สวัสดีค่ะ สาวๆ ไหนใครมีปัญหาเรื่องริ้วรอย ไม่ว่าจะก่อนวัยอันควรหรือถึงวัยสมควรบ้าง? นอกจากสิว ก็มีเรื่องริ้วรอยนี่แหละที่แก้ยากลำบากเหลือเกิน ถ้ามันมาในช่วงวัยที่เหมาะสมก็พอจะเข้าใจ แต่คุณพี่เล่นมาตอนยังไม่ถึงวัย มันใช่หรอ? จะรีบให้ฉันหน้าแก่ทำไมฮะ! (เอิ่ม มีความเกรี้ยวกราด)
สาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยกวนใจ ส่วนใหญ่ก็คงต้องหาไอเทมที่เค้าว่าช่วยลดเลือนป้องกันริ้วรอยมาใช้กันอยู่บ้างแล้วแหละ ตัวเราเองก็เหมือนกันเป็นคนที่ชอบสรรหาไอเทมใหม่ๆ มาลองใช้ เจอที่โอเคบ้างไม่โอเคบ้างคละกันไป แล้วทุกครั้งที่เสียเงินอะเนอะ มันก็จะมีฟีลแบบว่า เสียเงินไม่ว่าแต่ขอให้มันเป็นผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาได้เถอะ หาไปหามาก็เจอผลิตภัณฑ์ตัวใหม่น่าสนใจ ซึ่งเราได้ลองแล้วรู้สึกว่าโอเค จึงอยากมาแชร์ข้อมูลให้สาวๆ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกกัน
นั่นก็คือ “PhD Age Repair Instantly Everlasting” แบรนด์เวชสําอางที่ได้รับการยอมรับและนําเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งตัวนี้แบรนด์เคลมแรงว่า ตึงกระชับใน 1 นาที เร็วเวอร์!! เหมาะกับผู้มีปัญหาริ้วรอยลึก หรือริ้วรอยที่เห็นชัด จะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในเวลาไม่นาน!! ก็เลยต้องพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยค่ะ
ก่อนไปแกะกล่องเรามาดูส่วนประกอบสำคัญของ PhD Age Repair Instantly Everlasting หลักๆ ก็ประกอบด้วย
1.
Biotox เป็นเพ็พไทด์ที่เลียนแบบการทํางานของพิษงู ซึ่งช่วยในการลดการหดเกร็งกล้ามเนื้อที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย คลายตัว ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ดูตื้นขึ้น จะทำงานคล้ายๆ กับการโบท็อกซ์
2.
Hyaluronic acid ช่วยกระชับตาข่ายผิวกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มอุ้มน้ำ
3.
Niacinamide เสริมการผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ให้ผิวกระจ่างใสเปล่งปลั่ง
PhD Age Repair Instantly Everlasting มาในแพ็คเกจจิ้งกล่องสีขาวทองสะอาดตา เปิดโดยการดึงออกเหมือนลิ้นชัก ด้านในก็จะพบกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 28 ชิ้น
ซูมดูหน้าตาแพ็คเกจครีมใกล้ๆ มาเป็นชิ้นเล็กๆ แบบนี้ชอบนะ จะใช้ก็ค่อยแกะ สะอาดดี
ตัวครีมบรรจุอยู่ในถาดหลุม 1 หลุมใช้ได้เช้า-เย็น (ถ้าริ้วรอยไม่มากก็สามารถแบ่งใช้ได้หลายครั้ง) เพราะฉะนั้นกล่องหนึ่งก็สามารถใช้ได้ประมาณ 1 เดือน ลักษณะของครีมเป็นสีเนื้อ เนื้อครีมลื่น กลิ่นไม่ฉุน
แกะกล่องแล้วมาถึงตอนใช้กันบ้าง สำหรับปัญหาริ้วรอยของ จกขท คือ ร่องแก้มลึก มีริ้วรอยบนหน้าผากนิดหน่อยเวลาที่คิ้วขมวดหรือเลิกคิ้ว แต่หลักๆ คือร่องแก้มนี่แหละที่เห็นชัดมาก ชัดจนทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยเลย ทั้งที่อายุเพิ่งจะพ้นเลขหนึ่งมาแค่ 5-6 ปีเอง (เดี๋ยวก่อนนะ...ก็หลายปีแล้วนะ ฮ่าๆ) ดังนั้นวันนี้ เราขอมารีวิวผลการใช้ในส่วนของริ้วรอยร่องแก้มนะคะ
วิธีการใช้
ช่วงเช้า : ล้างหน้าด้วยโฟมตามปกติ เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นทาครีม PhD Age Repair Instantly Everlasting บางๆ แล้วก็ลงสกินแคร์ และแต่งหน้าตามปกติได้เลย
