น ถ้าหน้าร้อนจะสวยกว่ามีดอกไม้เปิดน้ำพุดูดีกว่าหน้าหนาว
วิธีการเดินทาง จะว่าง่ายก็ง่ายยากก็ยากเอาล่ะว่ะไปกันนั่งเมโท เพื่อไปลงที่สถานี AVTOVO (А́ВТОВО) สายที่ 1 (สีแดง) เมื่อเดินออกจากสถานี AVTOVOก็เดินข้ามฝั่งถนนโดยการลอดอุโมงค์เพื่อไปขึ้นรถตู้ซึ่งสังเกตได้จากจะมีกลุ่มรถตู้สีขาวจอดเรียงรายกันอยู่หลายคันคล้ายกับวินรถตู้บ้านเรา ซึ่งส่วนมากรถทุกคันวิ่งผ่านพระราชวังปีเตอร์ฮอฟทั้งนั้น แต่ป้ายรถตู้เป็นภาษารัสเซียทั้งนั้นเดินตรงไปถามคนขับว่า “ปีเตอร์ฮอฟ” หากเขาพยักหน้าก็เป็นอันถูกต้องค่ารถประมาณ 65 รูเบิลจ่ายที่คนขับโดยตรงตอนลงรถ ระยะทางจากวินรถตู้ไปพระราชวังปีเตอร์ฮอฟประมาณ 22 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็มาถึง
พระราชวังปีเตอร์ฮอฟเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทุกวันเวลา 9.00 น. ถึง 19.00 น. (วันเสาร์เปิดถึง 22.00 น.) ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์อยู่ที่คนละ 550 รูเบิล (ประมาณ 330 บาท)
เดินรอบๆวัง เดินจนสุดจะเจออ่าวฟินแลนด์ อ่าวนี้จะออกสู่ทะเลบอลติก ติดกับยุโรปเหนือ สแกนดิเนเวีย ตรงข้ามจะเป็นชายแดนประเทศฟินแลนด์ อ่าวช่วงนี้จะเป็นน้ำแข็ง ขาวโพน ช่วงนี้อากาศ2อาศา
เสียดายเข้าไปด้านในพระราชวัง เค้าไม่ให้ถ่ายรูปนะครับ ได้แต่เดินดุอย่างเดียวถ้าหน้าร้อนคนเยอะเยอะมหาสาลกว่านี้เราอยากแนะนำมาหน้าหนาวดีกว่าราคาถูกคนน้อยแม้จะไม่มีน้ำพุดอกไม้ก้ตามแต่หนาวบรือๆๆๆ
ก่อนกลับแวะ ชมสถาปัตยกรรมแบบฉบับรัสเซียโดยแท้ นั่นคือ โบสถ์แบบรัสเซียออร์โธดอกซ์ ที่ไม่มีที่ไหนในโลกนอกจากรัสเซีย (อาจจะมีบางประเทศที่ติดกับรัสเซีย แต่มันก็ไม่เหมือนซะทีเดียว)โบสถ์ออธอดอกซ์ซึ่งเป็นจุดสังเกตก่อนถึงพระราชวังปีเตอร์ฮอฟ
แต่เราแวะขากลับได้ ทางผ่านพอดี
หลังจากชมพระราชวังจนจุใจเย็นพอดี ก็ถึงเวลากลับที่พัก ก่อนกลับชมความสวยงามของสถานนีเมโท รัสเซียทั้งมอสโกและเซ็นปีเตอร์
มีสถานนีเมโทที่สวยสวยที่สุดในโลกตั้งแต่ไปมานะ เกือบทุกสถานนีตกแต่งแบบอลังการมาก และเมโท แต่ละที่จะขุดลึกไป10เมตรเลยทีเดียวคล้ายกับลอนดอนบางสถานนี เมโทช่วงเย็นคนจะแน่นนิดหนึ่งเพราะเป็นเวลาเลิกงาน ค่าเมโท คนละ31รูเบิล1ครั้ง
คนเยอะครับแน่นเลยเวลาเลิกงานพอดีเปะ
คนเพียบ
หมดเวลาสำหรับวันนี้ เนื่องจากยังไม่ได้พักผ่อนอาบน้ำเลยตั้งแต่มาที่นี้ แต่ก่อนกลับแวะ
ถนนเนฟสกี้ (Nevsky Prospekt)
สร้างในปี ค.ศ.1710 ในสมัยพระเจ้าปีเตอร์มหาราช โดยมีความยาว 4.5 กิโลเมตร เริ่มต้นที่หน้าพระราชวังฤดูหนาวและสิ้นสุดที่สถานีรถไฟมอสโก จุดเด่นอยู่ที่สถาปัตยกรรมสมัยศตวรรษที่ 18-20 ที่เรียงรายอยู่สองข้างทาง ปัจจุบันเป็นถนนสายหลักของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นทั้งย่านการค้า ย่านที่อยู่อาศัย ที่ตั้งของพระราชวัง โรงละคร โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกมากมาย
ถ่ายรูปมือสั่น555หิวแล้วครับหาไรกินกันร้านไหนจะสั่งเป็นปะเนี่ยโอ้ย555
ก่อนกลับโรงแรมแวะกินอาหาร เจอร้านหนึ่งตรงถนนถนนเนฟสกี้ (Nevsky Prospekt) เหมือนฟาสฟัดดีที่ไปชี้ๆเอา เลยได้สั่ง
หมดไปคนล400 รูเบิลอาหารใช้ได้กินแบบประหยัดก็ถือว่าคุ้มค่า อิ่มสบาย
เค้กอร่อยครับขอบอก