คืออยากสอบถามครับ
เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเค้าเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งตัวเค้าจดทเบียนสมรสและมีบุตรอยู่ทางฝั่งนั้น แต่เค้าเข้ามาทำงานที่ไทย มีภารยาใหม่ และมีบุตรกับภารยาใหม่อีก 2 คน ซึ่งเงินเดือนที่เค้าหาได้ เค้าจะแบ่งครึ่งให้ทางภารยาสมรสเค้า 50% ส่วนอีก 50% เค้าเอามาใช้จ่ายอยู่กับภารยาใหม่(ที่ไม่ได้จดทะเบียน) ซึ่งมีบ้าน มีรถ แต่เป็นชื่อของภารยาใหม่ฝั่ง(ไทย) ซึ่งปัจจุบันเค้าได้เซ็นโอนสมบัติทางฝั่งต่างชาติให้ภารยาเก่ากับบุตรไปแล้ว ทั้งบ้าน ทั้งสินทรัพย์ทั้งหลาย แล้วก็เหมือนว่าทางภารยาเก่าก็จะไล่ไม่ให้กลับมาด้วย เวลาเค้ากลับไปเยี่ยมบ้านก็จะไม่มีที่อยู่ ต้องไปนอนที่คอนโดของน้องสาว
แต่ปัญหาจริงๆมีอยู่ว่า ตอนนี้เค้าต้องการจะทำอย่างไรก็ได้ให้สามารถมาปักหลักอาศัยอยู่ประเทศไทยได้ (ใกล้เกษียณอายุงาน) ตอนแรกเค้าบอกให้ทางฝั่งภารยาใหม่ให้เอาบ้าน เอาสินทรัพย์ไปเข้าธนาคาร เอาเงินมาเข้าบัญชี ค้ำประกันตัวเค้าใว้ ให้สามารถอาศัยอยู่ที่ไทยได้ แต่ฝั่งภารยาใหม่ไม่ยอม (เพราะเค้าไมอยากเสียบ้านที่เป็นสมบัติเดียวของเค้ากับลูกอีก2 คน ที่ต้องอยู่อาศัย) ตอนนี้เค้าเลยหาทางใหม่ เค้าต้องการจดทะเบียนรับรองบุตรทางฝั่งภารยาใหม่ทั้ง 2 คน เพื่อที่เค้าจะใช้เป็นเหตุผลทางมนุษยธรรมในการขอสัญชาติประเทศไทย
แต่ผมมีเรื่องจะถามอยู่ว่า
1.ในกรณีเซ็นรับรองบุตร สมบัติทุกอย่างที่เป็นของเค้า กับภาารยาสมรสเค้า จะตก ถูกแบ่งให้กับบุตร 2 คนที่เค้าเซ็นรับรองบุตรหรือไม่
2. ถ้าสมมติตัวเค้าเสียชีวิต ฝั่งภารยาสมรสมีสิทธิ์มาเอาสินสมบัติ ทางฝั่งลูก กับภารยาใหม่ได้หรือไม่ (เพราะตามที่ผมเข้าใจ เงินที่เค้าหาได้ทุกบาท ในช่วงทะเบียนสมรถ ต้องถือว่าเป็ยของฝั่งภารยาเก่าด้วย)
3.จะมีปัญหากับฝั่ง ภารยาใหม่กับบุตร คนไทยรึป่าว (เพราะฝั่งไทย ก็ไม่ได้ต้องการสมบัติฝั่งนั้นอยู่แล้ว กลัวแค่จะมีปัญหาเดือดร้อยเฉยๆ)
4.ทำแบบนี้ไม่รู้ว่าฝ่ายชาย เอาเปรียบฝ่ายภารยาใหม่รึไม่ มาอาศัย กินอยู่ที่ไทย แต่เงินเดือนให้เท่ากับฝั่งภารยาเก่า แถมไม่ยอมจะกลับไป อยากจะมาอาศัยอยู่ที่ไทย ยอมแม้กระทั่งจะให้ขายบ้าน ขายทรัพย์เพื่อให้ตัวเค้าได้มีเงินค้ำประกันตัว
5. เค้าไม่ยอมหย่ากับภารยาเก่าเค้า ซึ่งไม่รู้ว่าทำไม แต่มาทำเรื่องนู้นนี่ ที่ไทย โดยไม่ปรึกษากับทางฝั่งนั้นเลย ซึ่งทางฝั่งภารยาใหม่ได้ขอ บอกให้เค้าอย่าแล้วมาจดทะเบียนกับฝั่งไทย ตั้งหลายสิบปีแล้ว เพื่อที่จะได้ย้ายสัญชาติ ซึ่งตอนนั้นตัวเค้าบอกกับฝั่งภารยาใหม่ว่า ตัวเค้าแค่จะมาหาเงินกลับบ้านเค้าเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ พอเค้าใกล้จะเกษียณอายุงาน เค้าก็มายอมรับว่า ตัวเค้าจะต้องทำทุกทางยังไงก็ได้ให้เค้าอยู่ที่ไทย และในสมัยก่อนมาไทยแรกๆ เค้าไม่อย่ากับภารยาเก่าเพราะเค้าไม่ได้คิดจะมาอยู่ไทยนาน ตั้งแต่แรกแล้ว (เหมือนตอนนี้ทางตัน ทางนั้นก็ไม่เอา ทางไทยก็เริ่มจะไม่เอาเหมือนกัน) แบบนี้เค้าเห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่
