[CR] 30 hours in Siem Reap l เขมรมันมีอะไรดี!



“Spontaneity is the best kind of adventure.”


“Siem Reap”
(หรือ เสียมราฐ)
เมืองในประเทศกัมพูชาที่เป็น travel destination อีกแห่งนึงของเหล่าbackpackersทั้งหลาย
คนไทยก็หลายคนที่ยังไม่กล้าไปเยือนเนื่องด้วยกลัวอันตรายและต่างๆนาๆ
แต่เท่าที่ได้สัมผัสก็มีทั้งคนน่ารัก และ(สายตา)น่ากลัว แต่เค้าก็ไม่ได้ทำอะไร55555

ทริปนี้เป็นทริปแบบไม่ได้ตั้งใจ ตัดสินใจปุ้ปไปปั้ป โดยแค่อยากไปหาที่ใหม่ๆ พักผ่อนหย่อนใจ
บวกกับได้มายินมาว่าpartyที่นี่มันก็ดีน้า....5555555
เราไปกัน2คนนะฮ้า เพราะคนอื่นไม่ว่างแล้ว ฮูเรรร

เราออกเดินทางกันคืนวันพฤหัส (ตัดสินใจว่าจะไปเมื่อคืน ซึ่งคือคืนวันพุธ)
เลิกเรียนปุ้ปก็เก็บของอาบน้งอาบน้ำแล้วมาที่ข้าวสารเพื่อที่จะมาซื้อตั๋วรถกัน
และแลกเงิน เผื่อใครยังไม่รู้เขมรเค้าใช้เงิน US dollars ($) นะแกรรร
รถออกเวลาตี 2 เราก็เลยได้หลับกันยาวววววๆ
พอเช้าตรู่มาถึงชายแดน ทุกคนต้องลงจากรถเพื่อไปผ่าน ตม. แล้วถึงกลับมาขึ้นรถคันเดิม
รีวิวนี้เขียนไม่ยาวเนาะ เพราะไม่ค่อยได้ทำไร5555
(แต่อยากรู้ไรเพิ่มเติม ถามได้น้องจะตอบให้ จุบุ)

อะลืมบอก ทริปนี้เราสองคนมีเวลาอยู่ที่เสียมเรียบแค่ประมาณ 30 ชม. เท่านั้น
เกือบได้อยู่ต่อ เพราะอะไร และทำไม ่ใช้เวลาเกินคุ้มไปกับอะไร.... อะไปอ่านกันนะ!!!
555555555





วันแรกมาถึงก็จะมีรถสามล้อที่เค้ามีเบอร์การ์ดตรงกับเรามารับเราจากบัส
เพื่อที่จะไปส่งตามที่พักของเฮา
เราก็ลงมาจากบัสมีชายหนุ่มเขมรมายืนตาแป๋วมากหน้าหลายตา แล้วเจ้ต้องทำไงบอกที555555
จนมีคนที่เค้าเข้ามาถามว่า คนไทยใช่ไหม เค้าคือคนขับรถของเรานั่นเองงง
เรามาถึงที่พักก็รีบบบบบ เปลี่ยนชุดแต่งหน้า เพราะเราเหมาสามล้อไว้ครึ่งวัน
เพื่อที่จะไปเยือนมรดกโลกที่ทุกคนรู้จักกันดี “นครวัด นครธม”
(มีความตื่นเต้นแต่ไม่เท่าจะได้เห็น pub street ว่ะ55555555)

ก่อนอื่นเราก็จะต้องมาซื้อตั๋วกันก่อน เป็น 1Day Ticket นะคะ
(ราคาประมาณ $37 จำมิค่อยได้)
ตั๋วที่ทุกคนซื้อเนี่ยสามารถเช้าชมได้ทั้งหมด 4วัด
นั่งสามล้อมานานไม่มากก็ถึงที่แรกคือ Angkor Wat หรือนครวัด
ก็มีความตื่นเต้น ถ่ายรูปกันแหลกจนเหนื่อย หมดไปเวลาไป 2 ชม. อย่างรวดเร็ว
อากาศนี่ไม่ต้องพูดถึงนะ ร๊อนนนนนร้อน





