สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
คบกันมา เค้าน่าจะรู้นะ ว่าความสามารถคุณมีแค่ไหน คุยกันได้รู้เรื่องหรือเปล่า การศึกษาคุณก็พอสมควร บอกตามตรงนะ คิดว่าแฟนคุณเขาหวังมากเกินไป เขาไม่ได้รักคุณในสิ่งที่คุณมีและคุณเป็น ณ ตอนนี้ แต่หวังอนาคตหวังเผื่อหน้าที่การงานของคุณ
บอกตามตรงนะ ดิฉันคงจะถอยค่ะ คือ ไม่ได้คิดหรอกนะว่าเขาอยากจะกระตุ้น อยากจะผลักดันอะไรเรามากมาย เขาอยากทำเพื่อตัวเองมากกว่า
คุณจบก็สูง ถามจริงๆ ถ้ามีลูก คุณจะไม่สามารถพาลูกไปมอบตัวที่โรงเรียน พาไปทำกิจกรรมนั่นนี่ เวลาโรงเรียนติดต่อะไรมา คือพูดง่ายๆ คุณจะทำอะไรช่วยเหลือตัวเองและลูกไม่ได้เลยหรือ ดิฉันคิดว่าคุณทำได้นะ มันไม่ยากหรอกค่ะ อยู่ๆไป ภาษาคุณก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ความมั่นใจของคุณก็จะมีมากขึ้น ถึงเวลานั้น อะไรๆมันก็จะง่ายขึ้นค่ะ
คนเรานะ ถ้ารักกัน อยากอยู่ด้วยกันไปตลอด ต้องเกื้อหนุน ต้องให้กำลังใจ ต้องเห็นใจ ที่สำคัญ ต้องมั่นใจในตัวเราค่ะ
ดิฉันไม่ได้มีหน้าที่การงานที่เลิศเลอ เพราะไม่เคยออกไปหางานทำตั้งแต่มาอยู่ ทำงานกับสามีมาตลอด กิจการเล็กๆทำกันสองคนค่ะ แต่พอมีลูกก็แทบไม่มีเวลาช่วยเขาเลย แต่งานอย่างอื่นดิฉันทำหมดค่ะ สามีทำงานอย่างเดียวจริงๆ ดิฉันรู้ว่า เขาภูมิใจในตัวดิฉันมากค่ะ คือบอกได้เลย ว่าดิฉันไม่ได้ทำให้เขาน้อยหน้าใครแน่ๆค่ะ ดิฉันเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง และเชื่อมันในตัวเอง เชื่อในความสามารถของตัวเองค่ะ และเขาก็เชื่อในความสามารถของดิฉัน โดยที่ไม่ต้องมาวัดกันที่หน้าที่การงานอะไร แต่มันเป็นอย่างอื่นในตัวดิฉันค่ะ
คือความสามารถของคนเรามันมีค่ะ แต่มันก็อาจจะมีคนละอย่างเหมือนหรือแตกต่างกันไป การที่ไม่ได้มีหน้าที่การงานที่ดี หรือใหญ่โต มั่นคง ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีความสามารถ เราสามารถเอาความสามารถของเราไปทำอย่างอื่น ไปเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นให้มันดีขึ้น ไปทำอย่างอื่นที่มันสร้างสรร ไปทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข และดำรงชีวิตคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง
บอกตามตรงนะ ดิฉันคงจะถอยค่ะ คือ ไม่ได้คิดหรอกนะว่าเขาอยากจะกระตุ้น อยากจะผลักดันอะไรเรามากมาย เขาอยากทำเพื่อตัวเองมากกว่า
คุณจบก็สูง ถามจริงๆ ถ้ามีลูก คุณจะไม่สามารถพาลูกไปมอบตัวที่โรงเรียน พาไปทำกิจกรรมนั่นนี่ เวลาโรงเรียนติดต่อะไรมา คือพูดง่ายๆ คุณจะทำอะไรช่วยเหลือตัวเองและลูกไม่ได้เลยหรือ ดิฉันคิดว่าคุณทำได้นะ มันไม่ยากหรอกค่ะ อยู่ๆไป ภาษาคุณก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ความมั่นใจของคุณก็จะมีมากขึ้น ถึงเวลานั้น อะไรๆมันก็จะง่ายขึ้นค่ะ
คนเรานะ ถ้ารักกัน อยากอยู่ด้วยกันไปตลอด ต้องเกื้อหนุน ต้องให้กำลังใจ ต้องเห็นใจ ที่สำคัญ ต้องมั่นใจในตัวเราค่ะ
ดิฉันไม่ได้มีหน้าที่การงานที่เลิศเลอ เพราะไม่เคยออกไปหางานทำตั้งแต่มาอยู่ ทำงานกับสามีมาตลอด กิจการเล็กๆทำกันสองคนค่ะ แต่พอมีลูกก็แทบไม่มีเวลาช่วยเขาเลย แต่งานอย่างอื่นดิฉันทำหมดค่ะ สามีทำงานอย่างเดียวจริงๆ ดิฉันรู้ว่า เขาภูมิใจในตัวดิฉันมากค่ะ คือบอกได้เลย ว่าดิฉันไม่ได้ทำให้เขาน้อยหน้าใครแน่ๆค่ะ ดิฉันเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง และเชื่อมันในตัวเอง เชื่อในความสามารถของตัวเองค่ะ และเขาก็เชื่อในความสามารถของดิฉัน โดยที่ไม่ต้องมาวัดกันที่หน้าที่การงานอะไร แต่มันเป็นอย่างอื่นในตัวดิฉันค่ะ
