คิดยังไงกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วก็มาอ่อย สุดท้ายก็หายไป

สวัสดีค่ะนี่เป็นกระทู้แรกของเราสมัครมาเพื่อถามความคิดเห็นนี้ล้วนๆเลยค่ะ
#อาจยาวไปสักนิด(ไม่นิดอะ)อยากให้ลองอ่านดูแล้วบอกเราทีว่าคิดยังไง
#ขออภัยมีคำหยาบคาย
คือเราอายุ19-20ค่ะทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ๆหนึ่งแล้วที่ทำงานของเราส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงค่ะมีพี่ผู้ชายแค่คนเดียว ชื่อพี่ต้อม(นามสมมุติ) พี่เค้าอายุประมาณ25-26ค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนเข้ากับคนค่อนข้างยากค่ะ เงียบเวลาอยู่กับคนแปลกหน้าส่วนพี่เค้าค่อนข้างเป็นผู้ชายอัธยาศัยดีมาก เรียกอีกอย่างคือขี้อ่อยสุดๆ เป็นผู้ชายตาเจ้าชู้แบบเห็นได้ชัดเลยแรกๆนางก็เข้ามาหยอดบ้าง เล่นนั่นเล่นนี่คอยช่วยสอนงานไปหยอดเราไป คือดูก็พอรู้ค่ะว่าเค้าไม่ได้จริงจังกับเราหรอก ช่วงแรกๆเราคิดแบบนั้นเลยทำได้แค่อย่างมากก็ยิ้มๆไป พอผ่านมาสัก3-4วันเค้าก็เริ่มมีถูกตัวบ้างชอบมาจับมือเราเดินมาเบียดเราทำทีเล่นทีจริง จนบางทีก็มีสับสนบ้าง เคยมีครั้งนึงเค้าขับรถมาส่งที่บ้านแต่เราไม่ให้เขาไปส่งที่บ้านส่งแค่หน้าหมู่บ้านพอ แปลกมากค่ะเวลาอยู่กับคนเยอะๆเค้าจะดูเป็นผู้ชายเจ้าชู้ กะล่อน ขี้เล่น ดูไร้สาระ แต่วันนั้นตอนคุยด้วยกันบนรถเค้าดูน่าเชื่อถือ ดูเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งเลยเค้าก็ถามนู้นนี่นั่นเรา. เราก็แค่ตอบๆไป ใครจะไปคิดว่าเค้าจะสังเกตเราถึงขั้นที่แบบรู้นิสัยจริงๆเราว่าจริงกูหนะห้าว คนอื่นเวลาดูกูนะมักจะคิดว่าแบบเฮ้ย!เรียบร้อยอะ. สุภาพอะ เค้าเป็นผู้ชายคนแรกมั้งที่ไม่สนิทแต่ใส่ใจ คือแบบขนาดแฟนเก่าเรายังไม่รู้จักเราดีขนาดนี้เลย มันก็เลยเริ่มหวั่นไหว จนกระทั่งเรามารู้ที่หลังว่า #เค้ามีลูกมีเมียแล้ว.  ช็อคค่ะไม่ต้องถาม ที่สำคัญพี่ที่ทำงานทุกคนรู้จักด้วยแล้วทำไมพวกนางชอบมาแซวเวลาเราอยู่กับพี่ต้อมด้วย สุดท้ายต่อให้ชอบยังไงก็ต้องตัดใจอยู่ดีเราคิดแบบนั้น จนตอนเลิกงานพี่เค้าก็อาสามาส่งปกติเราก็แบบ ถ้ากูไม่ขึ้นคนอื่นเค้าจะจับพิรุธกูป่าวว่ะ? สุดท้ายเลยขึ้นไประหว่างทางกลับบ้านพี่เค้าก็ชวนคุยปกติละเค้าก็ถามว่าเรามีไรอยากถามป่าว?  