ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยโหวตกระทู้แรกอันนี้นะครับ
https://ppantip.com/topic/37096620
ส่วนกระทู้นี้ อยากมาแชร์เรื่องของบิล แชงคลี่ย์ ตามหัวกระทู้ ความจริงแล้วเรื่องนี้เคยแปลจากหนังสือ Bill Shankly : It's more important than that ลงใน pantip หลายปีมาแล้ว และได้เอาไปโพสในเพจ
https://www.facebook.com/Liverpool80s/ ในช่วงวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบการลาออกของ บิล แชงคลี่ย์
แต่ที่ขอเอามาโพสซ้ำที่นี่เพราะหลายคนคงไม่ได้อ่านในครั้งแรกที่โพสเมื่อหลายปีก่อน และในเฟส ผมได้แปลเพิ่มจากหนังสือ Shankly ที่เขียนโดยตัวแชงคลี่ย์เอง ซึ่งมีบทที่เขาวิพากย์วิจารณ์สโมสรที่ปฏิบัติต่อตัวเขาหลังการลาออก ซึ่งน่าสนใจและน่าเศร้ามากครับ
แต่การลงในเฟสก็มีข้อเสียคือ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทำให้เรียกย้อนโพสเก่ามาอ่านยาก จึงขอเอามาโพสที่นี่เผื่อผู้ที่สนใจจะได้อ่าน ใครที่เคยอ่านแล้ว ก็อ่านในส่วนที่เพิ่มมาจากหนังสือ Shankly นะครับ คงไม่ว่ากัน
ขอเกริ่นที่มาที่ไปก่อน
บิล แชงคลี่ย์ สร้างทีมที่ยิ่งใหญ่ให้ลิเวอร์พูล 2 ทีม ทีมแรกประกอบด้วยนักเตะอย่าง โรเจอร์ ฮันท์, เอียน เซนต์จอห์น, รอน ยีตท์ เป็นทีมในยุค 60s ส่วนทีมที่สองประกอบด้วย เควิน คีแกน, เอมลีน ฮิวจ์, ทอมมี่ สมิธ, จอห์น โตแช็ค เป็นทีมในยุค 70s ซึ่งการสร้างทีมที่สองเริ่มผลิดอกออกผลในฤดูกาล 1972/73 ที่คว้าแชมป์ลีก และแชมป์ยูฟ่า คัพ ส่วนฤดูกาลถัดมา 1973/74 ก็คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ
ทีมกำลังรุ่ง แต่จู่ๆ แชงคลี่ย์ ก็ประกาศรีไทร์จากฟุตบอล ทำให้แฟนบอลช็อคและงุนงงกันเป็นแถว
พอแกเกษียณไป สโมสรก็พยายามลดอิทธิพลของเขา เพราะอิทธิพลของแชงคลี่ย์ที่มีต่อนักเตะและแฟนบอลมากมายเหลือเกิน
ดังนั้น เรื่องราวหลังเกษียณของแชงคลี่ย์ จึงน่าสนใจมาก
แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองครับ
แชร์เรื่องเก่า ลิเวอร์พูล : บิล แชงคลี่ย์ การลาออก / ชีวิตหลังเกษียณ / และการเสียชีวิต
ส่วนกระทู้นี้ อยากมาแชร์เรื่องของบิล แชงคลี่ย์ ตามหัวกระทู้ ความจริงแล้วเรื่องนี้เคยแปลจากหนังสือ Bill Shankly : It's more important than that ลงใน pantip หลายปีมาแล้ว และได้เอาไปโพสในเพจ https://www.facebook.com/Liverpool80s/ ในช่วงวันที่ 12 ก.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบการลาออกของ บิล แชงคลี่ย์
แต่ที่ขอเอามาโพสซ้ำที่นี่เพราะหลายคนคงไม่ได้อ่านในครั้งแรกที่โพสเมื่อหลายปีก่อน และในเฟส ผมได้แปลเพิ่มจากหนังสือ Shankly ที่เขียนโดยตัวแชงคลี่ย์เอง ซึ่งมีบทที่เขาวิพากย์วิจารณ์สโมสรที่ปฏิบัติต่อตัวเขาหลังการลาออก ซึ่งน่าสนใจและน่าเศร้ามากครับ
แต่การลงในเฟสก็มีข้อเสียคือ เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทำให้เรียกย้อนโพสเก่ามาอ่านยาก จึงขอเอามาโพสที่นี่เผื่อผู้ที่สนใจจะได้อ่าน ใครที่เคยอ่านแล้ว ก็อ่านในส่วนที่เพิ่มมาจากหนังสือ Shankly นะครับ คงไม่ว่ากัน
ขอเกริ่นที่มาที่ไปก่อน
บิล แชงคลี่ย์ สร้างทีมที่ยิ่งใหญ่ให้ลิเวอร์พูล 2 ทีม ทีมแรกประกอบด้วยนักเตะอย่าง โรเจอร์ ฮันท์, เอียน เซนต์จอห์น, รอน ยีตท์ เป็นทีมในยุค 60s ส่วนทีมที่สองประกอบด้วย เควิน คีแกน, เอมลีน ฮิวจ์, ทอมมี่ สมิธ, จอห์น โตแช็ค เป็นทีมในยุค 70s ซึ่งการสร้างทีมที่สองเริ่มผลิดอกออกผลในฤดูกาล 1972/73 ที่คว้าแชมป์ลีก และแชมป์ยูฟ่า คัพ ส่วนฤดูกาลถัดมา 1973/74 ก็คว้าแชมป์ เอฟเอคัพ
ทีมกำลังรุ่ง แต่จู่ๆ แชงคลี่ย์ ก็ประกาศรีไทร์จากฟุตบอล ทำให้แฟนบอลช็อคและงุนงงกันเป็นแถว
พอแกเกษียณไป สโมสรก็พยายามลดอิทธิพลของเขา เพราะอิทธิพลของแชงคลี่ย์ที่มีต่อนักเตะและแฟนบอลมากมายเหลือเกิน
ดังนั้น เรื่องราวหลังเกษียณของแชงคลี่ย์ จึงน่าสนใจมาก
แต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเองครับ