วันนี้จะขอลงประวัติของกันดั้มตัวโปรดของผมในซีรี่ย์ Gundam Seed Astray แก่ทุกๆท่านนะครับ
ก่อนอื่นจะของกล่าวที่มาที่ไปของ Astray Series กันก่อน
"Astray Series" เป็นโมบิลสูทรุ่นทดลองที่มีสายการผลิตลับๆเกิดขึ้นที่เฮลิโอโปลิสในปี C.E.71 เนื่องจากในเวลานั้น
ทางกองทัพสหพันธ์ฯต้องการที่จะสร้างโมบิลสูทเพื่อใช้ต่อต้านโมบิลสูทของซาฟท์อย่าง Ginn จึงได้ขอความร่วมมือทาง
เทคโนโลยีจากทางสหพันธรัฐอ๊อร์บเพื่อสร้าง G ขึ้นมา 5 เครื่องคือ Duel, Buster, Strike, Blitz, และ Aegis
ซึ่งทางอ๊อร์บที่ในเวลานั้นต้องการที่จะเพิ่มศักยภาพทางทหารให้แก่ประเทศตัวเองอยู่แล้วจึงได้ให้ความร่วมมือ
กับทางสหพันธ์และแอบลักลอบขโมยข้อมูลทางเทคโนโลยีของทางสหพันธ์ฯส่วนนึงมาสร้างโมบิลสูทของตัวเอง ภายใต้รหัสว่า
"Astray" ที่แปลว่า "การหลงผิด" หรือ "นอกลู่นอกทาง" ซึ่งเป็นการบ่งบอกกับแฟนๆซีรี่ยส์นี้กลายๆว่า
"เป็นโมบิลสูทที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อภารกิจเบื้องหลัง" ถูกสร้างขึ้นที่โรงงานลับใต้ดินของบริษัท มอร์แกนเร้ทอีกทีนึง
ซึ่งโครงการนี้ถือกำเนิดจาก 1 ในตระกูลใหญ่ของอ๊อร์บอย่าง "ตระกูลซาฮาคุ" และผู้นำตระกูลในตอนนั้นคือ รอนโด "กิน่า" ซาฮาคุ
เป็นตัวตั้งตัวตีและเจ้าของโครงการนี้นั่นเอง ซึ่งโมบิลสูทในซีรี่ยส์นี้จะได้รับรหัสว่า "MBF-P" ย่อมาจาก "Main Battle Figure – Prototype" หมายถึง "อาวุธรูปร่างมนุษย์สำหรับทำการรบรุ่นทดลอง" ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับ GAT-X
ในระหว่างนั้นเฮลิโอปิสถูกกองทัพซาฟท์บุกโจมตีเพื่อชิง G ไป ทางกิน่าที่เกรงว่าเรื่องที่อ๊อร์บลักลอบขโมยเทคโนโลยีของสหพันธ์ฯ
เพื่อสร้างโมบิลสูทในโคโลนี่ของประเทศเป็นกลางจะแดงขึ้นมา กิน่าจึงได้สั่งให้ทำลายโรงงานของโครงการ Astray ทิ้งทั้งหมด
และชิงเอาโมบิลสูทตัวนึงในโครงการกลับไปซึ่งก็คือโมบิลสูทที่จะพูดถึงในวันนี้นั่นก็คือ MBF-P01 Gundam Astray Gold Frame นั่นเอง
MBF-P01 Gundam Astray Gold Frame เป็นโมบิลสูทใน Astray ซีรี่ยส์เครื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นในโครงการนี้ และเป็น Astray เพียงเครื่องเดียวที่ได้รับการปรับปรุงและดัดแปลงบ่อยครั้งตามความเสียหายที่ได้รับจากการต่อสู้ ส่วนสาเหตุที่มันมีสีทองนั้นเป็นเพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโมบิลสูทประจำตัวของ 1 ในสมาชิกตระกูลใหญ่ของสหพันธรัฐอ๊อร์บ วึ่งก็คือตัวกิน่าเอง หรือจะบอกว่าเป็นโมบิลสูทส่วนตัวของกิน่า ก็คงจะไม่ผิดนักสำหรับเกราะภายนอกนั้นเป็นเกราะโฟมโลหะเพียวๆไม่มีอะไรเป็นพิเศษถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างมาโดยอ้างอิงจากของมูลที่ขโมยมาจากสหพันธ์ฯก็ตามแต่ไม่ได้รับระบบเฟสชิฟท์มาด้วยเพราะ ระบบเฟสชิฟท์ เป็นเทคโนโลยีลับสุดยอดของทางสหพันธ์ฯ ซึ่งในระหว่างการพัฒนา G นั่นไม่สามารถขโมยระบบนี้มาได้ทันก่อนเกิดการแยกชิงโมบิลสูทขึ้นและเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่ากำลังสร้างโมบิลสูทอย่างลับๆจึงได้ใช้รูปแบบของโล่ห์ให้เป็นแบบเดียวกับ Gและด้วยโครงสร้างของเกราะที่เบาบางกว่า G ทำให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกว่า G ของทางสหพันธ์ฯ ยิ่งกว่านั้นส่วนของแบ๊คแพ๊คออกแบบมาให้เคลื่อนลงมาที่ส่วนสะโพกด้านหลังทำให้มีพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้อย่างหลากหลายแบบมาก
ส่วนอาวุธประจำตัวหลักๆของ Astray ซีรี่ยส์จะมีอยู่ 4 อย่างคือ
1. ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 75 mm "Igelstellung" ที่หัว 2 กระบอก
2. บีมเซเบอร์ 2 เล่ม
3. โล่ห์ Anti-Beam Coating 1 ชิ้น
4. บีมไรเฟิล Type 71 1 กระบอก
แต่ในระหว่างที่กำลังจะหนีออกจากโรงงานลับเกิดเพดานถล่มลงมาปิดกั้นทางออกเอาไว้ กิน่าจึงต้องจำใจใช้ปืนบาซูก้าพลังไฟฟ้าขนาด 350 mm "Gae Bulg"ของ Duel
มาใช้เพื่อเปิดทางหนีจากเฮลิโอโปลิส แต่อนิจจาปืนใหญ่กระบอกนี้ตัว Gold Frame ไม่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้มันได้อย่างเหมาะสมจึงทำให้มันต้องเสียแขนขวาไปในการยิงครั้งนั้น และเป็นเหตุให้พวกโลว์มาพบเข้าในเวลาต่อมา จากนั่นพวกโลว์ที่ต้องการจะลงไปยังโลกนั้นก็ได้ถูก Gold Frame ที่กิน่าควบคุมเข้าโจมตีโดยไม่มีการเตือนใดๆเพื่อหวังจะทดสองระบบที่ตัวเองปรับปรุงระหว่างหลบหนีและทดสอบฝีมือไปในตัว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่อาจจะสู้กับลูกล่อลูกชนของโลว์ที่ควบคุม Red Frame ได้ ทำให้ Gold Frame ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะโดนลูกบอลพลังงานจากมือของ Red Frame ปะทะเข้าที่หน้าทำให้ส่วนหัวถูกทำลายและตกลงสู่โลกที่อ๊อร์บ ต่อมามันได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงอยู่ในโรงงานลับ(อีกแล้ว)ของอ๊อร์บที่ตั้งอยู่ข้างๆกันกับโรงซ่อมแซม Archangel กับ Strike ที่เกาะโอโนโกร(ใกล้โคตรๆ) ซึ่งคราวนี้มันได้รับการปรับปรุงเพิ่มด้วยการติดตั้งโมโนอายเข้าไปก่อน
และหลังจากการต่อสู้ระหว่าง Strike กับ Blitz จบลงด้วยชัยชนะของคิระ กิน่าที่รู้ข่าวนี้จึงได้สั่งให้เก็บกู้ซากของ Blitz กลับมาและได้นำส่วนแขนขวาของ Blitz ที่ถูก Strike ฟันขาดมาต่อให้กับ Gold Frameซึ่งขาดแขนขวาอยู่พอดีทำให้มันได้รับระบบและอาวุธที่มีอยู่ในตัวของ Blitz เป็นของแถมมาถึง 3 อย่างด้วยกันคือ
1. Trikeros (อาวุธของ Blitz)
2. ระบบพรางตัว Mirage Colloid (เฉพาะแขนขวา)
3. Phase Shift Armor (เฉพาะแขนขวา)
