โรคนี้ช่างทรมานค่ะ ไม่อยากให้ใครต้องเป็นโรคนี้เลย
ช่วงก่อนนี้ 2 ปี สงสัยว่าอาการที่เป็นคืออะไร ตอนนั้นอ่านหนังสือจะสอบงานราชการ ตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อให้ทันไปทำงาน วนเวียนแบบนี้ 1 ปี เต็ม ช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีอาการเหนื่อยล้า นอนไม่หลับ เวลาอยู่คนเดียวต้องเปิดประตูหน้าต่างให้โล่งๆ พยายามนั่งสมาธิ ฟังบทสวดมนต์
จนเมื่อต้นไป 2560 เริ่มไปพบหมอ เนื่องจากนอนไม่หลับ อันที่จริงเป็นคนที่นอนไม่หลับตั้งแต่ ม.1 ค่ะ จนตอนนี้อายุ 34 แล้ว
เริ่มติดยานอนหลับ ยาหมดต้องกินจนทานยาคลายเครียดนอนหลับติดต่อกัน 8 เดือน หมอส่งต่อพบจิตแพทย์ และพบว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า
ดิฉันนึกภาพไปตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เป็นวัยที่ต้องดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่ ทำให้นึกสงสัยว่า แม่ที่เลี้ยงดูมาก็น่าจะเป็นโรคนี้ด้วย ด้วยแม่เป็นคนที่ทำงานหนักและเหนื่อยมาตั้งแต่เล็ก ดูแลพี่สาวเป็นบ้า 12 ปี ดูแลตาและยายตั้งแต่ป่วยจนเสียไป
ตอนอยู่ด้วยกันกับแม่ที่ต่างจังหวัด หากแม่เกิดอาการน้อยใจ พยายามฆ่าตัวตายเสมอ ฉันและคนในบ้านช่วยกันห้ามแม่ไว้เสมอ
2 ปี และจะย่างเข้าสู่ ปีที่ 3 ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ กทม. เลิกมุ่งมั่นสอบงานราชการ ด้วยอายุ 34 แล้ว
และเมื่อพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทานยามาได้ 3 เดือน เดือนที่ 3 หมอเพิ่มยาต้านเศร้าวันละ 3 เม็ด
ไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เพราะกลัวจะไม่สบายใจ ไม่บอกเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อล่าสุดบอกเพื่อนๆ ที่สนิทช่วงมัธยม เพราะวันนั้นมีอาการไม่อยากกลับห้อง เหงา กลัว คุยกับเพื่อนๆ มีการตั้งกลุ่มคุยร่วมกัน 3 คน เพื่อนก็ชวนพูดคุยทุกวันค่ะ
แต่บางวัน อาการสมองดับ ดิฉันเคยอ่านอาการจากคุณเอิน กัลยากร อธิบายได้ว่าเหมือนลงไปนั่งอยู่ในหลุมดำ แต่ก่อนนั้นดิฉันบอกหมอว่า คล้ายๆ สมองดับ หรือเทียนที่โดนเป่าดับ หรือเรายืนอยู่กลางสนามโล่งแจ้ง จู่ๆ เมฆสีดำก้อนใหญ่ก็เข้าปกคลุมตัวเรา
ต่อคำถาม คิดอยากฆ่าตัวตายมั้ย ตอบหมอว่าอยากตายค่ะ แต่ยังตายไม่ได้
สอบถามคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และต้องใช้ชีวิตคนเดียว จัดการกับตัวเองอย่างไร ต่อสู้กับความทรมานของโรคนี้อย่างไรคะ
การดูแลตัวเองที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียว
ช่วงก่อนนี้ 2 ปี สงสัยว่าอาการที่เป็นคืออะไร ตอนนั้นอ่านหนังสือจะสอบงานราชการ ตื่นตั้งแต่ตี 4 เพื่อให้ทันไปทำงาน วนเวียนแบบนี้ 1 ปี เต็ม ช่วงครึ่งปีหลังเริ่มมีอาการเหนื่อยล้า นอนไม่หลับ เวลาอยู่คนเดียวต้องเปิดประตูหน้าต่างให้โล่งๆ พยายามนั่งสมาธิ ฟังบทสวดมนต์
จนเมื่อต้นไป 2560 เริ่มไปพบหมอ เนื่องจากนอนไม่หลับ อันที่จริงเป็นคนที่นอนไม่หลับตั้งแต่ ม.1 ค่ะ จนตอนนี้อายุ 34 แล้ว
เริ่มติดยานอนหลับ ยาหมดต้องกินจนทานยาคลายเครียดนอนหลับติดต่อกัน 8 เดือน หมอส่งต่อพบจิตแพทย์ และพบว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า
ดิฉันนึกภาพไปตั้งแต่เด็ก จนตอนนี้เป็นวัยที่ต้องดูแลครอบครัว ดูแลพ่อแม่ ทำให้นึกสงสัยว่า แม่ที่เลี้ยงดูมาก็น่าจะเป็นโรคนี้ด้วย ด้วยแม่เป็นคนที่ทำงานหนักและเหนื่อยมาตั้งแต่เล็ก ดูแลพี่สาวเป็นบ้า 12 ปี ดูแลตาและยายตั้งแต่ป่วยจนเสียไป
ตอนอยู่ด้วยกันกับแม่ที่ต่างจังหวัด หากแม่เกิดอาการน้อยใจ พยายามฆ่าตัวตายเสมอ ฉันและคนในบ้านช่วยกันห้ามแม่ไว้เสมอ
2 ปี และจะย่างเข้าสู่ ปีที่ 3 ดิฉันใช้ชีวิตอยู่ กทม. เลิกมุ่งมั่นสอบงานราชการ ด้วยอายุ 34 แล้ว
และเมื่อพบว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ทานยามาได้ 3 เดือน เดือนที่ 3 หมอเพิ่มยาต้านเศร้าวันละ 3 เม็ด
ไม่บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เพราะกลัวจะไม่สบายใจ ไม่บอกเพื่อนร่วมงาน แต่เมื่อล่าสุดบอกเพื่อนๆ ที่สนิทช่วงมัธยม เพราะวันนั้นมีอาการไม่อยากกลับห้อง เหงา กลัว คุยกับเพื่อนๆ มีการตั้งกลุ่มคุยร่วมกัน 3 คน เพื่อนก็ชวนพูดคุยทุกวันค่ะ
แต่บางวัน อาการสมองดับ ดิฉันเคยอ่านอาการจากคุณเอิน กัลยากร อธิบายได้ว่าเหมือนลงไปนั่งอยู่ในหลุมดำ แต่ก่อนนั้นดิฉันบอกหมอว่า คล้ายๆ สมองดับ หรือเทียนที่โดนเป่าดับ หรือเรายืนอยู่กลางสนามโล่งแจ้ง จู่ๆ เมฆสีดำก้อนใหญ่ก็เข้าปกคลุมตัวเรา
ต่อคำถาม คิดอยากฆ่าตัวตายมั้ย ตอบหมอว่าอยากตายค่ะ แต่ยังตายไม่ได้
สอบถามคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า และต้องใช้ชีวิตคนเดียว จัดการกับตัวเองอย่างไร ต่อสู้กับความทรมานของโรคนี้อย่างไรคะ