ขอพื้นที่ระบายค่ะ รู้สึกเครียดเรื่องเงินมากช่วงนี้
พอดีที่บ้านเราช่วงนี้พ่อจิดหนี้นอกระบบเยอะเลย จ่ายดอกเดือนนึง
ประมาณ2-3หมื่นได้ ไม่มีเงินมาคืนเงินต้น เพราะพ่อทำงานแล้วไม่ทำบัญชี
ทำให้เงินไม่รู้ไปลงที่ไหน ทำงานขาดทุนหรือได้กำไรก็ไม่รู้
พ่อไม่มีวินัยในการใช้จ่ายเงิน พอมีเงินปุปจะใช้เลยทันที
คราวนี้เนื่องจากชื่อแม่เป็นเจ้าบ้าน ชื่อติดบูโร ทำให้รีไฟแนน
บ้านไม่ได้แล้ว แม่ตอนแรกตั้งใจจะรีไฟแนนบ้านแล้วเอา
เงินทั้งหมดไปจ่ายหนี้มีที่ทั้งหมด แต่ชื่อแม่ติดบูโรแล้วเลยไม่น่าจะผ่าน
แม่เลยจะมาขอให้เราซื้อบ้านหลังนี้แล้วเอาเงินก้อนไปโปะหนี้
โดยให้บ้านเป็นชื่อเราและให้พี่ชายและพ่อและเราผ่อน
ที่เป็นห่วงคือเราคิดว่าถึงเวลาจริงถ้าพ่อไม่มีจ่าย ภาระ
ก็จะมาลงที่เราถ้าพ่อยังไม่ทำบัญชีให้ดี
และค่าใช้จ่ายของเราตอนนี้ค่อนข้างจะแน่น
เราเพิ่งได้งานที่ใหม่ เงินเดือน60000บาทที่ต่างประเทศ วางแผนอยู่1ปี
หักทุกอย่างค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟ จะเหลือ48000บาท
ใช้จ่ายต่อเดือนน่าจะราวๆ 18000 บาทเหลือ30000บาท
(ใน18000นี้คือไม่รวมของที่อยากได้ส่วนตัว แต่เป็นราคา
ของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน )
ค่าครองชีพบ้านเขาแพง
รายได้ที่ต้องจ่ายทุกเดือนตอนนี้มี ค่าประกัน 5000บาท
ก็จะเหลือเก็บ25000 และถ้าเราต้องมาจ่ายค่าบ้าน
ดูๆแล้วน่าจะเดือนละ 15000-20000 ช่วยกัน3คน
เท่ากับว่าเราจะแทบไม่มีเงินเหลือเก็บเลย
และจริงๆหลังกลับจากต่างประเทศ เราวางแผนว่าเรา
อยากซื้อรถ ตอนนี้ไม่มีรถไปไหนมาไหนลำบากมาก
กลับจากต่างประเทศเราวางแผนเงินเดือนเราไว้
ว่าน่าจะได้ราวๆ55000(อ้างอิงจากตอนแรกที่สัมภาษณ์
งานที่เมืองไทยได้เงินเท่านี้ แต่ปฏิเสธไปเพราะอยากมีประสบการณ์
ทำงานที่ต่างประเทศ)
หักค่าหอพัก ราวๆ6000 (เราไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่)
ค่าโทรศัพท์ 800-1000
ค่าประกัน 5000
ค่าผ่อนรถ(สมมติว่าซื้อ) 10000
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 10000
ค่าผ่อนบ้าน 15000-20000(ช่วยกัน3คน)
ประมาณนี้จะหนักไปไหมคะ รู้สึกว่าเงินเก็บดูน้อยลง
จริงๆตอนแรกถ้าเรารู้ว่าบ้านกำลังมีปัญหาคงไม่เลือก
ไปทำงานต่างประเทศ แต่ตอนนี้ก็ช้าไปแล้ว
อีกแย่างเรื่องบ้านตอนนี้แม่วางแผนว่าขายกลบหนี้
แต่ตอนที่กู้ซื้อบ้านอีกรอบเป็นชื่อเราก็จำเป็นต้องมีเงินก้อน
ซึ่งเราไม่มีเลยค่ะ เครียดมากค่ะ
ขอระบายค่ะ รู้สึกท้อแท้มากเรื่องการใช้เงิน
พอดีที่บ้านเราช่วงนี้พ่อจิดหนี้นอกระบบเยอะเลย จ่ายดอกเดือนนึง
ประมาณ2-3หมื่นได้ ไม่มีเงินมาคืนเงินต้น เพราะพ่อทำงานแล้วไม่ทำบัญชี
ทำให้เงินไม่รู้ไปลงที่ไหน ทำงานขาดทุนหรือได้กำไรก็ไม่รู้
พ่อไม่มีวินัยในการใช้จ่ายเงิน พอมีเงินปุปจะใช้เลยทันที
คราวนี้เนื่องจากชื่อแม่เป็นเจ้าบ้าน ชื่อติดบูโร ทำให้รีไฟแนน
บ้านไม่ได้แล้ว แม่ตอนแรกตั้งใจจะรีไฟแนนบ้านแล้วเอา
เงินทั้งหมดไปจ่ายหนี้มีที่ทั้งหมด แต่ชื่อแม่ติดบูโรแล้วเลยไม่น่าจะผ่าน
แม่เลยจะมาขอให้เราซื้อบ้านหลังนี้แล้วเอาเงินก้อนไปโปะหนี้
โดยให้บ้านเป็นชื่อเราและให้พี่ชายและพ่อและเราผ่อน
ที่เป็นห่วงคือเราคิดว่าถึงเวลาจริงถ้าพ่อไม่มีจ่าย ภาระ
ก็จะมาลงที่เราถ้าพ่อยังไม่ทำบัญชีให้ดี
และค่าใช้จ่ายของเราตอนนี้ค่อนข้างจะแน่น
เราเพิ่งได้งานที่ใหม่ เงินเดือน60000บาทที่ต่างประเทศ วางแผนอยู่1ปี
หักทุกอย่างค่าเช่าค่าน้ำค่าไฟ จะเหลือ48000บาท
ใช้จ่ายต่อเดือนน่าจะราวๆ 18000 บาทเหลือ30000บาท
(ใน18000นี้คือไม่รวมของที่อยากได้ส่วนตัว แต่เป็นราคา
ของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน )
ค่าครองชีพบ้านเขาแพง
รายได้ที่ต้องจ่ายทุกเดือนตอนนี้มี ค่าประกัน 5000บาท
ก็จะเหลือเก็บ25000 และถ้าเราต้องมาจ่ายค่าบ้าน
ดูๆแล้วน่าจะเดือนละ 15000-20000 ช่วยกัน3คน
เท่ากับว่าเราจะแทบไม่มีเงินเหลือเก็บเลย
และจริงๆหลังกลับจากต่างประเทศ เราวางแผนว่าเรา
อยากซื้อรถ ตอนนี้ไม่มีรถไปไหนมาไหนลำบากมาก
กลับจากต่างประเทศเราวางแผนเงินเดือนเราไว้
ว่าน่าจะได้ราวๆ55000(อ้างอิงจากตอนแรกที่สัมภาษณ์
งานที่เมืองไทยได้เงินเท่านี้ แต่ปฏิเสธไปเพราะอยากมีประสบการณ์
ทำงานที่ต่างประเทศ)
หักค่าหอพัก ราวๆ6000 (เราไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่)
ค่าโทรศัพท์ 800-1000
ค่าประกัน 5000
ค่าผ่อนรถ(สมมติว่าซื้อ) 10000
ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 10000
ค่าผ่อนบ้าน 15000-20000(ช่วยกัน3คน)
ประมาณนี้จะหนักไปไหมคะ รู้สึกว่าเงินเก็บดูน้อยลง
จริงๆตอนแรกถ้าเรารู้ว่าบ้านกำลังมีปัญหาคงไม่เลือก
ไปทำงานต่างประเทศ แต่ตอนนี้ก็ช้าไปแล้ว
อีกแย่างเรื่องบ้านตอนนี้แม่วางแผนว่าขายกลบหนี้
แต่ตอนที่กู้ซื้อบ้านอีกรอบเป็นชื่อเราก็จำเป็นต้องมีเงินก้อน
ซึ่งเราไม่มีเลยค่ะ เครียดมากค่ะ