ฮัลโหลววว.... รีวิวในวันนี้ คือเป็นรีวิวในฝันที่อยากทำมานานนนนนมากกก
เพราะแลดูเป็นกระทู้ที่มีประโยชน์ แต่ก็เป็นกระทู้รีวิวที่ต้องใช้ทั้งงบประมาณ และเวลาเลยคร่า
กว่าจะมาถึงวันนี้ บางตัวก็หมดไปแล้ว บางตัวก็จวนเจียนจะหมด บางตัวก็ทดลองแค่ สัปดาห์เดียว 5555+
ซึ่งตัวที่หมดไปแล้ว แล้วก็ขอไม่รีวิวแล้วกัน เด๋วถ้าซื้อกลับมาใช้อีกจะรีวิวนะคะ
และถ้าจะถามว่า แล้วทำไมถึงเป็นน้ำตบล่ะ จริงๆ คือคิดว่าใช้มา 8 ตัวแล้ว เห็นความเปลี่ยนแปลงพอแล้วล่ะ
แต่ยังมีอีกหลายโปรดักซ์นะคะ ที่สะสมอยู่ ทั้งรีมูฟเวอร์ กันแดด
ขอเวลาผลิตเงิน และสะสมประสบการณ์ในการใช้แป๊บบบ จะมารีวิวกันเด้อ
ซึ่งอันไหนดี พี่ก็ว่าดี อันไหนไม่ดี ก็ขอพูดตามตรงนะ หวังว่าจะไม่โดนฟ้องจากแบรนด์ 555+
เอาเป็นว่ามายลโฉม “น้ำตบ” ที่ยังใช้อยู่ และจะมารีวิวกันเลยดีกว่า.....
ซึ่งถ้าว่าด้วยเรื่องของ “น้ำตบ” ก็แลดูเป็นสกินแคร์ที่ก็ยังพอมีกระแสที่สาวๆ ชอบใช้กันอยู่
อาจด้วยเพราะพวกน้ำตบจะเป็นเอสเซนส์เนื้อเบาๆ เหลวๆ แบบน้ำ วิธีใช้ก็ง่ายแค่ตบๆ
(แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าการตบ คือพิถีพิถันกว่าถูไถด้วยครีม แต่ครีมก็จะหนักหน้ากว่า)
เราเป็นคนชอบใช้อะไรแบบสบายๆ ไม่หนักหน้า แถมพวกนี้นอกจากตบเช้า ตบเย็นได้
ยังสามารถหยดๆ ใส่สำลี แปะๆ หน้าไว้ แทนพวกชีทมาส์กได้ด้วย
ซึ่งน้ำตบที่มีบนพื้นปฐพีนี้ก็ช่างเยอะซะเหลือเกิน ตัวไหนจะเวิร์กไม่เวิร์กก็ไม่รู้ ก็หวังว่ากระทู้นี้จะพอช่วยอะไรได้บ้าง
พร้อมกันแล้วรึยัง..... ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!!
1. SK-II Facial Treatment Essence Limited Edition
ปริมาณ 215 ml ราคา 6,260 บาท
น้ำตบในตำนานกับ น้ำตบป้าเจี๊ยบ แถมรุ่นนี้เป็นรุ่นลิมิเตดที่ Po-Chin Huang ออกแบบลายที่ขวดจ้ะ
ราคารุ่นนี้ก็จะร้องเจี๊ยกกกก กันไป จริงๆ มี 4 ลายนะในรุ่นนี้
ตอนซื้อเพื่อนบอกว่า คนซื้อนี่รวยอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องเงินเหลือมากๆ ด้วย 5555+
บอกเลยว่าภายใต้เลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่ มาดูข้อมูลของเจ้าตัวนี้กันหน่อยดีกว่าว่าเป็นยังไง
