การไปเที่ยวแต้จิ๋ว และ ซัวเถา ของผมและเพื่อน 2 คน ช่วงวันที่ 19-24/10/2560 เน้นการเที่ยวที่ไม่ออกนอกเมืองไปไกลๆ ไม่เน้นการไหว้เจ้า
เราเลือกที่เด่นๆไว้ในแผนแล้ว แต่ระหว่างเที่ยวก็มีการเปลี่ยนแปลง ที่เราคิดว่า มันดีกว่าแผนเที่ยวที่ตั้งไว้แต่แรก ติดตามการเที่ยวของเราดูครับมีทั้ง เจอปัญหา และ เจอเรื่องดีๆ ที่คาดไม่ถึงในการเที่ยวครั้งนี้
เริ่มจากการจองตั๋วแอร์เอเชีย และที่พัก แล้วก็ไปทำวีซ่า ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี
วันที่ 1 19/10/2560 เดินทาง เข้าพักที่เมืองแต้จิ๋ว ไปเดินเล่นถนนคนเดิน ชมกำแพงเมืองยามค่ำ ชมร้านค้าตอนกลางคืน
วันเดินทาง เราไปดอนเมืองแต่เช้า ผมได้ทำการเช็คอินล่วงหน้ามาแล้ว แต่เนื่องจากเรามีกระเป๋าที่ต้องโหลด ทำให้ ต้องไปเข้าคิวโหลดกระเป๋าที่เคาเตอร์เช็คอิน ซึ่งก็มีแถวยาวพอสมควร เสร็จแล้วพอมีเวลาก็ไปทานอาหารเช้ากัน แล้วไปรอขึ้นเครื่องที่ Gate12 ซึ่งเดินไกลมาก
เครื่องบิน บินตามเวลา เวลาประมาณ 10.30 เราก็ทานอาหารอีกมื้อที่จองมาล่วงหน้า เราต้องทานตุนไว้ เพราะ เวลาถึงสนามบินซัวเถาเป็นเวลาเที่ยงกว่า และกว่าเราจะเดินทางเข้าเมือง คงถึงบ่ายๆ
13.10 เวลาที่จีน(ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.) เราก็ถึงสนามบินที่ซัวเถา หลังจากรับกระเป๋าแล้ว ก็ไปซื้อตั๋วรถบัส ไปเมืองแต้จิ๋ว เริ่มต้นก็เจอปัญหาเลย ผมเอารูปป้ายเมืองแต้จิ๋วให้คนขายตั๋วดู และ พูดจีนกลางว่า 3 คน คนขายตั๋วพูดกลับอะไรเยอะแยะ ผมฟังไม่รู้เรื่อง ลืมบอกว่า ผมพูดได้แค่คำสองคำเอง(555) ก็เลย พูดภาษาอังกฤษไป คราวนี้ คนขายตั๋วไปพูดกับเพื่อนที่พูดอังกฤษได้ และจะให้มาพูดกับผมแทน แต่เขาติดคุยกับลูกค้าอยู่ ระหว่างรอ เพื่อนที่พูดแต้จิ๋วได้ ลองพูดกับคนขายตั๋วคนเดิม เขาพูดแต้จิ๋วได้ครับ คราวนี้ ได้ตั๋วมาเรียบร้อย สรุปสิ่งที่คนขายตั๋วจะบอกคือ พวกผมต้องรอรถที่จะไปแต้จิ๋ว 45 นาที โธ่ เรื่องนี้ เรารออยู่แล้ว
ราคาตั๋ว 15 หยวนต่อคน (ในรูป 16 หยวน)
ระหว่างรอรถเพื่อนก็ไปถ่ายรูปกัน ผมเฝ้ากระเป๋ารอที่ป้ายรถ(ตอนผมไป ไม่ได้ไปรอที่เสาอย่างรีวิวที่อ่านมา เขาเปลี่ยนเป็นป้ายแทน)
หลังจากเพื่อนๆถ่ายรูปที่สวนหน้าสนามแล้ว กลับมาหาผม เราจะถ่ายรูป 3 คนกัน ก็เลยขอให้คนที่นั่งใกล้ๆ ช่วยถ่ายรูปให้
