สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
1.ลาออกจากงาน
ในเรื่องบอกไว้แล้วนะคะว่าที่ลาออกจากงานเพราะเกือบจะถูกข่มขืนจากเพื่อนร่วมงาน แถมคนในทีมที่ทำงานด้วยกันยังเข้าข้างคนผิด ขอโทษนางเอกแบบขอไปที แถมพูดในทำนองว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเอง อย่าเอาปัญหานี้มาทำให้งานเสีย(ทั้งๆที่เรื่องนี้มันทำร้ายจิตใจนางเอกมาก คนเกือบจะโดนข่มขืนแต่คนอื่นทำเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆไม่สำคัญ) นางเอกเลยเลือกจะทิ้งความฝันตัวเองดีกว่าต้องทนค่ะ แถมมันยังกลายเป็นปมฝังใจว่าโดนเพื่อนร่วมงานที่ตัวเองไว้ใจ(และแอบชอบ)ทำให้เสียความเชื่อใจ แถมไม่มีใครเข้าข้างเพราะตัวเองสำคัญน้อยกว่าอีกฝ่าย
2.ความฝันสูงสุด
ก็คงเป็นนักเขียนนั่นแหละค่ะ ซีนที่พระเอกไปรอนางเอกในห้องเดิมที่บ้านทำให้เห็นว่าในห้องมีแต่โปสเตอร์หนัง หนังสือต่างๆ ทำให้เห็นว่านางเอกทุ่มเทแและตั้งใจจะเป็นนักเขียนบทมาก แต่ ณ ตอนนั้นนางเอกอายุแค่ 18-19 เรียนม.ปลายปีสุดท้ายและไม่เคยมีแฟน มันก็ไม่แปลกนะคะที่เด็กวัยเท่านี้จะอยากมีความรักซักครั้งนึง ตัดภาพมาที่ตอนโต นางเอกตอนที่ต้องออกจากงานดูสิ้นหวังมากๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรเหลือแล้ว ล่องลอยไปมา เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าความฝันของนางเอกคือความรัก มันคือความเพ้อฝันของเด็กวัยรุ่นมากกว่า เหมือนที่นางเอกพูดว่า ในตอนที่ฉันฝันว่าจะได้มีความรักเหมือนคนอื่น ดันเป็นช่วงเดียวกับที่พระเอกตัดสินใจจะไม่รักใครอีกแล้ว
3.แต่งงาน
เพื่อนนางเอกพูดไว้นะคะว่านางเอกทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้อยู่ที่โซล ตอนจบม.ปลายพ่อนางเอกค้านหัวชนฝาไม่ให้มาเรียนที่โซล ให้เรียนที่บ้านเกิด แถมถ้านางเอกไม่มีบ้านอยู่ ก็ไม่มีที่ไปแล้วนอกจากจะต้องกลับบ้านนอก เท่ากับว่าตัดโอกาสหางานใหม่ไปด้วย เพราะอย่างที่รู้ว่างานที่นางเอกทำมันเป็นงานเฉพาะในโซล ถ้าตัดสินใจกลับบ้านมันจะไม่ใช่แค่การย้ายที่อยู่ แต่เป็นการทิ้งความฝันของตัวเองไปเลย ไม่มีโอกาสจะได้ทำอีกแล้ว แถมนางเอกดันไปชอบพระเอกตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตอนอยู่ด้วยกันก่อนแต่งก็ดันเข้ากันได้ดี ถึงตัดสินใจแต่งงานไงคะ
4.เรื่องก้าวก่าย
อันนี้นางเอกผิดจริงค่ะ ฟังพระเอกพูดคำว่า"ของเรา" เช่น บ้านของเรา เรื่องของเรา อะไรแบบนี้บ่อยๆเข้า เหมือนกับคนที่ได้อะไรที่ไม่เคยได้มาก่อน บวกกับตัวพระเอกเองก่อนหน้านี้ขีดเส้นแบ่งไว้ชัดเจนว่าของใครของมัน พอมีคนที่พูดในเชิงแสดงออกว่านี่คือสิ่งที่เป็นของเราสองคน เป็นเรื่องที่เราสองคนมีร่วมกันเท่านั้นนางเอกเลยเหลิง หลงคิดไปไกลว่าพระเอกเปิดใจบ้างแล้ว พอเจอพระเอกตอกกลับมาตรงๆว่าอยากให้เส้นแบ่งชัดเจนมากกว่านี้ตัวเองเลยรู้สึกอายค่ะ อายที่ดันคิดนู่นคิดนี่ไปเอง พอทำอะไรไม่ได้แล้วเลยแสดงออกมาว่าโกรธ อันนี้เป็นเรื่องที่นางเอกผิดจริงๆ
5.หย่า
