เครียด พยายามไม่กดดันตัวเองแต่ก็ทำไม่ได้ กดดันเรื่องเรียนนี่แหละค่ะ ขอเกริ่นก่อนว่า ...
จขกท เป็นนักศึกษาค่ะ ขอแทนตัวเองว่าเราแล้วกัน เราเรียนอยู่ปี 4 ปีสุดท้าย (รึป่าว) วิศวเคมี ม.ดังใน 8 เกียร์
ทำไมเลือกสาขานี้? ไม่รู้ว่าจะเรียนไรดีค่ะ ตอน ม.6 ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าอยากเรียนอะไร ได้แต่ตามเพื่อนไปสอบหมอ และก็ไม่ติด (ดีแล้ว) เวลาล่วงเลยมาจนถึงรอบ admission คะแนน gat pat เกรด onet ไรดีหมด (ตอนมัธยมเรียนดีค่ะ อยู่อันดับ top 10 ในห้อง ยกเว้นวิชาฟิสิกส์ เคมี อันนี้ง่อยมาก) คณะที่เราเล็งๆไว้ก็คือวิศวะ คะแนนรวม 19,000 กว่าๆ กับ วารสารฯ คะแนนรวม 23,000 กว่าๆ คนละทางกันเลยใช่มั้ยล่ะคะ วิศวะวิทย์จ๋า กับวารสารที่เอนมาทางสายศิลป์ ใจจริงก็ไม่อยากเรียนสายวิทย์เท่าไหร่ จะเอาสายศิลป์ก็กลัวหางานไม่ได้ กลัวแข่งขันกับเพื่อนคนอื่นในสาขาไม่ได้ ตัดสินใจไรไม่ได้ก็คุยกับแม่ แม่ก็บอกประมาณว่า อยากให้เลือกเรียนวิศวะ โดยเฉพาะวิศวเคมี เพราะรายได้สูง ครอบครัวเราไม่ได้มั่งมี ถ้าจะเรียนสิ่งที่ชอบแต่เลี้ยงปากท้องไม่ได้มันก็จะลำบาก เราก็เออออตามแม่ด้วย เพราะเห็นว่าจริง
ทำไมต้องตามคำพูดแม่? เราเป็นลูกคนเดียวของแม่ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก แถมเป็นหลานคนโตของตาและยาย ในบรรดาพี่น้องของแม่ แม่เป็นคนที่เรียนสูงสุด คือ ป.ตรี ถือว่าเป็นเสาหลักครอบครัวคนหนึ่งเลยแหละ แม่ทำงานหนักมาก หนักเอา เบาสู้ กู้นู่น ลงทุนนี่เพื่อให้ที่บ้านมีรายได้ ซึ่งแน่นอน มันก็ไม่ได้เยอะไรขนาดนั้น บางครั้งที่บ้านสร้างหนี้สิน แม่ก็ต้องตามช่วย ในความคิดหนูคือ หนูต้องเป็นเหมือนแม่ เป็นเสาหลักของที่บ้าน เป็นตัวอย่างให้น้องๆ (ลูกของน้าที่บ้าน เพราะอยู่ด้วยกัน เล่นกัน ทะเลาะกันตั้งแต่เล็กจนโต เราเป็นเด็ก ตจว ด้วย กลัวน้องไม่สนใจหนังสือ) เพราะเหตุฉะนี้ จึงตัดสินใจแอดวิศวะเคมี เราติดอันดับแรกเลย
ระหว่างเรียน : ปีแรก โอเคดีค่ะ ไม่มีปัญหา มีน้ำตาแตกแค่ตอนเรียนแคลคูลัส 1 เพราะยาก ส่วนวิชาอื่นทำได้โอเคหมด ขนาดเคมีที่ตอน ม.ปลายได้เกรด 2.5 ก็กลายเป็นว่าได้ A ในมหาลัย เพราะเรียนเข้าใจขึ้นค่ะ อังกฤษนี่ไม่ต้องห่วงเลย ชอบที่สุด วิชาภาคตอนนั้นมันก็แค่ intro กินนกติดประจุไป แฮปปี้ค่ะ เกรด 3.5 อัพ คิดกับตัวเองว่า เห้ย เราก็ทำได้นี่ 4 ปีที่เรียนนี่ชีวิตต้องแฮปปี้แน่นอน (ตอนเด็กเรียนเก่งจริงๆ มีได้ดอกไม้เพราะได้ที่สองของห้องด้วยเมื่อตอน ม.