หลังจากถ่ายรูปให้พวกเราแล้ว เพื่อนก็ชวนเขาคุย คุยกันด้วยภาษาแต้จิ๋ว เขาชื่อ เหมียว เหมียว เป็น รปภ.สนามบิน เราขอให้เขาช่วยเขียนชื่อห้างสรรพสินค้าในเมืองแต้จิ๋ว เพื่อเราจะไปทานข้าวกัน หลังจากเข้าเมืองแล้ว เราก็ได้โพยมาเป็นภาษาจีน และสถานที่เที่ยวเป็นภาษาจีนด้วย ไว้ยื่นให้คนจีนดู ตอนจ้างรถ
14.40 รถบัสออกเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองแต้จิ๋ว มีคนลงระหว่างทาง แต่ผมจะลงสุดทางที่ Jin Xin Hotel (ตามรูป)
15.40 ก็ถึงปลายทาง ลงรถ ผมก็ดู Google Map ไปโรงแรมที่จองมาซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 700 ม. เราเดินไป ผมจองโรงแรม Hanting Express Chaozhou new bridge Branch จาก Booking.com และพิมพ์ใบจองมาเป็นภาษาจีน เพราะจะสะดวกในการถามทาง หรือ ยื่นให้แท็กซี่
ผมเคยไปเที่ยวจีนคนเดียวมาแล้ว 2 ครั้ง เคยพบว่า ที่ตั้งโรงแรมที่ระบุมาไม่ตรง ก็ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ครั้งนี้ ผมหาโรงแรมเจอไม่ยาก แต่กลับเจอปัญหาที่น่าตกใจมากกว่า คือ โรงแรมไม่ยอมให้เราเข้าพัก เพราะเป็นโรงแรมที่รับแต่คนจีน เรื่องนี้ ผมก็ทราบ โรงแรมจะระบุไว้แล้ว แต่ตอนผมจองโรงแรมนี้ ไม่มีข้อความนี้ระบุเลย และผมจองมานานแล้ว ระหว่างนั้น ก็เข้าไปดูบ่อยๆ และก็คิดจะเปลี่ยนโรงแรมหลายครั้ง แต่สื่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจในการจองโรงแรมนี้ คือ มีรีวิวจากคนไทยและคนต่างชาติด้วย คะแนนที่ได้ก็สูง จึงไม่เปลี่ยนจนเดินทางมาถึง
ผมขอให้พนักงานโรงแรมช่วยแนะนำโรงแรมให้ด้วย ก็สื่อสารกันยาก เขาแนะนำมาเป็นโรงแรมราคาพันกว่าบาทต่อคืน ซึ่งผมก็ดูมาก่อนแล้ว ตอนคิดเปลี่ยนโรงแรม แต่ก็พยายามขอให้เขาแนะนำ โรงแรมใหม่ ที่ราคาใกล้เคียงกับโรงแรมเขา ข้อความที่สื่อสารผ่านมือถือมาว่า เวลานี้ เป็นช่วงที่มีคนเข้าพักมาก ส่วนใหญ่โรงแรมเต็มแล้ว อ่านแล้วเศร้าเลย