และได้รับรหัสใหม่เป็น MBF-P01-ReAMATU Gundam Astray Gold Frame Amatsu ซึ่งมีอยู่ 2 ร่างคือ
1. ร่างไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะมีแค่ติดตั้งแขนขวาของ Blitz และ โมโนอาย เพิ่มเข้าไปเท่านั้น
2. ร่างสมบูรณ์
ได้ทำการติดตั้งปีกติดกรงเล็บสำหรับดูดซับพลังงาน "มากะ โนะ อิคุทาจิ"เอาไว้ดูดกลืนพลังงานจากโมบิลสูทเครื่องอื่นได้ด้วยการใช้ปีกจับตัวโมบิลสูทเอาไว้และค่อยๆดูดกลืนพลังงานจนเกลี้ยงและทำลายทิ้ง ติดฉมวก "มากะชิระ โนะ โฮโกะ" สำหรับใช้จับศัตรูและดึงเข้าหาตัวเองได้ ปรับปรุง Trikeros ของ Blitz ใหม่ให้เน้นการต่อสู้ระยะประชิดมากขึ้นเป็น Trikeros Kai
และที่สำคัญคือในร่างนี้สามารถใช้ความสามารถของ Blitz ได้อย่างสมบูรณ์
ต่อมาได้เข้าต่อสู้กับโลว์และไกที่ขับ Blue Frame จนพ่ายแพ้และถูกไกใช้ Armor Schneider แทงเข้าที่ห้องนักบินจนตายเมื่อกิน่าเสียชีวิตไป มิน่า น้องสาวฝาแฝดของเขาจึงได้ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูลซาฮาคุต่อจากกิน่า ได้เก็บกู้ Gold Frame Amatsu กลับมาปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 4 จุดคือ
1. ติดตั้งสนับกรงเล็บ "ทสึมุฮะ โนะ ทาจิ" ที่แขนซ้าย
2. เสริมดาบเหล็กคู่ "โททสึกะ โนะ ทสึรุกิ" 2 เล่ม
3. เสริมปากเท้าใหเดูเหมือนรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง
4. อาวุธพิเศษ หอกพิฆาต "โอคิทสึ โนะ คางามิ" ที่ใช้ระบบ อามุเร่ ลูมิแอล ของ ร่มแห่งอาร์เทมิส มาปรับใช้เป็นได้ทั้งบีมชิลด์และหอกบีมและส่วนปลายของบีมสามารถยิงออกไปได้ด้วย ใช้ติดตั้งสลับกับสนับกรงเล็บ "ทสึมุฮะ โนะ ทาจิ" ได้
ปล. หอกพิฆาต "โอคิทสึ โนะ คางามิ" ถูกออกแบบมาเสริมให้กับโมเดล Real Grade ของ Astray Gold Frame Amatsu "Mina" เท่านั้น
และได้รับรหัสใหม่เป็น MBF-P01-Re2AMATU Gundam Astray Gold Frame Amatsu "Mina"
ซึ่งในร่างนี้มักจะมีบทบาทแค่ในทางอ้อมของหน้าประวัติศาสตร์ของยุค C.E. เท่านั้น ทั้งภาค Seed X Astray และ Seed Destiny Astray
และในร่างสุดท้ายนี้เป็นร่างที่มีอยู่แค่ในหนังสือแฟนบุ๊คและเกมส์ Super Robot Wars W เท่านั้น
มีรหัสว่า MBF-01 Gundam Astray Gold Frame Amatsu Perfect Form
ในร่างนีจะทำการดัดแปลงร่างของ Gold Frame ซะใหม่ให้ดูเพรียวขึ้น คล่องตัวมากขึ้น แต่กลับไม่มีอาวุธอะไรเลย นอกจากปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 75 mm "Igelstellung" ที่หัว 2 กระบอก กับ ปีกติดกรงเล็บสำหรับดูดซับพลังงาน "มากะ โนะ อิคุทาจิ"เท่านั้น ทำให้ผมคาดว่า ถ้ากิน่าไม่รีบร้อนเอา Gold Frame ออกมาใช้ในระหว่างการปรับปรุงเป็น Gold Frame Amatsu ในครั้งแรก Gold Frame อาจจะได้ร่างที่สมบูรณ์ที่สุดในรูปลักษณ์นี้ก็เป็นได้ครับ
