[ROAD TO OSCAR] Part 1: เริ่มแล้วค่ะ เทศกาลประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ ใครมาแรงไปติดตามกัน
สวัสดีค่ะชาวพันทิพทุกคน เจอกันอีกแล้วนะคะ (ปลายปี เจ๊จะมาหลอกหลอนทุกคน อิอิ) ก็ตามเคยนะคะ เจ๊ก็จะมาอัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับงานประกาศรางวัลและผลรางวัลต่างๆ ในแบบฉบับที่เจ๊รวบรวมเอง (แล้วก็งงเองในบางที ฮ่าๆ)
หลังจากผลประกาศรางวัลออสการ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำเอาช็อคกันทั้งโลกกับการประกาศรางวัลผิด!!!! แม่เจ้า ตรงคอนเซ็ปต์ที่ว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ ...บนเวทีออสการ์”
แน่นอนว่าปีล่าสุด Moonlight ปาดหน้าชนะ La La Land ไปได้ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นปีแรกเลยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่หนังชนะรางวัลใหญ่ แทบไม่ตรงกับสมาคมอื่นเลย (ตรงกับของ Golden Globe ที่เดียว) ทำเอาสมาคมวิชาชีพต่างๆ เงิบกันเป็นแถบ แต่ก็อย่างที่บอก อะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ.. อิอิ
มาดู
กระแสหนังในปี 2017 กันหน่อย อัพเดตล่าสุดคาดการณ์จากเว็บต่างๆ ผลออกมาดังตารางด้านล่างค่ะ
ในส่วนของคาดการณ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ก็ตามตารางค่ะ
เรื่องที่มาแรงที่สุด เป็นหนังผลงานการกำกับของป๋า “คริสโตเฟอร์ โนแลน” เรื่อง
Dunkirk เรื่องราวการเอาชีวิตรอดของเหล่าทหารที่อยู่ในกลางสนามรบ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว เจ๊ว่าในสาขาด้านเทคนิคต่างๆ เรื่องนี้ก็คงเต็งหนึ่ง และแน่นอนสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม เจ๊ว่าคงถึงเวลาของเฮียแกแล้ว
เรื่องต่อมาที่น่าจับตามองคือ
Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ผลงานการกำกับของ “มาร์ติน แมคโดนา” ที่ได้สาว “ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์” มาแสดงนำ (เจ้าของรางวัลออสการ์สาขานำหญิงจากเรื่อง Fargo ในปี 1997) โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคุณแม่ที่ต้องการตีแพร่ความล้มเหลวของระบบกฏหมายให้ทุกคนได้รับทราบ หลังจากคดีเรื่องการฆาตกรรมลูกของนางไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งรูปแบบการตีแพร่ก็ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ นางทำเป็นป้ายประกาศ Billboard ใหญ่ๆทั้งหมด 3 ป้ายให้ทุกคนได้รับทราบเรื่อง (มีความตลกร้าย แซ่บมาก) โดยเรื่องนี้ชนะรางวัลขวัญใจมหาชน หรือ People's Choice award จากเทศกาลหนัง 42nd Toronto International Film Festival ซึ่งถือเป็นการันตีเส้นทางบนสายรางวัลได้เป็นอย่างดี เพราะหลายเรื่องที่ชนะรางวัลนี้ ก็ปังมากๆบนเวทีใหญ่ๆอย่างออสการ์ ไม่ว่าจะเป็น Slumdog Millionaire, The King's Speech, 12 Years a Slave ที่ชนะรางวัล Best Picture บนเวทีออสการ์ และก็ล่าสุดเรื่อง La La Land ที่ก็ชนะเหมือนกัน แต่ชนะไม่กี่นาที อิอิ
นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว บทของเรื่องนี้ ยังปังไม่แพ้กัน โดยคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลหนัง 74th Venice International Film Festival และในสาขาการแสดง การแสดงของสาวฟรานเซส ก็เป็นที่น่าจับตามองมากๆ หลายๆสื่อยกให้นางเป็นเต็งหนึ่งในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนี้เลย และจากการฉายในเทศกาลหนังต่างๆ ทุกเสียงก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า นางยอดเยี่ยมมาก
หนังเต็งหนึ่งเรื่องต่อมา
The Shape of Water ผลงานการกำกับของ “กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่” เรื่องราวความรักของภารโรงสาวที่เป็นไบ้ นำแสดงโดย “แซลลี่ ฮอว์กินส์” พบรักกับพรายน้ำ (ในเรื่องชื่อ Asset ) ในสถาบันลับทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ก็การันตีความยอดเยี่ยมด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ สิงโตทองคำ (Golden Lion) จากเทศกาลหนัง 74th Venice International Film Festival ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเต็งหนึ่งที่หลายๆสื่อก็คาดการณ์ว่าจะปังมากๆบนเวทีออสการ์
ด้านการแสดงของเรื่องนี้ ก็ถือว่าแข็งพอสมควร จากการแสดงของสาวแซลลี่ (เคยเข้าชิงออสการ์ ในสาขาสมทบหญิงจากเรื่อง Blue Jasmine) ซึ่งหลายๆสื่อก็มองว่านางเป็นอีกคู่แข่งที่น่ากลัวในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (สุดท้ายนางอาจจะต้องไฟ้ทกับฟรานเซส แม็คดอร์มานด์) และนอกจากนั้น ในเรื่องยังมีนักแสดงมือดีคุณภาพเยี่ยมอีก 2 คน ทั้ง “ไมเคิล แชนนอน” และ “ออคทาเวีย สเปนเซอร์” ซึ่งก็มีลุ้นเข้าชิงในสาขาสมทบเช่นกัน
เรื่องอื่นๆก็น่าจะเข้าชิงก็เรื่อง
Get Outหนังระทึกขวัญบทดีงาม เล่าเรื่องราวของหนุ่มผิวสีกับแฟนสาว ที่เค้าทั้งสองได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านของแฟนสาว ได้พบกับพ่อแม่และพี่ชายของฝ่ายหญิง แต่พออยู่ได้ไม่นานเค้าต้องพบกับบางสิ่งบางอย่าง ที่อาจจะทำให้เค้าเปลี่ยนไปตลอดกาล.. (เขียนเหมือนพวกโพสในเฟซบุ๊ค ฮ่าๆๆ) เจ๊ชอบหนังเรื่องนี้มาก หนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่ธรรมดา เป็นหนังทั่วไป ซักพักมีเรื่องเหนือธรรมชาติขึ้นมาอีก แล้วพอตอนจบมีแนววิทยาศาสตร์มาเสริมอีก พีคมาก!!! แต่เสียดายที่เรื่องนี้ออกฉายไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2017 กลัวใจว่ากรรมการบางคนจะลืมเรื่องนี้
Call Me By Your Name ผลงานหนังดัดแปลงจากนิยายเกย์โรแมนติกของ “อังเดร เอซิแมน” บอกเล่าเรื่องราวของ เด็กหนุ่ม ที่แสดงโดย “ไทโมธี ชาลาเม็ต” ที่ได้พบรักกับนักศึกษาหนุ่ม นำแสดงโดย “อาร์มี แฮมเมอร์” โดยทั้งคู่ได้เจอกันที่ที่พักในวิลล่า ในช่วงปิดภาคฤดูร้อน โดยเรื่องนี้กระแสดีมากตั้งแต่ช่วงต้นปี ด้วยคะแนนวิจารณ์จากสื่อต่างๆที่ออกมาในค่อนข้างดีมาก ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในเต็งหนึ่งรางวัลออสการ์ไปแล้ว