ผม และกรรมของเขา

กระทู้สนทนา
เรื่องราวของผม นี้ คุณจะคิดว่าเป็นนิยายเสียก็ได้ แต่เรื่องที่เล่าให้คุณอ่านนี้ ผมแลกมันมาด้วยชีวิตของผม หลายต่อหลายครั้งที่ผมต้องประสบกับอันตราย จากสิ่งที่มองไม่เห็น แบบสะบักสะบอม กว่าจะผ่านมาได้แต่ละอย่าง แต่ละสิ่ง มันยากเย็นเหลือเกินครับ

ผมเขียนให้คนอ่านไม่เก่งเลยครับ และก็พูดให้คนเข้าใจ ก็ไม่เก่งเหมือนกัน (555555555555) ฉะนั้นถ้าคุณอ่านแล้วรู้สึกงง ให้อภัยผมด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าพวกคุณเป็นคนที่มีความสามารถที่จะเข้าใจในสิ่งที่ผมจะเขียนนี้ได้โดยไม่ยาก

เรื่องราวของผม มันคงคล้ายๆกับ ละครในโทรทัศน์อยู่เหมือนกันครับ แต่ต่างจาก มีคนรุ้เรื่องของผมน้อยมาก ที่ผมเอามาเล่านี้ เพราะผมคิดว่าอีกไม่นานนัก ผมก็คงจะตายลงไป เรื่องราวของผมนี้ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อคนบางกลุ่ม ไม่มากก็น้อย ถึงน้อยแต่มีคนนำไปปฏิบัติบ้าง ก็คงจะเป็นบุญกุศลติดตัวผมไปทุกภพทุกชาติ

ผมเป็นคนนึงนะครับ ที่อยู่ใกล้ใคร มักจะได้ยินความคิดของคนอื่น ความสามารถแบบนี้ คนที่มี(เกือบจริง) เขาก็เอาไปประกอบอาชีพได้เงินหลายเลยนะคับ พวกร่างทรงองค์เทพเปิดสำนัก ตำหนักกันใหญ่โตสบายๆ แต่สำหรับผม ผมคิดว่า มันคือดาบแสนคมค่อยทิ่มแทงหัวใจของผมอยู่ตลอดเวลา ดาบอันคมกริบที่สร้างบาดแผลให้ชีวิตผมนับไม่ถ้วน จนผมคิดว่า พื้นที่จิตใจของผม คงไม่ค่อยมีพื้นที่ ที่ปราศจากแผลเท่าไรนัก และแผลในหัวใจนี่ มันก็รักษากันยากเสียด้วยซิ