คือความสามารถของคนเรามันมีค่ะ แต่มันก็อาจจะมีคนละอย่างเหมือนหรือแตกต่างกันไป การที่ไม่ได้มีหน้าที่การงานที่ดี หรือใหญ่โต มั่นคง ไม่ได้หมายความว่าเราไม่มีความสามารถ เราสามารถเอาความสามารถของเราไปทำอย่างอื่น ไปเปลี่ยนแปลงอย่างอื่นให้มันดีขึ้น ไปทำอย่างอื่นที่มันสร้างสรร ไปทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข และดำรงชีวิตคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่ง
แสดงความคิดเห็น
คิดยังไง กับการที่แฟนบอกกับเราแบบนี้
เราเดทกับแฟนมาได้ 3 เดือน เราไม่เคยทะเลาะกันเลย ทุกอย่างเพอร์เฟค แต่มีเรื่องนึงที่ทำให้เรารู้สึกอยากถอยออกมาและมันบั่นทอนเราคือ
เราย้ายมาอยู่อเมริกาได้ประมาณ 4 ปี
เราอายุ 34 จบปริญญาโทจากเมืองไทย ฐานะครอบครัวของเราดีพอที่พ่อแม่จะส่งเราเรียนที่ดีๆได้ แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่เราก็แค่ทำงานร้านอาหารเป็นพนักงานเสิร์ฟ และเรียนเป็นผู้ช่วยเภสัชกรไปด้วยค่ะ
ส่วนแฟนเรา อายุ 38 เค้ามีหน้าที่การงานที่ดีมากเป็นกัปตันของสายการบินแห่งหนึ่งในอเมริกา
ตลอดเวลาที่รู้จักกันมาได้ไม่นาน เรารู้สึกว่าเราสองคนเข้ากันได้ดีมากๆ แค่มันมีทัศนคติบางอย่างที่เค้าพูดออกมาทำให้เรารู้สึกไม่ดี เช่น
เค้าเล่าเราให้ฟัง ว่าเค้าคุยกับเพื่อนเค้าถึงเราว่า ทุกอย่างไปได้สวยมากๆ เราเข้าใจเค้าทุกอย่าง เค้ายังไม่รู้สึกถึง red flag ในความสัมพันธ์นี้
แค่เค้าก็อยากจะค่อยๆใช้เวลา เพราะเราเองยังไม่มีหน้าที่การงานที่ดี เค้าอยากรอให้เราเรียนจบ ได้งานที่มั่นคงก่อน
เค้าอยากได้ภรรยาที่มีหน้าที่การงานดี ไม่ใช่ผู้หญิงที่คิดจะเกาะเค้ากิน
ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องเดินทางบ่อย เค้าคาดหวังให้ภรรยาเค้ามีการศึกษา เพราะภรรยาต้องเป็นคนสอนการบ้าน และเลี้ยงลูก ในกรณีที่มีลูก เค้ายินดีให้เราลาออกจากงานมาดูแลลูกอย่างเดียว ถ้าเราอยากทำ( เค้าบอกว่าเราผ่านข้อนี้ แต่เราไม่เคยบอกเค้าว่าอะไรที่เราเรียนมา เราเอาคืนครูไปหมดแล้ว เลขง่ายๆเราก็แทบจะทำไม่ได้แล้ว)
ภาษาอังกฤษของเราก็แค่พอไปวัดไปวาได้ ไม่ได้พูดใช้ศัพท์สวยหรูอะไรมากมาย
เราพยามจะเข้าใจในการกระทำของคนคนหนึ่งว่าเค้าทำอะไร เพราะอะไร สำหรับแฟนเรา เราเข้าใจว่าด้วยสถานะทางสังคมของเค้าเป็นแบบนี้
เค้าก็คงจะต้องคาดหวังคนที่มาอยู่ข้างๆ ให้มีสติปัญญา และความสามารถในระดับเดียวกับเค้า
ในทางกลับกัน ถ้าเราอยู่เมืองไทย เราคงไม่เอาคนอพยพจากประเทศอื่น ทำงานล้างจานหรือเป็นพนักงานเสิร์ฟมาเป็นคู่ชีวิต( อันนี้เราไม่ได้ดูถูกใครนะคะ แต่เราแค่คิดในมุมของเรา)
คำพูดต่างๆที่เค้าพูดบอกเรา มันไม่ใช่ในเชิงดูถูกหรือดูหมิ่นเราเลย แต่เหมือนเป็นเชิงปลุกกระตุ้น ให้เราไปสู่ความสำเร็จ
แต่บางครั้งเราอดน้อยใจไม่ได้ ด้วยตัวเราเองก็น้อยใจตัวเองอยู่แล้วที่อยู่ดีๆต้องมาทำงานระดับล่าง รับใช้คน พูดผิดๆถูกๆ คือมันทำให้เราเกิดภาวะ
low selfesteem จริงๆค่ะ พอเรามาเจอคำพูดบางอย่างของแฟน มันยิ่งทำให้เรารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ คิดตีโพยตีพายไป
เราควรกำจัดความคิดนี้ยังไงดีคะ เราไม่อยากเสียความรักนี้ไป แต่เราก็ไม่อยากเสียความมั่นใจและความเคารพในตัวเองไปเหมือนกัน
เราไม่อยากให้ความรักบังตา ถ้าเค้าเห็นแก่ตัว และไม่เคารพเรา เราก็คงไม่อยากเสียเวลากับความสัมพันธ์ุนี้เหมือนกัน