[CR] ทำไมต้องนอน 2 คืน บนดอยหลวงตาก (8คนโยนกองกลาง1300ยังมีทอน)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

วันนี้จะมาเมาท์เรื่องเดินป่า ขึ้นเขา ให้ได้อ่านกันค่ะ เกริ่นกันซะหน่อยนะคะว่าแพนเป็นคนที่ไม่เคยซีเรียสเรื่องออฟชั่นในการเดินป่าเลย ไม่ว่าจะชุด รองเท้า อาหาร อุปกรณ์ยังชีพ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตามมีตามเกิดอะบอกเลย สำคัญอีกอย่างคือแพนและชาวแก๊งพวกเราจนมาก ฮร่า นั่นจึงทำให้เรามักจะแบกของขึ้นไปกันเองโดยไม่จ้างลูกหาบ แต่รู้มั้ยคะนี่แหละคือความสนุกและเป็นอะไรที่สามารถสร้างความทรงจำแบบโคตรมันส์สำหรับพวกเรา

อมยิ้ม15ดอยหลวงตาก อยู่ที่ไหน?

ดอยหลวงตาก ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งกระเซาะ อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก อยู่สันขอบอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช กับป่าสงวนแห่งชาติที่อาจจะผนวกรวมกับวนอุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยแม่ไข มีความสูงประมาณ 1,175 เมตร ระยะทางจากด้านล่างถึงยอดดอยประมาณ 11 กิโลเมตรค่ะ

ถ้าอยากเห็นบรรยากาศแบบ 360 องศา กดดูที่วีดีโอนะจ๊ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แล้วมาอ่านรายละเอียด พร้อมดูภาพทั้งหมดข้างล่างนี้จร้าาา

อมยิ้ม13
อมยิ้ม02
การเดินทาง
รถส่วนตัว : จะเขียนอธิบายให้เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวามันก็ดูวุ่นวายเชียว ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์กันเถอะทุกคน มุ่งหน้าเข้าจังหวัดตากแล้วเปิด Google maps เลยค่ะ

รถโดยสาร : วิธีนี้สะดวกสบายสุดไม่ต้องเมื่อยขับรถเอง นั่งรถทัวร์มาลง "แยกบ้านตาก" แล้วติดต่อให้เจ้าหน้าที่มารับได้เลยจร้า

(ถามรายละเอียดจองทริปได้ที่ พี่ตู่ 082 164 1510 พี่เค้าเป็น จนท. ที่นำทางพวกแพนขึ้นเขาค่ะ)