ชีวิตผม ขอเริ่มต้นเล่าให้คุณฟังด้วยเรื่อง ร่างทรงองค์เทพ ก่อนนะครับ ผมเนี่ยเป็นหนุ่มหน้าตาดี (เหมือนหลายปีมาแล้ว5555555) ไอ้ความสามารถอะไรแบบนี้ มันเริ่มมาเมื่อตอนไหน ผมก็จำไม่ได้ครับ ผมบอกคุณได้แต่เพียงว่า ตอนเด็กๆ ผมมักจะฝันว่าออกจากร่างไปผจญภัยเสมอ แต่นั่นก็ไม่ค่อยสนุกนักหรอกครับ เอาเรื่องร่างทรงองค์เทพดีกว่า ผมเริ่มด้วยการนอนฝัน ว่ามีผีแขกมาวิ่งไล่ตาม ในฝันยายของผมที่เสียไปแล้ว มาช่วยผมให้ผมหนีรอด จากเงื้อมมือของผีแขกเหล่านั้น จนตื่นขึ้นมา มันเหมือนจริงเสียจน ผมสังเกตุเห็นรอยแดงทีแขนของผม ซึ่งเป็นรอยที่ผมจำได้ว่า ผีแขกนั้นมันจับตัวผมได้ แล้วยายมาช่วยผมให้หลุดจากการจับกุม รอยนิ้วยังอยู่ครบครับ พอเป็นแบบนี้ ผมที่ไม่ค่อยจะกล้าเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ใครฟัง ก็เริ่มปรึกษาคนใกล้ตัว อย่างเพื่อนที่หอ รุ้จักกันโดยที่ ผมไปนั่งปรึกษาหมอดูที่เชื่อว่ามีญาณขององค์เทพ (หมอดูเขาเชื่อครับ ผมก็ว่าลองเสียหน่อย) พอผมนั่งลงที่เก้าอี้ หมอดูก็มีอาการแปลกๆ คือ เสียงเปลี่ยน ร้องไห้ ตัวสั่น หมอดูเป็นป้าผอมๆ แก่ๆ แกเป็นหมอดูไพ่ยิปซี ที่เปิดร้านใต้หอพักที่ผมเช่าอยุ่ แล้วแกก็เริ่มทักผม ว่า มีองค์ คำว่ามีองค์เนี่ย ทำให้ผม งงๆ แต่ก็ฟังๆไป แกว่า ผมมีเคราะห์ ชีวิตช่วงนี้ จะเกิดความหายนะ (เอาล่ะซิครับ) มาแล้ว หายะ นะ  ผมมีองค์เทพคุ้มครองแต่ตกอยู่ในช่วงของวาระกรรมเข้าแทรก ป้าหมอก็ดูไป ผมที่เริ่มจ้องหน้า ป้าหมอไปเรื่อยๆ ก็เริ่มทักหมอขึ้นมาบ้าง อย่างเช่น ช่วงนี้ หาเงินใช้หนี้เขาทันรึปล่าว?ป้า เขามาทวงแล้วนะ หรือ อาการเจ็บหลังด้านตรงนั้น ตรงนี้ พอมีมั้ย? ประโยคเด็ดที่ทำให้ป้าหมออึ้งก็คือ ป้าคิดว่า การที่ป้าอยากจะเอาชนะหมอดูคนอื่น โดยการไปหาอาจารย์มาปล่อยผีใส่เขา ป้ามีคุณธรรมงั้นเหรอ? เงียบครับ ....55555555555555555 ทั้งสำนัก เงียบประหนึ่งเป่าสาก

ผมที่นั่งอยู่ ก็ไม่รู้อะไรดลใจให้พูดแบบนั้นออกไปกับป้า แต่ป้ามีอาการกลัวผมอย่างเห็นได้ชัด แล้วป้าก็ร้องไห้ ร้องหนักขั้นเรื่อย ว่าหายใจไม่ออก ผมนึกว่าเป้นมุกเอาตัวรอดของป้าแก ก็เลยลุกขึ้นยืนเดินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไร (นอกจากคิดว่า ซวยแล้วกู เผ่นดีกว่า) แล้วหลังจากนั้น เพื่อนที่หอ ก็มาเล่าให้ผมฟังว่า ป้าหมอดู แกเป็นอย่างที่ผมว่าไว้ทุกประการ และแล้ว ผมก็เริ่มโด่งดัง จากที่มีปัญหาผีๆไปปรึกษา ตกลงไม่ได้ปรึกษานะครับ แต่ไปดูหมอ ไปดูจริงๆ

