[CR] รีวิวบ้านๆ คัดครีมซองถูกและดีที่ใช้เองมาแนะนำค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้มารีวิวแบบบ้านๆกันในเรื่องของครีมซองค่ะ
ไม้เองได้ลองมาหลากหลายแบรนด์ หลากหลายยี่ห้อมาก เนื่องจากว่าครีมซองเหล่านี้หาซื้อง่าย
เวลาเจออะไรใหม่ๆในโซเชี่ยลที่เขาเคลมว่าดีไม้ก็ไม่รอช้า รีบไปเสาะหาจาก 7-11 หรือสั่งจากอินเตอร์เน็ตในกรณีที่ 7-11 ไม่มีวางจำหน่าย

ก็จะขอเปิดด้วยภาพรวมของครีมซองที่จะรีวิวทั้งหมดภายในวันนี้ก่อนนะคะ
ซึ่งจะมีหลากหลายหมวด ตั้งแต่สกินแคร์ เมคอัพ มาส์กหน้าแบบล้างออก รวมถึงสลีปปิ้งมาส์กด้วย
ขอบอกไว้ก่อนว่าไม้เป็นคนผิวผสมนะคะ แต่จะค่อนไปทางผิวมัน ยิ่งช่วงทีโซนนี่ระหว่างวันคือเยิ้มเลยค่ะ และเป็นสิวด้วยค่ะ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับคนที่มีสภาพผิวคล้ายคลึงกันกับไม้นะคะ


มีทั้งหมด 22 อย่างด้วยกันนะคะ

ก่อนอื่นขอเริ่มต้นด้วยสกินแคร์คู่นี้จากแบรนด์ Royal Beauty ค่ะ


แบรนด์นี้จะค่อนข้างขึ้นชื่อในเรื่องของสกินแคร์ตัวขวาก็คือตัว Plankton Babyface Gel ค่ะ

1) Plankton Babyface Gel เนื้อสัมผัสจะเป็นแบบเจล มีกลิ่นหอม (ซึ่งใครที่มีสภาพผิวแบบแพ้ง่าย ไม้ก็แนะนำว่าให้ลองเทสต์ดูก่อนที่จะใช้จริงนะคะว่าตัวเองแพ้ไหม) ซึ่งไม้ที่เป็นคนผิวมันเนี่ยใช้ทาตัวนี้ก่อนแต่งหน้าก็รอดนะคะ รู้สึกว่าไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มขึ้นจากเดิม และช่วยให้แต่งหน้าติดทนยิ่งขึ้น ใครที่รู้สึกว่าตัวเองหน้าหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ไม้ก็อยากแนะนำให้ใช้ตัวนี้ทั้งตอนเช้าและกลางคืนเลยนะคะ เพราะว่าช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีมากแบบที่เห็นผลชัดเจน ลองโบกไปคืนเดียวจากที่ผิวแย่ๆกลายมาเป็นผิวฟู ดูอิ่มน้ำในตอนเช้าซะงั้นเลย

2) Collagen Serum + Vit C สำหรับตัวนี้จะเป็นแบบเซรั่มเนื้อเจลค่ะ และจะมีเม็ดบีทส์วิตามินสีส้มๆด้วย ไม้ชอบตรงที่ซึมไว ไม่เหนอะหน้า และเห็นผลชัดเจนในเรื่องความกระจ่างใสของใบหน้า กับช่วยลดรอยสิวได้ค่ะ (ทั้งนี้ต้องใช้อย่างต่อเนื่องระยะนึงถึงจะเห็นผลนะคะ รอยแดง รอยดำจากสิวจะค่อยๆจางลงค่ะ)

พิกัดของทั้ง 2 ซองนี้สามารถหาซื้อได้ที่ 7-11 ทั่วไปเลยนะคะ ราคาซองละ 39 บาทเท่ากันค่ะ
แนะนำให้ใช้คู่กันเพื่อประสิทธิภาพที่มากขึ้นนะคะ สำหรับคำนิยามสั้นๆของคู่นี้ก็คือ 'หน้าใส อิ่มน้ำ แต่งหน้าติดทน ลดรอยสิวค่ะ'

