เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองกับลิตเติ้ลมาย เรายังคงอยู่กันที่ทริป Sendai Yamagata ได้เวลามาต่อ Day 3 (2/11/17) หลังจากที่เข้าไปสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม นอนอาบน้ำแร่แช่ออนเซ็นมาแล้ว ก็อยากจะมาเที่ยวในตัวเมืองยามากาตะสักหน่อย การเดินทางในตัวเมืองของที่นี่เราว่าค่อนข้างสะดวกสบาย แม้ว่ายามากาตะเองจะยังเป็นตัวเมืองที่ไม่ใหญ่โตมากก็ตาม แต่ก็มีบัสท่องเที่ยวเข้าถึงสถานที่ต่างๆ และคนที่นี่ยังคงเน้นความเงียบสงบ เรียบง่าย เป็นกันเอง
คลิกดูข้อมูลการเดินทางและแผนที่ Sendai Yamagata ได้ที่รีวิว Day 1 , Day 2
• Day 1 : Sendai Yamagata สองเมืองที่น่าสนใจ ใครไปก็ต้องตกหลุมรัก และการเดินจากโตเกียวโดย ชินคังเซน Shinkansen มาเซ็นได
https://ppantip.com/topic/37062237
• Day 2 : เที่ยว Yamagata ( ยามากาตะ) - Yamadera ดูใบไม้เปลี่ยนสี พาเข้าออนเซ็น ที่ Ginzan onsen (กินซังออนเซ็น)
https://ppantip.com/topic/37074357
รีวิวเที่ยวคันไซ
USJ Osaka เกียวโต นารา 5 วัน 3 คืน เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แบบง่ายๆสบายๆด้วยงบ 14,500 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
https://ppantip.com/topic/36920335
เข้ามาคุยกันได้ที่ facebook :
https://www.facebook.com/jaew.wasabi
บัสท่องเที่ยวในตัวเมืองยามากาตะ
Benichan Bus เป็นบัสพาเที่ยวในเมืองยามากาตะ
ค่าใช้จ่าย 100 Yen / เที่ยว
Benichan Bus (มินิจังบัส )ราคาต่อเที่ยวจะอยู่ที่ 100 Yen จะพาเราเดินทางไปยังเมืองยามากาตะ ค่ะ
การใช้บริการ ขึ้นด้านหลัง รับบัตรที่ตู้ ชำระเงินตอนลง ด้วยเงินสดเท่านั้น ( อย่าลืมหาเหรียญไว้นะคะ ) ถ้าไม่มีสามารถแลกได้ที่ตรงตู้ตอนจ่ายเงิน ระวังอย่าหยอดผิดช่องนะคะ เพราะช่องแลก กับจ่าย อยู่ข้างๆกัน
จุดแรกที่เราจะลงคือ Nanokomachi ( Bus stop 7) เดินเพียงแค่ 3 นาทื เราก็จะถึงย่าน Gotenzeki ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีนะคะ ย่านนี้มีร้านค้าร้านอาหาร ร้านซ็อฟครีมชาเขียวและร้านขายของสไตล์ญี่ปุ่นหลายร้านด้วยกันค่ะ
อากาศดีมากค่ะ เหมาะกับการเดินเที่ยวเป็นที่สุด
เดินดูร้านไปเรื่อย มีร้านขายของเก่าน่ารักมาก ได้กระเป๋าใส่เหรียญลายแมวมาให้เพื่อนรักอีกหนึ่งใบ และมีอีกหนึ่งร้านที่หน้าสนใจมาก คือ ช็อปของ Ken Okuyama นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ซูเปอร์คาร์ระดับโลกอย่าง Enzo Ferrari และออกแบบรถไฟ Shinkansen
เรามาดูงานออกแบบ และ ผลิตภัณฑ์ภายในช็อปของคุณเคน กันบ้างดีกว่านะคะ
ตรงนี้มีข้อมูลและรายระเอียดเกี่ยวกับผลงานของคุณเคน เช่นการออกแบบชินกังเซ็น รถยนต์ ประวัติของคุณเคน
Model ก็มีขายนะคะ แต่ราคานี่ไม่เบาเลยค่ะ
สวยสมค่ำร่ำลือของชายฝีมือทองจริงๆ
รถไฟราคาเบาๆ สำหรับเราพอสัมผัสได้
มาดูตึก Tongari BLDG.