ช่วงเย็น : สเต็ปเหมือนช่วงเช้า คือล้างหน้าเสร็จก็ทาครีมตรงส่วนที่มีปัญหาริ้วรอยต่างๆ แล้วลงสกินแคร์
เนื่องจากทางแบรนด์เค้าเคลมมาแรงว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายใน 1 นาที จขกท ก็เลยนึกครึ้มลองจับเวลาให้ดูค่ะ 5555
ซ้ายจะเป็นรูปตอนที่ยังไม่ทาครีมนะคะ ส่วนขวาจะเป็นตอนที่ครีมเซ็ตตัว 1 นาทีแล้วแหละ หลังทาก็รู้สึกได้ว่าหน้าชุ่มชื้นขึ้นนะ น่าจะเป็นเพราะตัว Hyaluronic acid ที่ช่วยกระชับตาข่ายผิว กับเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มอุ้มน้ำ
ส่วนในเรื่องของริ้วรอยลึก จขกท เองเป็นคนที่มีร่องแก้มลึกพอสมควร ก็เลยไม่ได้คาดหวังว่าในเวลาแค่ 1 นาที จะทำให้ผิวเรียบเนียนไร้ร่องรอยเหมือนไม่เคยมีมาก่อน แต่พอลองทาครีมบริเวณร่องแก้มผ่านไป 1 นาที รู้สึกได้ว่าผิวมันเหมือนจะฟูๆ ขึ้นมา มองจากรูปอาจจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเท่าไร และจะเห็นว่าทำไมฝั่งที่ทาครีมริ้วรอยชัดก็เป็นเพราะแสงและกระทบกับตัวเนื้อครีม แต่ถ้าทิ้งไว้จนแห้งสนิทจะเห็นชัดค่ะ
รวมๆ คือไม่ได้ทาปุ๊บแล้วริ้วรอยจะหายไปในพริบตา แต่มันจะค่อยๆ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น ซึ่งผลที่ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของริ้วรอยด้วย
ความรู้สึกหลังจากทดลองใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์
หลังจากที่ลองใช้ไปครั้งแรกก็คิดว่าถ้าใช้ติดต่อกันมันน่าจะเห็นผลชัดมากขึ้น จขกท ก็เลยใช้ต่อมาเรื่อยๆ จนครบ 2 สัปดาห์ สิ่งที่ จขกท รู้สึกและสังเกตได้คือริ้วรอยร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวกระชับขึ้น เวลาแต่งหน้าผิวดูเต็ม เรียบเนียนขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเมคอัพตกร่องเลยแหละ และด้วยความที่เนื้อครีมไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว จึงไม่เป็นคราบขาว ทำให้แต่งหน้าทับได้เลย
นอกจากนี้ยังทำให้ผิวชุ่มชื้นนานด้วย อันนี้ชอบนะ เพราะผิวที่ขาดความชุ่มชื้นนี่ล่ะเป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
ส่วนเรื่องความกระจ่างใส รวมๆ ยังเห็นไม่ชัดเจนเท่าไร อาจเพราะเราไม่ได้มีปัญหาผิวหมองคล้ำ (หรือไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ก็ไม่รู้ ฮ่าๆ) แต่โดยรวมถือว่าให้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะริ้วรอยร่องแก้ม นี่คือปัญหาหนักใจสุดสำหรับเราแล้วแหละ เคยคิดจะไปฉีดฟีลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ หรือทำสารพัดวิธีที่เขาว่ามันช่วยแก้ปัญหาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำเพราะกลัวเข็มอ่ะ ก็ได้แต่ทดลองใช้ครีมไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะหยุดที่ตัวนี้แล้ว (งานอวยก็มาจ้า)
มาถึงเรื่องราคากันบ้าง 555 ตัวนี้ราคา 2,490 บาท (หาซื้อได้ที่วัตสันทุกสาขา) อาจจะสูงไปสักหน่อย แต่ถ้าถามถึงความคุ้มค่า จขกท ว่ามันโอเคอยู่นะเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ทั้งความชุ่มชื้น กระชับ ริ้วรอยลดลง ในกล่องมีทั้งหมด 28 ชิ้น กดเครื่องคิดเลขก็ตกชิ้นหนึ่งไม่ถึง 100 บาท
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อสาวๆ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดีๆ มาใช้นะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นตามไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ดูที่เว็บเค้าก็ได้ค่ะ และต้องขอบคุณที่สนใจและเข้ามาอ่านรีวิวของเราด้วยนะคะ
