การเรียกเก็บเงินมัดจำ ในการรักษาสัตว์ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคไหม

มันมีเหตุการณ์นึงที่เราเจอมา ตอนที่เรารอคิวแมวเราตรวจรักษาอยู่เราเห็น ลุงกับป้า ยืนคุยกับเจ้าหน้าที่การเงินอยู่ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าคงรอชำระเงินตามปกติ สักพักลุงกับป้าเริ่มเสียงดัง จนเราจับใจความได้คร่าวๆ ว่าเขาเอาหมามารักษา หมอแนะนำให้ฝากแอดมิท ลุงกับป้าก็เห็นด้วยจะฝากไว้ให้หมอรักษา แล้วเจ้าหน้าที่การเงินเขาประเมินค่าใช้จ่ายมาห้ดูว่าวันแรกค่าใช้จ่ายเท่านี้นะ วันนี้จะขอตัดยอดค่าใช้จ่ายก่อน วันต่อๆไปค่าใช้จ่ายจะประมาณนี้ถ้าอาการน้องคงที่ หรือดีขึ้น หรือแย่ลง แล้วเจ้าน่าที่น่าจะมีการขอเก็บมัดจำ เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่เราไม่รู้ แต่เหมือนลุงป้าคู่นี้ไม่อยากมัดจำ บอกว่าการรักษาวันพรุ่งนี้และวันต่อๆไปเราไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นจริงกี่อัน ถ้าเก็บมัดจำไปมันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค เราก็เห็นเจ้าหน้าที่แจ้งไปว่าเงินมัดจำเรียกเก็บทุกรายที่เข้าฝาก หรือฝากรักษา แล้วจะเรียกเก็บเพิ่มในวันที่สิ้นสุดการรักษาหากมียอดชำระเกินเงินมัดจำ หรือหากยอดชำระน้อยกว่าก็จะคืนเงินส่วนที่เหลือให้ แล้วลุงก็ตะโกนโวยวายเสียงดัง ประมาณว่าตัวลุงก็ทำงานบริการ เวลาลูกค้ามาใช้บริการไม่เคยเก็บมัดจำเลย

...อันนี้เราคิดว่าเวลาพาหมาแมวไปรักษาที่ไหนๆ (เพราะเราย้ายบ้านบ่อย) ถ้าสัตว์เลี้ยงเราป่วยหมอให้แอดมิท เราก็มักจะเจอให้ตัดค่าใช้จ่ายวันแรกไปก่อน แล้วเขาก็เก็บมัดจำเรา ทุกโรงยาบาล พอเรารับสัตว์กลับบางทีเขาก็คืนเงินมัดจำให้ บางทีเราก็จ่ายเพิ่ม แต่จะไม่เยอะแล้วเพราะตัดจากมัดจำ
...อันนี้ขอถามเป็นความรู้และความคิดเห็นนะคะว่าที่ลุงโวยวายว่าการเก็บมัดจำคือการเอาเปรียบผู้บริโภคนี้มันจริงไหม


ในส่วนตัวเรา ไม่ว่าจะจองห้อง จองบ้าน พาหมาแมวไปรักษา หรือจองไปเที่ยว เขาก็เก็บมัดจำเราคิดว่าเขาคงกันเราเบี้ยว และเพื่อเป็นการยืนยันว่าเราจะทำหรือไปหรือซื้อไว้แล้วกึ่งหนึ่ง เพราะถ้าเราเบี้ยวจริงๆเงินนี้ก็ถือเป็นค่าความเสียหาย เสียโอกาสของเขา (ไม่รู้เราคิดถูกไหม)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่