เราเลยแกล้งถามว่าลูกพี่อายุเท่าไหร่ (กูว่าเค้าจะรู้ว่ากูเป็นใครตอนนี้ละมั้ง) เค้าก็บอกมา ละเค้าก็บอกว่าเค้าเลิกกับแม่เด็กแล้ว ส่วนคนที่คบปัจจุบันเค้าก็ไม่ค่อยคาดหวังอะไร เค้าเคยเจ็บมาเยอะต่อให้เลิกกันไปเค้าก็ไม่ได้เสียใจ เค้าบอกเค้าแทบจะรู้จักผู้หญิงดีเลยแหละอย่างเราเนี่ยแพ้ผู้ชายแบบเค้าใช่มั้ย (เออกูแพ้) แต่เราก็ทำหน้าอึนๆใส่เค้าบอกว่าแบบเราเค้าเอาอยู่ ดูก็รู้ว่าเราทั้งดื้อทั้งชอบเถียง ดุพอตัวแต่เค้ามีวิธีพูดยังไงให้เราทำตามได้(ตอนนั้นคิดแบบเฮ้ย!มั่นหน้ามาก) จะหาว่าเราเข้าข้างตัวเองก็ได้นะแต่เรารู้สึกว่าเค้าอ่อยจริงๆ คือพี่เค้าก็ทำแบบเนื้ยมาประมาณครึ่งเดือนได้มั้ง ทุกครั้งที่ทำงานเค้าก็มีหยอกหลายคนนะแต่ว่าเราเป็นคนเดียวที่โสดไงคนอื่นเค้ามีลูกมีสามีเค้าเป็นเพื่อนกันหยอกกันจดูปกติ เราก็พยายามบอกตัวเองแล้ว ว่าเค้ามีแฟนแล้ว เค้ามีลูกแล้ว เค้ามีสังคมของเค้าที่เราเข้าไปไม่ได้ ไหนจะคนรอบข้าง #สรุปสุดท้ายกูก็พยายามตัดใจ จนล่าสุดเราเผลอทำผิดกฎข้อหนึ่งของงานที่ทำซึ่งเค้าจะออกใบเตือนให้ ซึ่ง1คนจะได้ใบเตือนสูงสุดแค่3ใบคือถ้าครบปุ๊บเค้าจะไล่ออกซึ่งเราโดนมาแล้ว2ใบ (กูว่าถ้าพี่เค้ามาอ่านคงรู้แล้วแหละว่ากูเป็นใครแล้วพูดถึงใคร) ในใจเราอะช่างมันเหอะแค่ยอมออกละกลับไปช่วยงานที่บ้านก็ได้ไม่ได้ลำบากอะไร แต่สุดท้ายพี่เค้ายอมโดนใบเตือนเอง....  จะให้พูดว่าไงดีค่ะ แบบเราอาจมีความสุขกับมุขผู้ชายกะล่อน แต่โคตรแพ้สุภาพบุรุษเลย (ละกูจะตัดใจได้ยังไงละอิสาสสสส) ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีใครช่วยเราเรื่องใบเตือนนะแต่เค้าเป็นคนแรกที่ยอมโดนแทนเรา คือที่ทำงานเก่าก่อนย้ายมาเราก็โดน อันนี้รู้สึกขอบคุณจริงๆคงเป็นครั้งแรกที่เรามองพี่เค้าในมุมอื่นที่ไม่ใช่ผู้ชายกะล่อน ไร้สาระ สุดท้ายเราก็เลยตัดสินใจ............   กูจะอ่อย ในเมื่อเค้าบอกเองว่าเค้าก็ไม่ได้อะไรกับแฟนเค้ามา เราก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าก็มีสิทธิ์(เป็นความคิดที่ทั้งผิดทั้งเลวเลย). วันต่อมาทุกอย่างก็ปกติหมดค่ะพี่เค้าก็มาหยอดแบบปกติที่ไม่ปกติคือเราเนี่ยแหละ เค้าก็แบบมาหยอดปกติแบบ"โหยยพี่ยอมโดนใบเตือนเพื่อเราเลยนะเนี่ย~ ไม่เห็นได้ไรมั้งเลย" เราก็เลยสวนไปแบบ"แล้วพี่อยากได้ไรหละ" ปล.ปกติหยอดกันทุกคำเข้า18+หมดเลย ขนาดติดป้ายยังเถียงเรื่องชอบสอดข้างหน้าหรือสอดข้างหลัง อ่านไม่ผิดหรอกคุยกันแบบนี้จริงๆ แต่ปกติเราไม่โต้กลับ พี่เค้าก็ตอบกลับมาว่า "อยากได้อันนั้นแหละ" เราก็ถาม. "อันไหนหละ" พี่เค้าก็บอก"ก็อันนั้นแหละ". คนที่เข้ามาอ่านคุณไม่ต้องคิดไรมากคิดตามที่เข้าใจเลยตรงๆ กูเป็นคน18+.

#จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้ (นี่พึ่งถึงจุดเปลี่ยนเหรอ?)
ทุกอย่างก็เหมือนจะปกตินะ ที่ไม่ปกติคือพี่เค้าเค้าเริ่มทำตัวห่างจากเราปกติถ้าจะเดินผ่านกันทีต่อให้ทางมันกว้างแค่ไหนเค้าก็จะมาเบียดเราให้ได้ พี่เค้ายังเคยเดินผ่านเราที่ตู้ล็อคเกอร์แบบเข้าใจทางมันแคบแต่คนปกติก็คงแค่เดินผ่านไป แต่พี่เค้าเดินมาละหยุดพูดง่ายๆคือหน้าอกแทบชนกันถ้าเราเงยหน้าขึ้นมาคงจูบกันได้เลย กลับมาเข้าเรื่อง คือวันนั้นเราเข้างานกับพี่เค้า2คนแล้วเหมือนงานมีปัญหาก็เข้าใจว่าเค้าคงเครียดจนไม่มีอารมณ์มาเล่นกับเราหรอกแต่พอจัดการปัญหาเสร็จพี่เค้าก็ยังดูเครียดไม่พูดไม่คุยไม่เล่น เราอึดอัดมากไม่รู้สิไม่ชอบเลย .....  แต่พอพวกพี่คนอื่นเค้ามานางก็กลับมาดี้ด้าแบบเดิมคืออะไร?  หรือเหตุผลจริงๆที่ทำให้เค้าเงียบบคือเราวะ  ที่เรารู้สึกหงุดหงิดก็คือปกตินางไม่เคยคุยเรื่องแฟนนางในที่ทำงานเลยแต่วันนี้เค้าพูดเรื่องแฟนเค้า ดูมีความสุขมากเลย ทำไมหงุดหงิดว่ะ เราเป็นคนติดเพื่อนก็เลยพยายามทำตัวยุ่งๆแชทกับเพื่อนไป (ไม่มีไรหรอกกูขี้เกียจฟังมันพูดเรื่องแฟนมัน) ละพี่เค้าก็ถามไหนบอกไม่มีแฟนนิเห็นแชทตลอดเลย กูไปแชทให้เห็นตอนไหนวะ เราก็บอกไปว่าเพื่อน ประโยคแรกที่คุยกับเราหลังจากมันตึงมาทั้งวัน แล้วก็ไม่มีไรเลย...
ช่วงนี้ยังมีหยอดๆบ้างแต่น้อย จนล่าสุดที่นางขับรถไปส่งเราที่เดิม ตอนนั้นจำไม่ได้เลยว่าคุยไรกันมันรู้สึกว่านี่คงเป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะให้พี่เค้ามาส่งละ แล้ววันต่อมาพี่เค้าก็ได้หยุดงาน2วัน เราคิดว่าแค่ไม่เห็นหน้าพี่เค้า2วันก็คงพอที่จะตัดใจละ เราเป็นคนลืมคนง่าย... จริงๆนะ 😐😐
ไม่ใช่เลยพี่ที่ทำงานเราคอลไปหาแฟนพี่ต้อมแล้วคือเราเห็นด้วยเค้าไปเที่ยวแบบครอบครัวมา เค้าดูมีความสุขมากเลย ต่อให้เค้าบอกว่าเหนื่อยแต่เค้าก็ยอมขับรถไปให้แฟนเค้า ไม่รู้สิจากที่พยายามอารมณ์ดีมาทั้งวัน เห็นแค่นั้นเรารู้สึกเฟลทั้งวันเลย เออรู้ตัวแล้วแหละว่าชอบเค้าจริงจังแล้ว
