[CR] รีวิวกล้องหน้ารถ G1W-PRO ราคาเบาๆ แต่สเปคไม่เลวนะ

สวัสดีเพื่อนๆ พันทิปทุกคนครับ ในฐานะที่ผมเข้ามารีวิวเป็นครั้งแรกหลังจากสมัครสมาชิกพันทิปไว้นานมากๆ ขอฝากเนื้อฝากตัวทุกคนด้วยครับ จะหาโอกาสรีวิวสินค้าที่ซื้อมาใช้เองเรื่อยๆ เพราะส่วนตัวชอบเขียนอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาทำงานตลอดไม่มีเวลา ตอนนี้มีเวลาว่างมากขึ้นเลยอยากแชร์ประสบการณ์กับสินค้าที่ซื้อมาให้ทุกคนอ่านกัน

วันนี้จะนำเจ้า G1W-Pro มารีวิวกัน จุดเริ่มต้นของผมที่คิดจะติดกล้องหน้ารถเลยคือ ผมขับรถกำลังผ่านแยกเพลินจิต (ไฟด้านผมกำลังเขียวอยู่) แล้วจากนั้นมีมอเตอร์ไซด์ตัดหน้าผมตรงแยกพอดี ทำให้ผมเกือบชนมอเตอร์ไซด์ครั้งนั้น จากเหตุการณ์นั้นผมจึงคิดว่าควรมีกล้องหน้ารถบ้าง เพราะหากวันนั้นผมชนมอเตอรไซด์คันนั้น ก็คงจะโดนกล่าวหาว่าเป็นฝ่ายผิด (ไปตามระเบียบ) TT

ผมหาเจ้ากล้องรุ่นนี้จาก Google ยอมรับว่าไม่ค่อยมีความรู้เท่าไรนัก แต่เน้นว่าราคาไม่แพงมาก และตอนกลางคืนต้องถ่ายพอรู้เรื่อง เห็นป้ายทะเบียน (กลัวชนแล้วหนีมากที่สุดละ) หาในเว็บนู้นนี้ไปเรื่อยๆ ลองดูคลิปจาก YouTube เปรียบเทียบกันจนเจอรุ่นนี้ เห็นราคาไม่แพงด้วย 1,500 บาทเอง เลยตัดสินใจซื้อเลย วัดถัดมาของก็มาส่งแล้ว


มาแล้ว เจ้า G1W-PRO สั่งแปบเดียวก็ได้เลย กล่องโดยรวมก็ทั่วไป โอเคใช้ได้ ร้านที่ผมสั่งดีตรงที่ใช้บริการ Kerry ซึ่งส่งค่อนข้างไว ผมสั่งตอนเช้าไป วันถัดไปสายๆ ก็ได้ของแล้วครับ (สังเกตว่า Kerry จะส่งเร็วกว่าไปรษณีย์ไทยแม้จะเป็น EMS) และ Kerry เองผมค่อนข้างมั่นใจเรื่องการส่งของมากกว่า เค้าดูแลของเราดีพอสมควรครับ

นี่เลยกล้องของเรา (รูปถ่ายไม่สวยต้องขอโทดด้วยครับ ผมถ่ายรูปไม่เก่ง) จอเป็นแนวกว้าง ใหญ่ใช้ได้อยู่ครับ ด้านข้างซ้ายเป็นปุ่มซ้ายขาวเอาไว้เลื่อนเมนู ด้านขวาเป็นปุ่มกดเข้าเมนูกับปุ่มกดบันทึกหรือหยุดการบันทึก (Play/Stop)
สำหรับรุ่นนี้ ของในกล่องก็มีเท่าที่เห็นเลยครับ มีกล้อง มีสาย USB ต่อคอม มีสายชาร์จกับปลั๋กในรถ และก็มีตัวยึดกล้องกับกระจกรถ ตัวยึดเป็นแบบสูญญากาศ ติดดีใช้ได้ทีเดียว แต่จริงๆ กลัวเรื่องความร้อนจากกระจกจะทำให้ตัวยึดหลุดออกมามั้ยไม่แน่ใจ คงต้องใช้งานสักพักละครับ
เรามาดูรอบๆ เครื่องกันบ้างครับ อันนี้จากด้านบนกล้อง จะเห็นช่อง Mini USB ชาร์จไฟเข้า ช่องเสียบ AV ปุ่มเปิดปิดกล้อง (ปกติสตาร์ทรถแล้วกล้องจะเปิดเองครับ) และปุ่ม M ซึ่งทำหน้าที่ 2 อย่างครับ หากกดปุ่ม 1 ครั้งคือการเข้าเมนู โดยถ้าจะเข้าเมนูต้องกดปุ่ม REC ที่หน้าเครื่องเพื่อหยุดบันทึกวีดีโอก่อน