คือพอออกมาจากอันแรกก็เหนื่อยแล้วอะ แล้วเหลืออีก 3 ที่ที่ต้องไป
ไหวไหม ให้ทาย.. ไหวสิคะ แต่ไหวอีกแค่1วัดเท่านั้น5555555
เราก็ตกลงกันว่า สรุปยิ้มและกรูได้รูปส่งให้ครอบครัวแล้วใช่ไหม? ตอบคือ ใช่!
หลังจากนั้นกลับที่พักสิครับ หลับคอพับกันตั้งแต่อยู่บนรถ ก็คิดว่าถึงห้องคงสลบเหมือดกันแน่  ทั้งที่ตอนแรกพี่คนขับจะพาไปถ่ายรูปที่นาข้าวต่อ แต่พี่เค้าเห็นพวกเราหลับ เค้าเลยบอกว่าไม่อยากปลุก
น่าร้ากกกกกกก



นี่คือโฉมหน้าของพี่ริกกี้ คนขับรถของเรา (จริงๆเค้าไม่ได้ชื่อนี้แต่เรียกยาก55555)



แต่สรุปว่า พอกลับมาถึง เดินเข้าโฮสเทล ตาสว่างโล่เลยจ้า
ผู้คนรายล้อมสระว่ายน้ำ อีกส่วนก็นั่งจิบเบียร์ชิวๆกันที่บาร์
บรรยากาศนี้แหละที่เราต้องการ!!
เวลามาแบบนี้มันรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนจริงๆอะ ทุกอย่างชิวๆ โนวแพลน เหนื่อยก็พัก รักก็รุก5555555555



ให้ดูกันกรุบๆ...


เราจองห้องมาแบบนอนกันสองคนนะ
ก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วออกมานั่งชิวกันที่บาร์
พวกเราก็นั่งคุยกับสตาฟทั้งหลายที่นั่น แล้วได้ความว่า เจ้าของโฮสเทลเป็นฝรั่งซึ่งก็มีหุ้นส่วนหลายคน แต่ไม่สำคัญ ที่สำคัญก็คือ สตาฟที่คอยมาentertainเหล่าคนที่มาพักเป็นฝรั่งทั้งหมด! ก็ไม่อะไรมากแค่ใครอยากมาฝึกภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องไปไกลแล้วนะเด็กๆ555555 ก็จะมีพวกชาวเขมรบ้างที่คอยทำความสะอาดหรืออยู่หลังบาร์และทุกคนน่ารักมากกกกๆๆๆ


พวกสตาฟเค้าก็จะมาชวนเราเล่มเกม พร้อมกับท้าว่าถ้าเราเอาชนะเค้าได้
เค้าจะมอบ free drink ให้กับเรา
โดนท้า ชะนีก็ไม่ยอม! (อยากได้ของฟรี5555)
เล่นไปเล่นมาม่านตาเริ่มสั่น สติเริ่มไม่สมประกอบ555555
ดึกๆคนในโฮสเทลเค้าก็จะนัดแนะกันไปถนนดัง ที่มีความคล้ายคลึง ถนนข้าวสารบ้านเรา
เรียกว่า Pub Street โดยมีพวกสตาฟที่โฮสเทลแหละพาไป
เค้าก็จะคอยดูแลเรายันเรากลับมาที่พักอย่างปลอดภัย
เราได้คุยกับสตาฟ ซึ่งเค้าก็บอกว่า มันเป็นน่าดีของเค้าที่ต้องรับผิดชอบแขกที่เค้าพาออกไปเที่ยว
เอออออออมันดี!!! มีคนเทคแคร์ ดูแล


ตอนเราไปที่เขมรมี Water Festival พอดี ซึ่งคิดว่ามันคือ สงกรานต์แน่นอน
แต่มันคือ ลอยกระทง ป้าดดด5555555
คนเค้าก็จะออกมาสังสรรค์ เฮฮากัน คนแน่นถนนไปหม้ดดด



