ที่มาและความสำคัญ
วันที่ 29 กันยายน 2559...
"ช่วงเดือนกันยา ถึง พฤศจิกานี้ ที่เกาหลีโดยเฉพาะปูซาน บ้านเกิดของฉัน มีใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ
เวลาใบไม้เปลี่ยนสีทั้งภูเขา มันสวยมาก ๆ เลยค่ะ..."
นี่คือคำชักชวนให้มาเที่ยวบ้านเกิดของอาจุมม่า(หรือคุณป้า)ชาวเกาหลีตามหัวข้อที่วิทยากรกำหนดในการอบรมการพูดในที่สาธารณะที่ฉันกำลังนั่งฟังอยู่
เอาจริง ๆ แรกเริ่มเดิมที การเที่ยวเกาหลีนี่ไม่ได้อยู่ในหัวสักเท่าไหร่(จะบอกว่าไม่เลยก็ได้นะ) เพราะตอนแรกเข้าใจว่าเกาหลีไม่น่าจะมีอะไรน่าเที่ยว ถ้าไปก็คงอารมณ์แบบตามรอยติ่งซีรีย์ หรือไปเฝ้าตึกดักรอศิลปิน รุมกินหม้อไฟ ไปละลายทรัพย์ด้วยการกว้านซื้อเครื่องสำอาง (ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนก็น่าจะยังใช้ไม่หมด) กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า บลา ๆ ๆ แต่ไม่รู้อะไรดลใจตัวเองกับคำชักชวนของอาจุมม่า เลยลองหยิบโทรศัพท์มาค้นหารูปในอากู๋เล่น ๆ ตามที่อาจุมม่าบอก พอเลื่อนดูรูปไปเรื่อย ๆ ก็พบกับภาพเหล่านี้ค่ะ
Cr: www.google.com
"เฮ้ย! (เสียงพี่โมเมพาเพลิน) จริง ๆ เกาหลีก็สวยเหมือนกันนะ"
ระหว่างนั้นก็เลยหาอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวเกาหลีไปเรื่อย ๆ (และที่นั่งอบรมอยู่ล่ะ??) ก่อนจะโพสต์ใน Facebook เล่น ๆ ว่าอยากไปเกาหลี สักพักแอ้ก็ส่งลิ้งค์ของเว็ปไซต์ expedia มาให้ลองดูตั๋วเครื่องบินกับที่พักเล่น ๆ ทางข้อความซึ่งก็พบอีกว่า
‘เฮ้ย!! ตั๋วกับที่พักรวมกัน อาทิตย์นึง 10,037 บาทเองอ่ะ’
เลยไม่รอช้า รีบโทรหาแอ้ด้วยความรู้สึกบีบ ๆ หัวใจ สั่น ๆ จากข้างในให้ตัดบัตรเครดิตให้..เมื่อแอ้ตบปากรับคำ และสอบถามข้อมูลที่ต้องใช้กรอกในการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักแล้ว ภายในเสี้ยววินาที แอ้ก็โทรกลับมา ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพร้อมกับความตื่นเต้นว่าตัวเองกำลังจะไปเกาหลีจริง ๆ ใช่ไหมนิ แล้วไปคนเดียวดั๊วะ สักพักแอ้ก็พิมพ์ข้อความมาว่า...
“ตื่นเต้นแทนแกว่ะ อย่างกับจะไปเอง แกรีบทำแผนนะ เดือนหน้าจะรอดูรูป”
ตอนนั้นงงว่าแอ้จะรีบไปไหน เดือนหน้าอะไร..เพราะนี่มันเดือนกันยาอยู่ปะ?
เรา : เดี๋ยวนะ!! มันอีกสองเดือนไม่ใช่หรอ
แอ้ : จะบ้าหรอ!!! เดือนหน้าแล้วเว้ย พรุ่งนี้ก็ศุกร์สิ้นเดือนแล้วแก”
เดี๋ยวนะ! เดือนหน้า? เดือนหน้า!!! เวรแล้วไง!!