อีกฟังค์ชั่นคือปุ่มล็อคไฟล์ฉุกเฉิน (Emergency Lock) โดยสามารถกด 1 ครั้งในขณะอัดวีดีโอ จะขึ้นรูปกุญแจในขณะล็อคไฟล์ หลักการทำงานคือไฟล์ที่ถูกล็อคนี้จะถูกแยกจากไฟล์ปกติเพื่อป้องกันการเขียนทับโดยไฟล์อื่นเมื่อเมมโมรี่เต็ม ถูกออกแบบให้ใช้งานเมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์สำคัญบนท้องถนนต่างๆ ครับ
อันนี้ด้านซ้ายครับ จะเป็นช่องใส่ Micro SD Card เพื่อบันทึกวีดีโอของเรา

ด้านขวาจะเป็นพอร์ต HDMI และปุ่ม Reset (ต้องใช้หัวปากกาหัวแหลมๆ จิ้มเข้าไป) ใช้เมื่อกล้องค้างไม่ตอบสนอง กดค้างสัก 3 วินาที กล้องจะ Restart ให้เองครับ

ตัวนี้ตามสเปคบอกว่าเป็นความละเอียดแบบ Full HD (1080P) โดยมี FPS อยู่ที่ 30 ซึ่งน่าจะเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป (เรื่องความละเอียดภาพเข้าใจว่าเกี่ยวกับ Chipset ด้วยครับ)

นอกจากนี้ตามสเปคเค้าบอกว่า เลนส์มุมกว้าง 140 องศา เห็นทั่วทั้งหน้ารถ มี WDR ทำให้แสงสว่างทั่วทั้งคลิป (เหมือนเวลาถ่ายรูปใน iPhone แล้วมีให้เลือก WDR นั่นแหละครับหลักการเดียวกัน) รองรับ SD Card สูงสุด 32 GB โดยคู่มือแนะนำให้ใช้ SD Card ที่มี Class 6 ขึ้นไปเพื่อให้วีดีโอลื่นไหลและไม่ทำให้กล้องกระตุกหรือค้างครับ ตัวนี้มาพร้อมสายชาร์จค่อนข้างยาวครับ เดินเก็บสายได้สะดวกไม่ต้องกลัวสายไม่พอครับ
และแล้วกล้องก็มาอยู่หน้ารถแล้วครับ อย่างที่บอกว่าแอบกังวลว่าโดนความร้อนมันจะหลุดมั้ย แต่หลังจากที่ลองใช้มา 7-8 วันก็ยังสบายๆ ไม่มีปัญหานะครับ ขับไปต่างจังหวัดเจอแดดจัดๆ ก็ไม่มีปัญหา สำหรับตัวนี้จะทำงานอัตโนมัติเมื่อสตาร์ทรถ และปิดอัตโนมัติเมื่อดับรถครับ ไม่ต้องคอยเปิดปิดเอง ตัวนี้มีแบตเตอรี่ในตัวเป็นก้อนเล็กๆ เข้าใจว่าเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายเพราะหน้ารถจะมีอุณหภูมิสูงครับ

รุ่นนี้มีระบบ Motion Detection ด้วย โดยสามารถอัดวีดีโอในขณะจอดรถได้ เหมาะกับสถานที่ที่เสียงต่ออุบัติเหตุ เหตุร้ายต่างๆ เช่นจอดขวางในห้าง จอดในที่เปลี่ยว โดยการใช้ฟังค์ชั่นนี้ จะต้องนำ Powerbank ต่อเข้ากับกล้องเพื่อจ่ายไฟ (เพราะทำงานขณะรถดับจึงไม่สามารถใช้ไฟจากรถได้) และกดเปิดเมนู Motion Detection เพื่อให้กล้องอัดวีดีโอเฉพาะเมื่อมีสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหน้ารถ เพื่อไม่ให้กินเมมโมรี่มากครับ