ส่วนผสมที่สำคัญ ก็อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าคือ พิเทร่า ที่มอบความสตรองให้ผิว และก็ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส
ฝาขวดก็จะเป็นเหมือนปกติทั่วๆ ไปที่เราเห็นกัน คือฝาสีเงิน แบบหมุนเกลียว ด้านในสีขาว
Texture น้ำตบ : จะเป็นน้ำใสๆ อาจจะแอบออกเหลืองนิดๆ ก็ไม่รู้เป็นที่สีขวดมั้ย แต่เวลาเทใส่มือก็คิดว่ามีติดสีเหลืองอ่อนจ้า (เฉพาะรุ่นนี้นะ) แต่รุ่นขวดที่เห็นใสๆ ก็คือน้ำใสๆ นั่นแหละค่ะ
Feeling : เวลาตบหน้าจะรู้สึกว่ามันเหนียวๆ หนึบๆ นิดๆ อันนี้สำหรับที่ลองตัวนี้นะคะ ไม่รู้น้ำป้าเจี๊ยบปกติเป็นงี้มั้ย
ผลลัพธ์ที่ได้ : รู้สึกได้ว่าทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น หน้าไม่มันเลย ถ้าใครหน้าแห้งก็อาจต้องหามอยเจอไรเซอร์มาโบกต่ออีกหน่อยนะจ้ะ เรื่องรูขุมขนก็ยังมีให้เห็นอยู่ไม่ได้ช่วยกระชับรูขุมขนอะไรมากมาย ถามว่าซื้อต่อมั้ย ขอใช้ที่มีอยู่ให้หมดก่อนละกันนะคะ อาจจะไปสอยแบบปกติมาใช้มาลอง
แต่ SK-II จะมีเอกลักษณ์เรื่องกลิ่นม้วก แบบเอิ่ม... แพงขนาดนี้ ขอกลิ่นชวนน่าใช้กว่านี้ได้มั้ยฮะ เรื่องกลิ่นขอบายละกันค่ะ มันคือกกลิ่นพิเทร่า คล้ายๆกลิ่นยีสต์ คล้ายกลิ่นแอลกอฮอเข้มๆ แต่ทนใช้ต่อได้เพราะแพงค่ะ
.
.
ตั้งแต่ตัวที่ 2 เป็นต้นไป ขอไปใส่ไว้ในคอมเม้นท์นะคะ จะได้อ่านกันง่ายๆ เน้อะ ^^
[CR] ที่สุดแห่งรีวิวมหากาพย์ ไม่ง้อครีม “น้ำตบ” 7 แบรนด์ที่ใช้ ตั้งแต่ถูกยันแพง
เพราะแลดูเป็นกระทู้ที่มีประโยชน์ แต่ก็เป็นกระทู้รีวิวที่ต้องใช้ทั้งงบประมาณ และเวลาเลยคร่า
กว่าจะมาถึงวันนี้ บางตัวก็หมดไปแล้ว บางตัวก็จวนเจียนจะหมด บางตัวก็ทดลองแค่ สัปดาห์เดียว 5555+
ซึ่งตัวที่หมดไปแล้ว แล้วก็ขอไม่รีวิวแล้วกัน เด๋วถ้าซื้อกลับมาใช้อีกจะรีวิวนะคะ
และถ้าจะถามว่า แล้วทำไมถึงเป็นน้ำตบล่ะ จริงๆ คือคิดว่าใช้มา 8 ตัวแล้ว เห็นความเปลี่ยนแปลงพอแล้วล่ะ
แต่ยังมีอีกหลายโปรดักซ์นะคะ ที่สะสมอยู่ ทั้งรีมูฟเวอร์ กันแดด
ขอเวลาผลิตเงิน และสะสมประสบการณ์ในการใช้แป๊บบบ จะมารีวิวกันเด้อ
ซึ่งอันไหนดี พี่ก็ว่าดี อันไหนไม่ดี ก็ขอพูดตามตรงนะ หวังว่าจะไม่โดนฟ้องจากแบรนด์ 555+
เอาเป็นว่ามายลโฉม “น้ำตบ” ที่ยังใช้อยู่ และจะมารีวิวกันเลยดีกว่า.....
