หลายสัปดาห์มานี้ผมทำงานต่อเนื่องมาตลอด เริ่มจากเช้าถึงค่ำ และจากค่ำถึงเที่ยงคืน โดยไม่มีวันหยุด ก็เพิ่งจะเมื่อบ่ายนี้เองที่มีโอกาสได้หยุดงานซะหน่อยหนึ่ง
หลังจากเช้านี้ตื่นมาตั้งแต่ตีห้า ทำแบบร่างบ้านให้ลูกค้าจนเสร็จตอนใกล้เที่ยง ผมก็รู้สึกว่าผมอยากจะหยุดงานหาอะไรที่มันไร้สาระทำเสียสักนิดเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของชีวิตที่เต็มไปด้วยสาระมายาวนานเกินพอแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี จึงคิดว่าเดี๋ยวจะขับรถเข้าไปในตัวอำเภอก่อนดีกว่า เผื่อเห็นโน่นเห็นนี่แล้วจะได้ไอเดียร์อะไรที่มันไร้สาระทำ
เห็นร้านบิวตี้ซาลอน ก็เลยแวะเข้าไปสระผม ฮา พอสระผมเสร็จออกมาจากร้าน เห็นฝั่งตรงกันข้ามเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวของเพื่อน ก็เลยแวะเข้าไปคุยด้วย ไม่ได้อุดหนุนก๋วยเตี๋ยวเพื่อนเพราะยังไม่รู้สึกหิว แต่เพื่อนก็ยังอุตส่าห์ยกโอ้เลี้ยงมาเลี้ยง ก็ฉลองศัทธาไปซะแก้วนึง ฮา
เพื่อนเริ่มคุยว่ากำลังจะสร้างบ้านใหม่และอยากจะให้ช่วยออกแบบบ้านให้ ฮา ผมนึกในใจ "นี่กรูจะมาหาอะไรไร้สาระทำนะเนี่ย" ก็จึงออกตัวไปว่าถ้าจะให้ทำให้ก็คงต้องรออีกนานเลย เพราะตอนนี้มีงานอยู่เจ็ดคิวแล้ว พอดีกับมีลูกค้าเข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวพอดี ผมก็เลยได้โอกาสตัดบทขอลาเพื่อนกลับทันใด ฮา
ออกจากร้านเพื่อนก็คิดขึ้นได้ว่าจะหาซื้อสายกีตาร์ไปเปลี่ยนของเดิมเสียสักชุด แต่ที่ปากพนังไม่มีร้านขายเครื่องดนตรี ก็เลยลองเข้าไปถามร้านขายเครื่องเขียนดูเผื่อเขาจะมี แต่พอเขาบอกไม่มีก็เลยไม่รู้จะทำอะไรต่อ ได้แต่ขับรถออกไป ขับไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าสู่ชายทะเล ฮา
ชายทะเลห่างตัวอำเภอออกไปทางทิศตะวันออกเจ็ดกิโล พอถึงสามแยกตรงชายทะเลผมเลี้ยวซ้ายขับขึ้นไปทางเหนืออีกราวสามกิโล เห็นทิวทัศน์บริเวณนั้นสวยดี ก็จอดรถลงไปจะถ่ายรูป พอยกมือถือขึ้นเล็งจะถ่ายรูป มองไปที่จอมันเบลอไปหมด ก็เลยรู้ตัวว่าลืมแว่นไว้ที่ไหนสักแห่งเสียแล้ว แต่นึกไม่ออกว่าลืมไว้ที่ร้านบิวตี้ซาลอน หรือร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อน หรือร้านเครื่องเขียนกันแน่
ตัดสินใจขึ้นรถ ขับกลับไปจะตามหาแว่น ขับไปก็นึกไปตลอดเวลา นึกทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่บ่ายว่าลืมแว่นไว้ที่ร้านไหนแต่ก็นึกไม่ออก แต่เป็นไปได้มากที่สุดก็น่าจะลืมไว้ที่ร้านบิ้วตี้ซาลอน เพราะตอนสระผมมันต้องถอดแว่น จึงมุ่งหน้าไปที่นั่นก่อน พอถึงร้านบิ้วตี้ซาลอนก็เดินเข้าไปถามช่างทำผมทันที "เห็นแว่นตาผมวางลืมไว้ที่ร้านบ้างไหมครับ?" ช่างทำผมถามกลับมาว่า "ไม่ใช่คันที่คุณใส่อยู่นี่เหรอคะ?"
อ้อ! "กรูลืมแว่นไว้ที่ตาอีกแล้ว ไร้สาระชิปหายเลยกรู" ผมนึกในใจ แค้นแทบจะกระโดดถีบตัวเองให้ล้มกลิ้ง!