ผมจึงเปิดมือถือ (ใช้ AIS Sim 2 Fly) เข้า Booking.com หาโรงแรม ระหว่างที่หาอยู่นั้น ก็มีโชคหรือสิ่งดีๆเกิดขึ้น เพื่อนคนที่พูดแต้จิ๋วได้ ไปขอความช่วยเหลือจาก ชายจีนคนหนึ่ง ภายหลังเราก็รู้ชื่อว่า Lai ช่วยเราหาโรงแรมให้ และสุดท้ายอาสาไปส่งเราที่โรงแรม โรงแรมนี้ครับ Yunhe Hotel 云和大酒店 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน ตรงข้ามกับจุดที่เราลงรถบัสจากสนามบินเลย ค่าพักก็ถูกด้วย 100 หยวนต่อคืน เราพัก 2 ห้อง 3 คืนก็จ่ายเงินไป ผมคิดว่าโรงแรมนี้ เป็นโรงแรมที่รับแต่คนจีน แต่ Lai ใช้บัตรประชาชนของเขาลงทะเบียนให้ พวกผมจึงได้พัก สภาพโรงแรมดีพอใช้ ผมพอใจในโรงแรมนี้เลย เพราะเดินทางสะดวก
16.30 เราไปหาที่ทานข้าวกัน ชวน Lai ไปด้วย ตั้งใจเลี้ยงขอบคุณด้วย แต่เขาติดงาน เราจึงไปกันเอง 3 คน เนื่องจากหิวแล้ว ไม่อยากเสียเวลาเดินหา เราจึงเอาโพยของเหมียว เหมียว มาใช้ ยื่นให้สามล้อถีบ แล้วบอกว่าไปตามรายชื่อแรกในโพย ตกลงค่าสามล้อ 15 หยวน รับเรา 3 คน ไป เราก็ได้ชมวิวเมืองแต้จิ๋วตอนเย็นกัน
ไม่นานก็ถึงจุดหมาย ซึ่งก็ คือ บริเวณวัดไคหยวน นั่นเอง ท่าเราจะสื่อสารผิด จะไปทานข้าวที่ห้าง มาวัดแทน อาเจ็กจอดรถแล้วก็ชี้ว่า ทางนี้มีร้านอาหารเยอะ เราก็เดินไปตามทางที่เขาบอก แต่ผมไม่ชอบ มีแต่ร้านเล็กๆ เดินจนสุดไปถึงกำแพงเมือง ก็ใกล้มืดเริ่มเปิดไฟแล้ว เพื่อนๆขอถ่ายรูปกันก่อน
เที่ยวแต้จิ๋ว ซัวเถา ไปถิ่นเกิดของบรรพบุรุษ และอยากรู้ว่าจะพูดแต้จิ๋วกันรู้เรื่องไหม
การไปเที่ยวแต้จิ๋ว และ ซัวเถา ของผมและเพื่อน 2 คน ช่วงวันที่ 19-24/10/2560 เน้นการเที่ยวที่ไม่ออกนอกเมืองไปไกลๆ ไม่เน้นการไหว้เจ้า
เราเลือกที่เด่นๆไว้ในแผนแล้ว แต่ระหว่างเที่ยวก็มีการเปลี่ยนแปลง ที่เราคิดว่า มันดีกว่าแผนเที่ยวที่ตั้งไว้แต่แรก ติดตามการเที่ยวของเราดูครับมีทั้ง เจอปัญหา และ เจอเรื่องดีๆ ที่คาดไม่ถึงในการเที่ยวครั้งนี้
เริ่มจากการจองตั๋วแอร์เอเชีย และที่พัก แล้วก็ไปทำวีซ่า ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี
วันที่ 1 19/10/2560 เดินทาง เข้าพักที่เมืองแต้จิ๋ว ไปเดินเล่นถนนคนเดิน ชมกำแพงเมืองยามค่ำ ชมร้านค้าตอนกลางคืน
วันเดินทาง เราไปดอนเมืองแต่เช้า ผมได้ทำการเช็คอินล่วงหน้ามาแล้ว แต่เนื่องจากเรามีกระเป๋าที่ต้องโหลด ทำให้ ต้องไปเข้าคิวโหลดกระเป๋าที่เคาเตอร์เช็คอิน ซึ่งก็มีแถวยาวพอสมควร เสร็จแล้วพอมีเวลาก็ไปทานอาหารเช้ากัน แล้วไปรอขึ้นเครื่องที่ Gate12 ซึ่งเดินไกลมาก