โดยนอกจากนั้นแล้วสาขาอื่นๆที่เรื่องนี้มีลุ้นก็ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในส่วนของด้านการแสดงนั้น หนุ่มไทโมธีก็มีลุ้นในสาขานำชายยอดเยี่ยม ในส่วนของหนุ่มอาร์มี ก็มีลุ้นในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และอีกหนึ่งสาขาที่เจ๊ลุ้นมากคือ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม อยากให้เรื่องนี้เข้าชิง เพราะช่างภาพของเรื่องนี้คือ “สยมภู มุกดีพร้อม" ช่างภาพชาวไทยนี่เอง โดยผลงานก่อนหน้านี้ก็เรื่อง ไชยา และ ลุงบุญมีระลึกชาติ
Darkest Hour ผลงานการกำกับของผู้กำกับ “โจ ไรท์” (ผู้กำกับที่เจ็บหนักจากเรื่อง Pan ในปี 2015 ทั้งเจ๊งทั้งโดนด่า) ตัวหนังได้รับคะแนนวิจารณ์ที่ดี ถึงคะแนนอาจจะน้อยกว่าเรื่องอื่นบ้าง แต่จุดเด่นของเรื่องนี้ต้องยกให้การแสดงของ “แกรี โอลด์แมน” ที่พลิกบทบาททั้งแต่งหน้าและแต่งตัวเลียนแบบบุคลิกของ “วินสตัน เชอร์ชิล” นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้อย่างแยบยล โดยเรื่องราวของหนังจะเล่าเรื่องราวการนำประเทศผ่านวิกฤตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งนอกจากสาขาใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ม ที่เรื่องนี้มีลุ้นเข้าชิงแล้ว หลายๆสำนักยังคาดการณ์ว่าแกรีอาจจะคว้าออสการ์ไปครองเป็นครั้งแรกก็เป็นได้ ... ขอให้ได้เถอะ เจ๊ว่ามันถึงเวลาของแกแล้วล่ะค่ะ
นอกจากนั้นยังมีหนังที่ทุกคนคาดหวังไว้สูงมากๆเรื่อง
The Post ผลงานการกำกับของ “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ที่ได้ตัวพ่อตัวแม่แห่งวงการอย่าง “เมอรีล สตรีป” และ “ทอม แฮงส์” มาร่วมแสดง หลายสื่อคาดไว้สูงมากกกกก ยังไงก็ต้องรอดูกันค่ะ ว่าจะมีใครเงิบไหม ว้ายยยย
ปีนี้ vs ปีที่แล้ว
ปีที่แล้ว เปิดเทศกาลมา La La Land และ Moonlight ตีคู่ขนานกันมาเลย โดยมี Manchester by the Sea เข้ามาแทรกบ้าง แต่พอสมาคมวิชาชีพประากศมากขึ้น เสียงก็เอนไปทาง La La Land
ช่วงเปิดเทศกาล จะคล้ายๆปีนี้ ที่ 3 เรื่องมาแรง คือ Dunkirk, Three Billboards Outside Ebbing, Missouri และ The Shape of Water
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ปีที่แล้ว เปิดเทศกาล ไฟ้ทกันอยู่ 2 คน คือขุนแม่ "นาตาลี พอร์ทแนม" และป้า "อิซาเบล อุแปร์" แต่สุดท้าย ทั้ง Golden Globe, SAG และ BAFTA ไปออกที่ "เอ็มม่า สโตน" ซึ่งนางก็ได้ไป
รางวัลเมื่อปีที่แล้ว จากรางวัลที่ลุ้นกันมันส์สุดๆ สุดท้ายกลายเป็นเอ็มม่านอนมาซะงั้น
ปีนี้ เปิดมาก็ไฟ้ทกันเลยระหว่าง “ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์” และ “แซลลี่ ฮอว์กินส์”
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
ปีที่แล้ว เปิดเทศกาลมาก็หนุ่ม "เคซีย์ แอฟเฟลค" กวาดรางวัลเรียบ จนกระทั่ง SAG เสียงแตกมอบให้ "เดนเซล วอชิงตัน" แต่สุดท้าย ความแข็งแกร่งของเคซีย์ ก็ทำให้เค้าชนะรางวัลออสการ์ไป
ปีนี้ เปิดเทศกาลมา “แกรี โอลด์แมน” ก็นำเลยค่ะ คล้ายๆ "เคซีย์ แอฟเฟลค" ในปีที่แล้ว