ต่อมาจะเป็น 2 แบรนด์ที่ทุกคนรู้จักกันดีค่ะ Garnier กับ L'oreal นั่นเอง


ทั้ง 3 ซองจะเป็นเนื้อครีมสีขาวเหมือนกันทั้งหมดค่ะ และเพราะมันเป็นเนื้อครีม ส่วนมากไม้เลยจะใช้ทาแค่กลางคืน เพราะเคยใช้ตอนกลางวันแล้วรู้สึกว่ามันเหนียวๆหน้าค่ะ ไม่ค่อยชอบความรู้สึกเหนอะๆระหว่างวันเท่าไหร่
ปล. จากที่ไม้ได้เห็นรีวิวของ 3 ตัวนี้จากหลายๆคนในทวิตเตอร์ ก็อยากให้ใครที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะแพ้ไหมลองทดสอบดูก่อนนะคะ เพราะรู้สึกว่าจะมีหลายคนที่แพ้ค่ะ

3) Garnier light complete white speed ที่ซองเคลมว่าเป็นเซรั่มครีมเลยจะทำให้เนื้อสัมผัสค่อนข้างเกลี่ยง่ายกว่าเนื้อครีมทั่วไปค่ะ และเพราะเนื้อครีมเป็นสีขาว เวลาที่ทาลงไปบนหน้าก็จะรู้สึกได้ว่าครีมมันไปปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น ตัวนี้ของการ์นิเย่ค่อนข้างจะขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องการลดรอยดำต่างๆ รวมถึงทำให้ผิวหน้าหายหมองคล้ำ แต่จะไม่ได้ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นมากนัก และนอกจากจะใช้ทาผิวหน้าแล้ว บางทีไม้ก็ใช้สำหรับทาผิวกายด้วยนะคะ เพราะไม้เรียนอยู่ที่บางแสน แดดค่อนข้างจะจัดมากทำให้ผิวคล้ำขึ้นแบบทูโทน ก็ได้การ์นิเย่แบบซองนี่แหละค่ะที่ช่วยบำรุงให้ผิวกลับมาสม่ำเสมอกัน (แนะนำว่าให้ทาตอนกลางคืนนะคะ ส่วนกลางวันก็ทากันแดดปกติ)

4) Garnier light complete white speed yoghurt sleeping mask นอกจากมีเซรั่มครีมใช้สำหรับทาบำรุงปกติแล้ว การ์นิเย่ก็ยังออกสลีปปิ้งมาส์กมาด้วยนะคะ ตัวนี้ไม้ชอบตรงที่กลิ่นค่ะ หอมโยเกิร์ตแบบ ทาแล้วฟิน ยิ่งแช่เย็นแล้วเอามาทาก่อนนอนนะคะ หลับสบายเลยวันนั้น
สำหรับตัวนี้ก็จะไม่ค่อยต่างกับตัวด้านบนค่ะ เพียงแค่ใช้ทาแค่ก่อนนอนเท่านั้น ช่วยเรื่องลดรอยสิวต่างๆและหน้ากระจ่างใสได้ดี

ถ้าถามว่าให้แนะนำตัวไหน คนที่ต้องการครีมทาบำรุงได้ทั้งกลางวันและกลางคืนก็แนะนำ 3) ค่ะ ส่วนใครอยากได้สลีปปิ้งมาส์กราคาเบาๆก็ 4) ค่ะ

5) มาถึง L'oreal paris white perfect กันบ้างค่ะ ตัวนี้ก็เป็นเซรั่มครีมเช่นเดียวกัน ไม้ว่าเนื้อสัมผัสมันไม่ค่อยต่างอะไรกันมากกับการ์นิเย่นะคะ ช่วยในเรื่องที่เห็นผลคล้ายกัน เพียงแต่ตัวนี้จะมีสารกันแดดน้อยกว่าของการ์นิเย่ค่ะ

(ถ้าใครที่ใช้ทาตอนกลางวันไม้แนะนำว่าถึงจะมีสารกันแดดอยู่แล้วแต่ก็ยังต้องทาครีมกันแดดอยู่ดีนะคะ เพราะแดดเป็นตัวการที่ทำให้หน้าเราเหี่ยวและมีริ้วรอยค่ะ รวมถึงทำให้หน้าแห้งกร้านและหมองคล้ำด้วย)

