สวัสดีค่ะกระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของพวกเรา ที่จะมาขอแชร์ประสบการณ์การเดินทางไปลาว กับสถานที่สุดฮิตนั่นก็คือ เวียงจันทน์-วังเวียงนั่นเองค่ะ โดยที่พวกเรามีโจทย์สำหรับทริปนี้ว่า “Low price high experience” ต้องขอบอกก่อนเลยนะคะ ว่าการเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้เป็นครั้งแรกและได้ลองทำอะไรใหม่ๆในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เป็นครั้งแรกของอะไรหลายๆอย่างของพวกเราไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวกับเพื่อนครั้งแรก นั่งรถไฟครั้งแรก นั่งเครื่องบินครั้งแรก ไปต่างประเทศครั้งแรก เกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว เข้าเรื่องกันดี
Day 1 : 12/10/2560
เราเริ่มออกเดินทางเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ขึ้นรถแท็กซี่จากหน้าหอพักมาถึงหัวลำโพงก็ประมาณ 5 โมงเกือบ 6 โมง
ระหว่างรอรถไฟเรามาก็หาข้าวกินกันรองท้องและซื้อเสบียงไว้สำหรับคืนนี้
ไก่ปิ้งใกล้ๆหัวลำโพงเราซื้อไปเป็นสะเบียงบนรถไฟ
รอบตั๋วรถไฟของเราคือรอบเวลา 6.35 น.จากหัวลำโพงถึงสถานีหนองคาย เป็นรถไฟด่วนชั้น 3 ราคา 253 บาท ที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน ใช้เวลา 9 ชั่วโมงในการเดินทางถึงที่หมาย ที่นั่งค่อนข้างแข็งและเล็ก ขาอาจจะชนคนข้างหน้านิดหน่อย อากาศกลางคืนค่อนข้างหนาว หน้าต่างสามารถเปิดชมวิวข้างทางได้ อาจจะมีฝุ่นบ้าง แมงเข้าตาบ้างถือเป็นสีสันของการได้นั่งรถไฟครั้งแรก
ระหว่างทางรถไฟจะจอดตามสถานีต่างๆ นั่นก็ทำให้เราอิ่มท้องเพราะจะมีคนหาบเร่มาขายข้าวของตลอดไม่ขาดสาย (ข้าวกะเพรา ข้าวต้ม ไก่ย่าง โอวันติน กาแฟ น้ำเปล่า) รสชาติอาหารถือว่าอร่อยใช้ได้เลยแถมยังราคาถูกอีกต่างหาก
Day 2 : 13/10/2560
เราถึงสถานีรถไฟหนองคาย ตอนตี 5 กว่าๆ ลงจากรถไฟตัวเหนียวๆ ก็เข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำสถานี ราคา 3 บาท แต่ถ้าอาบน้ำก็ 10 บาท
พอเสร็จกิจส่วนตัวเรียบร้อยก่อนจะข้ามไปฝั่งลาว เราก็เข้าไปชมวัดใกล้ๆแถวหนองคาย คือวัดโพธิ์ชัย เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญแห่งจังหวัดหนองคาย เคยเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใสอันศักดิ์สิทธิ์
หลังจากสักการะหลวงพ่อพระใสแล้ว เราก็แวะกินข้าวเช้าที่ตลาดโพธิ์ชัย
ปกติเราจะคุ้นชื่อกับอาหารชนิดนี้ว่า ก๋วยจั๊บญวณ แต่ที่หนองคายจะเรียกว่า ข้าวเปียก
