ผ้าปูชั้นใน ประโยชน์ดีดี ป้องกันที่นอนเปียกชื้น
สวัสดีค่ะ วันนี้มีผ้าปูชั้นในมาแนะนำค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้าของผลิตภัณฑ์นะคะ ไม่ได้เป็นตัวแทนขาย หรือใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ เพียงแต่ว่าได้มีโอกาสได้ใช้ ก็เลย เอามาแนะนำเท่านั้นเองค่ะ
ผ้าปูชั้นในนะคะ ไม่ใช่ผ้าปูที่นอนที่เราใช้ปูกับที่นอนเลย หลายๆ คนอาจจะคิดว่า พูดเล่นหรือเปล่า มีด้วยเหรอ คำตอบคือ มีสิค่ะ และจะบอกว่า มันมีประโยชน์มากๆ เลยนะคะ แต่อุ๊บ! ขออุบไว้ก่อน นะคะ
ก่อนอื่นจะมาบอกว่า คุณแม่ได้นำเจ้าผ้าปูชั้นในนี้ไปให้ลูกชายทั้งสองใช้ ซึ่งน้องคนโตจะอายุ 5 ขวบ คนนี้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ค่ะ ส่วนคนเล็กจะอายุ 2 ขวบ คนนี้ก็น้ำเหลืองไม่ดีค่ะ น้องเป็นลูกครึ่งค่ะ หลังจากได้ลองใช้ ลองนอนไป 3 สัปดาห์ คุณแม่ดีใจมากค่ะ น้องไม่ต้องใส่เพิร์สอีกแล้วหมดกังวลเรื่องความเปียกชื้นขณะหลับไปเลยค่ะ
ก่อนที่จะมาพบผ้าปูชั้นในคุณแม่หาวิธีที่จะช่วยให้ไม่ต้องนำที่นอนไปตากบ่อยๆ เพราะเจ้าตัวเล็กชอบนอนดื่มนมบนที่นอน แต่หากจะเปลี่ยนที่นอน เด็กๆ ก็ไม่ชอบ เพราะที่นอนนี้ทั้งหนา และนุ่ม เด็กผู้ชายน่ะค่ะ ชอบตีลังกา กระโดด และก็ซนตามประสาเค้า เคยหาพลาสติกหรือผ้ายางมาคลุม แต่หน้าร้อนก็ร้อน แถมตื่นขึ้นมาเปียกชื้นอีกค่ะ บางทีแพมเพิร์สรั่ว โอ้! ไม่อยากจะพูดเลยค่ะ เรื่องใหญ่มากๆๆๆๆ แม่ก็สรรหาสารพัดวิธีนะคะ จนกระทั่ง Sabai Cover ได้นำผ้าปูชั้นในมาให้ทดลองใช้ เพราะเห็นว่าเรามีลูกเล็กๆ วัยที่กำลังทานนมขวดอยู่ (จริงๆ ควรหยุดทานได้แล้ว แต่น้องติดขวด ทำยังไงก็ไม่ยอมเลิก) นี่ล่ะค่ะ หมดปัญหา และหมดกังวลไปเลย เพราะไม่ต้องคอยเอาที่นอนไปตากแดด หรือใช้แปรงมาแปรงคราบนม เพื่อกำจัดกลิ่นและปัญหาในการฉี่รดที่นอนของหนุ่มน้อยทั้งสองอีกต่อไป เพราะว่า มันไม่ทะลุไปถึงชั้นของที่นอนเลยค่ะ ดีใจสุด ๆ ทำไมถึงไม่ค้นพบมาตั้งนานแล้ว แล้วเจ้าผ้าปูชั้นในมันมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
ข้อดีของผ้าปูที่นอนชั้นใน
- สามารถกันน้ำ และของเหลว ไม่ให้ทะลุผ่านไปยังที่นอน แม้ว่าจะมีน้ำหนักเบา และผ้าบางเบาก็ตาม
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาของเรื่องภูมิแพ้ เพราะระบายอากาศได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงจากไรฝุ่น ได้พร้อมๆกันจากเนื้อผ้าโดยตรง ที่เมื่อเรานอนเราอาจจะหายใจเอาเจ้าไรฝุ่นที่อยู่บนผ้าปูที่นอนเข้าไปโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ซึ่งจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้
- ลูกน้อยนอนหลับทั้งคืน เพราะเนื้อผ้ามีผิวสัมผัสที่นิ่ม นุ่มนวล* หลับตลอดทั้งคืน ไม่ต้องตื่นมาเกา จนหน้าตา ช้ำให้แม่ต้องตกใจอีกเลย เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ๆ หรือผู้สูงอายุ หรือบ้านไหนที่มีผู้ป่วย
- ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากอันเกิดจากของเหลวต่างๆ ที่มิได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็น เลือด หรือ ปัสสาวะเด็ก หรือผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไว้ในห้อง เป็นอย่างยิ่งเลยคะ
- ซักง่าย ไม่เปลืองแรง ด้วยการขยี้เบาๆ
- ซักไปหลายๆ ครั้ง เนื้อผ้านิ่มขึ้นอย่างอัศจรรย์ค่ะ
- ไม่ร้อย ไม่อับชื้น ไม่หมักหมม ของเสีย
ข้อเสียก็มีเหมือนกันนะคะ
- ก่อนซักเนื้อผ้าจะดูหยาบๆ เหมือนกระดาษยังไงยังงั้น เลยค่ะ แต่หลังจากซักแล้วนะคะเนื้อผ้าจะนิ่มขึ้นค่ะ
- ไม่เหมาะกับการซักด้วยเครื่องซักผ้า เพราะด้วยเนื้อผ้าไม่สามารถเอาลงเครื่องซักผ้าได้ เพราะกลัวว่าเครื่องจะปั่นจนผ้าขาดน่ะค่ะ จึงต้องซักมือ โดยการขยี้เบาๆ และผึ่งให้แห้งแทน
- แม้ว่าเนื้อผ้าจะดูบางเบาเวลาที่ไม่โดนน้ำ แต่พอโดนน้ำก็หนักใช้ได้นะคะ
- เวลาปูผ้าปูชั้นใน ลงไป ทำให้ที่นอนดูฟูๆ เหมือนมีลมข้างใน แต่พอนอนไปสักพักก็ค่อยดีขึ้น
- ต้องเอามาซักทำความสะอาด บ่อย หรือทุกครั้งที่มีการปนเปื้อนของของเหลว
คุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า มันจะยุ่งยากไปไหม หลายชั้นไปไหม คุณแม่จะบอกว่า ไม่เลยค่ะ มันดีมากเลยนะคะ ยิ่งช่วงที่ฝึกให้น้องเลิกใช้แพมเพิร์ส หรือกับคนแก่ หรือผู้ป่วยมีประโยชน์สุดๆ ค่ะ เพราะหากเราสังเกตที่โรงพยาบาลเพียงจะคลุมด้วยแผ่นพลาสติกที่เย็บติดเตียงอย่างดี แล้วปูทับด้วยผ้าปูเตียง สังเกตไหมคะ ว่าฤดูร้อนเนี่ย จะร้อนมากว่าปกติ เพราะเจ้าผ้ายางที่อยู่ด้านใน แต่ผ้าปูชั้นในนี้ ไม่ร้อนเลยค่ะ เพราะอากาศถ่ายเทสะดวก และสามารถซักทำความสะอาดได้ หมดกังวลเรื่องความสะอาด และคราบสะสมค่ะ
[SR] ผ้าปูชั้นใน ประโยชน์ดีดี ป้องกันที่นอนเปียกชื้น
สวัสดีค่ะ วันนี้มีผ้าปูชั้นในมาแนะนำค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะว่าไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับเจ้าของผลิตภัณฑ์นะคะ ไม่ได้เป็นตัวแทนขาย หรือใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ เพียงแต่ว่าได้มีโอกาสได้ใช้ ก็เลย เอามาแนะนำเท่านั้นเองค่ะ
ผ้าปูชั้นในนะคะ ไม่ใช่ผ้าปูที่นอนที่เราใช้ปูกับที่นอนเลย หลายๆ คนอาจจะคิดว่า พูดเล่นหรือเปล่า มีด้วยเหรอ คำตอบคือ มีสิค่ะ และจะบอกว่า มันมีประโยชน์มากๆ เลยนะคะ แต่อุ๊บ! ขออุบไว้ก่อน นะคะ
ก่อนอื่นจะมาบอกว่า คุณแม่ได้นำเจ้าผ้าปูชั้นในนี้ไปให้ลูกชายทั้งสองใช้ ซึ่งน้องคนโตจะอายุ 5 ขวบ คนนี้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ค่ะ ส่วนคนเล็กจะอายุ 2 ขวบ คนนี้ก็น้ำเหลืองไม่ดีค่ะ น้องเป็นลูกครึ่งค่ะ หลังจากได้ลองใช้ ลองนอนไป 3 สัปดาห์ คุณแม่ดีใจมากค่ะ น้องไม่ต้องใส่เพิร์สอีกแล้วหมดกังวลเรื่องความเปียกชื้นขณะหลับไปเลยค่ะ
