ภาค 1 วัยเรียน
มนุษย์เราเป็นนักแสวงหา อิสรภาพ ต่างๆ เช่น อิสรภาพจากการดำเนินชีวิต อิสรภาพทางการเงิน อิสรภาพทางความคิด เป็นต้น
ถ้าเราลองสังเกตุชีวิตตัวเราเองดู ผมว่าแต่ละช่วงชีวิตของเรานั้น มีความต้องการในชีวิตแตกต่างกันไป ถ้าเคยได้ฟังพี่แอ๊ด คาราบาวร้องเพลง “ตุ๊กตา” ที่มีเนื้อร้องว่า “หวนคิดคำนึงถึงตอนที่ฉันยังเป็นเด็กๆ ตุ๊กตาที่ตัวเล็กๆ ก็ดูจะมีความหมาย” เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญแต่ละช่วงชีวิต ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่อาจจะมีความคล้ายกัน
ผมเกิดที่บ้านนอกที่ โคราช 2514 เป็นลูกคนสุดท้อง สมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งหมู่บ้านมีโทรทัศน์ขาวตำอยู่ประมาณ 3 เครื่อง
ตอนเป็นเด็กช่วงเรียนประถม ก็อยากจะไปเที่ยวต่างหมู่บ้าน รถจักรยาน/มอเตอร์ไซค์ ก็ไม่มีกับเขา ทำอย่างไรหล่ะ เราก็เห็นรุ่นพี่ประถม 5-6 เขาไปแข่งกีฬาที่ตำบล เราก็อยากไปบ้าง อย่ากระนั้นเลย เราก็สมัครเล่นวอลเลย์บอล เพราะจะเล่นบอลก็ตัวเล็กไปหน่อย อ้าวแล้ววอลเล่ย์บอลก็ต้องการตัวสูงๆด้วยไม่ใช่หรอ เราไม่ใช่ตัวตบ เราเป็นมือเซ้ต ผมก็เลยติดทีมโรงเรียนไปแข่งที่กีฬากลุ่มตำบล แม้ไม่ได้แชมป์ ก็ยังดีได้นั่งรถบรรทุก 6 ล้อไปเที่ยวหมู่บ้านอื่น
พอจบประถม ก็ไปเรียนต่อโรงเรียนประจำตำบลห่างจากบ้านประมาณ 7 กิโล พ่อใจดีถอยจักรยานให้ ถนนก็เป็นดินลูกรัง ลักษณะเป็นเนินขนาดย่อมๆ 4 เนิน เนินสูงแค่ไหน เทอมแรก ม.1 ปั่นขึ้นเนินไม่ได้ต้องจูงขึ้น ส่วนหน้าฝนไม่ต้องพูดถึง ปั่นได้ไม่ถึงกิโล ก็ต้องแคะเอาดินโคลนออก ลำบากน่าดู เลยบอกพ่อว่าจะไปอยู่วัดประจำตำบลไกล้โรงเรียนหน่อย พอ ม.1 เทอม2 เลยย้ายไปอยู่วัด อยู่โรงเรียนมัธยมก็สมัครเล่นวอลเล่ย์บอล เป็นตัวสำรองเพราะโรงเรียนมีตัวเลือกเยอะ
ตอนอยู่ ม.2 มีการเรียนกรีฑา มีการสอบปลายภาคโดยคุณครูบอกให้วิ่งรอบสนามฟุตบอล ถ้าวิ่งได้ 10 รอบจะได้เกรด A เราก็เป็นนักกีฬาอยู่แล้ว ก็วิ่งไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ ยังไม่ถึง 10 รอบก็ทยอยออกจากสนาม เราก็วิ่งไปเรื่อยๆ พอครบ 10 รอบ คุณครูบอกว่าไม่ต้องหยุดให้วิ่งไปเรื่อยๆ ดูซิว่าจะวิ่งถึง 25 รอบหรือเปล่า ผมก็วิ่งไปเรื่อยๆ จนครบ 25 รอบ เลยได้เกรด A สมใจ (25 รอบ x 400 เมตร = 10 กิโลเมตร รู้หลังจากวิ่งจบ คุณครูกำลังหานักวิ่งระยะกลาง เพื่อเป็นตัวแทนของโรงเรียน) จากนั้นมาผมก็ไม่ได้เล่นวอลเล่ย์บอลอีกเลย เพราะคุณครูให้เป็นตัวแทนนักวิ่งระยะกลาง ไปแข่งที่ระดับอำเภอได้มาหลายเหรียญอยู่ทั้งทอง เงิน ทองแดง (วิ่ง 3000 ม., 1500 ม., 4x800)