หลังจากที่อิ่มท้อง ก็มุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพไทยลาวกันเลย
ซึ่งเราต้องผ่านจุดตรวจ ตม.ของไทยใช้พาสปอร์ตและเจ้าหน้าที่จะปั๊มตราเข้าเมืองให้ แต่ถ้าไม่ใช้พาสปอร์ตเราสามารถใช้ใบผ่านทางได้ โดยสามารถอยู่ได้ 3 วัน และเมื่อเราเข้ามาจะมีรถบัสข้ามสะพานไทยลาวราคา 20 บาท จะมาส่งที่ตม.ของลาว โดยที่เราจะเขียนใบขาเข้าขาออก เพื่อใช้ยื่นพร้อมพาสปอร์ต
[CR] แก๊งค์ชะนี 4000 ที่ เวียงจันทน์-วังเวียง 4 คืน
Day 1 : 12/10/2560
เราเริ่มออกเดินทางเวลาประมาณ 5 โมงเย็น ขึ้นรถแท็กซี่จากหน้าหอพักมาถึงหัวลำโพงก็ประมาณ 5 โมงเกือบ 6 โมง
ระหว่างรอรถไฟเรามาก็หาข้าวกินกันรองท้องและซื้อเสบียงไว้สำหรับคืนนี้
ไก่ปิ้งใกล้ๆหัวลำโพงเราซื้อไปเป็นสะเบียงบนรถไฟ
รอบตั๋วรถไฟของเราคือรอบเวลา 6.35 น.จากหัวลำโพงถึงสถานีหนองคาย เป็นรถไฟด่วนชั้น 3 ราคา 253 บาท ที่นั่งหันหน้าเข้าหากัน ใช้เวลา 9 ชั่วโมงในการเดินทางถึงที่หมาย ที่นั่งค่อนข้างแข็งและเล็ก ขาอาจจะชนคนข้างหน้านิดหน่อย อากาศกลางคืนค่อนข้างหนาว หน้าต่างสามารถเปิดชมวิวข้างทางได้ อาจจะมีฝุ่นบ้าง แมงเข้าตาบ้างถือเป็นสีสันของการได้นั่งรถไฟครั้งแรก
ระหว่างทางรถไฟจะจอดตามสถานีต่างๆ นั่นก็ทำให้เราอิ่มท้องเพราะจะมีคนหาบเร่มาขายข้าวของตลอดไม่ขาดสาย (ข้าวกะเพรา ข้าวต้ม ไก่ย่าง โอวันติน กาแฟ น้ำเปล่า) รสชาติอาหารถือว่าอร่อยใช้ได้เลยแถมยังราคาถูกอีกต่างหาก
Day 2 : 13/10/2560
เราถึงสถานีรถไฟหนองคาย ตอนตี 5 กว่าๆ ลงจากรถไฟตัวเหนียวๆ ก็เข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำสถานี ราคา 3 บาท แต่ถ้าอาบน้ำก็ 10 บาท
พอเสร็จกิจส่วนตัวเรียบร้อยก่อนจะข้ามไปฝั่งลาว เราก็เข้าไปชมวัดใกล้ๆแถวหนองคาย คือวัดโพธิ์ชัย เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญแห่งจังหวัดหนองคาย เคยเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใสอันศักดิ์สิทธิ์
หลังจากสักการะหลวงพ่อพระใสแล้ว เราก็แวะกินข้าวเช้าที่ตลาดโพธิ์ชัย
ปกติเราจะคุ้นชื่อกับอาหารชนิดนี้ว่า ก๋วยจั๊บญวณ แต่ที่หนองคายจะเรียกว่า ข้าวเปียก
หลังจากที่อิ่มท้อง ก็มุ่งหน้าสู่สะพานมิตรภาพไทยลาวกันเลย
ซึ่งเราต้องผ่านจุดตรวจ ตม.ของไทยใช้พาสปอร์ตและเจ้าหน้าที่จะปั๊มตราเข้าเมืองให้ แต่ถ้าไม่ใช้พาสปอร์ตเราสามารถใช้ใบผ่านทางได้ โดยสามารถอยู่ได้ 3 วัน และเมื่อเราเข้ามาจะมีรถบัสข้ามสะพานไทยลาวราคา 20 บาท จะมาส่งที่ตม.ของลาว โดยที่เราจะเขียนใบขาเข้าขาออก เพื่อใช้ยื่นพร้อมพาสปอร์ต
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น