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
www.phdskin.com
[Advertorial]
แกะกล่อง ไอเทมน่าสอยสำหรับคนมีริ้วรอยเห็นชัดและถุงใต้ตา
สาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยกวนใจ ส่วนใหญ่ก็คงต้องหาไอเทมที่เค้าว่าช่วยลดเลือนป้องกันริ้วรอยมาใช้กันอยู่บ้างแล้วแหละ ตัวเราเองก็เหมือนกันเป็นคนที่ชอบสรรหาไอเทมใหม่ๆ มาลองใช้ เจอที่โอเคบ้างไม่โอเคบ้างคละกันไป แล้วทุกครั้งที่เสียเงินอะเนอะ มันก็จะมีฟีลแบบว่า เสียเงินไม่ว่าแต่ขอให้มันเป็นผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาได้เถอะ หาไปหามาก็เจอผลิตภัณฑ์ตัวใหม่น่าสนใจ ซึ่งเราได้ลองแล้วรู้สึกว่าโอเค จึงอยากมาแชร์ข้อมูลให้สาวๆ ที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยได้เก็บไว้เป็นตัวเลือกกัน
นั่นก็คือ “PhD Age Repair Instantly Everlasting” แบรนด์เวชสําอางที่ได้รับการยอมรับและนําเข้าจากประเทศเกาหลี ซึ่งตัวนี้แบรนด์เคลมแรงว่า ตึงกระชับใน 1 นาที เร็วเวอร์!! เหมาะกับผู้มีปัญหาริ้วรอยลึก หรือริ้วรอยที่เห็นชัด จะรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในเวลาไม่นาน!! ก็เลยต้องพิสูจน์ให้เห็นกันไปเลยค่ะ
ก่อนไปแกะกล่องเรามาดูส่วนประกอบสำคัญของ PhD Age Repair Instantly Everlasting หลักๆ ก็ประกอบด้วย
1. Biotox เป็นเพ็พไทด์ที่เลียนแบบการทํางานของพิษงู ซึ่งช่วยในการลดการหดเกร็งกล้ามเนื้อที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ จะช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย คลายตัว ทำให้ริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ดูตื้นขึ้น จะทำงานคล้ายๆ กับการโบท็อกซ์
2. Hyaluronic acid ช่วยกระชับตาข่ายผิวกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มอุ้มน้ำ
3. Niacinamide เสริมการผลัดผิวอย่างอ่อนโยน ให้ผิวกระจ่างใสเปล่งปลั่ง
PhD Age Repair Instantly Everlasting มาในแพ็คเกจจิ้งกล่องสีขาวทองสะอาดตา เปิดโดยการดึงออกเหมือนลิ้นชัก ด้านในก็จะพบกับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 28 ชิ้น
ซูมดูหน้าตาแพ็คเกจครีมใกล้ๆ มาเป็นชิ้นเล็กๆ แบบนี้ชอบนะ จะใช้ก็ค่อยแกะ สะอาดดี
ตัวครีมบรรจุอยู่ในถาดหลุม 1 หลุมใช้ได้เช้า-เย็น (ถ้าริ้วรอยไม่มากก็สามารถแบ่งใช้ได้หลายครั้ง) เพราะฉะนั้นกล่องหนึ่งก็สามารถใช้ได้ประมาณ 1 เดือน ลักษณะของครีมเป็นสีเนื้อ เนื้อครีมลื่น กลิ่นไม่ฉุน
แกะกล่องแล้วมาถึงตอนใช้กันบ้าง สำหรับปัญหาริ้วรอยของ จกขท คือ ร่องแก้มลึก มีริ้วรอยบนหน้าผากนิดหน่อยเวลาที่คิ้วขมวดหรือเลิกคิ้ว แต่หลักๆ คือร่องแก้มนี่แหละที่เห็นชัดมาก ชัดจนทำให้หน้าดูแก่กว่าวัยเลย ทั้งที่อายุเพิ่งจะพ้นเลขหนึ่งมาแค่ 5-6 ปีเอง (เดี๋ยวก่อนนะ...ก็หลายปีแล้วนะ ฮ่าๆ) ดังนั้นวันนี้ เราขอมารีวิวผลการใช้ในส่วนของริ้วรอยร่องแก้มนะคะ
วิธีการใช้
ช่วงเช้า : ล้างหน้าด้วยโฟมตามปกติ เช็ดหน้าให้แห้ง จากนั้นทาครีม PhD Age Repair Instantly Everlasting บางๆ แล้วก็ลงสกินแคร์ และแต่งหน้าตามปกติได้เลย
ช่วงเย็น : สเต็ปเหมือนช่วงเช้า คือล้างหน้าเสร็จก็ทาครีมตรงส่วนที่มีปัญหาริ้วรอยต่างๆ แล้วลงสกินแคร์