จากความตื่นเต้นที่กำลังจะได้ออกไปเผชิญโลกข้างนอกกลายเป็นความเงิบและความกังวลใจในทันที!!!!
คือเงินจะเก็บทันไหม (ซึ่งตอนนั้นต้องรอเงินเดือนออกแล้วถึงจะไปแลกเป็นเงินวอนเพื่อไปเที่ยว ชีวิตดูรันทดมากและต้องงดกิจกรรมการเข้าสังคมใด ๆ ไปฉับพลัน)
แผนการเที่ยวจะเสร็จรึเปล่า เพราะไม่เคยอ่านกระทู้เที่ยวเกาหลีเลย (ขีดเส้นใต้ตัวหนา 2 เซนติเมตร)
ภาษาอังกฤษไม่ต้องพูดถึง งู ๆ ปลา ๆ มาตั้งแต่อายุสิบสี่
และพอเริ่มได้สติ จึงลองก้มหน้าหาข้อมูลพยากรณ์อากาศ ซึ่งพบว่าบางวันมีฝน (คือกลัวไปเดินกลางฝนแล้วเหม็นกลิ่นเท้ากับผมหน้าม้าที่หนีบไปกลับสู่ภาพหยิกหยอยเหมือนเดิม) บางวันมีเลขตัวเดียวด้วย เสื้อกันหนาวหน้าอนุสาวรีย์ที่ใส่อยู่คงกันอะไรไม่ได้
พูดได้สั้น ๆ คำเดียวว่า "งานเข้าแล้วค่ะ"
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ทุกคืนคือการนั่งปั่นแผนกันหัวฟู ขอบตาดำเป็นแพนด้า กระทู้เกาหลีในพันธ์ทิพย์อ่านมันทุกตัวอักษร (คือบางทีแอ้ก็ช่วยหาด้วย) ภาวนาให้เสื้อกันหนาวซึ่งต้องสั่งพรีออเดอร์จากจีนมาส่งถึงตรงเวลา ก่อนจะเดินไปยืนใบลากับพี่แผนก HR ซึ่งเขียนด้วยปากกาเส้นเล็กตัวบรรจง ไม่ผ่านการลบข้อความใด ๆ เพื่อให้ดูขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ สุภาพ น่ารัก (มันคือความเชื่อล้วน ๆ ค่ะ) พร้อมด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ (เพราะนี่ลาเป็นอาทิตย์ แล้ววันทำงานด้วยค่ะประเด็น ฮาาาา) กับท่าทีที่อ่อนน้อม ว่าตัวเองนั้นจะขอไปต่างประเทศนะคะ ก่อนจะออกตัวบอกกับทุกคนในออฟฟิศว่าข้าพเจ้าขออนุญาตไม่รับหิ้วของใด ๆ เนื่องจากไม่ไป outlet และไม่ได้ซื้อค่าโหลดน้ำหนักกระเป๋า ซึ่งภารกิจที่ทำงาน
เคลียร์!
หลังจากนั้นระหว่างรอเวลาก็ปิดเรื่องให้เงียบที่สุดจากเพื่อน ๆ ใน Facebook และกลุ่ม Line เพราะตั้งใจจะโพสต์ว่า ‘ถึงเกาหลีแล้วค่ะพวก!!!’ ก็ต่อเมื่อผ่านตม.แล้วเท่านั้น อารมณ์เหมือนอยากเข้าจุฬา แต่ไม่ใช้ของที่มีพระเกี้ยว ฉันใดก็ฉันนั้น (เผื่อโดนเข้าห้องเย็นแล้วไม่ได้เข้าประเทศ ถูกส่งตัวกลับจะได้ไม่หน้าแหก)
อ้อ! รวมทั้งป๊ากับแม่ด้วย..
บทความสำหรับสรรเสริญพระคุณของแอ้...