ทริปนี้แพนไปกับเพื่อนทั้งหมด 8 คน 3 วัน 2 คืน ค่ะ เรานั่งรถทัวร์เที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 20 ต.ค. ถึงแยกบ้านตากประมาณ 7 โมงเช้า พอดี๊ พอดี แต่มานานก็ตอนรอรถ จนท. มารับเนี่ยแหละ ฮร่า
อย่างที่เห็นในภาพเลยค่ะเป็นรถกระบะ นั่งผึ่งลมหน้าแห้งกันไปซัก 20 นาทีได้ก็มาถึงที่ทำการ จนท. เอาจริงนะกว่าเราจะล้างหน้า กินข้าว เตรียมตัวขึ้นก็สายโด่งเลยแหละ แพนเห็นกลุ่มอื่นเค้านั่งรถไปตีนเขากันหมดละ พวกเรานี่สายชิลจริงๆ
เท่าที่เห็นชาวบ้านเค้าเขียนรีวิวอะนะ ก่อนขึ้นต้องมาถ่ายรูปชาวแก๊งคู่กับป้ายนี้ ประมาณว่า เออ...นี่จุดเริ่มต้นนะ ต้องเดินไปอีก 11 กิโลนะ จะถึงยอดเขานะ แต่.......แก๊งแพนไม่ได้ถ่ายกัน ฮร่า ก็รีบขึ้นอ่าตอนนั้นมัน 9 โมงกว่าแล้วกลัวไปถึงเย็น เลยคุยว่าตอนลงค่อยมาถ่าย และสุดท้ายก็ไม่ได้ถ่าย นี่แพนแคปรูปมาจากวีดีโอ ติดรูปคนอื่นมาเฉยเลย แหะ แหะ
เลิกอาลัยอาวรป้าย แล้วเดินๆ ก้าวๆ กระโดดๆ กันเลยดีกว่าเพราะด่านแรกก็เอาซะแล้ว เจอสายน้ำกั้นทางแบบนี้มีให้เลือก 2 ทาง ถ้าไม่กระโดดข้ามก็ลุยน้ำมานะจ๊ะ
เอ้อ...ลืมบอกว่าทริปนี้ แพนกับเพื่อนๆ เราแบกของกันเองทั้งหมด ไม่ได้จ้างลูกหาบ เพราะไม่มีงบ!!! ก็มันต้องจ้าง จนท. นำทางด้วยอ่า ไอ้เรามันสายยาจกกันอยู่แล้วอะไรทอนได้ก็ทอนไป ^0^ กลายเป็นว่า คนนึงต้องแบกของไม่ต่ำกว่า 10 กิโล อย่างของแพนก็เกือบ 20 กิโลได้ ส่วนใหญ่ก็ของส่วนกลางนี่แหละ อาหาร ของใช้ บลาๆๆๆๆ
ทางเดินช่วงแรกไม่ค่อยหวือหวาอะไรมากค่ะ เดินง่ายอยู่ ก็มีขึ้นเนินบ้างพอให้รู้สึกหอบเล็กๆ บวกกับแดดตอนนั้น แหม่...หนาวจับใจเหลือเกิน
เดินมาเรื่อยๆ ตามลำธาร เจอเงาไม้บ้างก็ค่อยรู้สึกดีขึ้น ต่อจากนี้จะเป็นภาพบรรยากาศของการเดินในช่วงแรกนะคะ

ตอนเดินช่วงแรกแพนก็คิดนะว่าป่ามันก็มีทางเดินชัดเจน สามารถเดินเองได้ไม่น่าเสียตังค์จ้างคนนำทาง แต่เดินมาซักพัก เออดีนะมีคนนำ เพราะภายในป่าแห่งนี้ไม่ใช่แค่เปิดให้สำหรับเดินทางไกลขึ้นยอดเขาเท่านั้น ยังมีชาวบ้านที่เข้ามาหาของป่า เก็บเห็ด เก็บหญ้า ทำให้ทางเดินในป่ามีทางแยกไปหลายที่

ยิ่งขึ้นมาไกลเท่าไหร่ทางก็เริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับแพนยังไม่ถือว่าโหดมานัก ถึงจะอวดเก่งขนาดนั้นก็เถอะแต่คุณกระเป๋าข้างหลังนี่มันก็ชวนให้หมดแรงได้ตลอดเลย ประมาณเที่ยงเราเดินกันมาได้ 40% ของระยะทางเต็ม เราก็นั่งกินข้าวเที่ยงกัน ส่วนสายโซเชียลไม่ต้องห่วงเลยจร้า สัญญาณที่นี่มีครบทุกเครือข่าย
มีข้อคิดอยู่อย่างนึงนะ ยิ่งพักนานร่างกายจะยิ่งอ่อนแรง T^T เอ้าลุย!! กินข้าวอิ่มๆ เดินกันต่อบางช่วงจะเป็นป่าโปร่งแสงอาทิตย์ส่องถึงทำให้อากาศร้อนเว่อร์ บวกกับสภาพขาที่เริ่มเหนื่อยประมาณนึง กลายเป็นว่าเดินได้ 10 ก้าวก็พักแล้ว ฮร่า
บอกอยู่ว่าเรามันสายชิล ที่คิดกันคือไม่รู้จะรีบขึ้นทำไมค่อยๆเดิน เหนื่อยก็พัก นั่งเมาท์มอย แวะนอนซักงีบก็สบายดี ถ้ายิ่งรีบมันยิ่งเหนื่อย เปลืองพลังงาน
นั่นแหละค่ะเราก็เดินๆ พักๆ จนในที่สุดก็มาถึงป่าสนประมาณ 4 โมงกว่าได้มั้ง ก็ใช้เวลาอยู่ในเกณฑ์ปกตินะ แต่ป่าสนนี่ยังไม่ถึงจุดกางเต้นท์นะต้องเดินฝ่าดงทากไปอีก ตอนนี้เลยได้โอกาสนั่งเปื่อยๆกันอีกรอบ