ต่อมา ผมมีโอกาสได้พาเพื่อนสาวไปทำศัลยกรรมจมูก ผมก็ไปนั่งรอที่คลินิก คุณหมอที่ทำ เป็นคุณหมอมือหนึ่ง จากโรงพยาบาลดัง (เพื่อนบอกอย่างนั้น) พอคุณหมอนั่งคุยกับเพื่อนให้เพื่อนไปเปลี่ยนชุด คุณหมอมองผม ผมก็มองคุณหมอ แล้วผมก็ได้ยินเรื่องราวของคุณหมอจากที่ไหนก็ไม่รู้ เลยถามว่าคุณหมอว่า "หมอครับ หมอไม่สบายใจเรื่องลูกชายเหรอครับ ก็หมออยากส่งเขาไปเรียบเมืองนอกเองนี่นา ไม่เคยให้หาเงินเองเลย ตอนนี้ ดื้อและก็หยิ่งมากเสียด้วย ผมสงสารหมอนะ" เท่านั้น คุณหมอผ่าตัดศัลยกรรม ก็มานั่งร้องไห้กับผมเลย ผมตกใจมาก เพราะตอนที่พูดเนี่ย เหมือนผีพาพูดเลยล่ะครับ ไม่ได้คิดอะไร หรือบางทีผมก็ได้ยินเสียงเหมือนกับมีคนบอก มีคนเล่า ไม่ได้คิดว่า เป็นเรื่องที่คนมองไม่เห็น มันเหมือนจริงมากเสียจนผมแยกไม่ออก ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง หมอพอผ่าตัดทำจมูกให้เพื่อนสาวผมแล้ว ก็ยังตามมาคุยกับผมอีกหลายเรื่อง

กว่าจะเอาตัวรอดจากหมอมาได้ ผมก็รู้สึกว่า ผมต้องหาทางแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้ ได้แต่คิดแบบนี้ จนเพื่อนพาไปนั่งกินข้าว โดยนัดเพื่อนสาวมาเจออีก 2-3 คนที่ผมไม่รู้จัก คนไม่รู้จัก เราก็ได้นั่งเงียบๆใช่มั้ยครับ?เมือ่มาเจอกัน ผมได้แต่มองเจ้าหล่อนทั้ง 3 คน มองหาความงามตามประสาชายหนุ่ม (อิๆ ) สำรวจไปเรื่อยๆ แล้วผมก็ได้ยินเสียงอีกแล้ว ว่า มีนางหนึ่ง นางทำแท้งมาแล้วอย่างโชกโชน และเพิ่งไปทำแท้งมา รู้สึกว่าจะเป็นท้องที่ 4 แล้ว เท่านั้นเอง ผมก็รู้สึกเหมือนจะอ้วกออกมาทันที และเหมือนกับว่า ผมจะร้องไห้ ด้วยความรู้สึกที่ว่า ผู้หญิงคนนี้ใจร้ายเหลือเกิน ผมลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับน้ำตาที่หล่นลง ดีที่ผมหันหลังทัน และตบบ่าเพื่อนบอกว่า ผมนึกขึ้นได้ว่า มีธุระ นัดเพื่อนอีกคนเอาไว้ มันเพิ่งจะโทรมาตามผม ขอตัวก่อนนะ เพื่อนผมได้แต่งงๆ เพราะทราบโปรแกรมของผมว่าว่างสนิท และพาเพื่อนสาวมาให้ผมสดชื่น ตอนนี้ครับ ผมรู้สึกว่า ผู้หญิงเป้นพิษ แม้จะไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนั้นมาก่อน แต่เรื่องนี้ทำให้ผมเห็นเงาเล็กๆที่คอยติดตาม ผู้หญิงคนนั้น มันระคนไปด้วยความโกรธ ความไม่พอใจ ความเศร้า และความแค้น ผมไม่ใช่คนเห็นผี ผมบอกตัวเองแบบนั้น และเลือกจะเดินออกมาจากตรงนั้น เพราะผมทนไม่ไหว ผมสงสารเด็กที่ถูกทำลายชีวิตเหลือเกิน น้ำตาผมไหลบนรถแท็กซี่ นานกว่าจะหยุดคิดเรื่องนี้ลงได้ แล้วสิ่งที่ผมได้คิดอีกอย่างนึง ก็คือ ความสนุกของผู้ชาย ในเรื่องบนเตียงเพียงชั่วครู่ สร้างความปวดร้าวให้ผู้หญิงคนนึง และชีวิตที่อยากเกิดมาบนโลก ก็ไม่รู้ครับ ว่ามันเกิดขึ้นมากี่แสนล้านครั้งแล้ว แต่มันก็ไม่เคยจบลงไปสักที  