ต้น และทั้งโรงเรียนตอน ม.ต้น และ ม.ปลาย เป็นโรงเรียนที่เราสอบเข้าเองหมด โรงเรียนระดับจังหวัด มีชื่อเสียงด้วย) เพราะไม่รู้ว่าคาดหวังไว้แบบนี้รึป่าว ตอนปี 1 เทอม 2 หนูเลยจุกหนัก เพราะวิชาภาคมันยากขึ้น เรียนไม่เข้าใจ ฟิสิกส์ก็แย่ มีวิชาที่ช่วยประคับประคองคือวิชาทั่วไป (ที่ ม. มีหลักสูตรที่ให้นักศึกษาต้องเรียน เทอมละตัว จะออกแนวสังคม หรือสัพเพเหระไรก็ไม่รู้) กับวิชาอังกฤษ ตอนนั้นก็มีความคิดว่า ไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองเรียนอยู่ตอนนี้เลย ถ้าเรียนวารสารอาจจะแฮปปี้กว่านี้ ที่บอกว่าดีกว่านี้ก็เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ชอบ หนักแค่ไหนเราก็สู้ไงคะ ก็เลยลองยื่นแอดโดยไม่ได้บอกแม่ กะจะบอกแม่ตอนติด ซึ่งผลออกมาเราก็ติดค่ะ ดีใจมาก เราก็ลองตะล่อมๆไปคุยกับแม่ว่า ไม่ชอบวิศวะเคมีเลยไรอย่างนู้นอย่างนี้ แต่แม่เราก็ยังให้เหตุผลเดิม ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราหาไรมาสู้ไม่ได้จริงๆ เราคิดแต่เรื่องรายได้ในอนาคต จนยอมสละสิทธิ์ไป (วอนอย่าว่าเราเลยที่ไปกันที่ เราอยากเรียน แต่เรามีเหตุผลจริงๆ) เราบอกแม่ว่าอาจจะพยายามไม่มากพอ จะตั้งใจให้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เกรดลดลงจนต่ำกว่า 3 แม่พูดว่า "ผิดหวังว่ะ" อ่านแค่นั้นนี่น้ำตาแตกเลย เสียใจมากๆ เสียใจที่เราทำไม่ดีพอ เสียใจที่ทำอย่างที่แม่หวังไม่ได้ กลัวจะเป็นที่พึ่งให้ใครไม่ได้ เราเลยเลือกที่จะคุยกับน้าและยายเพราะค่อนข้างสนิท (น้าเป็นคนเลี้ยงเรามาค่ะ แม่แค่ทำงานส่งเงินมา ไปหาบ้างตอนปิดเทอม) น้าเขาก็บอกอย่าเครียดมาก เดี๋ยวก็ผ่านไปได้ เขาก็ให้กำลังใจค่ะ ขึ้นปี 3 เกรดก็ลดลงมาอีก ไม่ขึ้นเลย แม่ก็เหมือนจะเริ่มปลงๆแล้ว ก็คอยบอกเราว่า ทำให้ดีที่สุดก็พอ ได้เเค่ไหน เอาแค่นั้น แม่ไม่ได้ต้องการให้ลูกต้องเหนือคนอื่น เกียรตินิยม หรือเกรดสูงๆ (ประมาณนี้ จำเป๊ะๆไม่ได้) เราก็ใจชื้นขึ้นมาค่ะ แต่ก็ยังกดดันตัวเองอยู่ดีว่าทำไมได้แค่นี้ อนาคตจะมีงานทำไหม เราไม่มีความสุขในสิ่งที่เรียนมากๆ เทอม 2 ติด F ด้วย น้ำตาออกมาเป็นมหาสมุทรเลยค่ะ แต่แม่บอกว่าก็ค่อยแก้ เราก็ทำใจลงใหม่ตอนปี 4 ช่วงก่อนปี 4 ก็มีไปฝึกงาน ลงแพลนท์ โทรไปหายาย เล่าให้ยายว่าเนี่ย กลัวแพลนท์ระเบิดมาก เมื่อวานมีอะไรไม่รู้ไปอุดท่อ บลาๆ เคยมีคนตายเพราะแก๊สระเบิด บลาๆ สูดแก๊สทุกวันเดี๋ยวเป็นมะเร็ง บลาๆๆ คือเราพูดไปเพื่อให้ยายคิดว่า เรียนอันนี้น่ากลัว ไม่อยากทำงานสายนี้ 555555 ยายก็ เอ๋าาาาาาาาาา ถ้ารู้ว่าต้องเรียนอย่างนี้ยายไม่ให้เรียนแล้ว (ความจริงก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นนะคะ เพราะส่วนใหญ่เราไม่ได้ลงหน้างานไรขนาดนั้น ระบบความปลอดภัยก็มีสูง แต่ถ้าจะขัดข้องจริงๆก็
น่ะแหละค่ะ แต่ไม่ค่อยมีหรอก) ยายก็บอกว่า ถ้าชอบภาษาก็มาเปิดโรงเรียนสอนภาษาก็ได้ แต่ไอเราก็ไม่ได้เทพไรขนาดนั้นอ่ะดิ แล้วเราก็คิดว่า เรียนมาตั้งสามปีแล้ว ไม่อยากเรียนเพื่อเสียเวลา สุดท้ายก็กดดันตัวเองอยู่ดี ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอดๆ ห้ามไม่ได้ ล่าสุดปีสี่เทอมหนึ่ง เหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้นเลย แถมตอนนี้แก้วิชาที่เคย F แต่ดูทรงแล้วก็น่า F อีกรอบ น้ำตาไหลออกมาจากห้องสอบ ในหัวมีแต่ความคิดว่า มาเรียนหะ
ไรอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่ชอบเลย ไม่มีความสุข ไม่อยากทำงานสายนี้ แต่ต้องมีเงิน มีรายได้ ต้องเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัว กลัวแม่ผิดหวัง แล้วอีกอย่าง แม่อยากให้เรียนโทสายวิศวะเหมือนเดิมด้วย เราก็บอกแม่ว่าถ้าเกรดถึง 2.75 ก็จะเรียน แต่ตอนนี้ต่ำกว่านั้นค่ะ ในใจนึงก็ดีใจที่ไม่ต้องเรียนแล้ว แต่ก็เครียดเกรดเท่านี้จะเอาสู้ใครได้ สมัครงานที่ไหนจะมีใครรับ ไม่รู้ว่าชีวิตตัวเองต้องเดินไปทางไหน ถ้าได้งานที่เงินน้อยจะพอเลี้ยงผู้ใหญ่ยังไง ถ้าจะหารายได้เสริมจะทำไรเพราะไม่มีทักษะไรเลย
เอาง่ายๆเลยคือ ไม่รู้เป้าหมายชีวิตตัวเอง ทำให้กดดันมากๆ เพราะมีครอบครัวรอพึ่งพาอยู่ข้างหลัง ตามจริงตอนนี้เขาก็ไม่ได้กดดันอะไรเรา แต่เรานี่แหละกดดันตัวเอง พยายามไม่คิดมากก็ทำไม่ได้สักที ร้องไห้ที เครียดที ก็ปวดหัวด้วย ปวดเกร็งที่สมองซึกเดียวบ้าง หรือประมาณตรงเบ้าตาบ้าง ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย เหมือนคนอมทุกข์ตลอดเวลา ไม่มีความสุขจริงๆ เรียนมา 4 ปี น้ำตาเยอะมากใส่สระน้ำพายเรือได้เลย
คงเล่าเท่านี้แหละค่ะ พิมพ์ยาวจนน้ำตาแห้ง ตั้งกระทู้ก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไร จะถามวิธีลดการกดดันตัวเอง แต่ขนาดที่บ้านพูดเราก็ยังกดดันตัวเองอยู่ดี แต่ที่แน่ๆ คือ อยากระบาย ขอบคุณนะคะที่อ่าน ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านจริงๆมั้ย
