สวัสดีค่ะ  กระทู้นี้ถือว่าเป็นกระทู้ Complain และ เตือนภัยพี่น้องผู้โดยสารทั้งปวงนะคะ  เนื่องจากเพิ่งเกิดเหตุการสดๆร้อนๆกับตนเอง แต่ไม่กล้าไป Complain ใน Application เนื่องจากกลัวทางคนขับรู้แล้วจะมาทำร้ายเราค่ะ (เพราะเขารู้ที่อยู่เราจากการมาส่ง)

เรื่องมีอยู่ว่า..

วันนี้เราได้เรียก Grab Car จากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะกลับบ้าน ซึ่งเป็นเวลาค่ำแล้ว  แต่มือถือเราไม่มีอินเทอเนต จึงใช้ Wifi จากห้างเรียก Grab ค่ะ  สักพักพี่ Grab ก็มารับเรา  แล้วก็ออกรถไปพักหนึ่ง ประมาณ 5 นาที

คนขับ : กดใช้โปรโมชั่นรึป่าวครับ ?
เรา : ไม่ได้ใช้ค่ะ
คนขับ : งั้นกด Cancel ให้ผมทีนะครับ ไม่งั้นผมจะโดนหักเงิน


ตอนนั้นคือ งงๆ สงสัยว่าตัวเราเองอาจจะใส่ข้อมูลอะไรให้แอพผิดไปทำให้พี่คนขับโดนหักเงิน  เราก็เลยบอกเขาว่าโทรศัพท์เราไม่มีอินเทอเนต เขาก็เสนอแชร์ Wifi จากโทรศัพท์เขาให้ เพื่อให้เรากด Cancel (ตอนนั้นก็สงสัย โห อะไรจะขนาดนั้น)  แล้วเราก็กด Cancel ตามที่เขาบอก  นึกว่าเขาจะให้เรากดเรียกซ้ำอีกรอบ  เผื่อรอบที่แล้วเรากดอะไรผิดไป  แต่เขาก็เงียบไปสักพัก  เราก็เลยออกปากถาม

เรา : ทำไมต้องกด Cancel หรอคะ เมื่อกี๊เรากดไรผิดรึเปล่าคะ
คนขับ : ผมจะโดนหัก ร้อยละ 20 จากแอพ   ถ้าผมต้องไปแถวนั้น  ผมตีรถเปล่ากลับ มันไม่คุ้ม (พูดเสร็จ คนขับก็เอาค่าโดยสาร โดยประมาณที่แอพคำนวณให้ มายื่นให้ดูแล้วบอกว่า ให้จำราคาไว้ ต้องจ่ายราคานี้)
เรา : คือยังไงคะ ไม่เข้าใจ
คนขับ : คือเรียกง่ายๆ  ผมจะโกงแอพ  ให้ผู้โดยสารกด Cancel ผมจะไม่เสียคะแนนที่ปฏิเสธผู้โดยสาร แล้วผมจะได้ค่าโดยสารเต็มๆไม่ต้องไปจ่ายให้แอพ เหมือนว่าผู้โดยสารยกเลิก แล้วก็ไม่ได้ขึ้นรถมา
เรา : .....................

ตอนนั้นคือถึงบางอ้อเลย  แล้วทีนี้ทำไมเราถึงเห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมาเตือนภัย คืออย่างงี้ค่ะ

ตามที่เราเข้าใจนั้น

1. Grab Car หรือ Uber ยังไม่มีการจดทะเบียนเป็นรถรับจ้างในไทยแต่อย่างใดตามที่เข้าใจกัน  ทุกคันยังถือเป็นรถส่วนตัวตามกฏหมาย   เพียงแต่ลงทะเบียนไว้กับ Grab เท่านั้น  ในเวลางานคือรถรับจ้าง นอกเวลาคือรถส่วนบุคคล แปลว่า เมื่อเรากดแคนเซิล และ Grab กด ปิดการรับผู้โดยสาย รถคันนั้นถือเป็นรถส่วนบุคคลทันที ลองนึกดูข่าวอาชญากรรมในไทยที่แท๊กซี่ลากผู้โดยสารไปฆ่าข่มขืน  นี่น่ากลัวกว่าอีก ถ้าเขาปล้นเรา ทำร้ายเรา เราไปแจ้งความ เราไม่มีแม้แต่หลักฐานว่าเราขึ้นรถเขาไป เพราะเรากดแคนเซิลเองกะมือ ทั้งๆที่จริงๆเรานั่งไปบนรถเขาแล้ว   หนักกว่านั้น ถ้าหายสาบสูญ โดนฆ่าหมกป่า ใครจะรู้ ? ตามกะแอพ Grab เขาก็ไม่รู้ว่าเราขึ้นรถคันไหนไป ถ้าโดนเขาขู่ ให้จ่ายค่าโดยสารแพงขึ้น เราก็ทำไรไม่ได้

2. เราจะไม่ได้รับสิทธิ์ใดๆทั้งปวงที่ทาง Grab app มีให้ เช่น คะแนนสะสมแลกส่วนลด หรือ การขอความช่วยเหลือ คอมเพลน การให้คะแนน ทำไม่ได้ทั้งสิ้น เพราะเรากดแคนเซิลเหมือนว่าเราไม่ได้ขึ้นรถไป ถ้าคนขับ ขับเฮียมาก ก็พูดไรไม่ได้  อีกทั้ง ถ้าเรากดแคนเซิลบ่อยๆ เราเองอาจจะโดนหักคะแนนและโดนบล๊อกด้วย

3. สนับสนุนให้คนโกงแอพ และออกนอกระบบมากขึ้น สุดท้ายแล้ว เดี๋ยวพี่ๆแท๊กซี่ก็ประท้วงกันอีก แย่ไปกว่านั้น Grab เจ๊ง โดนโกง เราผู้โดยสาย ไม่มีใช้ ต้องกลับไปเสี่ยงตายกะแท๊กซี่ (บางคัน) เหมือนเดิม

ตอนนี้นึกเหตุผลออกแค่นี้ แต่แค่นี้ก็น่ากลัวพอแล้วสำหรับเรา  ยิ่งไปกว่านั้น  พอเราโพสเรื่องนี้ลงเฟสบุ๊ค มีเพื่อนๆมายืนยันอีก ว่าเคยเจอบ่อย แปลว่าไม่ได้เพิ่งมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ทาง Grab น่าจะเริ่มแก้ไขอะไรบ้างได้แล้วนะคะ  จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ปล. Tag รถโดยสาร เพราะคิดว่ารวมในขนส่งสาธารณะ , Tag ระบบขนส่งมวลชน เพราะเป็นขนส่งมวลชนที่ใช้กันเป็นหลัก ณ ตอนนี้ , Tag ร้องทุกข์  เพราะไม่กล้าไปคอมเพลนในแอพ กลัวทาง Grab ไปตักเตือนแล้วเขาแค้นเอา เขาจะมาดักฆ่าเรา เพราะรู้ว่าเราพักที่ไหน , คุ้มครองผู้บริโภค เพราะอยากให้ดูแลด้านความปลอดภัยผู้อุปโภคมากขึ้นค่ะ , Tag ความงาม เพราะเจอแบบนี้เข้าไป คิดมากจนตีนกาขึ้นค่ะ เป็นภัยต่อความงาม

ปล.2 ขออภัยล่วงหน้าในกรณีถ้อยคำไม่สละสลวยโดนใจใครหรือสะกดผิด ตกหล่นเป็นบางคำเนื่องจากไม่มีเวลาพิสูจน์อักษรค่ะ กราบ