จบแล้วจ้ากับการรีวิวเจ้า Astray Gold Frame ตัวนี้ แล้วเจอกันคราวหน้านะครับ ซึ่งคราวหน้าจะเป็นหุ่นตัวไหน รอติดตตามกันนะครับ
ราชาสีทองผู้จมดิ่งสู่ความมืดมิดในหน้าประวัติศาสตร์ของ Gundam Seed Astray ''Gundam Astray Gold Frame''
ก่อนอื่นจะของกล่าวที่มาที่ไปของ Astray Series กันก่อน
"Astray Series" เป็นโมบิลสูทรุ่นทดลองที่มีสายการผลิตลับๆเกิดขึ้นที่เฮลิโอโปลิสในปี C.E.71 เนื่องจากในเวลานั้น
ทางกองทัพสหพันธ์ฯต้องการที่จะสร้างโมบิลสูทเพื่อใช้ต่อต้านโมบิลสูทของซาฟท์อย่าง Ginn จึงได้ขอความร่วมมือทาง
เทคโนโลยีจากทางสหพันธรัฐอ๊อร์บเพื่อสร้าง G ขึ้นมา 5 เครื่องคือ Duel, Buster, Strike, Blitz, และ Aegis
ซึ่งทางอ๊อร์บที่ในเวลานั้นต้องการที่จะเพิ่มศักยภาพทางทหารให้แก่ประเทศตัวเองอยู่แล้วจึงได้ให้ความร่วมมือ
กับทางสหพันธ์และแอบลักลอบขโมยข้อมูลทางเทคโนโลยีของทางสหพันธ์ฯส่วนนึงมาสร้างโมบิลสูทของตัวเอง ภายใต้รหัสว่า
"Astray" ที่แปลว่า "การหลงผิด" หรือ "นอกลู่นอกทาง" ซึ่งเป็นการบ่งบอกกับแฟนๆซีรี่ยส์นี้กลายๆว่า
"เป็นโมบิลสูทที่ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่อภารกิจเบื้องหลัง" ถูกสร้างขึ้นที่โรงงานลับใต้ดินของบริษัท มอร์แกนเร้ทอีกทีนึง
ซึ่งโครงการนี้ถือกำเนิดจาก 1 ในตระกูลใหญ่ของอ๊อร์บอย่าง "ตระกูลซาฮาคุ" และผู้นำตระกูลในตอนนั้นคือ รอนโด "กิน่า" ซาฮาคุ
เป็นตัวตั้งตัวตีและเจ้าของโครงการนี้นั่นเอง ซึ่งโมบิลสูทในซีรี่ยส์นี้จะได้รับรหัสว่า "MBF-P" ย่อมาจาก "Main Battle Figure – Prototype" หมายถึง "อาวุธรูปร่างมนุษย์สำหรับทำการรบรุ่นทดลอง" ซึ่งมีความหมายเดียวกันกับ GAT-X
ในระหว่างนั้นเฮลิโอปิสถูกกองทัพซาฟท์บุกโจมตีเพื่อชิง G ไป ทางกิน่าที่เกรงว่าเรื่องที่อ๊อร์บลักลอบขโมยเทคโนโลยีของสหพันธ์ฯ
เพื่อสร้างโมบิลสูทในโคโลนี่ของประเทศเป็นกลางจะแดงขึ้นมา กิน่าจึงได้สั่งให้ทำลายโรงงานของโครงการ Astray ทิ้งทั้งหมด
และชิงเอาโมบิลสูทตัวนึงในโครงการกลับไปซึ่งก็คือโมบิลสูทที่จะพูดถึงในวันนี้นั่นก็คือ MBF-P01 Gundam Astray Gold Frame นั่นเอง
MBF-P01 Gundam Astray Gold Frame เป็นโมบิลสูทใน Astray ซีรี่ยส์เครื่องแรกที่ถูกสร้างขึ้นในโครงการนี้ และเป็น Astray เพียงเครื่องเดียวที่ได้รับการปรับปรุงและดัดแปลงบ่อยครั้งตามความเสียหายที่ได้รับจากการต่อสู้ ส่วนสาเหตุที่มันมีสีทองนั้นเป็นเพราะมันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นโมบิลสูทประจำตัวของ 1 ในสมาชิกตระกูลใหญ่ของสหพันธรัฐอ๊อร์บ วึ่งก็คือตัวกิน่าเอง หรือจะบอกว่าเป็นโมบิลสูทส่วนตัวของกิน่า ก็คงจะไม่ผิดนักสำหรับเกราะภายนอกนั้นเป็นเกราะโฟมโลหะเพียวๆไม่มีอะไรเป็นพิเศษถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างมาโดยอ้างอิงจากของมูลที่ขโมยมาจากสหพันธ์ฯก็ตามแต่ไม่ได้รับระบบเฟสชิฟท์มาด้วยเพราะ ระบบเฟสชิฟท์ เป็นเทคโนโลยีลับสุดยอดของทางสหพันธ์ฯ ซึ่งในระหว่างการพัฒนา G นั่นไม่สามารถขโมยระบบนี้มาได้ทันก่อนเกิดการแยกชิงโมบิลสูทขึ้นและเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยว่ากำลังสร้างโมบิลสูทอย่างลับๆจึงได้ใช้รูปแบบของโล่ห์ให้เป็นแบบเดียวกับ Gและด้วยโครงสร้างของเกราะที่เบาบางกว่า G ทำให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกว่า G ของทางสหพันธ์ฯ ยิ่งกว่านั้นส่วนของแบ๊คแพ๊คออกแบบมาให้เคลื่อนลงมาที่ส่วนสะโพกด้านหลังทำให้มีพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์เสริมได้อย่างหลากหลายแบบมาก
ส่วนอาวุธประจำตัวหลักๆของ Astray ซีรี่ยส์จะมีอยู่ 4 อย่างคือ
1. ปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 75 mm "Igelstellung" ที่หัว 2 กระบอก
2. บีมเซเบอร์ 2 เล่ม
3. โล่ห์ Anti-Beam Coating 1 ชิ้น
4. บีมไรเฟิล Type 71 1 กระบอก
แต่ในระหว่างที่กำลังจะหนีออกจากโรงงานลับเกิดเพดานถล่มลงมาปิดกั้นทางออกเอาไว้ กิน่าจึงต้องจำใจใช้ปืนบาซูก้าพลังไฟฟ้าขนาด 350 mm "Gae Bulg"ของ Duel
มาใช้เพื่อเปิดทางหนีจากเฮลิโอโปลิส แต่อนิจจาปืนใหญ่กระบอกนี้ตัว Gold Frame ไม่ได้รับการปรับปรุงให้สามารถใช้มันได้อย่างเหมาะสมจึงทำให้มันต้องเสียแขนขวาไปในการยิงครั้งนั้น และเป็นเหตุให้พวกโลว์มาพบเข้าในเวลาต่อมา จากนั่นพวกโลว์ที่ต้องการจะลงไปยังโลกนั้นก็ได้ถูก Gold Frame ที่กิน่าควบคุมเข้าโจมตีโดยไม่มีการเตือนใดๆเพื่อหวังจะทดสองระบบที่ตัวเองปรับปรุงระหว่างหลบหนีและทดสอบฝีมือไปในตัว แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่อาจจะสู้กับลูกล่อลูกชนของโลว์ที่ควบคุม Red Frame ได้ ทำให้ Gold Frame ได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้นไปอีกเพราะโดนลูกบอลพลังงานจากมือของ Red Frame ปะทะเข้าที่หน้าทำให้ส่วนหัวถูกทำลายและตกลงสู่โลกที่อ๊อร์บ ต่อมามันได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงอยู่ในโรงงานลับ(อีกแล้ว)ของอ๊อร์บที่ตั้งอยู่ข้างๆกันกับโรงซ่อมแซม Archangel กับ Strike ที่เกาะโอโนโกร(ใกล้โคตรๆ) ซึ่งคราวนี้มันได้รับการปรับปรุงเพิ่มด้วยการติดตั้งโมโนอายเข้าไปก่อน
และหลังจากการต่อสู้ระหว่าง Strike กับ Blitz จบลงด้วยชัยชนะของคิระ กิน่าที่รู้ข่าวนี้จึงได้สั่งให้เก็บกู้ซากของ Blitz กลับมาและได้นำส่วนแขนขวาของ Blitz ที่ถูก Strike ฟันขาดมาต่อให้กับ Gold Frameซึ่งขาดแขนขวาอยู่พอดีทำให้มันได้รับระบบและอาวุธที่มีอยู่ในตัวของ Blitz เป็นของแถมมาถึง 3 อย่างด้วยกันคือ
1. Trikeros (อาวุธของ Blitz)
2. ระบบพรางตัว Mirage Colloid (เฉพาะแขนขวา)
