รีวิว Die Tomorrow ..
ใช้ชีวิต.. ให้มีความสุขอยู่กับปัจจุบัน..
[**No Spoil เนื้อหาใดๆ]
.
เป็นหนังติสๆ ที่ชวนอินในอารมณ์มาก
สื่อเรื่อง "การมีชีวิตอยู่" และ "ความตาย"
.
หนังธรรมดาๆ ดำเนินเรื่องเรียบๆง่ายๆ
แต่มี Impact กับความรู้สึกและความคิดเราสุดๆ
.
หนังตั้งคำถามให้เราคิด..
แต่ไม่ได้ยัดเยียดว่าอะไรเป็นยังไง
ให้เราคิดตาม ตกผลึกในแบบของเราเอง
.
ชอบที่หนังสื่อถึงความตายในหลายๆรูปแบบ
และทำให้เราคิดอะไรได้หลายๆแง่มุมมาก
ซึ่งเราเชื่อว่าแต่ละคนก็จะตีความต่างกันไป
.
หนังเอาเหตุการณ์จริง
ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมาเล่าได้ดีมาก
มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ไกลตัวเลย
และมันก็เกิดขึ้นได้กับเราทุกๆคน วันไหนก็ได้
.
เราไม่รู้หรอก..
ว่าวันสุดท้ายของเราจะเป็นวันไหน
ทุกๆวันที่ผ่านไปมันก็เป็นวันธรรมดาของเรา
.
วันนี้เรากินข้าวที่ร้านประจำ หรือลองร้านใหม่
ทำงานหรือไปเที่ยว กลับบ้านหรือนอนโรงแรม
มันก็เป็นวันหนึ่งวันที่เราต้องเผชิญ ต้องอยู่กับมัน..
.
วันนี้เรารีวิวเสร็จ พรุ่งนี้เราอาจตายเลยก็ได้
แต่เราก็ไม่ต้องไปวิตกกังวลกับ "ความตาย" มากนัก
.
ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ
ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอ..
เมื่อเราตายแล้วจะได้ไม่รู้สึกเสียใจ
.
คนเราจะต้องการอะไรมากมาย
นอกจาก "ความสุข" ในปัจจุบัน 🙂
.
เรื่องนี้ไม่ใช่หนังตลาดเหมาะกับทุกคน
แต่ก็อยากให้ดูนะ คุณอาจไม่ชินกับวิธีการเล่าเรื่อง
แบบอันนี้มันใส่มาเพื่ออะไรวะ ไม่เข้าใจ งงเด้?
.
แต่คีย์เวิร์ดที่หนังอยากสื่อเราว่ามันดีมากเลย
และคิดว่าอาจทำให้ใครหลายคนที่ได้ดู
ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้...
.
เป็นหนังที่ดูจบแล้วอาจมึนๆ งงๆ
แต่มันมี After Effect เหมือนเขาว่ากันจริงๆ
ที่พอผ่านไปสักชั่วโมง หรือผ่านไปวันสองวัน
คุณจะคิดถึงมัน และคิดอะไรออกมาได้มากมาย
.
ใครที่คิดจะไปดูก็เตรียมสมอง เตรียมอารมณ์นิดนึง
หนังมันโทนนิ่งๆ เงียบๆ แทบตลอดทั้งเรื่องเลย
ระดับตดเพียง 1 เดซิเบล คนก็หันมาทั้งโรงไรงี้
.
#สรุป ชอบครับ ขอบคุณที่ทำหนังแนวนี้ออกมา
ถึงแม้เราจะไม่ใช่สายติส ชอบตีความหนังมากมาย
แต่เรื่องนี้เราดูแล้วเข้าถึงได้  และอินกับมัน
.
อ่อ  มีฉายเฉพาะ SF นะจ๊ะ 😅

.
.
.

#ก็แค่คนชอบดูหนัง