สรุป ใน 3 ซองนี้ไม้ว่ามันไม่ค่อยต่างกันในเรื่องของผลลัพธ์ที่ได้นะคะ อยู่ที่ว่าใครใคร่ชอบตัวไหนก็ใช้ตัวนั้นเลยค่ะ

ราคา 3) 15 บาท / 4) 20 บาท / 5) 20 บาท พิกัดหาซื้อได้ตาม 7-11 ทั่วไปค่ะ

ถัดมาจะเป็นการคละรวมของเซ็ทที่ไม้ชอบใช้พกพาเวลาไปพักที่อื่นนานๆนะคะ เพราะมีครบตั้งแต่มาส์ก+สครับ เจลครีมสำหรับบำรุง และตัวแต้มสิวที่สามารถใช้เป็นสกินแคร์ทาทั้งหน้าได้เช่นกัน

จะเป็น 3 ตัวนี้นะคะ


6) มะขามสกัดเข้มข้นที่เป็นได้ทั้ง Scrub และ Mask ของ Nami ค่ะ
ตัวนี้สามารถใช้ได้หลากหลายส่วนของร่างกายเลยค่ะ ส่วนตัวไม้จะใช้หลักๆด้วยวิธีดังนี้นะคะ

-มาส์กหน้าเอาไว้ 10 - 15 นาที ก่อนที่จะค่อยๆใช้มือนวดวนๆแล้วล้างออก ช่วยเรื่องความกระจ่างใสค่ะ แต่ถ้าใครที่รู้สึกว่าแสบหน้า แนะนำว่าให้ล้างออกหรือไม่ต้องมาส์กทิ้งไว้นานแบบไม้นะคะ
-ใช้ขัดตามส่วนที่เราต้องการให้เห็นผลด้านความกระจ่างใสที่มากขึ้นได้ เช่น ข้อศอก หัวเข่า ขาหนีบ หรือแม้กระทั่งรักแร้ก็ได้ค่ะ
-สุดท้ายไม้ใช้ขัดสิวเสี้ยนที่จมูกด้วยค่ะ เพราะเม็ดสครับของเค้าถึงจะมีขนาดที่ไม่ละเอียดมากแต่ก็ไม่บาดผิวค่ะ

7) เจลน้ำมะเขือเทศของ Smooto
ขึ้นชื่อกันอยู่นะคะสำหรับแบรนด์สมูทโตะในเรื่องของสกินแคร์ที่มีส่วนผสมหลักจากมะเขือเทศ รวมถึงว่านหางด้วย
สำหรับตัวนี้ไม้รู้สึกว่าจะเป็นตัวที่ออกมาใหม่ล่าสุดนะ ซึ่งไม้ชอบตรงที่ว่ามันมีส่วนผสมของโยเกิร์ตและเห็นผลชัดเจนในเรื่องของผิวอิ่มน้ำ กระจ่างใส ส่วนที่ว่าช่วยกระชับรูขุมขนตามคำเคลมของแบรนด์ อันนี้ไม้ไม่ค่อยเห็นผลนะคะ กับอีกคำเคลมที่ว่าช่วยลดการเกิดสิวอุดตัน อันนี้ไม้ว่าได้ในระดับนึงค่ะ เพราะรู้สึกว่าไม่ค่อยมีสิวอุดตันขึ้นเท่าไหร่ในช่วงที่ใช้ตัวนี้นะ

แนะนำให้ลองใช้ตัวนี้นะคะเพราะซึมไว และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย เช่น ไม้ใช้ผสมกับผงมังคุดในการขัดหน้า+พอกหน้า (ขัดวนๆและพอกทิ้งไว้ 10 นาทีก่อนอาบน้ำค่ะ) และใช้พอกผิวกายได้ด้วยนะกรณีที่รู้สึกว่าผิวไหม้แดดเพราะโดนแดดจัดๆมา