ส่วนแบตเตอรี่ในกล้องนั้น ผมพบว่ามีข้อดีตรงที่สามารถจำข้อมูลที่เราตั้งค่าไว้ได้ เช่น วันที่ เวลา และยังช่วยให้กล้องอัดวีดีโอในคลิปสุดท้ายหลังจากจอดรถได้เสร็จสมบูรณ์ อีกอย่างคือหากกล้องไม่มีแบตเตอรี่ เมื่อเราดับรถ กล้องจะดับทันทีและไฟล์วีดีโอสุดท้ายจะเสีย อีกทั้งถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วเครื่องยนต์ดับ ไม่มีไฟจ่ายที่กล้อง ไฟล์มีโอกาสหายสูงหรือเพี้ยนไป ซึ่งต่างจากกล้องที่มีแบตเตอรี่ในตัวจะอัดต่อได้อีกเล็กน้อย และบันทึกไฟล์สุดท้ายซึ่งเป็นไฟล์ขณะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างสมบูรณ์ ตรงนี้เป็นจุดเด่นในกล้องราคาใกล้เคียงกันเพราะกล้องส่วนมากในราคานี้จะใช้คาปาซิเตอร์ ซึ่งจะเก็บประจุได้ไม่นานนัก หากไม่ได้ใช้รถหลายวัน วันที่ เวลาและการตั้งค่าต่างๆ จะเพี้ยนไป

มาดูเมนูและฟังค์ชั่นในกล้องกันครับ ตัวปุ่มกดง่ายดี กล้องตอบสนองไวใช้ได้ ยังไม่เจอกล้องค้างหรือแฮงค์ให้เห็นนะครับ ต้องลองใช้งานไปสักพัก

ปุ่มกดเข้าเมนูจะอยู่ด้านบนตามที่ได้เล่าไปแล้วครับ จะเป็นปุ่มเดียวกับฟังค์ชั่น Emergency Lock โดยกดในขณะกำลังอัดวีดีโอเพื่อล็อคไฟล์ไม่ให้ถูกเขียนทับโดยไฟล์อื่น ส่วนการเข้าเมนูหน้านี้คือการกดปุ่ม 1 ครั้งครับ (กดเมื่อหยุดอัดวีดีโอ) เมนูจะมี 2 ส่วน คือส่วนที่เกี่ยวกับการบันทึกภาพ (ภาพด้านบน) และอีกส่วนคือเกี่ยวกับตัวเครื่อง (ภาพด้านล่าง) เรามาดูส่วนของการบันทึกภาพกันเลย

จะเห็นว่าเมนูมีให้เลือกทั้งความละเอียดภาพ ซึ่งตัวนี้รองรับมากถึง Full HD (1080P) ครับ มีระบบบันทึกวนทับอัตโนมัติซึ่งเลือกได้ตั้งแต่ 1 3 และ 5 นาทีครับ (กล้องจะบันทึกวนทับไฟล์เก่าไปเรื่อยๆ) WDR ก็แนะนำให้เปิดครับ จะทำให้ภาพสว่างเท่ากันทั้งภาพ จะเห็นว่าในเมนูมีโหมดตรวจจับความเคลื่อนไหว (Motion Sensor) ดังที่ได้เล่าไป ทำงานง่ายๆ เพียงเลือกเปิดโหมดนี้ในตั้งค่า และต่อกล้องเข้ากับ Powerbank เพื่อจ่ายไฟแทนไฟจากรถยนต์

อีกโหมดที่น่าสนใจคือ G-Sensor โหมดนี้จะทำงานเมื่อรถถูกชนหรือเจอแรงกระแทกแรงๆ โดยวีดีโอที่ถ่ายในขณะนั้นจะไม่ถูกวนทับโดยไฟล์อื่น หมายถึงว่าการบันทึกวีดีโอหลังจากนี้จะบันทึกแบบไม่วนทับไฟล์เก่าจนเต็นเมมโมรี่ ซึ่งเหมาะมากสำหรับเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เราต้องการให้ไฟล์อยู่ในเมมโมรี่ตลอด แต่ข้อสังเกตคือหากถนนที่ขับมีหลุมใหญ่ๆ หรือรอยต่อที่กระแทกแรงๆ ก็อาจทำให้โหมดนี้ทำงานได้เองเหมือนกัน ยังไงระหว่างขับอาจต้องคอยดูหากโหมดนี้ทำงานครับ