--------------------------------------------------------
โอเคค่ะ กระทู้ Part1 ก็จบเพียงเท่านี้
เจอกันอีกทีวันที่ 28 นะคะ กับการประกาศรายชื่อของ “สภานักวิจารณ์แห่งอเมริกา” หรือ “National Board of Review” หรือ "NBR" ค่ะ
[ROAD TO OSCAR] Part 1: เริ่มแล้วค่ะ เทศกาลประกาศรางวัลด้านภาพยนตร์ ใครมาแรงไปติดตามกัน
สวัสดีค่ะชาวพันทิพทุกคน เจอกันอีกแล้วนะคะ (ปลายปี เจ๊จะมาหลอกหลอนทุกคน อิอิ) ก็ตามเคยนะคะ เจ๊ก็จะมาอัพเดตข่าวสารเกี่ยวกับงานประกาศรางวัลและผลรางวัลต่างๆ ในแบบฉบับที่เจ๊รวบรวมเอง (แล้วก็งงเองในบางที ฮ่าๆ)
หลังจากผลประกาศรางวัลออสการ์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทำเอาช็อคกันทั้งโลกกับการประกาศรางวัลผิด!!!! แม่เจ้า ตรงคอนเซ็ปต์ที่ว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ ...บนเวทีออสการ์”
แน่นอนว่าปีล่าสุด Moonlight ปาดหน้าชนะ La La Land ไปได้ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นปีแรกเลยในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่หนังชนะรางวัลใหญ่ แทบไม่ตรงกับสมาคมอื่นเลย (ตรงกับของ Golden Globe ที่เดียว) ทำเอาสมาคมวิชาชีพต่างๆ เงิบกันเป็นแถบ แต่ก็อย่างที่บอก อะไรก็เกิดขึ้นได้ค่ะ.. อิอิ
มาดูกระแสหนังในปี 2017 กันหน่อย อัพเดตล่าสุดคาดการณ์จากเว็บต่างๆ ผลออกมาดังตารางด้านล่างค่ะ
ในส่วนของคาดการณ์นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ก็ตามตารางค่ะ
เรื่องที่มาแรงที่สุด เป็นหนังผลงานการกำกับของป๋า “คริสโตเฟอร์ โนแลน” เรื่อง Dunkirk เรื่องราวการเอาชีวิตรอดของเหล่าทหารที่อยู่ในกลางสนามรบ ซึ่งเรื่องนี้นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว เจ๊ว่าในสาขาด้านเทคนิคต่างๆ เรื่องนี้ก็คงเต็งหนึ่ง และแน่นอนสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม เจ๊ว่าคงถึงเวลาของเฮียแกแล้ว
เรื่องต่อมาที่น่าจับตามองคือ Three Billboards Outside Ebbing, Missouri ผลงานการกำกับของ “มาร์ติน แมคโดนา” ที่ได้สาว “ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์” มาแสดงนำ (เจ้าของรางวัลออสการ์สาขานำหญิงจากเรื่อง Fargo ในปี 1997) โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคุณแม่ที่ต้องการตีแพร่ความล้มเหลวของระบบกฏหมายให้ทุกคนได้รับทราบ หลังจากคดีเรื่องการฆาตกรรมลูกของนางไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งรูปแบบการตีแพร่ก็ตามชื่อเรื่องเลยค่ะ นางทำเป็นป้ายประกาศ Billboard ใหญ่ๆทั้งหมด 3 ป้ายให้ทุกคนได้รับทราบเรื่อง (มีความตลกร้าย แซ่บมาก) โดยเรื่องนี้ชนะรางวัลขวัญใจมหาชน หรือ People's Choice award จากเทศกาลหนัง 42nd Toronto International Film Festival ซึ่งถือเป็นการันตีเส้นทางบนสายรางวัลได้เป็นอย่างดี เพราะหลายเรื่องที่ชนะรางวัลนี้ ก็ปังมากๆบนเวทีใหญ่ๆอย่างออสการ์ ไม่ว่าจะเป็น Slumdog Millionaire, The King's Speech, 12 Years a Slave ที่ชนะรางวัล Best Picture บนเวทีออสการ์ และก็ล่าสุดเรื่อง La La Land ที่ก็ชนะเหมือนกัน แต่ชนะไม่กี่นาที อิอิ