นางเอกรู้สึกว่าการทีความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมันยังอยู่ใต้สัญญาเช่าบ้านมันไม่ถูกต้อง อยากจะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ที่มันดีกว่านี้ เลยต้องการจะฉีกสัญญา ซึ่งมันรวมไปถึงเรื่องหย่าด้วย แล้วตัวพระเอกเองไม่เคยแสดงออกมาเลยว่าตัวคิดอะไร รู้สึกแบบไหน นางเอกไม่เคยเห็นพระเอกยิ้ม
หัวเราะ หรือโกรธ ร้องไห้ ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกันตลอด แถมเดทกันด้วย เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้สำคัญอะไรกับอีกฝ่ายเลยเลือกจะถอยออกมาดีกว่า แล้วรอเวลาเพื่อเริ่มต้นใหม่ จีบกันใหม่ ซึ่งเวลาช่วงนั้นมันก็เป็นช่วงที่ทำให้พระเอกเราคิดได้ว่าควรจะทำตัวแบบไหน อย่างที่เห็นว่ากว่าพระเอกจะแสดงความรู้สึกออกมาก็เกือบจะท้ายเรื่อง
เราว่าเรื่องนี้มันก็สมเหตุสมผลนะคะ การกระทำของตัวละครมีที่มาและเหตุผลมารองรับทุกอย่าง บางอย่างมันก็ไม่ชัดเจน บางเหตุผลคนดูอย่างเราก็ไม่เข้าใจ บางอย่างตัวละครก็ไม่เคยพูดออกมา แต่บอกใบ้ไวในแต่ละฉากแทน แต่มองในมุมตัวละครซึ่งคิดไม่เหมือนกันกับเรา เหตุผลอันนั้นมันก็เป็นสิ่งที่พาตัวละครไปในทิศทางของแต่ละคนนะ สำหรับเราถึงบางเหตุผลมันจะดูงงๆแต่ไม่มีอันไหนที่ดูไร้สาระหรือมากจนเกินพอดีเลยค่ะ
ในเรื่องบอกไว้แล้วนะคะว่าที่ลาออกจากงานเพราะเกือบจะถูกข่มขืนจากเพื่อนร่วมงาน แถมคนในทีมที่ทำงานด้วยกันยังเข้าข้างคนผิด ขอโทษนางเอกแบบขอไปที แถมพูดในทำนองว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเอง อย่าเอาปัญหานี้มาทำให้งานเสีย(ทั้งๆที่เรื่องนี้มันทำร้ายจิตใจนางเอกมาก คนเกือบจะโดนข่มขืนแต่คนอื่นทำเหมือนเป็นเรื่องเล็กๆไม่สำคัญ) นางเอกเลยเลือกจะทิ้งความฝันตัวเองดีกว่าต้องทนค่ะ แถมมันยังกลายเป็นปมฝังใจว่าโดนเพื่อนร่วมงานที่ตัวเองไว้ใจ(และแอบชอบ)ทำให้เสียความเชื่อใจ แถมไม่มีใครเข้าข้างเพราะตัวเองสำคัญน้อยกว่าอีกฝ่าย
2.ความฝันสูงสุด
ก็คงเป็นนักเขียนนั่นแหละค่ะ ซีนที่พระเอกไปรอนางเอกในห้องเดิมที่บ้านทำให้เห็นว่าในห้องมีแต่โปสเตอร์หนัง หนังสือต่างๆ ทำให้เห็นว่านางเอกทุ่มเทแและตั้งใจจะเป็นนักเขียนบทมาก แต่ ณ ตอนนั้นนางเอกอายุแค่ 18-19 เรียนม.ปลายปีสุดท้ายและไม่เคยมีแฟน มันก็ไม่แปลกนะคะที่เด็กวัยเท่านี้จะอยากมีความรักซักครั้งนึง ตัดภาพมาที่ตอนโต นางเอกตอนที่ต้องออกจากงานดูสิ้นหวังมากๆ ดูเหมือนไม่มีอะไรเหลือแล้ว ล่องลอยไปมา เพราะฉะนั้นเรื่องที่ว่าความฝันของนางเอกคือความรัก มันคือความเพ้อฝันของเด็กวัยรุ่นมากกว่า เหมือนที่นางเอกพูดว่า ในตอนที่ฉันฝันว่าจะได้มีความรักเหมือนคนอื่น ดันเป็นช่วงเดียวกับที่พระเอกตัดสินใจจะไม่รักใครอีกแล้ว
3.แต่งงาน
เพื่อนนางเอกพูดไว้นะคะว่านางเอกทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้อยู่ที่โซล ตอนจบม.ปลายพ่อนางเอกค้านหัวชนฝาไม่ให้มาเรียนที่โซล ให้เรียนที่บ้านเกิด แถมถ้านางเอกไม่มีบ้านอยู่ ก็ไม่มีที่ไปแล้วนอกจากจะต้องกลับบ้านนอก เท่ากับว่าตัดโอกาสหางานใหม่ไปด้วย เพราะอย่างที่รู้ว่างานที่นางเอกทำมันเป็นงานเฉพาะในโซล ถ้าตัดสินใจกลับบ้านมันจะไม่ใช่แค่การย้ายที่อยู่ แต่เป็นการทิ้งความฝันของตัวเองไปเลย ไม่มีโอกาสจะได้ทำอีกแล้ว แถมนางเอกดันไปชอบพระเอกตั้งแต่เจอกันครั้งแรก ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตตอนอยู่ด้วยกันก่อนแต่งก็ดันเข้ากันได้ดี ถึงตัดสินใจแต่งงานไงคะ