แอ้ เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเป็นที่พึ่งบารมีแทบจะทุก ๆ เรื่องตลอดเวลาที่ได้รู้จักมาเลยก็ว่าได้
ตั้งแต่บรรทัดนี้ไป ขอให้ทุกท่านจินตนาการภาพว่ากำลังมีเด็กประถมหัวฟูผมสั้นกว่าติ่งหูยืนพูดสุนทรพจน์ด้วยน้ำตาคลอเบ้าและน้ำเสียงที่อ่อนโยนเจือไปด้วยการสั่นเครืออยู่...
แอ้จะเป็นเสาหลักที่คอยเก็บชีทเรียนในทุกคาบเช้า ก่อนที่ฉันจะเข้าเรียนในคาบบ่าย
แอ้จะสวมบทบาทเป็นหัวหน้ากลุ่ม และเป็นคนคอยขับเคลื่อน แจกแจงงานให้ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
แอ้จะเป็นผู้สนับสนุนสิ่งสร้างความบันเทิงของข้าพเจ้านั่นคือ โน๊ตบุ๊ค เมื่อแอ้กลับบ้านที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา แต่ข้าพเจ้ายังต้องนอนคุดคู้อยู่หอเหงา ๆ คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดายในวันหยุดสั้น ๆ ซึ่งสั้นจนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านที่ชลบุรี (มันต้องดูรันทดขนาดนั้นเลยหรอ??)
แอ้จะเป็นตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ที่ให้ข้าพเจ้าสามารถกดยืมได้ตลอดเวลาหากวันใดต้องจ่ายเงินค่าข้าวในโรงช้างเกินห้าสิบบาท
และจนถึงวันนี้ แอ้ก็ยังคงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ข้าพเจ้า ด้วยการมีบัญชีผู้ใช้ในเว็บ expedia และบัตรเครดิตซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการท่องเที่ยว ณ ต่างแดนของฉันนั่นเอง
(ถ้าแต่งเพลงค่าน้ำนมให้แอ้ได้คงแต่งไปแล้ว แต่ไม่เคยกินนมจากเต้าแอ้..)
.....
...
ไว้เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
[CR] บันทึกการเดินทาง: I'm Seoul-Seoul เพราะบางที..ผู้หญิงก็ไม่ควรเที่ยวโซลคนเดียว
ที่มาและความสำคัญ
วันที่ 29 กันยายน 2559...
เวลาใบไม้เปลี่ยนสีทั้งภูเขา มันสวยมาก ๆ เลยค่ะ..."
นี่คือคำชักชวนให้มาเที่ยวบ้านเกิดของอาจุมม่า(หรือคุณป้า)ชาวเกาหลีตามหัวข้อที่วิทยากรกำหนดในการอบรมการพูดในที่สาธารณะที่ฉันกำลังนั่งฟังอยู่
เอาจริง ๆ แรกเริ่มเดิมที การเที่ยวเกาหลีนี่ไม่ได้อยู่ในหัวสักเท่าไหร่(จะบอกว่าไม่เลยก็ได้นะ) เพราะตอนแรกเข้าใจว่าเกาหลีไม่น่าจะมีอะไรน่าเที่ยว ถ้าไปก็คงอารมณ์แบบตามรอยติ่งซีรีย์ หรือไปเฝ้าตึกดักรอศิลปิน รุมกินหม้อไฟ ไปละลายทรัพย์ด้วยการกว้านซื้อเครื่องสำอาง (ซึ่งข้าพเจ้าเชื่อว่าทุกวันนี้หลายคนก็น่าจะยังใช้ไม่หมด) กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า บลา ๆ ๆ แต่ไม่รู้อะไรดลใจตัวเองกับคำชักชวนของอาจุมม่า เลยลองหยิบโทรศัพท์มาค้นหารูปในอากู๋เล่น ๆ ตามที่อาจุมม่าบอก พอเลื่อนดูรูปไปเรื่อย ๆ ก็พบกับภาพเหล่านี้ค่ะ