สอบถามเรื่องการโอนสัญชาติ - การรับรองบุตร
เรื่องมีอยู่ว่า มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเค้าเป็นชาวต่างชาติ ซึ่งตัวเค้าจดทเบียนสมรสและมีบุตรอยู่ทางฝั่งนั้น แต่เค้าเข้ามาทำงานที่ไทย มีภารยาใหม่ และมีบุตรกับภารยาใหม่อีก 2 คน ซึ่งเงินเดือนที่เค้าหาได้ เค้าจะแบ่งครึ่งให้ทางภารยาสมรสเค้า 50% ส่วนอีก 50% เค้าเอามาใช้จ่ายอยู่กับภารยาใหม่(ที่ไม่ได้จดทะเบียน) ซึ่งมีบ้าน มีรถ แต่เป็นชื่อของภารยาใหม่ฝั่ง(ไทย) ซึ่งปัจจุบันเค้าได้เซ็นโอนสมบัติทางฝั่งต่างชาติให้ภารยาเก่ากับบุตรไปแล้ว ทั้งบ้าน ทั้งสินทรัพย์ทั้งหลาย แล้วก็เหมือนว่าทางภารยาเก่าก็จะไล่ไม่ให้กลับมาด้วย เวลาเค้ากลับไปเยี่ยมบ้านก็จะไม่มีที่อยู่ ต้องไปนอนที่คอนโดของน้องสาว
แต่ปัญหาจริงๆมีอยู่ว่า ตอนนี้เค้าต้องการจะทำอย่างไรก็ได้ให้สามารถมาปักหลักอาศัยอยู่ประเทศไทยได้ (ใกล้เกษียณอายุงาน) ตอนแรกเค้าบอกให้ทางฝั่งภารยาใหม่ให้เอาบ้าน เอาสินทรัพย์ไปเข้าธนาคาร เอาเงินมาเข้าบัญชี ค้ำประกันตัวเค้าใว้ ให้สามารถอาศัยอยู่ที่ไทยได้ แต่ฝั่งภารยาใหม่ไม่ยอม (เพราะเค้าไมอยากเสียบ้านที่เป็นสมบัติเดียวของเค้ากับลูกอีก2 คน ที่ต้องอยู่อาศัย) ตอนนี้เค้าเลยหาทางใหม่ เค้าต้องการจดทะเบียนรับรองบุตรทางฝั่งภารยาใหม่ทั้ง 2 คน เพื่อที่เค้าจะใช้เป็นเหตุผลทางมนุษยธรรมในการขอสัญชาติประเทศไทย
แต่ผมมีเรื่องจะถามอยู่ว่า
1.ในกรณีเซ็นรับรองบุตร สมบัติทุกอย่างที่เป็นของเค้า กับภาารยาสมรสเค้า จะตก ถูกแบ่งให้กับบุตร 2 คนที่เค้าเซ็นรับรองบุตรหรือไม่
2. ถ้าสมมติตัวเค้าเสียชีวิต ฝั่งภารยาสมรสมีสิทธิ์มาเอาสินสมบัติ ทางฝั่งลูก กับภารยาใหม่ได้หรือไม่ (เพราะตามที่ผมเข้าใจ เงินที่เค้าหาได้ทุกบาท ในช่วงทะเบียนสมรถ ต้องถือว่าเป็ยของฝั่งภารยาเก่าด้วย)
3.จะมีปัญหากับฝั่ง ภารยาใหม่กับบุตร คนไทยรึป่าว (เพราะฝั่งไทย ก็ไม่ได้ต้องการสมบัติฝั่งนั้นอยู่แล้ว กลัวแค่จะมีปัญหาเดือดร้อยเฉยๆ)
4.ทำแบบนี้ไม่รู้ว่าฝ่ายชาย เอาเปรียบฝ่ายภารยาใหม่รึไม่ มาอาศัย กินอยู่ที่ไทย แต่เงินเดือนให้เท่ากับฝั่งภารยาเก่า แถมไม่ยอมจะกลับไป อยากจะมาอาศัยอยู่ที่ไทย ยอมแม้กระทั่งจะให้ขายบ้าน ขายทรัพย์เพื่อให้ตัวเค้าได้มีเงินค้ำประกันตัว
5. เค้าไม่ยอมหย่ากับภารยาเก่าเค้า ซึ่งไม่รู้ว่าทำไม แต่มาทำเรื่องนู้นนี่ ที่ไทย โดยไม่ปรึกษากับทางฝั่งนั้นเลย ซึ่งทางฝั่งภารยาใหม่ได้ขอ บอกให้เค้าอย่าแล้วมาจดทะเบียนกับฝั่งไทย ตั้งหลายสิบปีแล้ว เพื่อที่จะได้ย้ายสัญชาติ ซึ่งตอนนั้นตัวเค้าบอกกับฝั่งภารยาใหม่ว่า ตัวเค้าแค่จะมาหาเงินกลับบ้านเค้าเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ พอเค้าใกล้จะเกษียณอายุงาน เค้าก็มายอมรับว่า ตัวเค้าจะต้องทำทุกทางยังไงก็ได้ให้เค้าอยู่ที่ไทย และในสมัยก่อนมาไทยแรกๆ เค้าไม่อย่ากับภารยาเก่าเพราะเค้าไม่ได้คิดจะมาอยู่ไทยนาน ตั้งแต่แรกแล้ว (เหมือนตอนนี้ทางตัน ทางนั้นก็ไม่เอา ทางไทยก็เริ่มจะไม่เอาเหมือนกัน) แบบนี้เค้าเห็นแก่ตัวเกินไปหรือไม่