เดินจาก Gotenzeki ใช้เวลา 3 นาที ตึกนี้มีทั้งคาแฟ่ ร้านอาหาร โยคะ ร้านนี้เป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของยามากาตะ ร้านออกแบบให้ดูเป็นแบบสมัย แต่เราไม่ได้เข้ามาทานอะไรนะคะ เพราะเพลนของเรายังอีกยาวไกล เพียงแค่เข้ามาดูสินค้าภายในร้าน ( มีอะไรแปลกๆที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนหลายอย่าง )
ร้องเท้าไม้ไผ่ ต่อให้มีหิมะ ยังไงก็ไม่จม ( อยากลองใช้สักครั้งว่าจะไม่จมจริงรึเปล่า ^_^ )
นี่อาจเป็นที่มาของ Kumamon คริๆ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุมาโมโตะ
Bunshokan (เดิมศาลากลางจังหวัดยามากาตะ)
เราใช้เวลาเดินจาก Tongari Bldg เพียงแค่ 5 นาทีก็ถึง หรือจากสถานี JR Yamagata ให้ต่อรถบัส 100 เยน จากทางออกด้านตะวันออก และลงที่สถานี Hatagomachi-nichome
Bunshokan เดิมก่อนหน้านี้เป็นศาลากลางจังหวัดยามากาตะ แต่ปัจบันที่นี่กลายเป็นตึกแบบยุโรปที่มีบรรยากาศคลาสสิก ของหวัดยามากาตะ อีกอย่างที่นี่ยังมีสวนที่มีสนามหญ้าและดอกไม้สีต่าง เป็นที่ให้นักพักผ่อน
ด้านในตกแต่งด้วยโคมไฟหรูหราสวยงามมากค่ะ
ปัจจุบันที่นี่ยังเป็นที่สำหรับจัดการแต่งงาน มีห้องประชุมแบบหรูหราให้เช่า
ตรงนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ ซามูไร ชื่ิอดัง
ไม่ใช่แฟนซามูไร ไม่รู้จักเหมือนกันค่ะ (^-^ )
จากนั้นเราสองคนก็เดินไปต่อที่สวนโมเมจิค่ะ เนื่องจากเราสองคนมาช้าไปหน่อย ใบไม้แดงเริ่มร่วงใบหมดแล้วก็เลยเป็นที่มาให้แวะมาที่นี่ เพราะเขาบอกว่าที่นี่ยังพอมีสีแดงให้เราดูบ้าง เพราะฉนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ
เราเข้าใจว่าช่วงพีคของที่นี่หน้าจะเร็วกว่าทางฝั่งคันไซประมาน 2 อาทิตย์ แต่ผิดคลาดค่ะ บนเขาร่วงใบหมดแล้ว แอบเศร้านิดๆ เพราะตั้งใจว่าจะมาเก็บภาพสวยๆแบบแดงโพลนบนเขา แต่ก็ยังพอมีหลงเหลือให้เราได้เห็นความสวยงามบ้างตามที่เห็น
สีแดงของใบไม้สะท้อนกับน้ำสวยงามมาก
ได้เห็นสีแดงแล้วค้าาาาา
หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่สวนผลไม้ OShokaju Orchard
https://www.facebook.com/ohsyo/
เราใช้บริการรถแท็กซี่ของยามากาตะ การเดินทางไปที่สวนผลไม้สามารถเดินทางโดยรถบัส แต่ค่อนข้างไกล และอีกอย่างเรามีทำกิจกรรมการเขียนหมากรุกญี่ปุ่นที่ Tendo Tower ก็เลยเลือกใช้แท็กซี่ พาเราเดินทางท่องเที่ยวและไปส่งถึงสนามบินยามากาตะค่ะ