ระหว่างนั้นก็เลยหาอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวเกาหลีไปเรื่อย ๆ (และที่นั่งอบรมอยู่ล่ะ??) ก่อนจะโพสต์ใน Facebook เล่น ๆ ว่าอยากไปเกาหลี สักพักแอ้ก็ส่งลิ้งค์ของเว็ปไซต์ expedia มาให้ลองดูตั๋วเครื่องบินกับที่พักเล่น ๆ ทางข้อความซึ่งก็พบอีกว่า
เลยไม่รอช้า รีบโทรหาแอ้ด้วยความรู้สึกบีบ ๆ หัวใจ สั่น ๆ จากข้างในให้ตัดบัตรเครดิตให้..เมื่อแอ้ตบปากรับคำ และสอบถามข้อมูลที่ต้องใช้กรอกในการจองตั๋วเครื่องบิน และที่พักแล้ว ภายในเสี้ยววินาที แอ้ก็โทรกลับมา ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพร้อมกับความตื่นเต้นว่าตัวเองกำลังจะไปเกาหลีจริง ๆ ใช่ไหมนิ แล้วไปคนเดียวดั๊วะ สักพักแอ้ก็พิมพ์ข้อความมาว่า...
“ตื่นเต้นแทนแกว่ะ อย่างกับจะไปเอง แกรีบทำแผนนะ เดือนหน้าจะรอดูรูป”
ตอนนั้นงงว่าแอ้จะรีบไปไหน เดือนหน้าอะไร..เพราะนี่มันเดือนกันยาอยู่ปะ?
เรา : เดี๋ยวนะ!! มันอีกสองเดือนไม่ใช่หรอ
แอ้ : จะบ้าหรอ!!! เดือนหน้าแล้วเว้ย พรุ่งนี้ก็ศุกร์สิ้นเดือนแล้วแก”
คือเงินจะเก็บทันไหม (ซึ่งตอนนั้นต้องรอเงินเดือนออกแล้วถึงจะไปแลกเป็นเงินวอนเพื่อไปเที่ยว ชีวิตดูรันทดมากและต้องงดกิจกรรมการเข้าสังคมใด ๆ ไปฉับพลัน)
แผนการเที่ยวจะเสร็จรึเปล่า เพราะไม่เคยอ่านกระทู้เที่ยวเกาหลีเลย (ขีดเส้นใต้ตัวหนา 2 เซนติเมตร)
ภาษาอังกฤษไม่ต้องพูดถึง งู ๆ ปลา ๆ มาตั้งแต่อายุสิบสี่
และพอเริ่มได้สติ จึงลองก้มหน้าหาข้อมูลพยากรณ์อากาศ ซึ่งพบว่าบางวันมีฝน (คือกลัวไปเดินกลางฝนแล้วเหม็นกลิ่นเท้ากับผมหน้าม้าที่หนีบไปกลับสู่ภาพหยิกหยอยเหมือนเดิม) บางวันมีเลขตัวเดียวด้วย เสื้อกันหนาวหน้าอนุสาวรีย์ที่ใส่อยู่คงกันอะไรไม่ได้
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ทุกคืนคือการนั่งปั่นแผนกันหัวฟู ขอบตาดำเป็นแพนด้า กระทู้เกาหลีในพันธ์ทิพย์อ่านมันทุกตัวอักษร (คือบางทีแอ้ก็ช่วยหาด้วย) ภาวนาให้เสื้อกันหนาวซึ่งต้องสั่งพรีออเดอร์จากจีนมาส่งถึงตรงเวลา ก่อนจะเดินไปยืนใบลากับพี่แผนก HR ซึ่งเขียนด้วยปากกาเส้นเล็กตัวบรรจง ไม่ผ่านการลบข้อความใด ๆ เพื่อให้ดูขาวใสสะอาดบริสุทธิ์ สุภาพ น่ารัก (มันคือความเชื่อล้วน ๆ ค่ะ) พร้อมด้วยรอยยิ้มแห้ง ๆ (เพราะนี่ลาเป็นอาทิตย์ แล้ววันทำงานด้วยค่ะประเด็น ฮาาาา) กับท่าทีที่อ่อนน้อม ว่าตัวเองนั้นจะขอไปต่างประเทศนะคะ ก่อนจะออกตัวบอกกับทุกคนในออฟฟิศว่าข้าพเจ้าขออนุญาตไม่รับหิ้วของใด ๆ เนื่องจากไม่ไป outlet และไม่ได้ซื้อค่าโหลดน้ำหนักกระเป๋า ซึ่งภารกิจที่ทำงาน เคลียร์!
