[กระทู้กึ่งระบาย😭]
สวัสดีค่ะเราขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ
คือเราเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับรูมเมทไปบ้างแล้ว
แต่ช่วงหลังๆนี้เขาทำเราอึดอัดใจจนอ่านหนังสือสอบไม่ได้เกรดเทอมที่แล้วของเราก็มีลดไปบ้าง
เพราะไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลยค่ะ คือ เราเนี่ยชอบอยู่เงียบๆ(เรารู้ว่านิสัยแบบนี้ทำให้อยู่กับคนอื่นยาก)
ตอนแรกเราไม่ใช่คนที่ชอบอยู่เงียบๆอะไรหรอกนะ แต่พอเริ่มเรียนมหาลัย เราอยู่หอกับเขา
เขาบอกว่าเขาไม่ชอบเสียงดังเวลาอ่านหนังสือเขาอยากอ่านแบบเงียบๆ เพราะถ้าเสียงดังเขาจะอ่านไม่รู้เรื่อง
แล้วเขาก็บอกว่าถ้าเปิดทีวีก็อยากให้ดูทีวีไม่อยากให้เล่นมือถือไปดูทีวีไป(อธิบายไม่ถูก)เขาบอกว่ามันเปลืองค่าไฟ
เราเลยตัดปัญหาโดยการที่ไม่ดูทีวีเลย ถ้าเราอยากดูหนังเราเลือกที่จะดูย้อนหลังดีกว่า
ตอนแรกเราติดการเปิดเพลงฟังก่อนนอนมากๆ เราถามเขาว่าเปิดได้มั๊ย เขาบอกว่าไม่เปิดจะดีกว่าเพราะเขารำคาญ
เราก็โอเค เราก็ไม่เปิดกว่าเราจะปรับตัวได้ก็เกือบเดือน แต่กลายเป็นว่าเขาเปิดฟังเพลงก่อนนอนเองแล้วเป็นเพลงร็อคเพลงตื๊ดๆด้วยซ้ำ
เราปรับตัวให้เข้ากับเขาทุกอย่างแต่เหมือนเขาจะไม่ปรับตัวเข้าหาเราเลย
เขาบอกเราว่าเราจะทำเสียงดังยังไงก็ได้เพราะเวลาเขาหลับแล้วเขาจะไม่รู้สึกตัวเลยแต่เราไม่เหมือนเขา
เราบอกเขาว่าเวลาเรานอนถ้ามีเสียงดังเราจะนอนไม่หลับ แต่เขาก็ทำเสียงดังตลอด
เวลาเปิด-ปิด ประตู เขาก็เสียงดังปึงปังตลอด ทั้งเปิดลิ้นชัก หรือขยับพัดลมแม้กระทั่งวางของ เขาทำเสียงตึงตังตลอด
ทั้งๆที่เรานี่ทำทุกอย่างเงียบมากเพราะเกรงใจกลัวเขาจะรำคาญ ถ้าทำของร่วงหรืออะไรเราไม่ว่าเพราะไม่ได้ตั้งใจ
แล้วเขามีโต๊ะอ่าหนังสือกับชั้นวางของมาจากบ้านซึ่งเรามีแค่โต๊ะพับตัวเล็กๆ ตอนแรกก็แบ่งชั้นที่หอมีให้
เราขอใช้ 1 ชั้นเต็มเพราะเราไม่มีตู้หรือชั้นใส่ของมาด้วย อีก 2 ชั้นก็วางของที่ใช้ด้วยกัน
ไปๆมาๆ เขาก็วางของลามมาชั้นเรา เราก็เลยจัดชั้นใหม่คือของส่วนรวมกับของเราวางอยู่ชั้นเดียวกัน
ส่วนของเขาก็ใช้ไป 2 ชั้น กระทั่งตู้เสื้อผ้าเราเสื้อผ้าน้อยก็จริงแต่ก็ควรแบ่งให้เท่ากันตอนนี้ ถ้าตู้มี 3 ส่วน เขาก็ใช้ไป 2/3 แล้ว
แล้วเขายังชอบเอาถ้วยชามหรือของๆเขาไปวางบนซิ้ง(?)ล้างจานอีกต่างหาก ซึ่งมันขวางมากๆ
แล้วมาช่วงหลังนี้เราไม่เคยทะเลาะกันแบบเสียงดังหรือขึ้นเสียงอะไรทำนองนี้นะ แต่จะไม่คุยกันไปเอง
ยิ่งช่วงหลังยิ่งไม่คุยกันบ่อยขึ้น คือตอนแรกๆที่อยู่กันเราอยู่กันแบบเงียบๆมากๆเพราะเขาไม่ชอบให้เปิดทีวี
พอมาช่วงนี้เขาเปิดทีวีทิ้งไว้แต่เล่นมือถือ ไม่ดูทีวี แม้กระทั่งอ่านหนังสือเขาก็เปิดทีวีทิ้งไว้
ทำให้เราอ่านหนังสือไม่ได้ จนอ่านหนังสือไม่ทันสอบ แล้วเขายังไปบอกกับเพื่อนคนอื่นว่าเราเปิดเพลงเสียงดังน่ารำคาญ
ทั้งๆที่เราใส่หูฟังตลอด แต่เราเปิดเพลงเวลาอาบน้ำ เราเปิดเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนเริ่มเปิดก่อน
พอเขาไปว่าเราอย่างนั้นเราก็เลยเลิกเปิดเพลงเวลาอาบน้ำ แต่เขายังเปิดอยู่
อย่างตอนเช้าเขาจะตื่น 6 โมง ทุกวัน แต่เราจะตื่นประมาณ 8 โมงเพราะเรามีเรียน 9:30 แทบทุกวัน
เพราะรีบตื่นมาก็ไม่มีอะไรทำ แต่กลายเป็นว่าเราต้องตื่นเช้าพร้อมเขาเพราะเขาทำเสียงดังโครมครามตลอด
แล้วก็เปิดเพลงเสียงดังเวลาอาบน้ำด้วย เวลากลางคืน ตี1-2 ก็คุยโทรศัพท์เสียงดัง
ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินเราก็ไม่ว่า แต่นี่โทรคุยเล่นกันเฉย ไลน์คุยกันก็ได้หรือออกไปคุยตรงระเบียงแล้วปิดประตู
ก็ได้มันก็จะช่วยลดเสียงไประดับนึง แต่นี่เราหลับไปแล้วเราก็ตื่นมากลางดึกเพราะเสียงเขาคุยโทรศัพท์
ยิ่งช่วงนี้ถ้าเรากลับมาบ้านแล้วเราไม่อยากจะกลับไปหอเลย หรือเวลาที่เขากลับบ้านเราจะรู้สึกสบายมากๆ
เอาตรงๆตอนแรกเราไม่ใช่คนที่ชอบบรรยากาศเงียบๆแบบนี้หรอก แต่เป็นเพราะเขาบอกว่าเขาไม่ชอบเสียงดังนู่นนี่
เราก็เลยทำตัวเงียบๆจนเคยชินและชอบอยู่เงียบๆไปแล้ว อย่างถ้าดูทีวีคือแบบดูจริงๆเลยเราก็ไม่ว่าอะไร
แต่นี่เขาไม่ดูเลยแต่เปิดทีวีไว้และยังดูมือถือหรือบางครั้งก็ใส่หูฟังทั้งๆที่เขาเปิดทีวีไว้
เรื่องเปลืองไฟเราไม่ว่าอะไรเลยนะ อย่างกลางคืนเรายอมให้เขาเปิดไฟจนดึกดื่นดีกว่าเขาทำเสียงดังอ่ะ
บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ย้ายห้องคือเราอยากย้ายมากๆคุยกับพ่อ แม่หลายครั้งแล้ว แต่เขาบอกว่าเปลืองตังให้เราทนอยู่ไป
บางคนก็อาจจะคิดว่าทำไมเราไม่บอกเพื่อนตรงๆ คือเราเคยบอกบอกไปแล้ว เขาก็ไม่ปรับตัวล่าสุดเราบอกเรื่องที่เขาเอาโต๊ะมาวางขวาง
เขาก็โกรธเปิดทีวีตอนที่เราอ่านหนังสือประชดเราไปอีกแถมไม่คุยกับเราเป็นอาทิตย์ๆทั้งๆที่เราก็พูดดีๆไม่ได้ขึ้นเสียงเลย
คือเราคิดว่าจะลองคุยกับพ่อ-แม่ เราอีกรอบนึงเพราะการที่เราทนอยู่กับเขามา 2 ปี ทำให้เราสุขภาพจิตเสียมากๆ
กลายเป็นคนอารมณ์ร้อนไปเลยเวลาที่กลับมาอยู่บ้าน
บางคนอาจจะคิดว่าทำไมเช่าแต่ข้อเสียของเพื่อน คืออยากจะบอกว่าเราหาข้อดีของเขาไม่เจอเลย
มีแต่คนบอกว่าเราอยู่กับเขาไม่รอดหรอกแม้กระทั่งเพื่อนกลุ่มเดียวกับเขาตอน ม.ปลาย หรือ ญาติเขาก็บอกเราแบบนี้
ว่าเขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนคนอื่น เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
คือ เราอยากทราบวิธีที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกับเขาต่อไปอีก 2 ถ้า พ่อ-แม่ ไม่ให้เราย้ายห้องค่ะ TT
อึดอัดใจและรำคาญรูมเมทที่อยู่ด้วยมากๆควรทำยังไงดีคะ ?