นอกจากรางวัลใหญ่แล้ว บทของเรื่องนี้ ยังปังไม่แพ้กัน โดยคว้ารางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเทศกาลหนัง 74th Venice International Film Festival และในสาขาการแสดง การแสดงของสาวฟรานเซส ก็เป็นที่น่าจับตามองมากๆ หลายๆสื่อยกให้นางเป็นเต็งหนึ่งในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในปีนี้เลย และจากการฉายในเทศกาลหนังต่างๆ ทุกเสียงก็พูดเป็นเสียงเดียวว่า นางยอดเยี่ยมมาก
หนังเต็งหนึ่งเรื่องต่อมา The Shape of Water ผลงานการกำกับของ “กิลเลอร์โม่ เดอ โทโร่” เรื่องราวความรักของภารโรงสาวที่เป็นไบ้ นำแสดงโดย “แซลลี่ ฮอว์กินส์” พบรักกับพรายน้ำ (ในเรื่องชื่อ Asset ) ในสถาบันลับทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ก็การันตีความยอดเยี่ยมด้วยการคว้ารางวัลใหญ่ สิงโตทองคำ (Golden Lion) จากเทศกาลหนัง 74th Venice International Film Festival ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเต็งหนึ่งที่หลายๆสื่อก็คาดการณ์ว่าจะปังมากๆบนเวทีออสการ์
ด้านการแสดงของเรื่องนี้ ก็ถือว่าแข็งพอสมควร จากการแสดงของสาวแซลลี่ (เคยเข้าชิงออสการ์ ในสาขาสมทบหญิงจากเรื่อง Blue Jasmine) ซึ่งหลายๆสื่อก็มองว่านางเป็นอีกคู่แข่งที่น่ากลัวในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (สุดท้ายนางอาจจะต้องไฟ้ทกับฟรานเซส แม็คดอร์มานด์) และนอกจากนั้น ในเรื่องยังมีนักแสดงมือดีคุณภาพเยี่ยมอีก 2 คน ทั้ง “ไมเคิล แชนนอน” และ “ออคทาเวีย สเปนเซอร์” ซึ่งก็มีลุ้นเข้าชิงในสาขาสมทบเช่นกัน
เรื่องอื่นๆก็น่าจะเข้าชิงก็เรื่อง
Get Outหนังระทึกขวัญบทดีงาม เล่าเรื่องราวของหนุ่มผิวสีกับแฟนสาว ที่เค้าทั้งสองได้เดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านของแฟนสาว ได้พบกับพ่อแม่และพี่ชายของฝ่ายหญิง แต่พออยู่ได้ไม่นานเค้าต้องพบกับบางสิ่งบางอย่าง ที่อาจจะทำให้เค้าเปลี่ยนไปตลอดกาล.. (เขียนเหมือนพวกโพสในเฟซบุ๊ค ฮ่าๆๆ) เจ๊ชอบหนังเรื่องนี้มาก หนังเริ่มต้นด้วยเรื่องราวที่ธรรมดา เป็นหนังทั่วไป ซักพักมีเรื่องเหนือธรรมชาติขึ้นมาอีก แล้วพอตอนจบมีแนววิทยาศาสตร์มาเสริมอีก พีคมาก!!! แต่เสียดายที่เรื่องนี้ออกฉายไปแล้วตั้งแต่ต้นปี 2017 กลัวใจว่ากรรมการบางคนจะลืมเรื่องนี้
Call Me By Your Name ผลงานหนังดัดแปลงจากนิยายเกย์โรแมนติกของ “อังเดร เอซิแมน” บอกเล่าเรื่องราวของ เด็กหนุ่ม ที่แสดงโดย “ไทโมธี ชาลาเม็ต” ที่ได้พบรักกับนักศึกษาหนุ่ม นำแสดงโดย “อาร์มี แฮมเมอร์” โดยทั้งคู่ได้เจอกันที่ที่พักในวิลล่า ในช่วงปิดภาคฤดูร้อน โดยเรื่องนี้กระแสดีมากตั้งแต่ช่วงต้นปี ด้วยคะแนนวิจารณ์จากสื่อต่างๆที่ออกมาในค่อนข้างดีมาก ทำให้เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในเต็งหนึ่งรางวัลออสการ์ไปแล้ว โดยนอกจากนั้นแล้วสาขาอื่นๆที่เรื่องนี้มีลุ้นก็ บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ในส่วนของด้านการแสดงนั้น หนุ่มไทโมธีก็มีลุ้นในสาขานำชายยอดเยี่ยม ในส่วนของหนุ่มอาร์มี ก็มีลุ้นในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม และอีกหนึ่งสาขาที่เจ๊ลุ้นมากคือ ถ่ายภาพยอดเยี่ยม อยากให้เรื่องนี้เข้าชิง เพราะช่างภาพของเรื่องนี้คือ “สยมภู มุกดีพร้อม" ช่างภาพชาวไทยนี่เอง โดยผลงานก่อนหน้านี้ก็เรื่อง ไชยา และ ลุงบุญมีระลึกชาติ