G-Sensor สามารถเลือกระดับความ Sensitive ได้โดยตั้งแต่ ต่ำจนถึงสูง

ความละเอียดของวีดีโอที่สามารถเลือกได้ถึงระดับ Full HD



ต่อมาเป็นเมนูเกี่ยวกับตัวกล้องครับ จะเห็นว่าสามารถตั้งเวลาวันที่ ภาษาได้ ที่สำคัญสามารถตั้งความถี่ป้ายไฟได้ โดยคือความถี่จอนั่นเอง มีให้เลือกระหว่าง 50 Hertz และ 60 Hertz สามารถพักจอหรือปิดจอระหว่างใช้งานเพื่อถนอมจอได้ โดยจะเลือกได้ว่าให้เปิดกล้องกี่นาทีแล้วจอจะดับ มีทั้ง 3 5 และ 10 นาทีครับ ส่วน IR LED คือหลอดไฟ LED จะเปิดเมื่อถึงเวลากลางคืนแล้ว ตัวนี้จะช่วยให้เห็นรถและทะเบียนรถชัดขึ้นอีกเล็กน้อยครับ

โม้มาเยอะแล้ว ทีนี้เราลองมาดูตัวอย่างภาพและวีดีโอจากกล้องกันดีกว่าครับ จะเทียบให้เห็นทั้งกลางวันและกลางคืนนะครับ
ภาพตอนกลางวันขณะรถจอด จะเห็นว่าเห็นป้ายทะเบียนชัด แสงสว่างใช้ได้ครับ

[i
ตอนนี้เจอแสงแดดส่องเต็มๆ อาจจะมัวไปบ้างครับ

ภาพนี้ขณะกำลังขับรถครับ จะเห็นว่าช่วงกลางวันแม้รถเคลื่อนไหว ผม Capture Screen มาแล้วก็ยังเห็นทะเบียนชัด ภาพมีแสงสว่างโอเคครับ

ภาพนี้จอดติดไฟแดงครับ สวยงามชัดเจน

อีกสักภาพครับขณะขับรถช่วงกลางวัน สบายๆ

ทีนี้มาดูภาพย้อนแสงแบบชัดเจนครับ (ดวงอาทิตย์หันมาเต็มๆ) ภาพนี้จะเห็นว่าภาพดูมืดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เห็นทะเบียนรถเลย เห็นภาพด้านข้าง พวกมอเตอร์ไซด์ไม่ชัด จะเห็นแค่ภาพด้านหน้าที่พอดูได้ (จะเห็นว่ามอเตอร์ไซด์ด้านหน้าที่ขับนำผมค่อนข้างมืด ไม่เห็นทะเบียน) ตรงนี้น่าจะเป็นข้อด้อยของรุ่นนี้ที่ไม่สู้สภาวะย้อนแสง ไม่แน่ใจว่ากล้องรุ่นอื่นที่สเปคดีกว่านี้จะเป็นยังไงนะครับ รบกวนผู้รู้มาตอบหน่อยนะครับ
มาดูตอนเย็นโพล้เพล้กันครับ ช่วงนี้ Frame rate จะลดลงนิดหน่อย เวลา Capture ภาพมาจะเริ่มเบลอบ้างครับ สำหรับโดยรวมภาพยังสว่าง แต่รายละเอียดเริ่มน้อยลง มี Noise บ้างแล้วครับ (เซนเซอร์รุ่นใหญ่ๆ อาจจะดีกว่านี้)

ภาพนี้จะเห็นว่าช่วง Capture จอมาทะเบียนจะเริ่มเบลอ แต่โดยรวมวีดีโอนั้นยังแสงดีครับ

ตอนเย็นใกล้ค่ำ รายละเอียดจะลดลงทั้งหมด วีดีโอด้านข้างเริ่มเบลอบ้าง และเริ่มเห็นทะเบียนได้ยากขึ้นเพราะไฟหน้าส่องกระทบ แม้รถที่จอดก็เหนทะเบียนยากขึ้นเพราะแสงน้อย เก็บรายละเอียดยากขึ้น ด้านข้างวีดีโอจะมืดกว่าด้านหน้าเพราะตามไฟถนนส่องไม่ถึง

แล้วมาต่อกันนะครับผม ...
ชื่อสินค้า:   กล้องติดหน้ารถรุ่น G1W-PRO
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่