เมื่อเราต้องการหาเทียบนักเตะร่างมะขามป้อมขนาดไซส์เท่านักเตะร่างเล็กสไตล์เอเชียบ้านๆ ที่เล่นบนเวทีลีกยุโรปหฤโหดระดับโลกอย่างพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ซึ่งเป็นลีกที่ต้องยอมรับเลยว่าใช้พละกำลังในการวิ่งสู้ฟัดและการเข้าปะทะมีแรงเสียดทานค่อนข้างโหดตลอดทั้งเกม เมื่อเรามองย้อนไปในอดีตก็จะเห็นได้ว่าก็ยังมีนักเตะร่างมะขามป้อมที่สามารถเล่นบนลีกอังกฤษได้ แม้รูปร่างจะเสียเปรียบอย่างมากเมื่อเทียบกับนักเตะทั่วไปที่ส่วนใหญ่จะร่างยักษ์กันทั้งลีก แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคของนักเตะรายนี้แม้แต่น้อย ยิงถลุงให้ต้นสังกัดเป็นว่าเล่น ครบเครื่องในทักษะ กองหลังฝั่งตรงข้ามต้องผวาเมื่อเขาเดินเครื่องเกมรุกเข้าใส่ นั่นก็คือนักเตะตำนานแห่งสแตมฟอร์ดบริดจ์ สิงห์บลู เชลซี สัญชาติอิตาลีที่มีนามชื่อว่า จิอันฟรังโก โซล่า นั่นเอง ด้วยความสูงเพียง 168 เซนติเมตร เท่านั้นเมื่อเทียบนักเตะยุโรปทั่วไปถือว่าเตี้ยสั้นมะขามป้อมกันเลยทีเดียว ซึ่งนักเตะไทยลีก ณ ตอนนี้ยังมีค่าเฉลี่ยที่ตัวสูงกว่าด้วยซ้ำไป
ถึงแม้จะเสียเปรียบรูปร่าง เสียเปรียบช่วงสเตปการก้าวในการวิ่ง แต่ไม่ได้ทำให้ศักยภาพของ จิอันฟรังโก โซล่า ด้อยกว่าบรรดานักเตะในพรีเมียร์ลีกเลยแม้แต่น้อย กลับเล่นได้โดดเด่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก พาเชลซีคว้าแชมป์คัพวินเนอร์คัพ หรือยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกยุคนั้น พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และพาเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอคัพ
ซึ่งเล่นให้เชลซีไป 229 นัด ยิงประตูรวมไปได้ 59 ประตู ซึ่งต้องบอกเลยว่ายุคที่เขาค้าแข้งเป็นที่ยอมรับของแฟนบอลสิงห์บลูอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่จิอันฟรังโก โซล่า มี และ เจ ชนาธิป ควรพัฒนาเสริม คือ กล้ามเนื้อ ซึ่งจะเห็นว่าถึงแม้จิอันฟรังโก โซล่าจะตัวเล็กก็จริง แต่ต้นขาของเขาเปรียบดั่งท่อนซุงกล้ามเนื้อของเขาหนาแน่นเป็นมัดๆ สมัยที่เขาเล่นให้กับเชลซี สามารถสู้แรงปะทะได้สบาย ซึ่งนักเตะตัวสั้นและหนามักจะมีข้อได้เปรียบเรื่องการครองบอลสเตปเท้าการควบคุมบอลที่แย่งยาก เพราะนักเตะที่ตัวสูงใหญ่มักจะมีการสวิงเท้าควงเท้าที่ช้ากว่าและดูเก้ๆ กังๆ ซึ่งต้นขาที่ใหญ่จึงทำให้บาลานซ์ดีกว่านั่นเอง จุดนี้ที่เจชนาธิป ต้องเสริมเพื่อให้สามารถสู้แรงปะทะได้
เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้เจชนาธิปทักษะบอลไม่เป็นรองนักเตะเจลีกก็จริง แต่สิ่งหนึ่ง ที่เจชนาธิปยังขาดคือแรงเบียดงัดแรงเสียดทานยังสู้นักเตะญี่ปุ่นไม่ได้ดีมากนัก ยังคงเห็นกระเด็นกระดอนเสียจังหวะการครองบอลอยู่หลายๆ ครั้ง ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า จิอันฟรังโก โซล่า การลากกระชากของเขาเจอกองหลังตัวใหญ่ชนล้มยากมาก บอลอยู่ในรัศมีการครองบอลของเท้าไม่ห่าง หลักแน่นสามารถใช้พละกำลังต้นขาค้ำนักเตะตัวใหญ่แล้วพลิกบอลเล่นเป็นจังหวะต่อเนื่องได้เลย เป็นสิ่งที่เจชนาธิปต้องทำการบ้านกับโค้ชฟิตเนส เข้าสู่โปรแกรมเสริมกล้ามเนื้อและเสริมโปรตีน ให้สามารถมีพละกำลังการสู้แรงเสียดทานให้ได้อย่างจิอันฟรังโก โซล่า
ในเรื่องของฝีเท้าทักษะบอลของเจชนาธิปถือว่าดีเยี่ยมอยู่แล้ว สิ่งหนึ่งเจชนาธิปขาดไปคือการนำทักษะมาผสมผสานกับทัศนะคติในการเล่น การเคลื่อนตัว ซึ่งยังสร้างโอกาสให้กับตัวเองยังไม่ดีพอในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีมอย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้ว่านักเตะยุโรป อย่างจิอันฟรังโก โซล่า มักจะวิ่งเข้าหาพื้นที่วิ่งเข้าหาโอกาส วิ่งเข้าโฉบเหมือนเหยี่ยวที่ล่าเหยื่อเข้าทำในจังหวะทองได้เสมอ หรือแม้แต่ เจโบทรอย ซึ่งเห็นได้ชัดมากถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าเป้าซึ่งไม่ได้รอ บอลเสมอไป เขามักจะวิ่งหาพื้นที่มาถูกที่ถูกเวลาเสมอ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำช่วยซัปโปโรพ้นโซนอันตรายตกชั้นเจลีก พาทีมชนะท้ายฤดูกาลเป็นผลงานสุดหรูของสโมสรเลยทีเดียว
จงพัฒนาต่อไป เจชาธิป ยังไปได้อีก คิมูจิ....