Darkest Hour ผลงานการกำกับของผู้กำกับ “โจ ไรท์” (ผู้กำกับที่เจ็บหนักจากเรื่อง Pan ในปี 2015 ทั้งเจ๊งทั้งโดนด่า) ตัวหนังได้รับคะแนนวิจารณ์ที่ดี ถึงคะแนนอาจจะน้อยกว่าเรื่องอื่นบ้าง แต่จุดเด่นของเรื่องนี้ต้องยกให้การแสดงของ “แกรี โอลด์แมน” ที่พลิกบทบาททั้งแต่งหน้าและแต่งตัวเลียนแบบบุคลิกของ “วินสตัน เชอร์ชิล” นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักรได้อย่างแยบยล โดยเรื่องราวของหนังจะเล่าเรื่องราวการนำประเทศผ่านวิกฤตในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งนอกจากสาขาใหญ่ภาพยนตร์ยอดเยี่ม ที่เรื่องนี้มีลุ้นเข้าชิงแล้ว หลายๆสำนักยังคาดการณ์ว่าแกรีอาจจะคว้าออสการ์ไปครองเป็นครั้งแรกก็เป็นได้ ... ขอให้ได้เถอะ เจ๊ว่ามันถึงเวลาของแกแล้วล่ะค่ะ
นอกจากนั้นยังมีหนังที่ทุกคนคาดหวังไว้สูงมากๆเรื่อง The Post ผลงานการกำกับของ “สตีเวน สปีลเบิร์ก” ที่ได้ตัวพ่อตัวแม่แห่งวงการอย่าง “เมอรีล สตรีป” และ “ทอม แฮงส์” มาร่วมแสดง หลายสื่อคาดไว้สูงมากกกกก ยังไงก็ต้องรอดูกันค่ะ ว่าจะมีใครเงิบไหม ว้ายยยย
ปีนี้ vs ปีที่แล้ว
ปีที่แล้ว เปิดเทศกาลมา La La Land และ Moonlight ตีคู่ขนานกันมาเลย โดยมี Manchester by the Sea เข้ามาแทรกบ้าง แต่พอสมาคมวิชาชีพประากศมากขึ้น เสียงก็เอนไปทาง La La Land
ช่วงเปิดเทศกาล จะคล้ายๆปีนี้ ที่ 3 เรื่องมาแรง คือ Dunkirk, Three Billboards Outside Ebbing, Missouri และ The Shape of Water
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
ปีที่แล้ว เปิดเทศกาล ไฟ้ทกันอยู่ 2 คน คือขุนแม่ "นาตาลี พอร์ทแนม" และป้า "อิซาเบล อุแปร์" แต่สุดท้าย ทั้ง Golden Globe, SAG และ BAFTA ไปออกที่ "เอ็มม่า สโตน" ซึ่งนางก็ได้ไป
รางวัลเมื่อปีที่แล้ว จากรางวัลที่ลุ้นกันมันส์สุดๆ สุดท้ายกลายเป็นเอ็มม่านอนมาซะงั้น
ปีนี้ เปิดมาก็ไฟ้ทกันเลยระหว่าง “ฟรานเซส แม็คดอร์มานด์” และ “แซลลี่ ฮอว์กินส์”
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
ปีที่แล้ว เปิดเทศกาลมาก็หนุ่ม "เคซีย์ แอฟเฟลค" กวาดรางวัลเรียบ จนกระทั่ง SAG เสียงแตกมอบให้ "เดนเซล วอชิงตัน" แต่สุดท้าย ความแข็งแกร่งของเคซีย์ ก็ทำให้เค้าชนะรางวัลออสการ์ไป
ปีนี้ เปิดเทศกาลมา “แกรี โอลด์แมน” ก็นำเลยค่ะ คล้ายๆ "เคซีย์ แอฟเฟลค" ในปีที่แล้ว
--------------------------------------------------------
โอเคค่ะ กระทู้ Part1 ก็จบเพียงเท่านี้
เจอกันอีกทีวันที่ 28 นะคะ กับการประกาศรายชื่อของ “สภานักวิจารณ์แห่งอเมริกา” หรือ “National Board of Review” หรือ "NBR" ค่ะ