ด้านหน้าจะมีร้าน ขายผลไม้สดๆจากไร่ และผลิตภัณฑ์จากผลไม้ เช่นไวน์องุ่น ชั้นสองมีคาแฟ่ ให้เราได้ทานไอศรีม และ การทำไอศครีมจากผลไม้ด้วยตัวเองด้วยนะคะ
สวนของคุณลุงมีพื้นที่ประมาน 36 ไร่ด้วยกัน ผลไม้ก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างเช่นเชอรี่ ผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่ ลูกพีชในช่วงหน้าร้อน แต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงอย่างตอนนี้ ของขึ้นชื่อก็จะมีแอปเปิ้ลน้ำผึง และ ลูกพลับค่ะ
รถน่ารักมากค่ะ คุณลุงจะพาเราไปยังสวนผลไม้ และบอกวิธีการเก็บผลที่ถูกวิธี
ถึงแล้วค่ะ หลังจากที่คุณลุงอธิบายวิธ๊การเก็บแอปเปิลเสร็จ ทั้งสวนนี้ก็เป็นของเราค่ะ ( 640 เยน เวลา 30 นาที กินได้ไม่อั้น สำหรับไร่แอปเปิ้ล)
ยังพอมีองุ่นหลงเหลือให้เราได้ทานบ้าง ( สำหรับเพื่อนๆที่เคยทานองุ่นของญี่ปุ่น คงจะรู้ว่ามันอร่อยยยมาก แค่ไหน )
อีกฝั่งของสวนองุ่นก็จะมีสวนลูกพลับที่เต็มต้นไปหมด
ครั้งแรกกับการเข้าสวนผลไม้ บอกเลยว่าออกมานี่แทบไม่ต้องทานอาหารเที่ยง
หลังจากนั้นไปต่อกันที่ Tendo Tower
เรามาถึงที่นี่ประมาน 17 .00 น แต่ดูมืดแล้ว จริงๆพูดถึงเรื่องหมากรุกก็ไม่มีความรู้กับเขาเท่าไหร่ และก็เล่นไม่เป็น เพราะเลเวลหัวสมองยังไม่ถึง(^_^) แต่มีความสนใจอยากเรียนรู้มาก กิจกรรมการเขียนหมากรุก ที่นี่จะมีอาจารย์สอนและพาเราเขียน เด็กญี่ปุ่น หรือคนญี่ปุ่นอาจจะได้ทำกิจกรรมการเขียนหมากรุกกันตั้งแต่เด็ก (เราไม่เด็ก แต่ก็ยังได้อยู่นะคะ )
ภายในร้านก็จะมีผลิตภัณฑ์งานฝีมือของชาวยามากาะ และหมากรุกขาย หรือเราสามารถสั่งให้ทางร้านเราเขียนชื่อเราลงในพวงกุญแจหมากหมากรุกได้ด้วยนะคะ ( การจัดทำใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ ต้องจองล่วงหน้า หรือ จัดส่งทางไปรษนีย์)
วันนี้เราเลือกเขียนเองที่ร้านค่ะ เขียนเป็นอังษรคันจิ เสร็จแล้วก็จะออกมาเป็นแบบนี้ แต่อันเล็กนะคะ
อาจารย์ผู้เชียวชาญจะเตรียมอุปกรณ์พร้อมกับแบบที่เราต้องการเขียนไว้ให้เรียบร้อยค่ะ
ออกมาก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ สวยงามมาก ของเรานี้เลือกแบบราคาย่อมเยาว์
[CR] ดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ Yamagata - Yamadera เที่ยว Ginzan onsen (กินซังออนเซ็น) Day 3
เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองกับลิตเติ้ลมาย เรายังคงอยู่กันที่ทริป Sendai Yamagata ได้เวลามาต่อ Day 3 (2/11/17) หลังจากที่เข้าไปสัมผัสธรรมชาติที่สวยงาม นอนอาบน้ำแร่แช่ออนเซ็นมาแล้ว ก็อยากจะมาเที่ยวในตัวเมืองยามากาตะสักหน่อย การเดินทางในตัวเมืองของที่นี่เราว่าค่อนข้างสะดวกสบาย แม้ว่ายามากาตะเองจะยังเป็นตัวเมืองที่ไม่ใหญ่โตมากก็ตาม แต่ก็มีบัสท่องเที่ยวเข้าถึงสถานที่ต่างๆ และคนที่นี่ยังคงเน้นความเงียบสงบ เรียบง่าย เป็นกันเอง