ซึ่งถ้าว่าด้วยเรื่องของ “น้ำตบ” ก็แลดูเป็นสกินแคร์ที่ก็ยังพอมีกระแสที่สาวๆ ชอบใช้กันอยู่
อาจด้วยเพราะพวกน้ำตบจะเป็นเอสเซนส์เนื้อเบาๆ เหลวๆ แบบน้ำ วิธีใช้ก็ง่ายแค่ตบๆ
(แต่ส่วนตัวแอบรู้สึกว่าการตบ คือพิถีพิถันกว่าถูไถด้วยครีม แต่ครีมก็จะหนักหน้ากว่า)
เราเป็นคนชอบใช้อะไรแบบสบายๆ ไม่หนักหน้า แถมพวกนี้นอกจากตบเช้า ตบเย็นได้
ยังสามารถหยดๆ ใส่สำลี แปะๆ หน้าไว้ แทนพวกชีทมาส์กได้ด้วย
ซึ่งน้ำตบที่มีบนพื้นปฐพีนี้ก็ช่างเยอะซะเหลือเกิน ตัวไหนจะเวิร์กไม่เวิร์กก็ไม่รู้ ก็หวังว่ากระทู้นี้จะพอช่วยอะไรได้บ้าง
พร้อมกันแล้วรึยัง..... ถ้าพร้อมแล้ว เริ่ม!!!!
ปริมาณ 215 ml ราคา 6,260 บาท
น้ำตบในตำนานกับ น้ำตบป้าเจี๊ยบ แถมรุ่นนี้เป็นรุ่นลิมิเตดที่ Po-Chin Huang ออกแบบลายที่ขวดจ้ะ
ราคารุ่นนี้ก็จะร้องเจี๊ยกกกก กันไป จริงๆ มี 4 ลายนะในรุ่นนี้
ตอนซื้อเพื่อนบอกว่า คนซื้อนี่รวยอย่างเดียวไม่ได้นะ ต้องเงินเหลือมากๆ ด้วย 5555+
บอกเลยว่าภายใต้เลข 5 มีน้ำตาซ่อนอยู่ มาดูข้อมูลของเจ้าตัวนี้กันหน่อยดีกว่าว่าเป็นยังไง
ส่วนผสมที่สำคัญ ก็อย่างที่รู้ๆ กัน ว่าคือ พิเทร่า ที่มอบความสตรองให้ผิว และก็ช่วยเรื่องผิวกระจ่างใส
ฝาขวดก็จะเป็นเหมือนปกติทั่วๆ ไปที่เราเห็นกัน คือฝาสีเงิน แบบหมุนเกลียว ด้านในสีขาว
Texture น้ำตบ : จะเป็นน้ำใสๆ อาจจะแอบออกเหลืองนิดๆ ก็ไม่รู้เป็นที่สีขวดมั้ย แต่เวลาเทใส่มือก็คิดว่ามีติดสีเหลืองอ่อนจ้า (เฉพาะรุ่นนี้นะ) แต่รุ่นขวดที่เห็นใสๆ ก็คือน้ำใสๆ นั่นแหละค่ะ
Feeling : เวลาตบหน้าจะรู้สึกว่ามันเหนียวๆ หนึบๆ นิดๆ อันนี้สำหรับที่ลองตัวนี้นะคะ ไม่รู้น้ำป้าเจี๊ยบปกติเป็นงี้มั้ย
ผลลัพธ์ที่ได้ : รู้สึกได้ว่าทำให้หน้ากระจ่างใสขึ้น หน้าไม่มันเลย ถ้าใครหน้าแห้งก็อาจต้องหามอยเจอไรเซอร์มาโบกต่ออีกหน่อยนะจ้ะ เรื่องรูขุมขนก็ยังมีให้เห็นอยู่ไม่ได้ช่วยกระชับรูขุมขนอะไรมากมาย ถามว่าซื้อต่อมั้ย ขอใช้ที่มีอยู่ให้หมดก่อนละกันนะคะ อาจจะไปสอยแบบปกติมาใช้มาลอง
แต่ SK-II จะมีเอกลักษณ์เรื่องกลิ่นม้วก แบบเอิ่ม... แพงขนาดนี้ ขอกลิ่นชวนน่าใช้กว่านี้ได้มั้ยฮะ เรื่องกลิ่นขอบายละกันค่ะ มันคือกกลิ่นพิเทร่า คล้ายๆกลิ่นยีสต์ คล้ายกลิ่นแอลกอฮอเข้มๆ แต่ทนใช้ต่อได้เพราะแพงค่ะ
.
.
ตั้งแต่ตัวที่ 2 เป็นต้นไป ขอไปใส่ไว้ในคอมเม้นท์นะคะ จะได้อ่านกันง่ายๆ เน้อะ ^^