เราอายุ 18 ค่ะ กำลังอยู่ในช่วงหาที่เรียน...เราอยากเรียนพวกอักษร ศิลปศาสตร์ พวกนี้ค่ะ แต่เราเป็นเด็กสายวิทย์...ขอออกตัวเลยว่าเราไม่ได้อยากจะเข้าสายวิทย์ตั้งแต่แรก เราพูดกับครอบครัวเป็นสิบๆรอบได้ว่าเราจะเข้าศิลป์จีน ทางครอบครัวก็เหมือนจะโอเคมาด้วยตลอด แต่พอวันเลือกสายเรียนจริงๆ ครอบครัวกลับให้เราเลือกวิทย์ เราก็อึ้งเลยค่ะ แล้วที่ตกลงกันมาคือ? แต่สุดท้ายเราแพ้ตรงที่ผู้ใหญ่พูดว่า ถ้าอยากเรียนภาษาก็ต้องเกรดสี่ทุกเทอม...ถึงจะยอมให้เรียน (แต่ค่าเทอมสายศิลป์ รร ของเราแพงอยู่ ประมาณ หมื่นห้ากว่าๆ) เราเป็นตัวท๊อปๆในเรื่องภาษาไทย-อังกฤษ-สังคม มาตลอดค่ะ วิทย์-คณิตนี่ไม่ใช่ของถูกโฉลกเลย...แต่เรามีข้อเสียอยู่อย่างนึงคือ เราไม่กล้าฟันธงกับอะไรเลย และไม่มั่นใจในตัวเอง...เราอาจจะเรียนได้ดีจริง แต่ถ้าเราไม่ได้เกรดสี่แบบที่ครอบครัวยื่นคำขาดล่ะ??? สุดท้ายเราก็จำยอมลงสายวิทย์ไป (ที่จริงมีอีกหลายเหตุการณ์ที่ทำให้เรายอมแพ้ครอบครัว) เข้ามาก็แจ๊กพอตแตกเลยค่ะ ตกฟิสิกส์!!
ตกคณิต! ตกเคมี! เริ่มต้นเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 3.4 ...
แบบว่า...เฟลในเฟล สุดท้ายก็ต้องไปเรียนพิเศษวิชาพวกนี้เพิ่มเติม ก็พอดึงเกรดไม่ให้ร่วงไปกว่านี้ได้บ้าง เราก็เหมือนเรียนไปวันๆ อิจฉาเพื่อนศิลป์จีนที่ไม่ต้องมาเครียดกับวิชาสายวิทย์มากนัก
แต่เราฟาด 4.00 พวกไทย-อังกฤษ-สังคม มาทุกเทอมอ่ะนะ มันเลยเป็นตัวดึงเกรดได้ดีเลยล่ะ...แต่เราก็เหมือนตั้งใจกับตัวเองเลยว่า ถ้าเข้ามหาลัยจะไม่เอาแล้วพวกวิทย์คณิตเนี้ย เบื่อมากๆ ไม่อยากเจอแล้ว อยากเหนื่อยกับวิชาที่ชอบ...มันเป็นนิสัยเสียของเราอย่างมากเลย ที่ว่าถ้าไม่ชอบวิชาอะไร จะไม่อยากขวนขวายกับมันเลย ถึงจุดๆนึงที่เราแทบเฉยๆกับการตกวิชาวิทย์-คณิตไปเลย แบบ ตกก็ซ่อม...ตกก็ซ่อม เป็นอย่างงี้เรื่อยมา จนกระทั่งตอนนี้
เราพูดกับแม่ตรงๆว่าเราจะเข้าอักษร ไม่เอาแล้ววิทย์-คณิต และปัญหาก็คือเราไม่เก่งคณิต จึงไม่อยากใช้ pat1 ยื่นเข้า เลยตัดสินใจขอแม่เรียนจีน เพื่อใช้ pat7.4 ยื่นแทน...เป็นความท้าทายถึงที่สุดเลยเลยค่ะ แม่ก็ยอมด้วยนะ หาที่เรียนให้เสร็จสรรพ เราก็เรียนๆๆๆๆ กะว่าจะไม่แตะ pat1 เลย...ปัญหาชั้นสองคือ เรารู้ตัวว่าถึงพื้นฐานจีนเราจะพอได้ แต่มันไม่สู้คนที่เรียนมา 3 ปีอยู่แล้ว
วันนี้...ครอบครัวเร่งรัดเราเรื่องการเข้ามหาลัยอีกครั้ง และเริ่มไม่มั่นใจว่าการให้เราติว patจีน จะเป็นทางเลือกที่ดีมั้ย...กลัวเราสอบไม่ได้นั่นเอง เราก็กลัวนะ เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน เรารู้ว่าการเดินดุ่มๆไปสอบจีนทั้งที่เป็นเด็กสายวิทย์น่ะมันออกจะบ้าไปหน่อย แล้วก็เสี่ยงมากด้วย
แล้วครอบครัวก็มักจะถามเรื่องมหาลัยบ่อยๆ แบบว่าต้องการความชัดเจนจากเรา...ซึ่ง เราก็ไม่รู้อ่าา กำหนดการของมหาลัยมันยังไม่ออกเลยสักที่ เรารู้แค่ว่าเราจะเลือกอะไรเท่านั้น แต่ครอบครัวก็ถามเราเรื่องนี้บ่อยมาก และต้องการความมั่นใจว่าจะเข้ามหาลัยได้แน่ๆจากเราตลอดเวลา ซึ่งเราให้ไม่ได้ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น....เรารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราไม่มั่นใจเลยง่าเราตอบคำถามครอบครัวในเรื่องนี้ แล้วก็กลัวว่าหากเราฟันธงอะไรไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่เราพูด ครอบครัวก็จะว่าเราว่าเหลาะแหละ อ่อนแอ เพ้อเจ้อ ซึ่วเราจะเสียใจมากๆๆๆๆ
เราควรเอายังไงกับชีวิตดีคะ? เรารู้และเข้าใจว่าครอบครัวเป็นห่วง แต่เราอยากจัดการความฟุ้งซ่านของตัวเอง...เรารู้สึกว่าเราไม่พร้อมถ้าสภาพสมองเรามันยังเป็นแบบนี้ เราควรจัดการตัวเองยังไงดีคะ????