4.เรื่องก้าวก่าย
อันนี้นางเอกผิดจริงค่ะ ฟังพระเอกพูดคำว่า"ของเรา" เช่น บ้านของเรา เรื่องของเรา อะไรแบบนี้บ่อยๆเข้า เหมือนกับคนที่ได้อะไรที่ไม่เคยได้มาก่อน บวกกับตัวพระเอกเองก่อนหน้านี้ขีดเส้นแบ่งไว้ชัดเจนว่าของใครของมัน พอมีคนที่พูดในเชิงแสดงออกว่านี่คือสิ่งที่เป็นของเราสองคน เป็นเรื่องที่เราสองคนมีร่วมกันเท่านั้นนางเอกเลยเหลิง หลงคิดไปไกลว่าพระเอกเปิดใจบ้างแล้ว พอเจอพระเอกตอกกลับมาตรงๆว่าอยากให้เส้นแบ่งชัดเจนมากกว่านี้ตัวเองเลยรู้สึกอายค่ะ อายที่ดันคิดนู่นคิดนี่ไปเอง พอทำอะไรไม่ได้แล้วเลยแสดงออกมาว่าโกรธ อันนี้เป็นเรื่องที่นางเอกผิดจริงๆ
5.หย่า
นางเอกรู้สึกว่าการทีความสัมพันธ์ของทั้งสองคนมันยังอยู่ใต้สัญญาเช่าบ้านมันไม่ถูกต้อง อยากจะเริ่มความสัมพันธ์ใหม่ที่มันดีกว่านี้ เลยต้องการจะฉีกสัญญา ซึ่งมันรวมไปถึงเรื่องหย่าด้วย แล้วตัวพระเอกเองไม่เคยแสดงออกมาเลยว่าตัวคิดอะไร รู้สึกแบบไหน นางเอกไม่เคยเห็นพระเอกยิ้ม
หัวเราะ หรือโกรธ ร้องไห้ ทั้งๆที่อยู่บ้านเดียวกันตลอด แถมเดทกันด้วย เลยรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้สำคัญอะไรกับอีกฝ่ายเลยเลือกจะถอยออกมาดีกว่า แล้วรอเวลาเพื่อเริ่มต้นใหม่ จีบกันใหม่ ซึ่งเวลาช่วงนั้นมันก็เป็นช่วงที่ทำให้พระเอกเราคิดได้ว่าควรจะทำตัวแบบไหน อย่างที่เห็นว่ากว่าพระเอกจะแสดงความรู้สึกออกมาก็เกือบจะท้ายเรื่อง
เราว่าเรื่องนี้มันก็สมเหตุสมผลนะคะ การกระทำของตัวละครมีที่มาและเหตุผลมารองรับทุกอย่าง บางอย่างมันก็ไม่ชัดเจน บางเหตุผลคนดูอย่างเราก็ไม่เข้าใจ บางอย่างตัวละครก็ไม่เคยพูดออกมา แต่บอกใบ้ไวในแต่ละฉากแทน แต่มองในมุมตัวละครซึ่งคิดไม่เหมือนกันกับเรา เหตุผลอันนั้นมันก็เป็นสิ่งที่พาตัวละครไปในทิศทางของแต่ละคนนะ สำหรับเราถึงบางเหตุผลมันจะดูงงๆแต่ไม่มีอันไหนที่ดูไร้สาระหรือมากจนเกินพอดีเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
Because this is my first life จะว่าไปนางเอกก็เป็นคนที่เห็นแก่ตัวระดับนึงเหมือนกันนะ
อยู่ดีๆแต่งงานโดยที่พ่อแม่ไม่รู้จักมักจี่ฝ่ายชายมาก่อนเลย (ผมเป็นพ่อ ผมจะบ้องหูเข้าให้ 555)
พอเข้าไปอยู่บ้านพระเอก ก็เป็นอันเข้าใจกันนะว่าอยู่ด้วยสัญญา พระเอกก็ชัดเจนว่าทั้งคู่มีความสัมพันธ์แค่เจ้าของบ้านกับผู้เช่า ดังนั้นย่อมต้องมีความเป็นส่วนตัวสูง แมวเค้าเลี้ยงมาแบบไม่ตั้งชื่อ นี่ก็จะไปตั้งชื่อให้เค้า 555
นางเอกอยู่ไปอยู่มาดันโลภมากไปชอบเค้าเอง คิดเองเออเอง พอไม่ได้ดั่งใจ ไปโกรธเค้าอีกแหนะ...
บทอยากจะหย่า ก็หย่าเลย
บทจะกลับมาก็กลับมา
ผมเป็นเซฮีคงงง อะไรของคุณครับ อยากเริ่มต้นใหม่แบบไม่แต่งงาน ก็บอกกันดีๆสิ ปกติมีอะไรก็เห็นเปิดอกคุยกันตลอด ทีเรื่องใหญ่แบบนี้หนีไปเฉย