อยากระบายค่ะ กดดันตัวเองมากเกินไป ไม่มีความสุขเลย
จขกท เป็นนักศึกษาค่ะ ขอแทนตัวเองว่าเราแล้วกัน เราเรียนอยู่ปี 4 ปีสุดท้าย (รึป่าว) วิศวเคมี ม.ดังใน 8 เกียร์
ทำไมเลือกสาขานี้? ไม่รู้ว่าจะเรียนไรดีค่ะ ตอน ม.6 ยังหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้ว่าอยากเรียนอะไร ได้แต่ตามเพื่อนไปสอบหมอ และก็ไม่ติด (ดีแล้ว) เวลาล่วงเลยมาจนถึงรอบ admission คะแนน gat pat เกรด onet ไรดีหมด (ตอนมัธยมเรียนดีค่ะ อยู่อันดับ top 10 ในห้อง ยกเว้นวิชาฟิสิกส์ เคมี อันนี้ง่อยมาก) คณะที่เราเล็งๆไว้ก็คือวิศวะ คะแนนรวม 19,000 กว่าๆ กับ วารสารฯ คะแนนรวม 23,000 กว่าๆ คนละทางกันเลยใช่มั้ยล่ะคะ วิศวะวิทย์จ๋า กับวารสารที่เอนมาทางสายศิลป์ ใจจริงก็ไม่อยากเรียนสายวิทย์เท่าไหร่ จะเอาสายศิลป์ก็กลัวหางานไม่ได้ กลัวแข่งขันกับเพื่อนคนอื่นในสาขาไม่ได้ ตัดสินใจไรไม่ได้ก็คุยกับแม่ แม่ก็บอกประมาณว่า อยากให้เลือกเรียนวิศวะ โดยเฉพาะวิศวเคมี เพราะรายได้สูง ครอบครัวเราไม่ได้มั่งมี ถ้าจะเรียนสิ่งที่ชอบแต่เลี้ยงปากท้องไม่ได้มันก็จะลำบาก เราก็เออออตามแม่ด้วย เพราะเห็นว่าจริง
ทำไมต้องตามคำพูดแม่? เราเป็นลูกคนเดียวของแม่ พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก แถมเป็นหลานคนโตของตาและยาย ในบรรดาพี่น้องของแม่ แม่เป็นคนที่เรียนสูงสุด คือ ป.ตรี ถือว่าเป็นเสาหลักครอบครัวคนหนึ่งเลยแหละ แม่ทำงานหนักมาก หนักเอา เบาสู้ กู้นู่น ลงทุนนี่เพื่อให้ที่บ้านมีรายได้ ซึ่งแน่นอน มันก็ไม่ได้เยอะไรขนาดนั้น บางครั้งที่บ้านสร้างหนี้สิน แม่ก็ต้องตามช่วย ในความคิดหนูคือ หนูต้องเป็นเหมือนแม่ เป็นเสาหลักของที่บ้าน เป็นตัวอย่างให้น้องๆ (ลูกของน้าที่บ้าน เพราะอยู่ด้วยกัน เล่นกัน ทะเลาะกันตั้งแต่เล็กจนโต เราเป็นเด็ก ตจว ด้วย กลัวน้องไม่สนใจหนังสือ) เพราะเหตุฉะนี้ จึงตัดสินใจแอดวิศวะเคมี เราติดอันดับแรกเลย
ระหว่างเรียน : ปีแรก โอเคดีค่ะ ไม่มีปัญหา มีน้ำตาแตกแค่ตอนเรียนแคลคูลัส 1 เพราะยาก ส่วนวิชาอื่นทำได้โอเคหมด ขนาดเคมีที่ตอน ม.ปลายได้เกรด 2.5 ก็กลายเป็นว่าได้ A ในมหาลัย เพราะเรียนเข้าใจขึ้นค่ะ อังกฤษนี่ไม่ต้องห่วงเลย ชอบที่สุด วิชาภาคตอนนั้นมันก็แค่ intro กินนกติดประจุไป แฮปปี้ค่ะ เกรด 3.5 อัพ คิดกับตัวเองว่า เห้ย เราก็ทำได้นี่ 4 ปีที่เรียนนี่ชีวิตต้องแฮปปี้แน่นอน (ตอนเด็กเรียนเก่งจริงๆ มีได้ดอกไม้เพราะได้ที่สองของห้องด้วยเมื่อตอน ม.