สวัสดีค่ะเราขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ
คือเราเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับรูมเมทไปบ้างแล้ว
แต่ช่วงหลังๆนี้เขาทำเราอึดอัดใจจนอ่านหนังสือสอบไม่ได้เกรดเทอมที่แล้วของเราก็มีลดไปบ้าง
เพราะไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลยค่ะ คือ เราเนี่ยชอบอยู่เงียบๆ(เรารู้ว่านิสัยแบบนี้ทำให้อยู่กับคนอื่นยาก)
ตอนแรกเราไม่ใช่คนที่ชอบอยู่เงียบๆอะไรหรอกนะ แต่พอเริ่มเรียนมหาลัย เราอยู่หอกับเขา
เขาบอกว่าเขาไม่ชอบเสียงดังเวลาอ่านหนังสือเขาอยากอ่านแบบเงียบๆ เพราะถ้าเสียงดังเขาจะอ่านไม่รู้เรื่อง
แล้วเขาก็บอกว่าถ้าเปิดทีวีก็อยากให้ดูทีวีไม่อยากให้เล่นมือถือไปดูทีวีไป(อธิบายไม่ถูก)เขาบอกว่ามันเปลืองค่าไฟ
เราเลยตัดปัญหาโดยการที่ไม่ดูทีวีเลย ถ้าเราอยากดูหนังเราเลือกที่จะดูย้อนหลังดีกว่า
ตอนแรกเราติดการเปิดเพลงฟังก่อนนอนมากๆ เราถามเขาว่าเปิดได้มั๊ย เขาบอกว่าไม่เปิดจะดีกว่าเพราะเขารำคาญ
เราก็โอเค เราก็ไม่เปิดกว่าเราจะปรับตัวได้ก็เกือบเดือน แต่กลายเป็นว่าเขาเปิดฟังเพลงก่อนนอนเองแล้วเป็นเพลงร็อคเพลงตื๊ดๆด้วยซ้ำ
เราปรับตัวให้เข้ากับเขาทุกอย่างแต่เหมือนเขาจะไม่ปรับตัวเข้าหาเราเลย
เขาบอกเราว่าเราจะทำเสียงดังยังไงก็ได้เพราะเวลาเขาหลับแล้วเขาจะไม่รู้สึกตัวเลยแต่เราไม่เหมือนเขา
เราบอกเขาว่าเวลาเรานอนถ้ามีเสียงดังเราจะนอนไม่หลับ แต่เขาก็ทำเสียงดังตลอด
เวลาเปิด-ปิด ประตู เขาก็เสียงดังปึงปังตลอด ทั้งเปิดลิ้นชัก หรือขยับพัดลมแม้กระทั่งวางของ เขาทำเสียงตึงตังตลอด
ทั้งๆที่เรานี่ทำทุกอย่างเงียบมากเพราะเกรงใจกลัวเขาจะรำคาญ ถ้าทำของร่วงหรืออะไรเราไม่ว่าเพราะไม่ได้ตั้งใจ
แล้วเขามีโต๊ะอ่าหนังสือกับชั้นวางของมาจากบ้านซึ่งเรามีแค่โต๊ะพับตัวเล็กๆ ตอนแรกก็แบ่งชั้นที่หอมีให้
เราขอใช้ 1 ชั้นเต็มเพราะเราไม่มีตู้หรือชั้นใส่ของมาด้วย อีก 2 ชั้นก็วางของที่ใช้ด้วยกัน
ไปๆมาๆ เขาก็วางของลามมาชั้นเรา เราก็เลยจัดชั้นใหม่คือของส่วนรวมกับของเราวางอยู่ชั้นเดียวกัน
ส่วนของเขาก็ใช้ไป 2 ชั้น กระทั่งตู้เสื้อผ้าเราเสื้อผ้าน้อยก็จริงแต่ก็ควรแบ่งให้เท่ากันตอนนี้ ถ้าตู้มี 3 ส่วน เขาก็ใช้ไป 2/3 แล้ว
แล้วเขายังชอบเอาถ้วยชามหรือของๆเขาไปวางบนซิ้ง(?)ล้างจานอีกต่างหาก ซึ่งมันขวางมากๆ
แล้วมาช่วงหลังนี้เราไม่เคยทะเลาะกันแบบเสียงดังหรือขึ้นเสียงอะไรทำนองนี้นะ แต่จะไม่คุยกันไปเอง
ยิ่งช่วงหลังยิ่งไม่คุยกันบ่อยขึ้น คือตอนแรกๆที่อยู่กันเราอยู่กันแบบเงียบๆมากๆเพราะเขาไม่ชอบให้เปิดทีวี
พอมาช่วงนี้เขาเปิดทีวีทิ้งไว้แต่เล่นมือถือ ไม่ดูทีวี แม้กระทั่งอ่านหนังสือเขาก็เปิดทีวีทิ้งไว้