เนื่องจากทางแบรนด์เค้าเคลมมาแรงว่าจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงภายใน 1 นาที จขกท ก็เลยนึกครึ้มลองจับเวลาให้ดูค่ะ 5555
ซ้ายจะเป็นรูปตอนที่ยังไม่ทาครีมนะคะ ส่วนขวาจะเป็นตอนที่ครีมเซ็ตตัว 1 นาทีแล้วแหละ หลังทาก็รู้สึกได้ว่าหน้าชุ่มชื้นขึ้นนะ น่าจะเป็นเพราะตัว Hyaluronic acid ที่ช่วยกระชับตาข่ายผิว กับเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มอุ้มน้ำ
ส่วนในเรื่องของริ้วรอยลึก จขกท เองเป็นคนที่มีร่องแก้มลึกพอสมควร ก็เลยไม่ได้คาดหวังว่าในเวลาแค่ 1 นาที จะทำให้ผิวเรียบเนียนไร้ร่องรอยเหมือนไม่เคยมีมาก่อน แต่พอลองทาครีมบริเวณร่องแก้มผ่านไป 1 นาที รู้สึกได้ว่าผิวมันเหมือนจะฟูๆ ขึ้นมา มองจากรูปอาจจะไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเท่าไร และจะเห็นว่าทำไมฝั่งที่ทาครีมริ้วรอยชัดก็เป็นเพราะแสงและกระทบกับตัวเนื้อครีม แต่ถ้าทิ้งไว้จนแห้งสนิทจะเห็นชัดค่ะ
รวมๆ คือไม่ได้ทาปุ๊บแล้วริ้วรอยจะหายไปในพริบตา แต่มันจะค่อยๆ ช่วยเติมเต็มริ้วรอยให้ดูตื้นขึ้น ซึ่งผลที่ได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับขนาดและความลึกของริ้วรอยด้วย
ความรู้สึกหลังจากทดลองใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์
หลังจากที่ลองใช้ไปครั้งแรกก็คิดว่าถ้าใช้ติดต่อกันมันน่าจะเห็นผลชัดมากขึ้น จขกท ก็เลยใช้ต่อมาเรื่อยๆ จนครบ 2 สัปดาห์ สิ่งที่ จขกท รู้สึกและสังเกตได้คือริ้วรอยร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวกระชับขึ้น เวลาแต่งหน้าผิวดูเต็ม เรียบเนียนขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องเมคอัพตกร่องเลยแหละ และด้วยความที่เนื้อครีมไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิว จึงไม่เป็นคราบขาว ทำให้แต่งหน้าทับได้เลย
นอกจากนี้ยังทำให้ผิวชุ่มชื้นนานด้วย อันนี้ชอบนะ เพราะผิวที่ขาดความชุ่มชื้นนี่ล่ะเป็นตัวการทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย
ส่วนเรื่องความกระจ่างใส รวมๆ ยังเห็นไม่ชัดเจนเท่าไร อาจเพราะเราไม่ได้มีปัญหาผิวหมองคล้ำ (หรือไม่ได้โฟกัสเรื่องนี้ก็ไม่รู้ ฮ่าๆ) แต่โดยรวมถือว่าให้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะริ้วรอยร่องแก้ม นี่คือปัญหาหนักใจสุดสำหรับเราแล้วแหละ เคยคิดจะไปฉีดฟีลเลอร์ ฉีดโบท็อกซ์ หรือทำสารพัดวิธีที่เขาว่ามันช่วยแก้ปัญหาได้ แต่สุดท้ายก็ไม่ทำเพราะกลัวเข็มอ่ะ ก็ได้แต่ทดลองใช้ครีมไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะหยุดที่ตัวนี้แล้ว (งานอวยก็มาจ้า)
มาถึงเรื่องราคากันบ้าง 555 ตัวนี้ราคา 2,490 บาท (หาซื้อได้ที่วัตสันทุกสาขา) อาจจะสูงไปสักหน่อย แต่ถ้าถามถึงความคุ้มค่า จขกท ว่ามันโอเคอยู่นะเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้ทั้งความชุ่มชื้น กระชับ ริ้วรอยลดลง ในกล่องมีทั้งหมด 28 ชิ้น กดเครื่องคิดเลขก็ตกชิ้นหนึ่งไม่ถึง 100 บาท
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อสาวๆ ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย และกำลังมองหาผลิตภัณฑ์ดีๆ มาใช้นะคะ ทั้งนี้ทั้งนั้นตามไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นี้ดูที่เว็บเค้าก็ได้ค่ะ และต้องขอบคุณที่สนใจและเข้ามาอ่านรีวิวของเราด้วยนะคะ
คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.phdskin.com
[Advertorial]