เราเชียร์ให้ทำนะคะ โบท็อกซ์ไม่ได้อันตรายอะไรเลย ดีซะอีกเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเอง เดี๋ยวนี้ผู้ชายก็ทำเยอะแล้วค่ะ เช่น แฟนเราเอง เราเห็นทั้งหน้าผากเอย หางตาเอย ตีนกามาเป็นฝูง ก็เลยชวนไปคลินิกที่เราไปประจำที่ pongsak clinic หมอฉีดดีถูกใจเลยแหละ เพราะเอาเข้าจริง ญ ช ความต้องการในการฉีดโบท็อกซ์ไม่เหมือนกันซะทีเดียว ผู้ชายก็เน้นแค่ลดริ้วรอย ซึ่งหมอก็ฉีดได้ธรรมชาติมาก ไม่ดูแข็งหรือดุ ตรงนี้ต้องอาศัยฝีมือหมอด้วยค่ะ สรุปแฟนเราก็ชอบนะ นางบอกทำแล้วมั่นใจหน้าตัวเองขึ้น กล้ายิ้มขึ้น ดังนั้นไปฉีดเลยค่า

เพื่อนสาวแนะนำได้ถูกวิธีค่ะ โบท็อกซ์ได้ผลค่อนข้างดีกับปัญหานี้ ตอนเราฉีดเห็นผลเรื่องรูขุมขนเล็กลงด้วย หน้ามันน้อยลง ช่วงนั้นเราไม่มีสิวเลย
โบท็อกซ์ตอนนี้มีฉีดหลายคลินิกมาก ที่คนไปฉีดเยอะก็ apex เพราะหมอฉีดเก่ง เราไปฉีดที่นั่นเพราะของเราฉีดปรับโครงหน้า ต้องทำกับหมอที่มีประสบการณ์เท่านั้น ไม่งั้นมีความเสี่ยงหน้าเบี้ยวหรือผลข้างเคียงอื่นๆตามมาค่ะ

Botox ช่วยได้จริงค่ะ ถ้าเริ่มต้นทำใหม่ๆ ก็จะแนะนำให้ทำ Botox เป็นขั้นเริ่มต้นการเข้าสู่วงการศัลยกรรม ถ้ามือใหม่ไม่มีข้อมูล แล้วก็ไม่มีที่ปรึกษาดีๆ เราอยากให้ทำ คลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงไว้ก่อนค่ะ เพื่อลดความเสี่ยงเกิดข้อผิดพลาด

ที่หมอระดับต้นๆ เรื่องนี้ก็มี Hertitude clinic ที่หนึ่งละที่เราเคยไปทำแล้วประทับใจ แต่ถ้าคนใกล้ตัวเคยทำมาบ้าง ก็ลองถามประสบการณ์ดูค่ะ เพราะทุกครั้งที่เราทำก็จะถามจากคนใกล้ตัวด้วยเหมือนกันค่ะ

อยากแชร์ประสบการณ์ ครั้งแรกในชีวิต เพราะเจอมากับตัวเอง  ขนาดศึกษาข้อมูล คิดว่าศึกษาดีแล้ว แต่ก็พลาด
(ฉีดที่คลินิคชื่อดัง พนักงานใส่ชุด สีชมพู)

ตอนนี้เจอเข้ากับตัวเอง พยายามทำให้ botox ที่ฉีดมา บริเวณ หน้าผากสลายไปเร็วๆ ฉีดครั้งแรก ฉีด จุดเดียวบริเวณ หน้าผาก
เมื่อ วันที่ 30 ต.ค 60 นี่จะครบเดือน แล้ว ทำใจ รอเวลาให้มันสลายไป โดย เอาหน้าไปโดนความร้อนบ่อยๆ ปัจจุบันอายุ 35 ฉีดเพราะ อยากลอง  (จำไปตลอดชี่วิต)

1. พนักงานต้องการยอด จึงไม่อธิบายผลที่จะตามมา แต่พนักงานจะบอกว่า เขาก็ฉีดกันทั้งนั้น ไม่อันตรายหรอกค่ะ ฉีดเถอะค่ะ ฉีดแล้วจะติดใจ     ดูสิลูกค้าคนนั้นก็ฉีด หนูก็ฉีด พนักทุกคนฉีดหมดหน้าตึงเปะ พนักงานจะพูดประมาณนี้
2. คุณหมอ ที่ว่า ฝีมือดี ได้รับเกียรติบัตรมากมายสารพัด  ตอนฉีด หมอไม่อธิบายอะไรเลย ไม่เอาขวดให้ดู จะถ่ายรูปก็ไม่ได้ถ่าย พอกำลังจะถ่าย
หมอทำท่าทางเหมือนไม่ให้ถ่าย เดินไปบังกล้องบ้าง ทำท่าทางเหมือนเราเอากล้องขึ้นมาแล้ว เกะกะหมอบ้างหล่ะ
3. ฉีด เข้าไปง่าย แต่เอา ออกยากมาก ตอนนี้ พยายามทำทุกวิธีให้ มันสลาย ออกไปเร็วๆ
4. อันนี้ฉีด บริเวณหน้าผากจุดเดียว บอก เอา ปริมาณน้อยๆ และน้อยที่สุด เพราะ กลัวมาก สรุปตอนฉีด หมอฉีดไป 15 unit ราคา 2,500 บาท
ถ้า 10 unit 1,500 บาท (ปริมาณที่ฉีด หมอจะกำหนดเอง)

5. ผล ที่ได้ หลังจากประมาณ 3 วันที่ฉีด  จะปวดๆตึงๆ บริเวณหน้าผาก และตอนนี้ก็ เป็นอาการ แบบนี้ คือ ยกคิ้วไม่ขึ้น ลืมตาไม่สะดวก เหมือนมีอะไร มากดหัวคิ้วไว้ และหนังตาก็ลงมาปิดลูกตา ทำให้เหมือนคนตาบวม เหมือนนอนไม่ตื่น เคย เลิกตา เลิกคิ้วได้ ตอนนี้เหมือนเอเลี่ยนมาก
พอเลิกตา เลิกคิ้ว มันจะชี้แบบ แปลกๆ เลิกคิ้วไม่สุด ลืมตาไม่เต็มที่ เพราะหนังตาลงมาปิดลูกตา ทำให้ใบหน้าหน้าไม่เหมือนเดิม  ตอนนี้ไปไหนก็ต้องใส่แว่น อำพรางดวงตา แต่ริ้วรอยตรงหน้าผากก็ลดลงนะ แต่มันไม่เป็นธรรมชาติ และต้องแลก กับ ผลเสียที่ได้รับ มันไม่คุ้มเลย ตอนนี้กลุ้มใจมาก ทำใจรอเวลาเท่านั้น

6.พนักงานที่คลินิค ก็บอกว่า เป็น อาการปกติ จะหายไปเอง ภายในเวลา เท่านั้น เท่านี้ บลาๆๆๆๆๆ  เขาไม่ได้มารับผิดชอบหน้าเราหรอกเพราะเราเอาหน้าไปให้เขาฉีดเอง

*** ท้ายนี้ แค่อยากเล่าอาการ ของการฉีด BOTOX ส่วนตัวที่เจอกับตัวเองมา เพราะส่วนใหญ่ที่ฉีดกันก็ สวย แต่ บังเอิญไปฉีดมาแล้วซวย
เพราะแต่ละคน มีโครงหน้าที่ต่างกัน****