เจ ชนาธิป ต้องพัฒนาด้านกายภาพ ให้เทียบเท่า จิอันฟรังโก โซล่า เพื่อมุ่งหน้าสู่พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
ถึงแม้จะเสียเปรียบรูปร่าง เสียเปรียบช่วงสเตปการก้าวในการวิ่ง แต่ไม่ได้ทำให้ศักยภาพของ จิอันฟรังโก โซล่า ด้อยกว่าบรรดานักเตะในพรีเมียร์ลีกเลยแม้แต่น้อย กลับเล่นได้โดดเด่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก พาเชลซีคว้าแชมป์คัพวินเนอร์คัพ หรือยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกยุคนั้น พาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก และพาเชลซีคว้าแชมป์เอฟเอคัพ
ซึ่งเล่นให้เชลซีไป 229 นัด ยิงประตูรวมไปได้ 59 ประตู ซึ่งต้องบอกเลยว่ายุคที่เขาค้าแข้งเป็นที่ยอมรับของแฟนบอลสิงห์บลูอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งสิ่งหนึ่งที่จิอันฟรังโก โซล่า มี และ เจ ชนาธิป ควรพัฒนาเสริม คือ กล้ามเนื้อ ซึ่งจะเห็นว่าถึงแม้จิอันฟรังโก โซล่าจะตัวเล็กก็จริง แต่ต้นขาของเขาเปรียบดั่งท่อนซุงกล้ามเนื้อของเขาหนาแน่นเป็นมัดๆ สมัยที่เขาเล่นให้กับเชลซี สามารถสู้แรงปะทะได้สบาย ซึ่งนักเตะตัวสั้นและหนามักจะมีข้อได้เปรียบเรื่องการครองบอลสเตปเท้าการควบคุมบอลที่แย่งยาก เพราะนักเตะที่ตัวสูงใหญ่มักจะมีการสวิงเท้าควงเท้าที่ช้ากว่าและดูเก้ๆ กังๆ ซึ่งต้นขาที่ใหญ่จึงทำให้บาลานซ์ดีกว่านั่นเอง จุดนี้ที่เจชนาธิป ต้องเสริมเพื่อให้สามารถสู้แรงปะทะได้
เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้เจชนาธิปทักษะบอลไม่เป็นรองนักเตะเจลีกก็จริง แต่สิ่งหนึ่ง ที่เจชนาธิปยังขาดคือแรงเบียดงัดแรงเสียดทานยังสู้นักเตะญี่ปุ่นไม่ได้ดีมากนัก ยังคงเห็นกระเด็นกระดอนเสียจังหวะการครองบอลอยู่หลายๆ ครั้ง ซึ่งจะสังเกตุได้ว่า จิอันฟรังโก โซล่า การลากกระชากของเขาเจอกองหลังตัวใหญ่ชนล้มยากมาก บอลอยู่ในรัศมีการครองบอลของเท้าไม่ห่าง หลักแน่นสามารถใช้พละกำลังต้นขาค้ำนักเตะตัวใหญ่แล้วพลิกบอลเล่นเป็นจังหวะต่อเนื่องได้เลย เป็นสิ่งที่เจชนาธิปต้องทำการบ้านกับโค้ชฟิตเนส เข้าสู่โปรแกรมเสริมกล้ามเนื้อและเสริมโปรตีน ให้สามารถมีพละกำลังการสู้แรงเสียดทานให้ได้อย่างจิอันฟรังโก โซล่า
ในเรื่องของฝีเท้าทักษะบอลของเจชนาธิปถือว่าดีเยี่ยมอยู่แล้ว สิ่งหนึ่งเจชนาธิปขาดไปคือการนำทักษะมาผสมผสานกับทัศนะคติในการเล่น การเคลื่อนตัว ซึ่งยังสร้างโอกาสให้กับตัวเองยังไม่ดีพอในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีมอย่างมีประสิทธิภาพ จะเห็นได้ว่านักเตะยุโรป อย่างจิอันฟรังโก โซล่า มักจะวิ่งเข้าหาพื้นที่วิ่งเข้าหาโอกาส วิ่งเข้าโฉบเหมือนเหยี่ยวที่ล่าเหยื่อเข้าทำในจังหวะทองได้เสมอ หรือแม้แต่ เจโบทรอย ซึ่งเห็นได้ชัดมากถึงแม้ว่าจะเป็นหน้าเป้าซึ่งไม่ได้รอ บอลเสมอไป เขามักจะวิ่งหาพื้นที่มาถูกที่ถูกเวลาเสมอ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำช่วยซัปโปโรพ้นโซนอันตรายตกชั้นเจลีก พาทีมชนะท้ายฤดูกาลเป็นผลงานสุดหรูของสโมสรเลยทีเดียว
จงพัฒนาต่อไป เจชาธิป ยังไปได้อีก คิมูจิ....