ก่อนอื่นขอบอกว่ากระทู้นี้ไม่ได้ดิสเครดิตใครทั้งสิ้น และไม่ใช่หน้าม้าแต่อย่างใดนะจ๊ะ แค่มาบอกบุญต่อสำหรับใครที่มีแพลนจะศัลยกรรมทำจมูกด้วยเทคนิคปรับโครงสร้าง  หรือที่เรียกกันติดปากว่าเทคนิคเกาหลี เพราะตอนนี้มีคุณหมอไทยที่ฝีมือเทียบเท่าหมอเกาหลีแล้วเธอ แถมราคาซอฟต์ เบากว่า และที่สำคัญ ไม่ต้องเสด็จไปถึงเกาหลีก็เป๊ะได้เช่นกัน
จขกท.ชื่อจังโกยนะคะ (ขออนุญาตเพิ่มคำลงท้ายเพื่ออรรถรสเนาะ..) ปัจจุบันทำงานเป็น PR Marketing ที่คลินิกเสริมความงามแห่งหนึ่ง ก็พาดารงดารา พริตตี้ นางแบบ เน็ตไอด้อลมาทำสวยจนรู้สึกว่าเห้ย มันก็คงถึงเวลาที่ฉันก็ควรจะเมคโอเวอร์ตัวเองบ้างแล้วล่ะ ด้วยความที่เราต้องเจอบรรดาเคสหลายๆ คน จริงๆ หน้าตาเราก็สำคัญนะ ให้คำปรึกษาเคส ติดต่อเคส แต่หน้าตาไม่โอ ก็ดูไม่น่าเชื่อถือ ถูกไม่ถูก!?!?


ขอย้อนความหลังซักนิด ด้วยอุปลักษณะนิสัยของเรานั้นเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม MC งานไหนขอให้บอก ไปหมดค่ะ 555555  ช่วงมหาลัยจะบอกว่าผอมมากกกกกกกก ดั้งก็ไม่มี เอาง่ายๆ คือดูโทรม ดูโปกมาก เริ่มมาอ้วนตอนช่วงใกล้จบและทำงานช่วงแรกๆ เป็นงานสายบันเทิงนี่ล่ะค่ะ เบื้องหลัง เขียนข่าวดาราทั่วไป ก่อนที่จะเข้ามาทำที่ปัจจุบัน พีคสุดคือตั้งแต่เข้ามาทำงานปัจจุบัน น้ำหนักพุ่งปรอดแตกแหกโค้งทำลายสถิติตัวเองสุดพลัง จนจำร่างเดิมแทบไม่ได้



ช่วงนี้เองแหละที่รู้สึกว่า ฉันพีค ฉันดูไม่ได้ ฉันต้อง CHANGE เลยตัดสินใจจะทำจมูก ซึ่งการทำจมูกต้องทีเดียวจบ ทีเดียวอยู่ เลยเลือกการทำแบบ Nose Reconstruction หรือเทคนิคเกาหลีนี่แหละค่ะ กับคุณหมอสมบูรณ์ ไหวพริบ ต้องบอกว่าโชคดีมากที่ได้เจอคุณหมอ เพราะคุณหมอเป็นคุณหมอศัลยกรรม และเคยศึกษาด้านการเสริมจมูกเทคนิคนี้จากประเทศเกาหลีมาเต็มๆ 1 ปี ซึ่งบอกเลยว่าตอนนี้คุณหมอในประเทศไทยที่ทำจมูกเทคนิคปรับโครงสร้าง Nose Reconstruction ได้ "จริงๆ แบบไม่ย้อมแมว" มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นนะจ๊ะ
ย้ำอีกครั้งว่าไม่มีการอวยใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเหตุการณ์และประสบการณ์จริงที่ได้พบ ได้เจอะ ได้เจอ มาล้วนๆ ค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำจมูกแบบเทคนิคเกาหลีเนี่ย ในไทยก็มีมานานแล้ว มันแปลกตรงไหน เกินเหตุรึเปล่า ? ต้องขออธิบายก่อนว่าเทคนิคนี้จริงๆ คือการผ่าตัด "เปิด" จมูก และทำการเข้าไปปรับโครงสร้าง "ทั้งหมด" ย้ำว่า "ทั้งหมด" นะจ๊ะ ไม่ใช่แค่การนำกระดูกหลังหูมาต่อปลายจมูก คนละเรื่องกันกันนะคะ // มาต่อ ถึงคุณหมอจะมีชื่อเสียง หรือประวัติสวยหรูยังไง แต่เราก็ต้องมาตัดสินกันตอนปรึกษาอีกรอบ ซึ่งตอนปรึกษาเราเตรียมคำถามไปอย่างดี ยิงแบบช็อตต่อช็อต ไม่หมอก็หนูค่ะ ที่ต้องหงายเงิบกันไปข้าง ซึ่ง งง  เพราะคุณหมอตอบได้ทุกคำถาม อธิบายการผ่าตัดอย่างละเอียด ถามปุ๊ป ตอบปั๊ป ยิ่งกว่าหุ่นยนต์ แถมยังเสนอตัวเลือกให้เราอีกหลายตัวเลือก ตั้งแต่การใช้กระดูกซี่โครงมาช่วยเอย เนื้อตรงก้นกบเอย โอย คือบางส่วนนี่ยังไม่เคยได้ยินเลยค่ะ ว่าเสริมจมูกได้ !!