ทำให้เราอ่านหนังสือไม่ได้ จนอ่านหนังสือไม่ทันสอบ แล้วเขายังไปบอกกับเพื่อนคนอื่นว่าเราเปิดเพลงเสียงดังน่ารำคาญ
ทั้งๆที่เราใส่หูฟังตลอด แต่เราเปิดเพลงเวลาอาบน้ำ เราเปิดเพราะเห็นว่าเขาเป็นคนเริ่มเปิดก่อน
พอเขาไปว่าเราอย่างนั้นเราก็เลยเลิกเปิดเพลงเวลาอาบน้ำ แต่เขายังเปิดอยู่
อย่างตอนเช้าเขาจะตื่น 6 โมง ทุกวัน แต่เราจะตื่นประมาณ 8 โมงเพราะเรามีเรียน 9:30 แทบทุกวัน
เพราะรีบตื่นมาก็ไม่มีอะไรทำ แต่กลายเป็นว่าเราต้องตื่นเช้าพร้อมเขาเพราะเขาทำเสียงดังโครมครามตลอด
แล้วก็เปิดเพลงเสียงดังเวลาอาบน้ำด้วย เวลากลางคืน ตี1-2 ก็คุยโทรศัพท์เสียงดัง
ถ้ามีเรื่องฉุกเฉินเราก็ไม่ว่า แต่นี่โทรคุยเล่นกันเฉย ไลน์คุยกันก็ได้หรือออกไปคุยตรงระเบียงแล้วปิดประตู
ก็ได้มันก็จะช่วยลดเสียงไประดับนึง แต่นี่เราหลับไปแล้วเราก็ตื่นมากลางดึกเพราะเสียงเขาคุยโทรศัพท์
ยิ่งช่วงนี้ถ้าเรากลับมาบ้านแล้วเราไม่อยากจะกลับไปหอเลย หรือเวลาที่เขากลับบ้านเราจะรู้สึกสบายมากๆ
เอาตรงๆตอนแรกเราไม่ใช่คนที่ชอบบรรยากาศเงียบๆแบบนี้หรอก แต่เป็นเพราะเขาบอกว่าเขาไม่ชอบเสียงดังนู่นนี่
เราก็เลยทำตัวเงียบๆจนเคยชินและชอบอยู่เงียบๆไปแล้ว อย่างถ้าดูทีวีคือแบบดูจริงๆเลยเราก็ไม่ว่าอะไร
แต่นี่เขาไม่ดูเลยแต่เปิดทีวีไว้และยังดูมือถือหรือบางครั้งก็ใส่หูฟังทั้งๆที่เขาเปิดทีวีไว้
เรื่องเปลืองไฟเราไม่ว่าอะไรเลยนะ อย่างกลางคืนเรายอมให้เขาเปิดไฟจนดึกดื่นดีกว่าเขาทำเสียงดังอ่ะ
บางคนอาจจะคิดว่าทำไมไม่ย้ายห้องคือเราอยากย้ายมากๆคุยกับพ่อ แม่หลายครั้งแล้ว แต่เขาบอกว่าเปลืองตังให้เราทนอยู่ไป
บางคนก็อาจจะคิดว่าทำไมเราไม่บอกเพื่อนตรงๆ คือเราเคยบอกบอกไปแล้ว เขาก็ไม่ปรับตัวล่าสุดเราบอกเรื่องที่เขาเอาโต๊ะมาวางขวาง
เขาก็โกรธเปิดทีวีตอนที่เราอ่านหนังสือประชดเราไปอีกแถมไม่คุยกับเราเป็นอาทิตย์ๆทั้งๆที่เราก็พูดดีๆไม่ได้ขึ้นเสียงเลย
คือเราคิดว่าจะลองคุยกับพ่อ-แม่ เราอีกรอบนึงเพราะการที่เราทนอยู่กับเขามา 2 ปี ทำให้เราสุขภาพจิตเสียมากๆ
กลายเป็นคนอารมณ์ร้อนไปเลยเวลาที่กลับมาอยู่บ้าน
บางคนอาจจะคิดว่าทำไมเช่าแต่ข้อเสียของเพื่อน คืออยากจะบอกว่าเราหาข้อดีของเขาไม่เจอเลย
มีแต่คนบอกว่าเราอยู่กับเขาไม่รอดหรอกแม้กระทั่งเพื่อนกลุ่มเดียวกับเขาตอน ม.ปลาย หรือ ญาติเขาก็บอกเราแบบนี้
ว่าเขาเป็นคนเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนคนอื่น เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่
คือ เราอยากทราบวิธีที่จะทำให้เราอยู่ร่วมกับเขาต่อไปอีก 2 ถ้า พ่อ-แม่ ไม่ให้เราย้ายห้องค่ะ TT