อันนี้ได้มีโอกาสไปนั่ง rooftop bar ก็เกร๋ไปอีก ส่วนตัวมาก ร้านไม่มีคน55555555



ไปนั่งร้านต่อไปก็เจอเก้งกวาง ก็เต้นกันสุดเหวี่ยง บ้าบอคอแตกกันไป
แล้วก็ไปเหมือนกึ่งบาร์ กึ่งผับ ชื่อ Temple Pub
แปลเป็นไทยคือไรวะ ผับวัด? จะผับหรือจะวัด ขำยันกลับมา5555555555




คนก็จะแน่นๆประมาณนี้



คืนแรกจบไปด้วยการกินข้าวก่อนกลับที่พัก
เพราะเสียพลังงานไปกับการยักไหล่ ส่ายเอว
หลับสบายแบบที่ไม่เคยหลับมาก่อนในครึ่งปีที่ผ่านมาาา



ปล. 1. Day 2 is coming soon นะทู้กคนนนน
ปล. 2. ติดตามรูปสวยๆเพิ่มเติมได้ในอินสตาแกรมนะ อิอิ









มาต่อวันที่2กันนน

Day 2

วันนี้ตื่นมาก็ประมาณ 9โมง 10โมง นับว่าเร็ว
เราก็เดินทางเพื่อที่จะไปหา breakfastทานกัน ที่..
ตรงข้ามและเยื้องๆไปจากโฮสเทล 555 ใช้เวลาเดินทั้งสิ้นไม่ถึง 1นาที
เจ้าของร้านก็น่าร้าก เปิดร้านกับเมียนาง และเสิร์ฟอาหารสไตล์ American breakfast








วันนี้ชีวิตของพวกเราก็จะไม่มีอะไรมาก ขลุกอยู่ในโฮสเทลทั้งวัน
เพราะโฮสเทลนั้นมีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว ไม่ว่าจะเป็น
บรรยากาศที่แสนสบาย พร้อมอาหาร(ตา)ที่ดูน่ารับประทาน
เครื่องดื่มมากหน้าหลายตาที่จะทำให้น็อคเมื่อไหร่ไม่ทราบ
สระว่ายน้ำ ที่ให้ลงไปนั่งจิบเบียร์เย็นๆ
Sky barก็มีเด้อ


แค่นี้ชีวิตไม่ต้องการไรแล้ว55555
เมื่อวันนี้เป็นวันเสาร์ เป็นวันของ pool party มีดีเจมาเปิดเพลงแถวสระน้ำเลยทีเดียว
ดีเจก็จะมีซิคแพคพอใช้ได้... อื้มมมม


เราก็ขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่เตรียมลงน้ำได้กัน และลงมานั่งอยู่ที่บาร์
เม้ามอยกับสตาฟที่แสนคิ้วท์ทั้งหลาย และได้เพื่อนใหม่จากทั่วทุกมุมโลก (เว่อรรร์มากจ่ะอินี่55555)
พอเริ่มบ่ายๆ คนก็เริ่มจะแบบว่า tipsy (=มึนๆเมาๆ)
ถูกแล้วอ่านไม่ผิดบ่ายๆ! รีบบบบบบบแงะ
เหมือนทุกคนตื่นมาก็ดื่มๆๆๆ ทั้งวันทั้งคืนเรื่อยไปงี้
แล้วทุกคนก็พูดเก่งขึ้นกันขึ้นมาอย่างน่าประหลาดใจ555
5

เราก็นั่งจนรู้สึกว่าอากาศนั้น hot (แต่พวกเรานั้น hotter)
ก็เลยชวนกันไปลงน้ำให้เย็นๆตูด ในสระก็จะมีบอลมีเนตขึงไว้ให้พร้อม
ฝั่งคนบนบกเค้าก็ลั้ลล้า เล่นเบียร์ปองร้องเพลงเต้นระบำรำดาบอะไรอย่างนี้กันไป ฮ่าๆๆ






ก็จมอยู่ตรงนั้นยันค่ำๆ เราทุกคนนนนตรงนั้นก็ย้ายไปสนุกสนานกันต่อที่ sky bar ของโฮสเทล
เช่นเดิม  ดื่มด่ำกับของฟรีหน้าตาประมาณข้างล่างนี้  อืมมม