สรุปการปรึกษาการเสริมจมูกของจังโกยก็จบที่ ใช้ผนังกั้นจมูกยืดปลายให้โด่งพุ่ง+ใช้กระดูกอ่อนหลังหูด้านขวามาช่วยเสริมปลายให้เรียวสวยเชิ่ดแบบทรงฝรั่ง+ใช้กรอเท็กซ์เสริมบริเวณดั้งค่ะ และตัดปีกจมูกเพิ่มให้ได้องศา ครบเครื่องค่ะงานนี้ นัดคิวเสร็จสรรพ แต่จะบอกว่าไม่ได้เคลียร์งานนะคะ หยุดงานแค่เสาร์อาทิตย์ วันจันทร์แสตนบายพร้อมทำงานเลย เพราะเห็นเคสอื่นๆ ที่ทำกับคุณหมอบวมช้ำน้อยมาก
ตัดภาพมาวันผ่าตัดกันเลยค่ะ เตรียมตัวมาดี งดปาร์ตี้ มาเรียบร้อยแล้ว 1 อาทิตย์ และอดอาหารมาตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเรียบร้อยแล้ว ยอมรับด้วยความสัตย์จริงว่า ตื่นเต้นม๊ากกกกกกกกกกก เพราะเป็นการผ่าตัดศัลยกรรมครั้งแรก แถมยังเป็นการผ่าตัดใหญ่ที่ต้องดมยาสลบด้วย พอจัดการเซ็นเอกสารและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วก็ขึ้นไปเตรียมตัว ล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนยูนิฟอร์มค่ะ จุดนี้รู้สึกเลยว่าพอตัวเราเป็นลูกค้าการบริการที่นี่คือ ดีอ่ะ  ที่มีพนักงานคอยดูแลตั้งแต่เหยียบเข้าคลินิก พอทำอะไรเรียบร้อยแล้วก็มานั่งรอพบคุณหมออีก 1 ครั้งเพื่อพูดคุยถึงความต้องการอีกครั้ง วันนี้ก็ปริ๊นรูปแบบมาให้คุณหมอดูอีก 1 รอบ



พอพูดคุยกันเสร็จก็ถึงเวลาที่เราต้องเข้าห้องผ่าตัด พยาบาลล้อมรอบค่ะ อุ่นใจ รู้สึกปลอดภัย แต่มาพีคตรงที่จะต้องเจาะเข็มให้น้ำเกลือ นี่ก็อยากรู้อยากเห็น เหลือบหันไปมอง โอโหเธอ เข็มใหญ่มาก ไม่โอเค กลัวมากกกกก 5555555555555555555 ขวัญหนีดีฝ่อไปเลยค่ะ แต่สุดท้ายก็โดนแทง เอ๊ย โดนเจาะ เจ็บนิดๆ นะ แล้วเอนตัวลงนอน คุณหมอดมยาสลบก็เข้ามาพูดคุยให้ผ่อนคลายและครอบที่ดมยาสลบ(คล้ายๆตัวครอบให้ออกซิเจนแบบในหนังอ่ะค่ะ) หายใจไป 2 ที สลบค่ะเธอ วูบบบบบไปเลย รู้สึกตัวอีกทีตอนโดนหิ้วปีกขึ้นเตียงพักฟื้น ตอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา จะให้พูดตรงๆ แบบไม่ตอ** คือทรมานมากกกกกกกกก อะไรมาแปะที่จมูกไม่รู้ อึดอัดไปหมด หมดเรี่ยวหมดแรงประหนึ่งไปรบมา ลำไยตัวเองมากๆ จำได้ว่าตื่นมาแล้วก็หลับต่อไปประมาณ 2 รอบตื่น พอได้สติเต็มที่แล้วพยาบาลก็จะยกน้ำแดงมาเสิร์ฟค่ะ พอดื่มก็ดีขึ้น แล้วก็นำข้าวต้มมาเสิร์ฟต่อ ณ เวลานั้นคือแด*แบบลืมเจ็บไปเลย หิวมากกกกกกกกก จะบอกว่าประทับใจพยาบาลมากๆ คือนางจะไม่ไปไหนเลยจนกว่าเราจะมีคนมารับ (สรุปใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 3 ชั่วโมง ผ่าตัดเริ่มประมาณ บ่ายโมง เสร็จประมาณ 4 โมง พักฟื้นถึง 6 โมง เพื่อนมารับเดินทางกลับบ้านค่ะ)