8) เจลแต้มสิวมังคุดสกัดเข้มข้นของ Nami
ตัวนี้ไม้ใช้แต้มสิวพวกผดเม็ดเล็กๆแล้วยุบนะ ส่วนพวกสิวอักเสบนี่ไม่ค่อยเห็นผลค่ะ แต่ถ้าถามว่าทำไมถึงคัดตัวนี้มาบอกต่อในกระทู้ด้วยก็เพราะ สามารถใช้ทาได้ทั้งใบหน้าและมันช่วยควบคุมความมันด้วยค่ะ ไม้รู้สึกว่าใช้ตัวนี้ก่อนแต่งหน้าแล้วระหว่างวันซับหน้าแค่ครั้งสองครั้งเอง

ราคา 6) 49 บาท / 7) 49 บาท / 8) 39 บาท พิกัดตาม 7-11 เช่นเคยค่ะ

สำหรับตัวต่อไปขอเปลี่ยนมาที่หมวดเมคอัพกันบ้าง สลับกันไปกับสกินแคร์นะคะ


3 ตัวนี้ไม้แนะนำมากๆสำหรับนักเรียนนักศึกษาที่งบน้อยและต้องการลุคใสๆ ไม่ดูเยอะจนเกินไปนะคะ

9) DD Cream จากจุฬาเฮิร์บ เป็นตัวที่ไม้ชอบมากสำหรับวันที่ไม่ต้องการแต่งหน้าหนักๆ ต้องการพักผิวแต่มีเรื่องให้ต้องออกไปข้างนอก
เพราะเขามีสารกันแดดสูงถึง SPF 50 PA+++ ถือว่าโอเคในระดับนึงเลย และเนื้อครีมจะให้ฟินนิชลุคที่หน้าเราดูผ่องขึ้น ดูกระจ่างใสขึ้น แต่ไม่ปกปิดนะคะ ซึ่งสามารถทาแป้งฝุ่นทับ ทาลิปแล้วออกจากบ้านได้เลย อีกเหตุผลนึงที่ชอบคือไม้รู้สึกว่าใช้แล้วมันไม่อุดตันอะ สิวไม่ขึ้นเพิ่ม ถือว่าโอเคจริงๆค่ะ

10) BB CC ของ Smooto ตัวนี้จะให้การปกปิดในระดับที่มากขึ้นกว่า 9) นิดหน่อย (ปกปิดพวกรอยสิว รอยแดงได้โอเคในระดับนึง) แต่ลุคที่ได้คือใช้แล้วรู้สึกว่าผิวดูกระจ่างใสขึ้นแบบไม่วอก ไม่ลอย เหมาะสำหรับวัยมัธยมดีค่ะ

11) BB AA คูชั่นของ Smooto ตัวนี้ก็น่าจะเป็นตัวใหม่ล่าสุดจากหมวดเมคอัพของแบรนด์สมูทโตะนะคะ
ตัวนี้จะให้ลุคที่เหมือนใช้คูชั่นทั่วไปแต่งหน้าเลยค่ะ คือมีการปกปิดในระดับที่เนียนกริบ ฟินนิชลุคคือผิวจะดูแมทแต่ไม่แห้ง แต่ตัวนี้จะมีข้อติตรงที่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับผิวสองสีค่ะ เพราะอาจจะดูลอยได้ ไม้รู้สึกว่ามันค่อนข้างขาวกว่าผิวค่ะ

ราคา 9) 39 บาท / 10) 39 บาท / 11) 49 บาท พิกัด 7-11 เช่นเคยค่า

ยังคงอยู่กันที่หมวดเมคอัพนะคะ แต่จะยกระดับการปกปิดขึ้นมาอีกระดับนึงค่ะ


12) Mille super whitening gold rose bb cream
ซึ่งจะมีทั้งหมด 2 เบอร์นะคะ (มีครบทั้งสำหรับสาวๆที่ผิวขาวและผิวสองสีเลยค่ะ) ไม้ชอบตรงที่ตัวนี้ปกปิดได้เนียนกริบมาก กรณีที่ต้องการปกปิดรอยสิวให้ดูเนียนสนิทมากขึ้นก็สามารถใช้ลงแทนคอนซีลเลอร์ได้อีกด้วย ถือว่าแค่ใช้แป้งฝุ่นเซ็ตตามก็ได้ฟินนิชลุคที่เหมือนใช้รองพื้นแล้วค่ะ