หลังจากนั้นระหว่างรอเวลาก็ปิดเรื่องให้เงียบที่สุดจากเพื่อน ๆ ใน Facebook และกลุ่ม Line เพราะตั้งใจจะโพสต์ว่า ‘ถึงเกาหลีแล้วค่ะพวก!!!’ ก็ต่อเมื่อผ่านตม.แล้วเท่านั้น อารมณ์เหมือนอยากเข้าจุฬา แต่ไม่ใช้ของที่มีพระเกี้ยว ฉันใดก็ฉันนั้น (เผื่อโดนเข้าห้องเย็นแล้วไม่ได้เข้าประเทศ ถูกส่งตัวกลับจะได้ไม่หน้าแหก)
อ้อ! รวมทั้งป๊ากับแม่ด้วย..
บทความสำหรับสรรเสริญพระคุณของแอ้...
แอ้ เป็นเพื่อนสนิทสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และเป็นที่พึ่งบารมีแทบจะทุก ๆ เรื่องตลอดเวลาที่ได้รู้จักมาเลยก็ว่าได้
ตั้งแต่บรรทัดนี้ไป ขอให้ทุกท่านจินตนาการภาพว่ากำลังมีเด็กประถมหัวฟูผมสั้นกว่าติ่งหูยืนพูดสุนทรพจน์ด้วยน้ำตาคลอเบ้าและน้ำเสียงที่อ่อนโยนเจือไปด้วยการสั่นเครืออยู่...
แอ้จะเป็นเสาหลักที่คอยเก็บชีทเรียนในทุกคาบเช้า ก่อนที่ฉันจะเข้าเรียนในคาบบ่าย
แอ้จะสวมบทบาทเป็นหัวหน้ากลุ่ม และเป็นคนคอยขับเคลื่อน แจกแจงงานให้ดำเนินไปอย่างเรียบร้อยและสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
แอ้จะเป็นผู้สนับสนุนสิ่งสร้างความบันเทิงของข้าพเจ้านั่นคือ โน๊ตบุ๊ค เมื่อแอ้กลับบ้านที่อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา แต่ข้าพเจ้ายังต้องนอนคุดคู้อยู่หอเหงา ๆ คนเดียวโดดเดี่ยวเดียวดายในวันหยุดสั้น ๆ ซึ่งสั้นจนไม่มีโอกาสได้กลับบ้านที่ชลบุรี (มันต้องดูรันทดขนาดนั้นเลยหรอ??)
แอ้จะเป็นตู้เอทีเอ็มเคลื่อนที่ที่ให้ข้าพเจ้าสามารถกดยืมได้ตลอดเวลาหากวันใดต้องจ่ายเงินค่าข้าวในโรงช้างเกินห้าสิบบาท
และจนถึงวันนี้ แอ้ก็ยังคงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ข้าพเจ้า ด้วยการมีบัญชีผู้ใช้ในเว็บ expedia และบัตรเครดิตซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสนับสนุนการท่องเที่ยว ณ ต่างแดนของฉันนั่นเอง
(ถ้าแต่งเพลงค่าน้ำนมให้แอ้ได้คงแต่งไปแล้ว แต่ไม่เคยกินนมจากเต้าแอ้..)
.....
...
ไว้เดี๋ยวมาต่อนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