การรับประทานยาคุมกำเนิดติดกันมาเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ผนังมดลูกบางลง เมื่อหยุดรับประทานยาในช่วง 2-3 เดือนแรก
อาจทำให้การทำงานของรังไข่ยังทำงานได้ไม่ปกติ หรือยังไม่สามารถสร้างฮอร์โมนได้เหมือนตามธรรมชาติที่สามารถทำให้
เยื่อบุมดลูกหนาตัวและมีประจำเดือนได้ตามวันที่ควรจะเป็นค่ะ ก็เลยทำให้บางครั้งเยื่อบุประจำเดือนยังน้อย ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้
ประจำเดือนมาได้น้อยมากมาก และอาจมาไม่ตรงรอบของเดือนได้ค่ะ และอาจจะมีอาการต่างๆเช่น ปวดท้องประจำเดือน เจ็บตึงเต้านม เป็นต้น
ที่สามารถพบได้เนื่องจากมีฮอร์โมนอยู่ค่ะ

เบื้องต้นให้รอสังเกตประจำเดือนดูก่อนนะคะ หากประจำเดือนไม่มาหรือมาไม่ตรงรอบภายใน 2 รอบประจำเดือน แนะนำให้ไปปรึกษาสูติ-นรีแพทย์
หรือไปรับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุต่อไปค่ะ  และในช่วงนี้ไม่ควรเครียด เพราะความเครียดมักจะทำให้ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงได้ค่ะ
ควรหากิจกรรมทำเพื่อให้ผ่อนคลาย พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะคะ

เป็นตามความเห็นที่ 1
ตามที่เคยบอกไว้ในหลายกระทู้ว่า เมื่อกินยาคุม รังไข่หยุดทำงาน ประจำเดือนถูกควบคุมโดยยาคุม
ถ้าประจำเดือนยังไม่มา รอได้ถึง 6  เดือนหลังหยุดยาคุม
ถ้าครบ 6 เดือนแล้วประจำเดือนยังไม่มา ตอนนั้นต้องไปหาสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุและจัดการให้ประจำเดือนมา
ระหว่างรอให้ประจำเดือนมา อย่าให้ท้อง ควรใช้ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์