ต้น และทั้งโรงเรียนตอน ม.ต้น และ ม.ปลาย เป็นโรงเรียนที่เราสอบเข้าเองหมด โรงเรียนระดับจังหวัด มีชื่อเสียงด้วย) เพราะไม่รู้ว่าคาดหวังไว้แบบนี้รึป่าว ตอนปี 1 เทอม 2 หนูเลยจุกหนัก เพราะวิชาภาคมันยากขึ้น เรียนไม่เข้าใจ ฟิสิกส์ก็แย่ มีวิชาที่ช่วยประคับประคองคือวิชาทั่วไป (ที่ ม. มีหลักสูตรที่ให้นักศึกษาต้องเรียน เทอมละตัว จะออกแนวสังคม หรือสัพเพเหระไรก็ไม่รู้) กับวิชาอังกฤษ ตอนนั้นก็มีความคิดว่า ไม่ชอบสิ่งที่ตัวเองเรียนอยู่ตอนนี้เลย ถ้าเรียนวารสารอาจจะแฮปปี้กว่านี้ ที่บอกว่าดีกว่านี้ก็เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ชอบ หนักแค่ไหนเราก็สู้ไงคะ ก็เลยลองยื่นแอดโดยไม่ได้บอกแม่ กะจะบอกแม่ตอนติด ซึ่งผลออกมาเราก็ติดค่ะ ดีใจมาก เราก็ลองตะล่อมๆไปคุยกับแม่ว่า ไม่ชอบวิศวะเคมีเลยไรอย่างนู้นอย่างนี้ แต่แม่เราก็ยังให้เหตุผลเดิม ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราหาไรมาสู้ไม่ได้จริงๆ เราคิดแต่เรื่องรายได้ในอนาคต จนยอมสละสิทธิ์ไป (วอนอย่าว่าเราเลยที่ไปกันที่ เราอยากเรียน แต่เรามีเหตุผลจริงๆ) เราบอกแม่ว่าอาจจะพยายามไม่มากพอ จะตั้งใจให้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ดีขึ้นเลย เกรดลดลงจนต่ำกว่า 3 แม่พูดว่า "ผิดหวังว่ะ" อ่านแค่นั้นนี่น้ำตาแตกเลย เสียใจมากๆ เสียใจที่เราทำไม่ดีพอ เสียใจที่ทำอย่างที่แม่หวังไม่ได้ กลัวจะเป็นที่พึ่งให้ใครไม่ได้ เราเลยเลือกที่จะคุยกับน้าและยายเพราะค่อนข้างสนิท (น้าเป็นคนเลี้ยงเรามาค่ะ แม่แค่ทำงานส่งเงินมา ไปหาบ้างตอนปิดเทอม) น้าเขาก็บอกอย่าเครียดมาก เดี๋ยวก็ผ่านไปได้ เขาก็ให้กำลังใจค่ะ ขึ้นปี 3 เกรดก็ลดลงมาอีก ไม่ขึ้นเลย แม่ก็เหมือนจะเริ่มปลงๆแล้ว ก็คอยบอกเราว่า ทำให้ดีที่สุดก็พอ ได้เเค่ไหน เอาแค่นั้น แม่ไม่ได้ต้องการให้ลูกต้องเหนือคนอื่น เกียรตินิยม หรือเกรดสูงๆ (ประมาณนี้ จำเป๊ะๆไม่ได้) เราก็ใจชื้นขึ้นมาค่ะ แต่ก็ยังกดดันตัวเองอยู่ดีว่าทำไมได้แค่นี้ อนาคตจะมีงานทำไหม เราไม่มีความสุขในสิ่งที่เรียนมากๆ เทอม 2 ติด F ด้วย น้ำตาออกมาเป็นมหาสมุทรเลยค่ะ แต่แม่บอกว่าก็ค่อยแก้ เราก็ทำใจลงใหม่ตอนปี 4 ช่วงก่อนปี 4 ก็มีไปฝึกงาน ลงแพลนท์ โทรไปหายาย เล่าให้ยายว่าเนี่ย กลัวแพลนท์ระเบิดมาก เมื่อวานมีอะไรไม่รู้ไปอุดท่อ บลาๆ เคยมีคนตายเพราะแก๊สระเบิด บลาๆ สูดแก๊สทุกวันเดี๋ยวเป็นมะเร็ง บลาๆๆ คือเราพูดไปเพื่อให้ยายคิดว่า เรียนอันนี้น่ากลัว ไม่อยากทำงานสายนี้ 555555 ยายก็ เอ๋าาาาาาาาาา ถ้ารู้ว่าต้องเรียนอย่างนี้ยายไม่ให้เรียนแล้ว (ความจริงก็ไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้นนะคะ เพราะส่วนใหญ่เราไม่ได้ลงหน้างานไรขนาดนั้น ระบบความปลอดภัยก็มีสูง แต่ถ้าจะขัดข้องจริงๆก็น่ะแหละค่ะ แต่ไม่ค่อยมีหรอก) ยายก็บอกว่า ถ้าชอบภาษาก็มาเปิดโรงเรียนสอนภาษาก็ได้ แต่ไอเราก็ไม่ได้เทพไรขนาดนั้นอ่ะดิ แล้วเราก็คิดว่า เรียนมาตั้งสามปีแล้ว ไม่อยากเรียนเพื่อเสียเวลา สุดท้ายก็กดดันตัวเองอยู่ดี ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอดๆ ห้ามไม่ได้ ล่าสุดปีสี่เทอมหนึ่ง เหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้นเลย แถมตอนนี้แก้วิชาที่เคย F แต่ดูทรงแล้วก็น่า F อีกรอบ น้ำตาไหลออกมาจากห้องสอบ ในหัวมีแต่ความคิดว่า มาเรียนหะไรอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่ชอบเลย ไม่มีความสุข ไม่อยากทำงานสายนี้ แต่ต้องมีเงิน มีรายได้ ต้องเป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัว กลัวแม่ผิดหวัง แล้วอีกอย่าง แม่อยากให้เรียนโทสายวิศวะเหมือนเดิมด้วย เราก็บอกแม่ว่าถ้าเกรดถึง 2.75 ก็จะเรียน แต่ตอนนี้ต่ำกว่านั้นค่ะ ในใจนึงก็ดีใจที่ไม่ต้องเรียนแล้ว แต่ก็เครียดเกรดเท่านี้จะเอาสู้ใครได้ สมัครงานที่ไหนจะมีใครรับ ไม่รู้ว่าชีวิตตัวเองต้องเดินไปทางไหน ถ้าได้งานที่เงินน้อยจะพอเลี้ยงผู้ใหญ่ยังไง ถ้าจะหารายได้เสริมจะทำไรเพราะไม่มีทักษะไรเลย
เอาง่ายๆเลยคือ ไม่รู้เป้าหมายชีวิตตัวเอง ทำให้กดดันมากๆ เพราะมีครอบครัวรอพึ่งพาอยู่ข้างหลัง ตามจริงตอนนี้เขาก็ไม่ได้กดดันอะไรเรา แต่เรานี่แหละกดดันตัวเอง พยายามไม่คิดมากก็ทำไม่ได้สักที ร้องไห้ที เครียดที ก็ปวดหัวด้วย ปวดเกร็งที่สมองซึกเดียวบ้าง หรือประมาณตรงเบ้าตาบ้าง ไม่อยากเป็นแบบนี้เลย เหมือนคนอมทุกข์ตลอดเวลา ไม่มีความสุขจริงๆ เรียนมา 4 ปี น้ำตาเยอะมากใส่สระน้ำพายเรือได้เลย
คงเล่าเท่านี้แหละค่ะ พิมพ์ยาวจนน้ำตาแห้ง ตั้งกระทู้ก็ไม่รู้ว่าจะถามอะไร จะถามวิธีลดการกดดันตัวเอง แต่ขนาดที่บ้านพูดเราก็ยังกดดันตัวเองอยู่ดี แต่ที่แน่ๆ คือ อยากระบาย ขอบคุณนะคะที่อ่าน ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีคนอ่านจริงๆมั้ย