ต้องเกริ่นก่อนว่าสมัยมัธยม ผมเป็นคนที่มีสังคมค่อนข้างกว้าง มีเพื่อนฝูงเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เป็นนักดนตรีและก็มีกลุ่มเพื่อนที่เป็นนักดนตรี และยังเป็นหัวน่าวงโย เลยมีสังคมเด็กวงโยอีกและด้วยความที่เป็นเด็กกิจกรรมก็มีเพื่อนต่าง รร อีก ซึ่งพอเข้ามหาลัยมันกลับกันเลยคับ เรียกได้ว่า จุดสูงสุดของมัธยมสู่จุดต่ำสุดของมหาลัยก็ไม่เชิง ตอนนี้ผมเรียนสถาปัตย์ซึ่งการแข่งขันกันมันชัดเจนมากพอทำงานดีก็เป็นเรื่องธรรมดาที่โดนคนอื่นหมันใส้เข้า เพื่อนที่เคยมีตอนรับน้องก็อยู่คนละห้อง เราต้องมาอยู่อีกห้องที่เราไม่ค่อยมีสังคมเท่าไหร่ หลายๆครั้งรู้สึกว่าเหมือนโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว พยายามเข้าหาเพื่อนนะคับแต่ก็ไม่สามารถที่จะตีสนิทได้เลย ทำอะไรก็ไม่มีความเกรงใจเราเลยซักนิด ผมเป็นคนเฟรนลี่น้ะ แต่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ปรับตัวไม่ทันจิงๆ บางวันก็แอบร้องไห้เหมือนกัน มันเคว้งคว้างมากคับ บางทีทำงานกลุ่มเราจะถูกเลือกเป็นคนท้ายๆ หรือไม่ก็เป็นเศษ ล่าสุดก็ทะเลาะกับเพื่อนในห้อง ไม่มีใครมาอยู่ข้างเราซักคน บางงานมันต้องจับกลุ่มและเราโดนแบบนี้ 555 ท้อใจเลย ไม่ใช่คนทำงานไม่ดีหรือไม่ขยันนะคับ ผมเป็นพวกว่าถ้าให้ทำอะไรผมทุ่มเต็มที่อยู่แล้ว ไม่รู้ว่าสังคมแบบนี้จะบีบทำให้ผมเรียนไม่จบหรือป่าว ผมมีความฝันนะอยากจบมามีงานทำดีๆ ผญ ที่คุยๆกับผมอยู่ตอนนี้ก็ได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ ผมก็อยากจบมามีงานทำเป็นหลักเป็นฐาน ตะก่อนมีเพื่อน ตอนนี้เคว้งคว้าง เพื่อนที่เป็นกลุ่มเดียวกันก็มีติดต่อกันแต่ก็ห่างๆเพราะเรียนไกลกัน ชีวิตมหาลัยทำไมมันากจังคับ
รู้สึกท้อใจกับสังคมมหาลัย