เรื่องไร้สาระ
หลังจากเช้านี้ตื่นมาตั้งแต่ตีห้า ทำแบบร่างบ้านให้ลูกค้าจนเสร็จตอนใกล้เที่ยง ผมก็รู้สึกว่าผมอยากจะหยุดงานหาอะไรที่มันไร้สาระทำเสียสักนิดเป็นการผ่อนคลายความตึงเครียดของชีวิตที่เต็มไปด้วยสาระมายาวนานเกินพอแล้ว แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี จึงคิดว่าเดี๋ยวจะขับรถเข้าไปในตัวอำเภอก่อนดีกว่า เผื่อเห็นโน่นเห็นนี่แล้วจะได้ไอเดียร์อะไรที่มันไร้สาระทำ
เห็นร้านบิวตี้ซาลอน ก็เลยแวะเข้าไปสระผม ฮา พอสระผมเสร็จออกมาจากร้าน เห็นฝั่งตรงกันข้ามเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวของเพื่อน ก็เลยแวะเข้าไปคุยด้วย ไม่ได้อุดหนุนก๋วยเตี๋ยวเพื่อนเพราะยังไม่รู้สึกหิว แต่เพื่อนก็ยังอุตส่าห์ยกโอ้เลี้ยงมาเลี้ยง ก็ฉลองศัทธาไปซะแก้วนึง ฮา
เพื่อนเริ่มคุยว่ากำลังจะสร้างบ้านใหม่และอยากจะให้ช่วยออกแบบบ้านให้ ฮา ผมนึกในใจ "นี่กรูจะมาหาอะไรไร้สาระทำนะเนี่ย" ก็จึงออกตัวไปว่าถ้าจะให้ทำให้ก็คงต้องรออีกนานเลย เพราะตอนนี้มีงานอยู่เจ็ดคิวแล้ว พอดีกับมีลูกค้าเข้ามาสั่งก๋วยเตี๋ยวพอดี ผมก็เลยได้โอกาสตัดบทขอลาเพื่อนกลับทันใด ฮา
ออกจากร้านเพื่อนก็คิดขึ้นได้ว่าจะหาซื้อสายกีตาร์ไปเปลี่ยนของเดิมเสียสักชุด แต่ที่ปากพนังไม่มีร้านขายเครื่องดนตรี ก็เลยลองเข้าไปถามร้านขายเครื่องเขียนดูเผื่อเขาจะมี แต่พอเขาบอกไม่มีก็เลยไม่รู้จะทำอะไรต่อ ได้แต่ขับรถออกไป ขับไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าสู่ชายทะเล ฮา
ชายทะเลห่างตัวอำเภอออกไปทางทิศตะวันออกเจ็ดกิโล พอถึงสามแยกตรงชายทะเลผมเลี้ยวซ้ายขับขึ้นไปทางเหนืออีกราวสามกิโล เห็นทิวทัศน์บริเวณนั้นสวยดี ก็จอดรถลงไปจะถ่ายรูป พอยกมือถือขึ้นเล็งจะถ่ายรูป มองไปที่จอมันเบลอไปหมด ก็เลยรู้ตัวว่าลืมแว่นไว้ที่ไหนสักแห่งเสียแล้ว แต่นึกไม่ออกว่าลืมไว้ที่ร้านบิวตี้ซาลอน หรือร้านก๋วยเตี๋ยวเพื่อน หรือร้านเครื่องเขียนกันแน่
ตัดสินใจขึ้นรถ ขับกลับไปจะตามหาแว่น ขับไปก็นึกไปตลอดเวลา นึกทบทวนเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่บ่ายว่าลืมแว่นไว้ที่ร้านไหนแต่ก็นึกไม่ออก แต่เป็นไปได้มากที่สุดก็น่าจะลืมไว้ที่ร้านบิ้วตี้ซาลอน เพราะตอนสระผมมันต้องถอดแว่น จึงมุ่งหน้าไปที่นั่นก่อน พอถึงร้านบิ้วตี้ซาลอนก็เดินเข้าไปถามช่างทำผมทันที "เห็นแว่นตาผมวางลืมไว้ที่ร้านบ้างไหมครับ?" ช่างทำผมถามกลับมาว่า "ไม่ใช่คันที่คุณใส่อยู่นี่เหรอคะ?"
อ้อ! "กรูลืมแว่นไว้ที่ตาอีกแล้ว ไร้สาระชิปหายเลยกรู" ผมนึกในใจ แค้นแทบจะกระโดดถีบตัวเองให้ล้มกลิ้ง!