13) Sola BB Primer ตัวนี้จะเป็นอีกตัวที่ไม้หยิบใช้บ่อยในวันที่เร่งรีบค่ะ
เพราะตัวนี้ช่วยในเรื่องของการพรางรูขุมขนได้ดีมากๆ และยังปกปิดได้ดีในระดับนึงเลย แต่ไม่ทำให้หน้าดูหนานะคะ ไม่เป็นคราบด้วย แล้วไม้ว่าเหมาะกับทั้งคนที่มีผิวขาวและผิวสองสีเลย เพราะเพื่อนไม้เป็นคนผิวสองสี ใช้ตัวนี้ก็รอดนะคะ ไม่เทา
ไม้ชอบการรับเอาคำติชมจากลูกค้าไปพัฒนาแพ็คเกจของทางแบรนด์นะคะ เพราะเมื่อก่อนแพ็คเกจจะเป็นแบบซองตัดที่ไม่ใช้หัวล็อคแบบนี้ค่ะ
จะทำให้หกเลอะเทอะได้เวลาใช้งาน แต่พอเปลี่ยนเป็นหัวล็อคก็หมดห่วง พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกมากค่ะ

14) BB Cushion ที่มาในรูปแบบซองจากแบรนด์ Royal Beauty ค่ะ
ข้อดีของตัวนี้คือใช้แล้วรู้สึกว่าไม่หนักหน้าสมคำเคลมจริงๆค่ะ แต่มันค่อนข้างจะขาวกว่าผิว อาจจะทำให้ดูลอยได้เลย ไม่แนะนำสำหรับสาวผิวสองสีหรือผิวคล้ำเลยนะคะ (แต่ก็ถือว่าสมกับคำเคลมบนซองที่บอกว่ากระจ่างขึ้น 2 เฉดทันที..)

ราคา 12) 79 บาท / 13) 49 บาท / 14) 49 บาท พิกัดก็ที่ 7-11 ค่ะ

ยังค่ะ ยังไม่จบกับหมวดเมคอัพ มาต่อกันที่งานเมคอัพอีก 2 ตัว ซึ่งเป็นของแบรนด์ Nami ทั้งคู่ค่ะ


15) CC คูชั่น ตัวนี้คือตัวเด็ดตัวดังที่มีคนรีวิวเอาไว้เยอะมากๆๆๆพอๆกับตัวซองสีดำ แต่ส่วนตัวไม้ชอบแบบซองสีขาวมากกว่าเพราะ

-ช่วยปรับให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส และเนียนขึ้นโดยไม่ดูหนาจนเกินไป แต่ก็ให้การปกปิดที่โอเคมากๆ (รอยแดงคือเนียนกริบ รอยดำก็ดูจางลงค่ะ)
-คุมมัน อันนี้คือไม้โอเคมากเพราะซับหน้าแค่ช่วงทีโซนเอง
-กันน้ำ ไม้ยังไม่เคยแต่งหน้าลงเล่นน้ำนะคะเพราะฉะนั้นจะขอเป็นให้คะแนนตรงที่กันเหงื่อ หน้าไม่เยิ้ม เมคอัพไม่ไหลแทนค่ะ

16) AA ออร่า ตัวนี้จะเป็นเบส ปรับผิวให้ดูสว่างขึ้น แต่ไม่ปกปิด เหมาะสำหรับวัยมัธยมเลยค่ะเพราะหน้าดูสว่าง กระจ่างใสขึ้น และไม้ว่าช่วยให้แป้งติดหน้ามากขึ้นด้วยนะคะ และยังเหมาะสำหรับคนที่รู้สึกว่าหน้าหมองคล้ำ ลงตัวนี้ไปเลยค่ะ รับรองบลิ๊งขึ้นทันตา (ลงแค่ 4-5 จุดทั่วหน้าเล็กๆก็พอนะคะ ไม่งั้นอาจจะทำให้หน้าดูวอกได้)

ราคา 49 บาทเท่ากันค่ะ พิกัด 7-11 เช่นเคยค่ะ

เนื่องจากตัวอักษรไม่พอไม้จะขอทำการรีวิวส่วนที่เหลือต่อตรงที่แสดงความคิดเห็นนะคะ ^^
ต่อที่คห.1เลยค่ะเม่าเนิร์ด
ชื่อสินค้า:   ครีมซอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่