Kimi no Suizo wo Tabetai (ตับอ่อนเธอนั้น ขอฉันเถอะนะ..)

Kimi no Suizo wo Tabetai

( I want to eat your pancreas ..)





คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

(เพลงประกอบ Himawari โดย Mr.Children )



ชื่อเรื่อง Kimi no Suizo wo Tabetai

ผู้กำกับการแสดง โช ทสึคิคาวะ

พระเอก (ตอนโต)  : Oguri shun (1982)
พระเอก (ตอนเด็ก) : Takumi Kitamura (1997)
นางเอก               : Minami Hamabe (2000)
เพื่อนนางเอก        : Keiko Kitagawa (1986)

กำหนดวันเข้าฉายในไทย 23 พฤศจิกายน 2560


Kimi no Suizo wo Tabetai เป็นหนังรักที่ให้คุณค่าของการมีชีวิตอยู่ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ได้ดูมา เตรียมตัวเตรียมใจมานานก่อนจะได้ดูจริง ไม่ใช่เพราะกลัวจะร้องไห้หรืออย่างไร แต่กลัวจะไม่อินกับหนังสมคำร่ำลือที่ได้อ่านมา (กลัวว่าคาดหวังเยอะแล้วดูจริงๆจะผิดหวังน่ะค่ะ)


แต่พอได้ดูจริงๆคืออออ หนังมันดีอ่ะ ดีกว่าที่คิดไว้ ประเด็นที่หนังนำเสนอมันกลมกล่อม เป็นหนังที่มียี่ห้อคำโปรยเป็น"หนังรัก" แต่จริงๆกลับผสมผสานระหว่างความรัก,มิตรภาพของเพื่อน,และความหมายของการมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งเอาไว้ได้ดีมากเรื่องหนึ่งทีเดียวค่ะ

ประเด็นของความเจ็บป่วย ความร้ายแรงของโรคที่นางเอกเป็น อย่างฉากที่เราคิดไว้ว่าจะเห็นนางเอกนอนทรมานอยู่บนเตียงนั้นไม่มีเลย เสน่ห์ที่ดึงคนดูให้ดูต่อได้จนจบโดยไม่เบื่อเรื่องการเจ็บป่วยของนางเอกไปเสียก่อน เราคิดว่าคือการที่หนังนำเสนอความเจ็บป่วยออกมาในรูปแบบของ "ความหวัง"ในการอยากมีชีวิตอยู่ของนางเอกแบบคนที่ได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า(ที่ได้เกิดมา)แล้วมากกว่า

เสน่ห์อีกอย่างคือการไล่เรียงไทม์ไลน์เหตุการณ์ระหว่างอดีตและปัจจุบัน แบบไม่งงจนเกินไปนัก (ฉากห้องสมุด ชวนให้นึกถึงหนังรักขึ้นหิ้ง อย่าง Love letter (ชุนจิ อิวาอิ) มากเลยค่ะ) ฉากต้นซากุระบานสะพรั่งก็สวยมาก ดูโรแมนติกมากเลย

บทคำพูดระหว่างนางเอกและพระเอก จดหมายที่นางเอกเขียนถึงพระเอก และเพื่อนสนิท จริงๆข้อความในนั้นเป็นคีย์เวิร์ดของชีวิตคนเราได้หมดเลย มันทำให้เราได้ย้อนกลับมาถามตัวเองดู ว่าเราได้ให้ความหมายกับการมีชีวิตในวันนี้มากพอหรือยัง เราได้บอกรักใครสักคนที่เราอยากบอกรักแล้วหรือยัง ทำให้เราเห็นความสำคัญของคนข้างๆกายเรามากยิ่งขึ้น

และอย่างที่นางเอกได้บอกพระเอกเอาไว้
เพราะชีวิตคือการที่เราต้องมีปฎิสัมพันธ์กับผู้คนอย่ากลัวที่จะเข้าหา อย่ากลัวที่จะรู้สึกรักใครสักคน ออกไปดูโลกและสนุกกับความรู้สึกต่างๆที่เราได้พบและเจอ ดีใจก็หัวเราะ เสียใจก็ร้องไห้ มันแค่นั้นเอง อย่ากลัวความสัมพันธ์กับผู้คน  เพราะการที่เรายังรู้สึก นั่นแปลว่าเรายังมีชีวิตอยู่




ดังนั้นแล้ว...ออกไปใช้ชีวิตให้คุ้มค่า สมกับการที่เรายังมีชีวิตอยู่ในวันนี้กันนะคะ : )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่