จบ ม.3 ตามเพื่อนไปเรียน ปวช. ตอนสอบเข้าวิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิได้อันดับ 13 ไม่ได้เรียน รด. เพราะเงินไม่พอค่าชุด เดินหาวัด ได้ไปอยู่วัดปรางกู่ หลวงพ่อคิดค่าดูแลวัดเทอมละ 800 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายพ่อให้เดือนละ 400 บาท วัดห่างจากวิทยาลัยเทคนิคประมาณ 4 กม. ปั่นจักรยานไปเรียนอีกตามเคย วันพระนี้เพื่อนชอบมากเพราะผมจะเอาผลไม้ ของหวานไปแจกเพื่อนๆ ตอนเย็นก็ไปเตะบอลที่สวนสุขภาพ เคยซ้อมบอลกับสุทิน สุรักไชยกิตติด้วย
ปวช ได้เป็นนักวิ่งระยะกลางของวิทยาเทคนิคชัยภูมิ (4x800 ม. 1500 ม. 3000 ม. 5000 ม. 3000 ม. 10000 ม. และเดินทน 3000 ม.) เป็นตัวแทนไปแข่งที่ วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนไปแข่งทักษะการพันมอเตอร์ภาคอีสานที่วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย เริ่มวิ่งมินิมาราธอนหาเงินเรียน ได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่เขาจัดวิ่งมินิมาราธอน
จบ ปวช ได้โควต้าสอบต่อราชมงคลโคราช สอบได้ที่ 8 เรียน ปวส ได้เป็นนักวิ่งระยะกลางของราชมงคลโคราช (4x800 ม. 1500 ม. 3000 ม. 5000 ม. และ 10000 ม.) ปวส1 เป็นตัวแทนไปแข่งที่ ราชมงคลกาฬสินทร์ ปวส2 เป็นตัวแทนไปแข่งที่ ราชมงคลสุรินทร์ ได้เหรียญทองเป็นตัวแทนภาคอีสานไปแข่งราชมงคลเกมส์ที่สนามศุภชลาสัยทั้ง 2 ปี
เรียนจบแล้ว ไม่มีเงินเรียนต่อ งั้นเราไปหางานทำเถอะ
ความคิดแต่ละช่วงชีวิตของผม
มนุษย์เราเป็นนักแสวงหา อิสรภาพ ต่างๆ เช่น อิสรภาพจากการดำเนินชีวิต อิสรภาพทางการเงิน อิสรภาพทางความคิด เป็นต้น
ถ้าเราลองสังเกตุชีวิตตัวเราเองดู ผมว่าแต่ละช่วงชีวิตของเรานั้น มีความต้องการในชีวิตแตกต่างกันไป ถ้าเคยได้ฟังพี่แอ๊ด คาราบาวร้องเพลง “ตุ๊กตา” ที่มีเนื้อร้องว่า “หวนคิดคำนึงถึงตอนที่ฉันยังเป็นเด็กๆ ตุ๊กตาที่ตัวเล็กๆ ก็ดูจะมีความหมาย” เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญแต่ละช่วงชีวิต ของแต่ละคนอาจไม่เหมือนกัน แต่อาจจะมีความคล้ายกัน
ผมเกิดที่บ้านนอกที่ โคราช 2514 เป็นลูกคนสุดท้อง สมัยที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ทั้งหมู่บ้านมีโทรทัศน์ขาวตำอยู่ประมาณ 3 เครื่อง
ตอนเป็นเด็กช่วงเรียนประถม ก็อยากจะไปเที่ยวต่างหมู่บ้าน รถจักรยาน/มอเตอร์ไซค์ ก็ไม่มีกับเขา ทำอย่างไรหล่ะ เราก็เห็นรุ่นพี่ประถม 5-6 เขาไปแข่งกีฬาที่ตำบล เราก็อยากไปบ้าง อย่ากระนั้นเลย เราก็สมัครเล่นวอลเลย์บอล เพราะจะเล่นบอลก็ตัวเล็กไปหน่อย อ้าวแล้ววอลเล่ย์บอลก็ต้องการตัวสูงๆด้วยไม่ใช่หรอ เราไม่ใช่ตัวตบ เราเป็นมือเซ้ต ผมก็เลยติดทีมโรงเรียนไปแข่งที่กีฬากลุ่มตำบล แม้ไม่ได้แชมป์ ก็ยังดีได้นั่งรถบรรทุก 6 ล้อไปเที่ยวหมู่บ้านอื่น