เครื่องบิน บินตามเวลา เวลาประมาณ 10.30 เราก็ทานอาหารอีกมื้อที่จองมาล่วงหน้า เราต้องทานตุนไว้ เพราะ เวลาถึงสนามบินซัวเถาเป็นเวลาเที่ยงกว่า และกว่าเราจะเดินทางเข้าเมือง คงถึงบ่ายๆ
13.10 เวลาที่จีน(ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.) เราก็ถึงสนามบินที่ซัวเถา หลังจากรับกระเป๋าแล้ว ก็ไปซื้อตั๋วรถบัส ไปเมืองแต้จิ๋ว เริ่มต้นก็เจอปัญหาเลย ผมเอารูปป้ายเมืองแต้จิ๋วให้คนขายตั๋วดู และ พูดจีนกลางว่า 3 คน คนขายตั๋วพูดกลับอะไรเยอะแยะ ผมฟังไม่รู้เรื่อง ลืมบอกว่า ผมพูดได้แค่คำสองคำเอง(555) ก็เลย พูดภาษาอังกฤษไป คราวนี้ คนขายตั๋วไปพูดกับเพื่อนที่พูดอังกฤษได้ และจะให้มาพูดกับผมแทน แต่เขาติดคุยกับลูกค้าอยู่ ระหว่างรอ เพื่อนที่พูดแต้จิ๋วได้ ลองพูดกับคนขายตั๋วคนเดิม เขาพูดแต้จิ๋วได้ครับ คราวนี้ ได้ตั๋วมาเรียบร้อย สรุปสิ่งที่คนขายตั๋วจะบอกคือ พวกผมต้องรอรถที่จะไปแต้จิ๋ว 45 นาที โธ่ เรื่องนี้ เรารออยู่แล้ว
ราคาตั๋ว 15 หยวนต่อคน (ในรูป 16 หยวน)
ระหว่างรอรถเพื่อนก็ไปถ่ายรูปกัน ผมเฝ้ากระเป๋ารอที่ป้ายรถ(ตอนผมไป ไม่ได้ไปรอที่เสาอย่างรีวิวที่อ่านมา เขาเปลี่ยนเป็นป้ายแทน)
หลังจากเพื่อนๆถ่ายรูปที่สวนหน้าสนามแล้ว กลับมาหาผม เราจะถ่ายรูป 3 คนกัน ก็เลยขอให้คนที่นั่งใกล้ๆ ช่วยถ่ายรูปให้
หลังจากถ่ายรูปให้พวกเราแล้ว เพื่อนก็ชวนเขาคุย คุยกันด้วยภาษาแต้จิ๋ว เขาชื่อ เหมียว เหมียว เป็น รปภ.สนามบิน เราขอให้เขาช่วยเขียนชื่อห้างสรรพสินค้าในเมืองแต้จิ๋ว เพื่อเราจะไปทานข้าวกัน หลังจากเข้าเมืองแล้ว เราก็ได้โพยมาเป็นภาษาจีน และสถานที่เที่ยวเป็นภาษาจีนด้วย ไว้ยื่นให้คนจีนดู ตอนจ้างรถ
14.40 รถบัสออกเดินทางจากสนามบินเข้าเมืองแต้จิ๋ว มีคนลงระหว่างทาง แต่ผมจะลงสุดทางที่ Jin Xin Hotel (ตามรูป)
15.40 ก็ถึงปลายทาง ลงรถ ผมก็ดู Google Map ไปโรงแรมที่จองมาซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 700 ม. เราเดินไป ผมจองโรงแรม Hanting Express Chaozhou new bridge Branch จาก Booking.com และพิมพ์ใบจองมาเป็นภาษาจีน เพราะจะสะดวกในการถามทาง หรือ ยื่นให้แท็กซี่