จริงๆก่อนเข้าดงทากมันจะมีทางแยกให้ไปชมวิวริมผาแต่เราไม่ไปกัน ด้วยความล้าบวกกับเย็นแล้วต้องไปกางเต้นท์ทำกับข้าวกัน ก็มุ่งหน้าเข้าดงทากค่ะ ขากลับค่อยแวะไปถ่ายรูป
ไอ้ที่เค้ารีวิวกันว่าทากเยอะไรนี่พวกแพนไม่เจอนะ เราเดินเรื่อยๆไม่ได้รีบร้อนอะไรกันแต่ก็ไม่เจอทาก ฮร่า จะว่าไปไม่รู้จะกลัวทำไมนะทากตัวจิ๋วเดียว โดนกัดก็ไม่เจ็บนะ ฉีดซอฟเฟลใส่ ไม่ก็น้ำมันมวย ไม่ก็ซันไลน์ มันก็หลุดละ พวกมดนี่น่ากลัวกว่าอีกคันยุบยิบๆ

ด้วยความที่แพนกับเพื่อนนอนกัน 2 คืน เลยสามารถโยกย้ายที่ตั้งเต้นท์ได้ตามชอบเลยในคืนที่ 2 เพราะวันแรกเราขึ้นไปช้าอะเนาะที่เลยไม่ค่อยเหลือ พอวันต่อมาเค้าลงเขากันไปหมด เหลือกลุ่มแพนกับกลุ่มพี่เดี่ยว(พี่ที่เพิ่งรู้จักกันตอนเดินขึ้นเขา) เลยได้หามุมกางเต้นท์กันสนุกสนานเชียว



อมยิ้ม01บริเวณที่กางเต้นท์อมยิ้ม01
จะมีพื้นที่โดยรวมไม่ใหญ่มากถ้ามากันซัก 10 กลุ่มนี่ก็อยู่แบบใกล้ชิดกันแล้ว จะมี 2 โซน แล้วแต่ชอบเลยค่ะ

อมยิ้ม36ด้านในป่าอมยิ้ม36
บริเวณนี้เหมาะมากกับคนที่จะนอนเปลเพราะต้นไม้เยอะ อยู่ใกล้กับทางลงไปตักน้ำและป่ากล้วย
อมยิ้ม36ด้านนอกริมเขาอมยิ้ม36
จะมีความโล่งกว่าด้านใน มีต้นไม้พอสำหรับการขึงเชือกกางเต้นท์ ผูกเปลนิดหน่อย จะโปร่งๆไม่มืดแต่ลมมาทีนี่เต้นท์แทบปลิว

บรรยากาศถ่ายมาให้ดูตามนี้นะคะ แพนถ่ายวันที่ 2 พื้นที่เลยดูโล่งๆไม่ค่อยมีเต้นท์ แต่แพนชอบนะไม่วุ่นวายเหมือนวันแรก ส่วนแคมป์ จนท. ก็อยู่ในโซนป่าตรงนี้ค่ะ

เล่าแค่นี้ก่อนขออาบน้ำ ไปทำงานแปป เดี๋ยวมาเล่าต่อนะจ๊ะ ถ้าอยากรู้ว่าแพนไปทำอะไรมาบ้างคร่าวๆก็กดดูรายการ "ไปก่อนตาย @ดอยหลวงตาก" ข้างบนนะที่แปะไว้ให้อมยิ้ม07
ชื่อสินค้า:   ดอยหลวงตาก จ.ตาก
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่