การดูแลตัวเองหลังทำ (ขอรวมเป็นพาร์ทเดียว) จะบอกว่าช่วงดูแลตัวเองหลังทำ ไม่ค่อยมีลูกเล่น หรือเทคนิค ทริคอะไรมาก มีประคบเย็นถึงวันที่ 3 แล้วก็ไม่ได้ประคบอะไรละค่ะ เน้นกินยาให้ครบโดส ไม่นอนเยอะ เพราะยิ่งนอนเยอะหน้ายิ่งบวมและรักษาความสะอาดใบหน้าด้วยการใช้คลีนเซอร์เช็ดหน้าบ้าง เพราะหน้ามันแผล่บ (ต้องระวังไม่ให้แผลบริเวณที่เย็บปีกชื้นค่ะ ไม่งั้นแผลไม่สวย) ครบ 1 อาทิตย์จะได้เอาเฝือกจมูกออกค่ะ จมูกจะเริ่มยุบไวหลังจากเอาเฝือกออกแล้ว ช่วงนี้ก็ไม่เน้นส่องกระจกมาก ให้มันยุบไปตามกาลเวลา ซึ่งตัวเราจะต้องเข้าไปเช็คอัพจมูกกับคุณหมออย่างต่อเนื่องนะคะ ถ้าจำไม่ผิดคือ 1 อาทิตย์ (ตัดไหม+นำเฝือกออก) 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี ควรไปให้ครบเพราะหากเกิดอาการไม่พึงประสงค์คุณหมอจะได้ช่วยเหลือได้ทัน



เมื่อก่อนตัวเราก็ไม่เชื่อนะว่าหมอไทยฝีมือดี แต่ตอนนี้เชื่อสนิทใจแล้วค่ะว่าฝีมือหมอไทยไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่แปลกเลยที่มีชาวต่างชาติเข้ามาทำศัลยกรรมที่ไทยเยอะ .. สนทนากันมายาวละเนาะ ก่อนจากกันขอออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่เซลล์ เอเจนซี่ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสีย กับคุณหมอ หรือคลินิกทั้งสิ้นนะคะคุณ ทุกบาททุกสตางค์ จ่ายเต็มจำนวนค่ะ แต่วันนี้อยากให้คนไทยหลายๆ คนที่มีความเชื่อว่าทำจมูกเทคนิคเกาหลีหรือการทำศัลยกรรม ก็ต้องไปทำที่เกาหลีเท่านั้น อยากให้คุณลองเปลี่ยนความคิดค่ะ คุณจะได้เจอคุณภาพที่เท่ากัน ในราคาที่ไม่แพง แถมยังปลอดภัยที่บ้านเราค่ะ  "คุณหมอสมบูรณ์ ไหวพริบ" คุณสามารถเสิร์ชกูเกิ้ลหาประวัติคุณหมอได้ คุณหมอดีๆ ที่ใครหลายคนยังไม่รู้จัก อยากให้คนไทยหันมาบริโภค ใช้บริการคุณหมอไทยกันเยอะๆ ใครอยากได้ข้อมูลหรือต้องอยากเม้ามอย พูดคุยกันได้ค่ะที่[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เฟซบุ๊ก JungKoy NM ขอบคุณทุกคนที่อ่านจบค่ะ