คลิกดูข้อมูลการเดินทางและแผนที่ Sendai Yamagata ได้ที่รีวิว Day 1 , Day 2
• Day 1 : Sendai Yamagata สองเมืองที่น่าสนใจ ใครไปก็ต้องตกหลุมรัก และการเดินจากโตเกียวโดย ชินคังเซน Shinkansen มาเซ็นได
https://ppantip.com/topic/37062237
• Day 2 : เที่ยว Yamagata ( ยามากาตะ) - Yamadera ดูใบไม้เปลี่ยนสี พาเข้าออนเซ็น ที่ Ginzan onsen (กินซังออนเซ็น)
https://ppantip.com/topic/37074357
รีวิวเที่ยวคันไซ
USJ Osaka เกียวโต นารา 5 วัน 3 คืน เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง แบบง่ายๆสบายๆด้วยงบ 14,500 บาท (ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน)
https://ppantip.com/topic/36920335
เข้ามาคุยกันได้ที่ facebook : https://www.facebook.com/jaew.wasabi
บัสท่องเที่ยวในตัวเมืองยามากาตะ
Benichan Bus เป็นบัสพาเที่ยวในเมืองยามากาตะ
ค่าใช้จ่าย 100 Yen / เที่ยว
จุดแรกที่เราจะลงคือ Nanokomachi ( Bus stop 7) เดินเพียงแค่ 3 นาทื เราก็จะถึงย่าน Gotenzeki ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดีนะคะ ย่านนี้มีร้านค้าร้านอาหาร ร้านซ็อฟครีมชาเขียวและร้านขายของสไตล์ญี่ปุ่นหลายร้านด้วยกันค่ะ
เดินดูร้านไปเรื่อย มีร้านขายของเก่าน่ารักมาก ได้กระเป๋าใส่เหรียญลายแมวมาให้เพื่อนรักอีกหนึ่งใบ และมีอีกหนึ่งร้านที่หน้าสนใจมาก คือ ช็อปของ Ken Okuyama นักออกแบบชาวญี่ปุ่นที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ซูเปอร์คาร์ระดับโลกอย่าง Enzo Ferrari และออกแบบรถไฟ Shinkansen
เดินจาก Gotenzeki ใช้เวลา 3 นาที ตึกนี้มีทั้งคาแฟ่ ร้านอาหาร โยคะ ร้านนี้เป็นร้านที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงของยามากาตะ ร้านออกแบบให้ดูเป็นแบบสมัย แต่เราไม่ได้เข้ามาทานอะไรนะคะ เพราะเพลนของเรายังอีกยาวไกล เพียงแค่เข้ามาดูสินค้าภายในร้าน ( มีอะไรแปลกๆที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนหลายอย่าง )
เราใช้เวลาเดินจาก Tongari Bldg เพียงแค่ 5 นาทีก็ถึง หรือจากสถานี JR Yamagata ให้ต่อรถบัส 100 เยน จากทางออกด้านตะวันออก และลงที่สถานี Hatagomachi-nichome