เรื่องของผุ้หญิงคนนั้นทำให้ผมหยุดคิดที่จะมีแฟนไปสักพักนึง ผมหันหน้าเข้าวัดครับหมั่นใส่บาตรเข้าว่า กรวดน้ำให้เด็กน้อยที่ผมสัมผัสถึงเขาตอนนั้น  ชีวิตของผม นอกจากการไปเรียนแล้ว ในช่วงนั้น ผมชอบไปนั่งเล่นที่วัดใกล้สถาบันในตอนเช้าหลังจากที่ใส่บาตรเรียบร้อย นั่งไปเรื่อยๆ มองคนนั้นคนนี้เขามาทำบุญ มองเห็นอะไรเยอะเลยนะครับ บางคนมาทำบุญก็ถูกบังคับ บางคนมาทำบุญเพื่อขอ บางคนมาทำบุญเพราะความกลัว บางคนมาทำบุญเพื่อที่จะให้  มีมากมายหลายประเภทเหลือเกินครับ

ผมเดินกลับห้องไปพร้อมๆกับความรู้สึกโล่งใจ ที่ได้เข้าวัด ไปนั่งอยู่หน้าพระประธาน กว่าที่จะปรับตัวให้หายเศร้าได้ ก็รู้สึกว่า นานอยู่เหมือนกันครับ จนผมได้มาพบพี่คนนึง พี่คนนี้ รู้จักแบบผิวเผิน พี่เขาชอบเล่าความทุกข์ให้ฟังครับ ภาระเรื่องเงิน เรื่องลูก เรื่องสามี ครอบครัวอะไรแกเล่าหมด 5555 ผมก็ฟังๆไป ในใจผมรู้ครับ ว่าแกโกหกผมตรงไหนบ้าง ตรงไหนที่แก้โม้ เล่าไม่จริง ผมก็ได้แต่ฟังๆไป ไม่ได้ขัดอะไรแก จนกระทั่ง คุยกันในหลายๆครั้ง พี่คนนี้เริ่มจะเข้าข่ายขอยืมเงินผม ด้วยอ้างว่า มีความจำเป็น ผมจึงบอกแกว่า จริงๆแล้ว ลุกแกไม่ได้ป่วยหรอก แต่แกถูกหวยแดรก เงินไม่พอจ่ายค่าหวย เลยมาขอยืมเงินผม ส่วนเรื่องแม่ของแกที่แกว่า แกส่งเงินให้ใช้หลายบาท แกก็ส่งให้เท่านี้บาท ส่วนเรื่องเพื่อนที่มาประกอบธุรกิจ ที่จริง ก็คือ การเป็นนายหน้าค้าที่ดิน ซึ่งพี่คิดจะมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกะคนขายที่ หวังจะได้เงิน 555555555555555555 เอาแค่เรื่องเล็กๆนี้ แกก็มองผมด้วยสายตาหวาดกลัว หน้าซีดแล้วครับ แล้วแกก็รีบเดินออกจากห้องพักผมไปทันที เหมือนโดนผีหลอก อิๆ

ตอนนี้ผมเริ่มตระหนักดีแล้วครับ ว่า ผมเริ่มผิดปกติ ตอนผมพูดไปนี่ ผมมีอาการคล้ายกับคนง่วงนอน สะลึมสะลือ มันก็พูดของมันไปเอง ไม่ได้คิด ในสมองไม่มีความคิดอะไรเลย คิดแต่ว่า ง่วงเท่านั้น ผมเริ่มหนักใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม นั่นล่ะครับ เรื่องราวที่ผมเล่าให้คุณอ่านเนี่ย ตรงนี้แหละที่ผมว่า เป้นจุดเริ่มต้นของเรื่อง ที่ผมว่าชัดเจนที่สุดเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่