พอจบประถม ก็ไปเรียนต่อโรงเรียนประจำตำบลห่างจากบ้านประมาณ 7 กิโล พ่อใจดีถอยจักรยานให้ ถนนก็เป็นดินลูกรัง ลักษณะเป็นเนินขนาดย่อมๆ 4 เนิน เนินสูงแค่ไหน เทอมแรก ม.1 ปั่นขึ้นเนินไม่ได้ต้องจูงขึ้น ส่วนหน้าฝนไม่ต้องพูดถึง ปั่นได้ไม่ถึงกิโล ก็ต้องแคะเอาดินโคลนออก ลำบากน่าดู เลยบอกพ่อว่าจะไปอยู่วัดประจำตำบลไกล้โรงเรียนหน่อย พอ ม.1 เทอม2 เลยย้ายไปอยู่วัด อยู่โรงเรียนมัธยมก็สมัครเล่นวอลเล่ย์บอล เป็นตัวสำรองเพราะโรงเรียนมีตัวเลือกเยอะ
ตอนอยู่ ม.2 มีการเรียนกรีฑา มีการสอบปลายภาคโดยคุณครูบอกให้วิ่งรอบสนามฟุตบอล ถ้าวิ่งได้ 10 รอบจะได้เกรด A เราก็เป็นนักกีฬาอยู่แล้ว ก็วิ่งไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ ยังไม่ถึง 10 รอบก็ทยอยออกจากสนาม เราก็วิ่งไปเรื่อยๆ พอครบ 10 รอบ คุณครูบอกว่าไม่ต้องหยุดให้วิ่งไปเรื่อยๆ ดูซิว่าจะวิ่งถึง 25 รอบหรือเปล่า ผมก็วิ่งไปเรื่อยๆ จนครบ 25 รอบ เลยได้เกรด A สมใจ (25 รอบ x 400 เมตร = 10 กิโลเมตร รู้หลังจากวิ่งจบ คุณครูกำลังหานักวิ่งระยะกลาง เพื่อเป็นตัวแทนของโรงเรียน) จากนั้นมาผมก็ไม่ได้เล่นวอลเล่ย์บอลอีกเลย เพราะคุณครูให้เป็นตัวแทนนักวิ่งระยะกลาง ไปแข่งที่ระดับอำเภอได้มาหลายเหรียญอยู่ทั้งทอง เงิน ทองแดง (วิ่ง 3000 ม., 1500 ม., 4x800)
จบ ม.3 ตามเพื่อนไปเรียน ปวช. ตอนสอบเข้าวิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิได้อันดับ 13 ไม่ได้เรียน รด. เพราะเงินไม่พอค่าชุด เดินหาวัด ได้ไปอยู่วัดปรางกู่ หลวงพ่อคิดค่าดูแลวัดเทอมละ 800 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายพ่อให้เดือนละ 400 บาท วัดห่างจากวิทยาลัยเทคนิคประมาณ 4 กม. ปั่นจักรยานไปเรียนอีกตามเคย วันพระนี้เพื่อนชอบมากเพราะผมจะเอาผลไม้ ของหวานไปแจกเพื่อนๆ ตอนเย็นก็ไปเตะบอลที่สวนสุขภาพ เคยซ้อมบอลกับสุทิน สุรักไชยกิตติด้วย
ปวช ได้เป็นนักวิ่งระยะกลางของวิทยาเทคนิคชัยภูมิ (4x800 ม. 1500 ม. 3000 ม. 5000 ม. 3000 ม. 10000 ม. และเดินทน 3000 ม.) เป็นตัวแทนไปแข่งที่ วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวแทนไปแข่งทักษะการพันมอเตอร์ภาคอีสานที่วิทยาลัยเทคนิคหนองคาย เริ่มวิ่งมินิมาราธอนหาเงินเรียน ได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ ที่เขาจัดวิ่งมินิมาราธอน
จบ ปวช ได้โควต้าสอบต่อราชมงคลโคราช สอบได้ที่ 8 เรียน ปวส ได้เป็นนักวิ่งระยะกลางของราชมงคลโคราช (4x800 ม. 1500 ม. 3000 ม. 5000 ม. และ 10000 ม.) ปวส1 เป็นตัวแทนไปแข่งที่ ราชมงคลกาฬสินทร์ ปวส2 เป็นตัวแทนไปแข่งที่ ราชมงคลสุรินทร์ ได้เหรียญทองเป็นตัวแทนภาคอีสานไปแข่งราชมงคลเกมส์ที่สนามศุภชลาสัยทั้ง 2 ปี
เรียนจบแล้ว ไม่มีเงินเรียนต่อ งั้นเราไปหางานทำเถอะ