Bunshokan เดิมก่อนหน้านี้เป็นศาลากลางจังหวัดยามากาตะ แต่ปัจบันที่นี่กลายเป็นตึกแบบยุโรปที่มีบรรยากาศคลาสสิก ของหวัดยามากาตะ อีกอย่างที่นี่ยังมีสวนที่มีสนามหญ้าและดอกไม้สีต่าง เป็นที่ให้นักพักผ่อน
จากนั้นเราสองคนก็เดินไปต่อที่สวนโมเมจิค่ะ เนื่องจากเราสองคนมาช้าไปหน่อย ใบไม้แดงเริ่มร่วงใบหมดแล้วก็เลยเป็นที่มาให้แวะมาที่นี่ เพราะเขาบอกว่าที่นี่ยังพอมีสีแดงให้เราดูบ้าง เพราะฉนั้นก็ไปกันเถอะค่ะ
เราเข้าใจว่าช่วงพีคของที่นี่หน้าจะเร็วกว่าทางฝั่งคันไซประมาน 2 อาทิตย์ แต่ผิดคลาดค่ะ บนเขาร่วงใบหมดแล้ว แอบเศร้านิดๆ เพราะตั้งใจว่าจะมาเก็บภาพสวยๆแบบแดงโพลนบนเขา แต่ก็ยังพอมีหลงเหลือให้เราได้เห็นความสวยงามบ้างตามที่เห็น
หลังจากนั้นก็ไปต่อกันที่สวนผลไม้ OShokaju Orchard
https://www.facebook.com/ohsyo/
เราใช้บริการรถแท็กซี่ของยามากาตะ การเดินทางไปที่สวนผลไม้สามารถเดินทางโดยรถบัส แต่ค่อนข้างไกล และอีกอย่างเรามีทำกิจกรรมการเขียนหมากรุกญี่ปุ่นที่ Tendo Tower ก็เลยเลือกใช้แท็กซี่ พาเราเดินทางท่องเที่ยวและไปส่งถึงสนามบินยามากาตะค่ะ
ด้านหน้าจะมีร้าน ขายผลไม้สดๆจากไร่ และผลิตภัณฑ์จากผลไม้ เช่นไวน์องุ่น ชั้นสองมีคาแฟ่ ให้เราได้ทานไอศรีม และ การทำไอศครีมจากผลไม้ด้วยตัวเองด้วยนะคะ
สวนของคุณลุงมีพื้นที่ประมาน 36 ไร่ด้วยกัน ผลไม้ก็เปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างเช่นเชอรี่ ผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่ ลูกพีชในช่วงหน้าร้อน แต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงอย่างตอนนี้ ของขึ้นชื่อก็จะมีแอปเปิ้ลน้ำผึง และ ลูกพลับค่ะ
ถึงแล้วค่ะ หลังจากที่คุณลุงอธิบายวิธ๊การเก็บแอปเปิลเสร็จ ทั้งสวนนี้ก็เป็นของเราค่ะ ( 640 เยน เวลา 30 นาที กินได้ไม่อั้น สำหรับไร่แอปเปิ้ล)
เรามาถึงที่นี่ประมาน 17 .00 น แต่ดูมืดแล้ว จริงๆพูดถึงเรื่องหมากรุกก็ไม่มีความรู้กับเขาเท่าไหร่ และก็เล่นไม่เป็น เพราะเลเวลหัวสมองยังไม่ถึง(^_^) แต่มีความสนใจอยากเรียนรู้มาก กิจกรรมการเขียนหมากรุก ที่นี่จะมีอาจารย์สอนและพาเราเขียน เด็กญี่ปุ่น หรือคนญี่ปุ่นอาจจะได้ทำกิจกรรมการเขียนหมากรุกกันตั้งแต่เด็ก (เราไม่เด็ก แต่ก็ยังได้อยู่นะคะ )
ภายในร้านก็จะมีผลิตภัณฑ์งานฝีมือของชาวยามากาะ และหมากรุกขาย หรือเราสามารถสั่งให้ทางร้านเราเขียนชื่อเราลงในพวงกุญแจหมากหมากรุกได้ด้วยนะคะ ( การจัดทำใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์ ต้องจองล่วงหน้า หรือ จัดส่งทางไปรษนีย์)