3. Phase Shift Armor (เฉพาะแขนขวา)
และได้รับรหัสใหม่เป็น MBF-P01-ReAMATU Gundam Astray Gold Frame Amatsu ซึ่งมีอยู่ 2 ร่างคือ
1. ร่างไม่สมบูรณ์ ซึ่งจะมีแค่ติดตั้งแขนขวาของ Blitz และ โมโนอาย เพิ่มเข้าไปเท่านั้น
2. ร่างสมบูรณ์
ได้ทำการติดตั้งปีกติดกรงเล็บสำหรับดูดซับพลังงาน "มากะ โนะ อิคุทาจิ"เอาไว้ดูดกลืนพลังงานจากโมบิลสูทเครื่องอื่นได้ด้วยการใช้ปีกจับตัวโมบิลสูทเอาไว้และค่อยๆดูดกลืนพลังงานจนเกลี้ยงและทำลายทิ้ง ติดฉมวก "มากะชิระ โนะ โฮโกะ" สำหรับใช้จับศัตรูและดึงเข้าหาตัวเองได้ ปรับปรุง Trikeros ของ Blitz ใหม่ให้เน้นการต่อสู้ระยะประชิดมากขึ้นเป็น Trikeros Kai
และที่สำคัญคือในร่างนี้สามารถใช้ความสามารถของ Blitz ได้อย่างสมบูรณ์
ต่อมาได้เข้าต่อสู้กับโลว์และไกที่ขับ Blue Frame จนพ่ายแพ้และถูกไกใช้ Armor Schneider แทงเข้าที่ห้องนักบินจนตายเมื่อกิน่าเสียชีวิตไป มิน่า น้องสาวฝาแฝดของเขาจึงได้ขึ้นรับตำแหน่งผู้นำตระกูลซาฮาคุต่อจากกิน่า ได้เก็บกู้ Gold Frame Amatsu กลับมาปรับปรุงเพิ่มเติมอีก 4 จุดคือ
1. ติดตั้งสนับกรงเล็บ "ทสึมุฮะ โนะ ทาจิ" ที่แขนซ้าย
2. เสริมดาบเหล็กคู่ "โททสึกะ โนะ ทสึรุกิ" 2 เล่ม
3. เสริมปากเท้าใหเดูเหมือนรองเท้าส้นสูงของผู้หญิง
4. อาวุธพิเศษ หอกพิฆาต "โอคิทสึ โนะ คางามิ" ที่ใช้ระบบ อามุเร่ ลูมิแอล ของ ร่มแห่งอาร์เทมิส มาปรับใช้เป็นได้ทั้งบีมชิลด์และหอกบีมและส่วนปลายของบีมสามารถยิงออกไปได้ด้วย ใช้ติดตั้งสลับกับสนับกรงเล็บ "ทสึมุฮะ โนะ ทาจิ" ได้
ปล. หอกพิฆาต "โอคิทสึ โนะ คางามิ" ถูกออกแบบมาเสริมให้กับโมเดล Real Grade ของ Astray Gold Frame Amatsu "Mina" เท่านั้น
และได้รับรหัสใหม่เป็น MBF-P01-Re2AMATU Gundam Astray Gold Frame Amatsu "Mina"
ซึ่งในร่างนี้มักจะมีบทบาทแค่ในทางอ้อมของหน้าประวัติศาสตร์ของยุค C.E. เท่านั้น ทั้งภาค Seed X Astray และ Seed Destiny Astray
และในร่างสุดท้ายนี้เป็นร่างที่มีอยู่แค่ในหนังสือแฟนบุ๊คและเกมส์ Super Robot Wars W เท่านั้น
มีรหัสว่า MBF-01 Gundam Astray Gold Frame Amatsu Perfect Form
ในร่างนีจะทำการดัดแปลงร่างของ Gold Frame ซะใหม่ให้ดูเพรียวขึ้น คล่องตัวมากขึ้น แต่กลับไม่มีอาวุธอะไรเลย นอกจากปืนต่อสู้อากาศยานขนาด 75 mm "Igelstellung" ที่หัว 2 กระบอก กับ ปีกติดกรงเล็บสำหรับดูดซับพลังงาน "มากะ โนะ อิคุทาจิ"เท่านั้น ทำให้ผมคาดว่า ถ้ากิน่าไม่รีบร้อนเอา Gold Frame ออกมาใช้ในระหว่างการปรับปรุงเป็น Gold Frame Amatsu ในครั้งแรก Gold Frame อาจจะได้ร่างที่สมบูรณ์ที่สุดในรูปลักษณ์นี้ก็เป็นได้ครับ
จบแล้วจ้ากับการรีวิวเจ้า Astray Gold Frame ตัวนี้ แล้วเจอกันคราวหน้านะครับ ซึ่งคราวหน้าจะเป็นหุ่นตัวไหน รอติดตตามกันนะครับ