แป๊ปๆก็ได้เวลา go to the Pub Street อะเกน!!!!
แม้สติจะเลือนลางเหลือเกินแต่ยังคงอยู่ในความดูแลของสตาฟ
คืนนี้ก็มีฝนตก แต่ทุกคนโนสนโนแคร์ เต้นกลางสายฝนแบบในMV
เต้นๆไปก็อ้าว ตูไม่ได้ใส่รองเท้าม๊าาาาา! ไอ้บ้าเอ๊ย5555555
ลืมสติไว้ที่โฮสเทล เพื่อนๆถึงกับต้องขอสติ
แต่เป็นอีกคืนที่สนุกมากกกก ดินกระเด็นกระดอนมายันต้นขา (คือยิ้มไหวปะว้าาา)




พอข้ามวัน ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่ Pub Street โดยไม่ได้คำนึงว่าวันพรุ่งนี้ต้องกลับบ้านแล้วนะ
พอได้เวลากลับที่พัก สติก็เริ่มกลับมา และนึกว่าว่าเออต้องตามที่รองเท้าแตะพันสองที่พึ่งซื้อมานะ
เพื่อนและสตาฟก็ช่วยหากันใหญ่ จนไปป้ะกับแม่บ้าน ที่เดินชูรองเท้าของเรามา
แล้วถามว่านี่ของยูใช่ไหม
สายตาที่แย่ของเราก็มองไม่รู้หรอก แต่มั่นใจว่าใช่แน่555
ขอบคุณแม่บ้านและทุกคนที่ช่วยหา และไปนอนเตรียมกลับบ้านในวันพรุ่งนี้...




รูปภาพสุดท้ายที่เก็บได้ในค่ำคืนนี้ บรัย



Day 3

วันนี้ตื่นมาได้ตรงเวลาเป๊ะ ...เวลารถออก!!!!
อ่าวซวยแล้วจ่ะทีนี้ รถออก 8โมง ตื่น8โมง
แล้วคือต้องไปขึ้นรถที่ในเมือง ของก็ยังไม่เก็บ น้ำไม่ต้องพูดถึงไม่ได้อาบ ฟันก็ไม่ได้แปรง

สิ่งที่ทำได้ ณ ตอนนั้นคือวิ่งลงมาที่ lobby เพื่อขอยืมโทรศัพท์ที่ reception
โทรหาบริษัทรถทัวร์เพื่อให้หยุดรถ 5 นาที พลีสสสส
คุยเสร็จเราก็รีบ วิ่งกลับขึ้นไปบนห้องอีก แล้วกวาดทุกอย่างลงกระเป๋า ออกมาทั้งชุดนอน


พอไปถึงที่ที่จะต้องขึ้นรถ แต่รถไม่อยู่!!!!
ยิ้มไปหนายยยยย บอกให้รอ ทำไม่ไม่รอ ทั้งๆที่บอกว่าจะรอ
ก็เข้าไปเจรจากับพนักงานด้านใน เค้าก็บอกว่ารถเต็มแล้ว มุ่งหน้าสู่ชายแดนแล้ว
เราก็ไม่ได้ๆๆๆๆ โวยวายๆๆๆ ว่าต้องกลับวันนี้ตอนนี้เท่านั้น เราซื้อตั๋วไว้แล้ว
จนมีผู้ชายคนนึงเหมือนเป็นผู้จัดการ มาบอกโอเคไปได้ จะขับมอเตอร์ไซต์ไปส่ง
แต่ (แต่อีกแล้ว) เราสองคนจะต้องนั่งเบียดกันบนเก้าอี้ตัวเดียว
ก็เออโอเคคงไม่แย่มาก แค่4ชม omgggg

พี่ผู้ชายพูดต่อว่าเก้าอี้นั้นอยู่ “ข้างๆคนขับ” OMGGGGG
มีไรแย่กว่านี้อีกไหม พูด55555 แต่ตอนนั้นไม่มีสติจะคิดอะไรแล้ว
ยังไงก็ได้ขอให้ได้กลับบ้าน ต้องกลับไปทำหน้าที่นักเรียนที่ดี
ชื่อสินค้า:   siem reap
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่