เราเป็นคนที่คิดมากมาตั้งเเต่เด็กๆเเล้ว เพราะตอนเด็กๆนั้นถือได้ว่าเจอประสบการณ์ชีวิตที่เกินกว่าเด็กตัวน้อยๆจะรับไหว คือ พ่อเเม่ทะเลาะกัน คุณพ่อป่วยหนักจนเสียชีวิต ธุรกิจทางบ้านล่มละลาย เจอปัญหามรสุมชีวิตมานับไม่ถ้วนทั้งเรื่องใหญ่เเละเรื่องเล็ก พอโตมาเริ่มเป็นคนที่ขี้ระเเวง เริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ชอบเม่อลอยจิตใจไม่อยู่กับตัว ชอบแอบไปร้องไห้คนเดียวบาง เวลาคุณเเม่เจ็บป่วยจะชอบคิดไปทั่วว่าเดียวเเม่ตัวจะเป็นโรคเองจะเป็นอันนู้นอันนี้ เพราะเรากลัวจะเสียเเม่ไปอีกคน เพราะการที่เราเสียพ่อไปก็มากพอเเล้ว เริ่มเป็นคนเก็บกดชอบอยู่คนเดียว จนสุดท้ายเเม่เห็นสภาพเเล้วทนไม่ได้เลยพาไปหาหมอจิตเวร ผลที่ออกมาเป็นโรคซึมเศร้า เรารักษามานานพอสมควรเเต่อาการก็ขึ้นๆลงๆ จนประมาณสามปีก่อนอาการเริ่มดีขึ้นหมอบอกว่าไม่จำเป็นต้องกินยาแล้วก็ได้ พอขึ้น ม.สี่ ตอนเเรกนึกว่าเพื่อนจะดีกลับตรงกันข้าม เพราะเพื่อนในห้องกลับเเตกเเยกกันเอง ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ตีกันมาเรื่อยๆประคองมาเรื่อยจน ตอนนี้อยู่ ม.หก เเล้วก็ยังไม่เลิกทะเลาะกัน เเขวะกันไปเเขวะกันมาจนบางทีคนที่อยู่ตรงกลางก็อึดอัด ไม่รู้จะเข้าข้างไหนดีเพราะทุกคนต่างก็เป็นเพื่อนทั้งนั้น พอเราห้ามไม่ให้ตบกันด่าเราว่าโลกสวย จนเราเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไงให้เพื่อนกลับมารักกันเหมือนเดิม จนเก็บเอามาเครียดกับตัวเองจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย จนดูเหมือนว่าจะกลับมาเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนเดิม ซึ่งไหนจะปัญหาทางบ้านอีก ปัญหาเรื่องสุขภาพของคุณเเม่ ปัญหาเรื่องหนี้สินเรื่องเงิน เเล้วก็ปัญหาสุขภาพตัวเอง
คือเราควรจะทำอย่างไงดี ทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยมันก็อยู๋ห้องเดียวกัน เรื่องที่บ้านมีคนบอกว่าไม่ต้องสนใจหรอกตัวเองมีหน้าที่เรียนก็เรียนไป เเต่เอาเข้าความเป็นจริงมันทำไม่ได้หรอกที่จะไม่สนใจอะไรเลย เราควรทำอย่างไงดี.......
เป็นคนที่คิดมากเเล้วก็เครียดบ่อย ทำอย่างไงดีค่ะ
คือเราควรจะทำอย่างไงดี ทำเป็นหูทวนลมไม่สนใจก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยมันก็อยู๋ห้องเดียวกัน เรื่องที่บ้านมีคนบอกว่าไม่ต้องสนใจหรอกตัวเองมีหน้าที่เรียนก็เรียนไป เเต่เอาเข้าความเป็นจริงมันทำไม่ได้หรอกที่จะไม่สนใจอะไรเลย เราควรทำอย่างไงดี.......