ครอบครัวเป็นกังวลกับการเข้ามหาลัยและอนาคตของเรา แต่เรา...
ตกคณิต! ตกเคมี! เริ่มต้นเกรดเฉลี่ยสะสมอยู่ที่ 3.4 ...
แบบว่า...เฟลในเฟล สุดท้ายก็ต้องไปเรียนพิเศษวิชาพวกนี้เพิ่มเติม ก็พอดึงเกรดไม่ให้ร่วงไปกว่านี้ได้บ้าง เราก็เหมือนเรียนไปวันๆ อิจฉาเพื่อนศิลป์จีนที่ไม่ต้องมาเครียดกับวิชาสายวิทย์มากนัก
แต่เราฟาด 4.00 พวกไทย-อังกฤษ-สังคม มาทุกเทอมอ่ะนะ มันเลยเป็นตัวดึงเกรดได้ดีเลยล่ะ...แต่เราก็เหมือนตั้งใจกับตัวเองเลยว่า ถ้าเข้ามหาลัยจะไม่เอาแล้วพวกวิทย์คณิตเนี้ย เบื่อมากๆ ไม่อยากเจอแล้ว อยากเหนื่อยกับวิชาที่ชอบ...มันเป็นนิสัยเสียของเราอย่างมากเลย ที่ว่าถ้าไม่ชอบวิชาอะไร จะไม่อยากขวนขวายกับมันเลย ถึงจุดๆนึงที่เราแทบเฉยๆกับการตกวิชาวิทย์-คณิตไปเลย แบบ ตกก็ซ่อม...ตกก็ซ่อม เป็นอย่างงี้เรื่อยมา จนกระทั่งตอนนี้
เราพูดกับแม่ตรงๆว่าเราจะเข้าอักษร ไม่เอาแล้ววิทย์-คณิต และปัญหาก็คือเราไม่เก่งคณิต จึงไม่อยากใช้ pat1 ยื่นเข้า เลยตัดสินใจขอแม่เรียนจีน เพื่อใช้ pat7.4 ยื่นแทน...เป็นความท้าทายถึงที่สุดเลยเลยค่ะ แม่ก็ยอมด้วยนะ หาที่เรียนให้เสร็จสรรพ เราก็เรียนๆๆๆๆ กะว่าจะไม่แตะ pat1 เลย...ปัญหาชั้นสองคือ เรารู้ตัวว่าถึงพื้นฐานจีนเราจะพอได้ แต่มันไม่สู้คนที่เรียนมา 3 ปีอยู่แล้ว
วันนี้...ครอบครัวเร่งรัดเราเรื่องการเข้ามหาลัยอีกครั้ง และเริ่มไม่มั่นใจว่าการให้เราติว patจีน จะเป็นทางเลือกที่ดีมั้ย...กลัวเราสอบไม่ได้นั่นเอง เราก็กลัวนะ เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราพร้อมมากน้อยแค่ไหน เรารู้ว่าการเดินดุ่มๆไปสอบจีนทั้งที่เป็นเด็กสายวิทย์น่ะมันออกจะบ้าไปหน่อย แล้วก็เสี่ยงมากด้วย
แล้วครอบครัวก็มักจะถามเรื่องมหาลัยบ่อยๆ แบบว่าต้องการความชัดเจนจากเรา...ซึ่ง เราก็ไม่รู้อ่าา กำหนดการของมหาลัยมันยังไม่ออกเลยสักที่ เรารู้แค่ว่าเราจะเลือกอะไรเท่านั้น แต่ครอบครัวก็ถามเราเรื่องนี้บ่อยมาก และต้องการความมั่นใจว่าจะเข้ามหาลัยได้แน่ๆจากเราตลอดเวลา ซึ่งเราให้ไม่ได้ เราไม่ได้เก่งขนาดนั้น เราไม่รู้ ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น....เรารู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เราไม่มั่นใจเลยง่าเราตอบคำถามครอบครัวในเรื่องนี้ แล้วก็กลัวว่าหากเราฟันธงอะไรไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่เราพูด ครอบครัวก็จะว่าเราว่าเหลาะแหละ อ่อนแอ เพ้อเจ้อ ซึ่วเราจะเสียใจมากๆๆๆๆ
เราควรเอายังไงกับชีวิตดีคะ? เรารู้และเข้าใจว่าครอบครัวเป็นห่วง แต่เราอยากจัดการความฟุ้งซ่านของตัวเอง...เรารู้สึกว่าเราไม่พร้อมถ้าสภาพสมองเรามันยังเป็นแบบนี้ เราควรจัดการตัวเองยังไงดีคะ????