ก่อนที่จะมาพบผ้าปูชั้นในคุณแม่หาวิธีที่จะช่วยให้ไม่ต้องนำที่นอนไปตากบ่อยๆ เพราะเจ้าตัวเล็กชอบนอนดื่มนมบนที่นอน แต่หากจะเปลี่ยนที่นอน เด็กๆ ก็ไม่ชอบ เพราะที่นอนนี้ทั้งหนา และนุ่ม เด็กผู้ชายน่ะค่ะ ชอบตีลังกา กระโดด และก็ซนตามประสาเค้า เคยหาพลาสติกหรือผ้ายางมาคลุม แต่หน้าร้อนก็ร้อน แถมตื่นขึ้นมาเปียกชื้นอีกค่ะ บางทีแพมเพิร์สรั่ว โอ้! ไม่อยากจะพูดเลยค่ะ เรื่องใหญ่มากๆๆๆๆ แม่ก็สรรหาสารพัดวิธีนะคะ จนกระทั่ง Sabai Cover ได้นำผ้าปูชั้นในมาให้ทดลองใช้ เพราะเห็นว่าเรามีลูกเล็กๆ วัยที่กำลังทานนมขวดอยู่ (จริงๆ ควรหยุดทานได้แล้ว แต่น้องติดขวด ทำยังไงก็ไม่ยอมเลิก) นี่ล่ะค่ะ หมดปัญหา และหมดกังวลไปเลย เพราะไม่ต้องคอยเอาที่นอนไปตากแดด หรือใช้แปรงมาแปรงคราบนม เพื่อกำจัดกลิ่นและปัญหาในการฉี่รดที่นอนของหนุ่มน้อยทั้งสองอีกต่อไป เพราะว่า มันไม่ทะลุไปถึงชั้นของที่นอนเลยค่ะ ดีใจสุด ๆ ทำไมถึงไม่ค้นพบมาตั้งนานแล้ว แล้วเจ้าผ้าปูชั้นในมันมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ
ข้อดีของผ้าปูที่นอนชั้นใน
- สามารถกันน้ำ และของเหลว ไม่ให้ทะลุผ่านไปยังที่นอน แม้ว่าจะมีน้ำหนักเบา และผ้าบางเบาก็ตาม
- เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาของเรื่องภูมิแพ้ เพราะระบายอากาศได้ดี ช่วยลดความเสี่ยงจากไรฝุ่น ได้พร้อมๆกันจากเนื้อผ้าโดยตรง ที่เมื่อเรานอนเราอาจจะหายใจเอาเจ้าไรฝุ่นที่อยู่บนผ้าปูที่นอนเข้าไปโดยที่เราไม่รู้ตัวก็เป็นได้ ซึ่งจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้
- ลูกน้อยนอนหลับทั้งคืน เพราะเนื้อผ้ามีผิวสัมผัสที่นิ่ม นุ่มนวล* หลับตลอดทั้งคืน ไม่ต้องตื่นมาเกา จนหน้าตา ช้ำให้แม่ต้องตกใจอีกเลย เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ๆ หรือผู้สูงอายุ หรือบ้านไหนที่มีผู้ป่วย
- ช่วยป้องกันอุบัติเหตุจากอันเกิดจากของเหลวต่างๆ ที่มิได้ตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็น เลือด หรือ ปัสสาวะเด็ก หรือผู้ที่เลี้ยงสัตว์ไว้ในห้อง เป็นอย่างยิ่งเลยคะ
- ซักง่าย ไม่เปลืองแรง ด้วยการขยี้เบาๆ
- ซักไปหลายๆ ครั้ง เนื้อผ้านิ่มขึ้นอย่างอัศจรรย์ค่ะ
- ไม่ร้อย ไม่อับชื้น ไม่หมักหมม ของเสีย
ข้อเสียก็มีเหมือนกันนะคะ
- ก่อนซักเนื้อผ้าจะดูหยาบๆ เหมือนกระดาษยังไงยังงั้น เลยค่ะ แต่หลังจากซักแล้วนะคะเนื้อผ้าจะนิ่มขึ้นค่ะ
- ไม่เหมาะกับการซักด้วยเครื่องซักผ้า เพราะด้วยเนื้อผ้าไม่สามารถเอาลงเครื่องซักผ้าได้ เพราะกลัวว่าเครื่องจะปั่นจนผ้าขาดน่ะค่ะ จึงต้องซักมือ โดยการขยี้เบาๆ และผึ่งให้แห้งแทน
- แม้ว่าเนื้อผ้าจะดูบางเบาเวลาที่ไม่โดนน้ำ แต่พอโดนน้ำก็หนักใช้ได้นะคะ
- เวลาปูผ้าปูชั้นใน ลงไป ทำให้ที่นอนดูฟูๆ เหมือนมีลมข้างใน แต่พอนอนไปสักพักก็ค่อยดีขึ้น
- ต้องเอามาซักทำความสะอาด บ่อย หรือทุกครั้งที่มีการปนเปื้อนของของเหลว
คุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า มันจะยุ่งยากไปไหม หลายชั้นไปไหม คุณแม่จะบอกว่า ไม่เลยค่ะ มันดีมากเลยนะคะ ยิ่งช่วงที่ฝึกให้น้องเลิกใช้แพมเพิร์ส หรือกับคนแก่ หรือผู้ป่วยมีประโยชน์สุดๆ ค่ะ เพราะหากเราสังเกตที่โรงพยาบาลเพียงจะคลุมด้วยแผ่นพลาสติกที่เย็บติดเตียงอย่างดี แล้วปูทับด้วยผ้าปูเตียง สังเกตไหมคะ ว่าฤดูร้อนเนี่ย จะร้อนมากว่าปกติ เพราะเจ้าผ้ายางที่อยู่ด้านใน แต่ผ้าปูชั้นในนี้ ไม่ร้อนเลยค่ะ เพราะอากาศถ่ายเทสะดวก และสามารถซักทำความสะอาดได้ หมดกังวลเรื่องความสะอาด และคราบสะสมค่ะ