ผมเคยไปเที่ยวจีนคนเดียวมาแล้ว 2 ครั้ง เคยพบว่า ที่ตั้งโรงแรมที่ระบุมาไม่ตรง ก็ทำใจไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ครั้งนี้ ผมหาโรงแรมเจอไม่ยาก แต่กลับเจอปัญหาที่น่าตกใจมากกว่า คือ โรงแรมไม่ยอมให้เราเข้าพัก เพราะเป็นโรงแรมที่รับแต่คนจีน เรื่องนี้ ผมก็ทราบ โรงแรมจะระบุไว้แล้ว แต่ตอนผมจองโรงแรมนี้ ไม่มีข้อความนี้ระบุเลย และผมจองมานานแล้ว ระหว่างนั้น ก็เข้าไปดูบ่อยๆ และก็คิดจะเปลี่ยนโรงแรมหลายครั้ง แต่สื่งหนึ่งที่ทำให้ผมมั่นใจในการจองโรงแรมนี้ คือ มีรีวิวจากคนไทยและคนต่างชาติด้วย คะแนนที่ได้ก็สูง จึงไม่เปลี่ยนจนเดินทางมาถึง
ผมขอให้พนักงานโรงแรมช่วยแนะนำโรงแรมให้ด้วย ก็สื่อสารกันยาก เขาแนะนำมาเป็นโรงแรมราคาพันกว่าบาทต่อคืน ซึ่งผมก็ดูมาก่อนแล้ว ตอนคิดเปลี่ยนโรงแรม แต่ก็พยายามขอให้เขาแนะนำ โรงแรมใหม่ ที่ราคาใกล้เคียงกับโรงแรมเขา ข้อความที่สื่อสารผ่านมือถือมาว่า เวลานี้ เป็นช่วงที่มีคนเข้าพักมาก ส่วนใหญ่โรงแรมเต็มแล้ว อ่านแล้วเศร้าเลย
ผมจึงเปิดมือถือ (ใช้ AIS Sim 2 Fly) เข้า Booking.com หาโรงแรม ระหว่างที่หาอยู่นั้น ก็มีโชคหรือสิ่งดีๆเกิดขึ้น เพื่อนคนที่พูดแต้จิ๋วได้ ไปขอความช่วยเหลือจาก ชายจีนคนหนึ่ง ภายหลังเราก็รู้ชื่อว่า Lai ช่วยเราหาโรงแรมให้ และสุดท้ายอาสาไปส่งเราที่โรงแรม โรงแรมนี้ครับ Yunhe Hotel 云和大酒店 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนน ตรงข้ามกับจุดที่เราลงรถบัสจากสนามบินเลย ค่าพักก็ถูกด้วย 100 หยวนต่อคืน เราพัก 2 ห้อง 3 คืนก็จ่ายเงินไป ผมคิดว่าโรงแรมนี้ เป็นโรงแรมที่รับแต่คนจีน แต่ Lai ใช้บัตรประชาชนของเขาลงทะเบียนให้ พวกผมจึงได้พัก สภาพโรงแรมดีพอใช้ ผมพอใจในโรงแรมนี้เลย เพราะเดินทางสะดวก
16.30 เราไปหาที่ทานข้าวกัน ชวน Lai ไปด้วย ตั้งใจเลี้ยงขอบคุณด้วย แต่เขาติดงาน เราจึงไปกันเอง 3 คน เนื่องจากหิวแล้ว ไม่อยากเสียเวลาเดินหา เราจึงเอาโพยของเหมียว เหมียว มาใช้ ยื่นให้สามล้อถีบ แล้วบอกว่าไปตามรายชื่อแรกในโพย ตกลงค่าสามล้อ 15 หยวน รับเรา 3 คน ไป เราก็ได้ชมวิวเมืองแต้จิ๋วตอนเย็นกัน
ไม่นานก็ถึงจุดหมาย ซึ่งก็ คือ บริเวณวัดไคหยวน นั่นเอง ท่าเราจะสื่อสารผิด จะไปทานข้าวที่ห้าง มาวัดแทน อาเจ็กจอดรถแล้วก็ชี้ว่า ทางนี้มีร้านอาหารเยอะ เราก็เดินไปตามทางที่เขาบอก แต่ผมไม่ชอบ มีแต่ร้านเล็กๆ เดินจนสุดไปถึงกำแพงเมือง ก็ใกล้มืดเริ่มเปิดไฟแล้ว เพื่อนๆขอถ่ายรูปกันก่อน