แต่แค่คิดว่าขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆพี่เค้าเราก็น่าจะโอเคแล้ว ไม่ต้องหยอดก็ได้  ประมาณ2วันมั้งที่ทำงานด้วยกันแบบตึงๆอะโคตรอึดอัดโคตรเกลียด แต่ก็ดีอย่างหนึ่ง ตอนนั้นเรารู้สึกจริงๆนะว่าเราไม่แคร์พี่เค้าปกติเวลาอยู่ใกล้เราจะระแวงมือเค้าตลอด มือมันไวเดะเอวเดะขามือมันโดนหมด แต่กลายเป็นว่าเรายืนข้างเค้าแทบสิงกันแต่ก็ไม่รู้สึกอะไรเลย จนกระทั่งแบบวันหนึ่งกำลังจะเลิกงานพี่เค้าก็คุยกับพวกพี่ผู้หญิงคนอื่นปกติ คือกูก็นั่งอยู่ตรงนั้นแหละ เค้าก็พูดเรื่องเรื่อยเปื่อย แล้วเค้าก็พูดถึงสเปกผู้หญิงที่เค้าชอบเค้าชอบผู้หญิงตัวเล็กมันอุ้มง่าย แต่แฟนมันตัวใหญ่ ไม่ใช่อ้วนนะ เราก็ไม่ได้ตัวเล็กมากแต่ก็เล็กกว่ามันเล็กกว่าคนในที่ทำงานอะ ตอนนั้นมือแชทกับเพื่อนอยู่แต่หูกูฟังไง แล้วมีพี่ผญคนหนึ่งก็พูดขึ้น "ถ้าพูดแบบนี้บอกชื่อมาเหอะ" ปล.ตอนแรกพี่ผญ.คนนี้ก็ชอบแซวเรา เราพยายามบอกตัวเองไว้ไม่ใช่กูหรอกๆๆๆๆๆๆๆๆ คนกำลังตัดใจอย่าพูดอะไรที่คล้ายๆอ่อยดิ วันนั้นก่อนส่งงานเราทำงานพลาดอีกแล้ว ในใจก็คิดโดนใบเตือนอีกใบก็ช่างยิ้มละ แต่พี่ต้อมเค้าก็พูดขึ้นมาว่าออกใบเตือนให้เค้าหน่อยเค้าจะรับผิดแทนเราเอง ตอนนั้นเราอยู่ใกล้แต่เราไม่พูดไร ไม่ขอบคุณ ไม่ขอร้อง ไม่รู้จริงๆจะเอาไงกับตัวเองพอจะตัดใจละเค้าก็มาดีใส่ แต่เกือบจะดีละ ถ้าไม่ติดที่พี่ผญเค้าบอกว่า พี่ต้อมเคยยอมโดนใบเตือนแทนคนอื่นมาแล้ว สรุปคือกูไม่ใช่คนแรก........  ถ้ารู้แต่แรกกูคงไม่ต้องมาเครียดแบบนี้หรอก อ้อลืมบอกไปหลังจากที่เค้าไปส่งเราครั้งล่าสุดแล้วเค้าก็ไม่เคยมาส่งเราอีกเลย
ที่หนักสุดคงเป็นวันนี้ คือเราไม่ได้เข้างานพร้อมพี่เค้าแต่เค้าต้องมาต่องานจากเรา เอาตรงๆวันนี้เรายิ้มทั้งวันเลยแค่คิดว่าจะเจอหน้าเค้า คือกูแค่อยากเจอหน้าเฉยๆ แต่พอเค้ามาทำงานสภาพนี่แบบแฮงค์สุดๆ แต่I don't care  แค่อยากเห็นหน้าก็แค่นั้น แต่จู่ๆอารมณ์กูนี่ดิ่งเลย พวกพี่เค้าพูดเรื่องอยากไปกินเลี้ยงกัน แต่ให้ชวนแฟนพี่ต้อมไปด้วยแค่ได้ยินชื่อแฟนพี่เค้ากูไม่คิดเลยว่าไอ่อารมณ์มาทั้งวันคือหายหมด ที่สำคัญยืนกันอยู่4คนพี่ผญ2คนก็คุยกับเราแต่พี่ต้อมเลือกที่จะพูดข้ามเราไปเลย แถมโทนเสียงที่ใช้คุยกับเราก็เปลี่ยนไป มันดูเหมือนคนคุยงานปกติที่ไม่ใช่เพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จักเลย โคตรห่างเหิน
อึดอัด ...... สรุปง่ายๆคิดว่าอะไรที่ทำให้พี่เค้าเปลี่ยนไปได้ง่ายขนาดนั้น เราพยายามลองหาเหตุผลดูแล้วก็ไม่รู้เหมือนกันทำไมเขาถึงตีห่างเราขนาดนี้
ปล.ขอ How toตัดใจยังไงให้ขาดด้วย. ขอบคุณมากนะสำหรับใครที่เข้ามาอ่านจนจบ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่