[CR] รีวิว "Justice League" : บทยังป่วย แต่บันเทิงสนุกสนานเพลิดเพลินจำเริญใจ ส่วนตัวชอบ เอมมี่ อดัม ออกน้อยแต่ท๊อปฟอร์มสุด

---------------------------------
"Justice League" (7/10)
---------------------------------

สวัสดีครับเพื่อนชาว Pantip ทุกท่านวันนี้เพจหนัง "Movies Feedback" ขอเสนอความเห็นหลังชมภาพยนตร์เรื่อง "Justice League" ทางไปเพจผมครับ -->  https://www.facebook.com/FeedbackMovies

ปล่อยให้ฝั่ง Marvel สร้างหนังรวมฮีโร่นำหน้าไปหลายตอน ก็มาถึงคราวที่ฮีโร่ฝั่ง DC มาแท็กทีมสู้กับเหล่าวายร้ายกันซักทีในภาพยนตร์ “Justice League” โดยหนังมีเส้นเรื่องส่วนใหญ่พูดถึงเหตุการณ์หลังจาก “Batman VS Superman” ทั้งนี้ปัญหาหลักที่ยังคงแก้กันไม่ตกก็คือเรื่องของบทภาพยนตร์ที่แม้หนังจะลงทุนหนักแค่ไหน ฉากต่อสู้จะอลังการดาวล้านดวงมากเท่าไหร่ ก็แทบจะไม่สามารถแทนที่หัวใจหลักของเรื่องอย่างบทภาพยนตร์ลงได้เลย

“Justice Leauge” เริ่มต้นด้วยการอาลัยอาวรกับการจากไปของ Superman ที่โคตรปลอม การตอกย้ำเรื่องความหวังกับการกระทำของฮีโร่ที่ดีแต่พูดลอยๆถึงซูเปอร์แมนอยู่หลายครั้งมันไม่ได้สร้างแรงกระเพื่อมทางอารมณ์ถึงการสูญเสียให้กับผมเลย ซ้ำยังเดาทางได้ว่ายังไงมันก็ต้องกลับมาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ด้านการเปิดตัวอีก 3 ฮีโร่ในทีมที่ใช้วิธีเล่าเรื่องโดยการตัดสลับไป-มา ซึ่งถ้าดูเผลินๆอาจเหมือนการนำเอาฟุตเทจมาเรียงต่อกัน แต่ผมกลับมองว่ามันก็ดูเพลินดีและน่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าการเล่าเรื่องของใครของมันทีละคนที่อาจทำให้เบื่อกันไปก่อนที่จะได้บู๊กันเสียอีก

เมื่อถึงจุดรวมทีมนี่เอง ผมจึงรู้สึกได้ถึงความขลังของ DC ที่พยายามบ่มเพาะความรู้สึกสมจริงของเหล่าฮีโร่มาโดยตลอด การยืนเรียงกันของฮีโร่ฝั่ง DC ผมว่ามันเท่กว่าฝั่ง Marvel อยู่หน่อยนึง เพราะมันให้อารมณ์ที่ดูเรียลกว่าและมีความเป็นการ์ตูนน้อยกว่าทีม Avenger แต่ความสามารถผมมองว่าแทบไม่เอาไหนเลย โดยเฉพาะ Aquaman ที่แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าไม่มีน้ำมาอยู่ในบริเวณนั้นด้วย ด้าน Wonder Woman ยังคงครองเสน่ห์เหลือล้น มีความสง่าและโดดเด่นเสมอแม้ยืนอยู่ในฝูงกองทัพ ส่วน Batman ยังคงเป็นตัวละครที่ผมรำคาญและหมันไส้ที่สุดเหมือนเดิม และสำหรับใครที่ชอบความฮาของ TheFlash อาจจะไม่พอใจถ้าผมจะบอกว่ามุกหรือความโปกฮาของเขาในหนังมันทั้งแป๊กและปลอมมาก ยิ่งดูยิ่งรู้สึกว่าเค้าใช้ความพยายามที่จะฮามากเกินธรรมชาติไป

หนึ่งจุดดีที่สุดของหนัง ผมมองว่าเป็น “เอมมี่ อดัม” ที่ถ่ายทอดบทบาทที่เธอรับผิดชอบได้ตราตรึงทุกวินาทีที่มีบทเธอในหนัง ซึ่งแม้จะออกน้อยแต่มันสร้างพลังความหนักแน่นของความหวังได้ดีกว่าที่พวกฮีโร่เหล่านั้นพยายามพูดถึงเสียอีกอีก จุดดีรองลงมาที่ผมเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ “Justice League” ไม่ถูกด่ามากเกินไปก็คือความบันเทิงของการต่อสู้ที่ดูตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นการรวมตัวของฮีโร่ในอีกรูปแบบหนึ่ง ผมชอบการช่วยกันสู้ของทีมนี้แต่ก็รู้สึกว่าตัวร้ายท่าดีทีเหลวไปหน่อย สมุนของตัวเองก็มีเยอะแต่เมื่อสู้จริงๆจังๆกลับเหลือเพียงหยิบมือ พลังของไอลูกบาศก์สามอันก็เห็นมีแต่แสง รวมกันเป็นก้อนเดียวกันตั้งพักหนึ่งยังไม่เห็นถึงความน่ากลัวอะไรมากเลย

แต่เอาเถอะ 7 คะแนนที่ให้ไปก็เพราะตลอดเวลา 2 ชั่วโมงผมก็ดูได้เพลินๆ อาจมีขัดใจไปบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับนั่งมองนาฬิกาซ้ำเพื่อรอเวลาหนังจบ การรวมตัวเท่จริง ฉาก end credit หลังสุดคือส่วนสำคัญที่ทำให้ผมอยากติดตามหนังตอนต่อๆไปของทีม แม้การรวมตัวในหนังภาคนี้จะมั่วๆไปบ้างก็ตาม

เพื่อนๆสามารถเข้าไปกดไลก์และติดตามการรีวิวหนังกันได้ที่  https://www.facebook.com/FeedbackMovies
ชื่อสินค้า:   Justice League
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่