สวัสดีค่ะ เนื่องจากได้ไปดูMotoGPที่เซปัง มาเลเซียเมื่อวันที่27-29ต.ค.ที่ผ่านมา แต่เลือกกลับวันที่30 เพราะไม่อยากรีบกลัวตกเครื่อง รวมเป็น 4วัน3คืน เลยจะมาแชร์เรื่องพังๆฮาๆ และแป๊กๆ ถือว่าเป็นการเม้ากันละกันเนอะ
มาเริ่มเตรียมตัวก่อนเดินทางกันก่อนเลย
1.จองตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์
ทริปนี้ไปกับ Malaysia airline โดยจองตั๋วผ่านทาง Expedia ไป-กลับ ประมาณ3000นิดๆ ไม่เกิน 3,200บาท(จองตั้งแต่เดือนเม.ย.) ตอนมีข่าวเรื่อง overbooking ก็แอบหลอนๆว่าจะเจออะไรมั้ยนะ เพราะไม่ได้จองตรงเลยเอาเลข booking ไปเช็คในเวปของสายการบิน ก็ขึ้นชื่อเราปกติ เลยปริ้นbooking มาจากหน้าเวปอีกที กันพลาด
2.ซื้อตั๋วเข้าสนาม
เราสั่งซื้อกับทางเวปไซด์ของสนาม แต่ดูข้อมูล+ราคาของสนามทั้งหมดในเวป bookmoto จริงๆอยากได้ที่นั่งตรงไดมอนส์แสตน เพราะเป็นติ่งน้องMarc แต่ซื้อไม่ทัน เลยได้เป็นแกรนด์แสตนมาแทน ก็ถือว่าไม่แย่ ^^ ตอนสั่งเป็นเงินริงกิต ราคาประมาณ 200กว่าๆ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500-1,600บาท
3.จองที่พัก
ที่พักเราจองไว้2ที่ คือ
-le apple 1คืน
-de grand boutique 2คืน
คืนแรกนอนในตัวเมือง กะว่าเดินเล่นแถวนั้นพอ หลักๆตั้งใจจะสิงที่สนาม ส่องนักแข่ง เลยไม่เน้นแหล่งเที่ยวเท่าไหร่55+ และอีก2คืนนอนใกล้ๆกับสนาม เพราะใกล้สนามบินด้วย วันกลับจะได้ไม่ต้องรีบ
4.เงินริงกิต
5.เราปริ้นแผนที่สายรถไฟติดไปด้วย แล้วมาร์กจุดสำคัญๆที่จะต้องไปหรือต่อรถ ซึ่งมีแค่ที่พักกับจุดขึ้นรถแค่นั้น55+
ที่เตรียมไปหลักๆของเราประมาณนี้ พร้อมแล้วก็ออกเดินทาง
Day1. วันเดินทาง แอบตื่นเต้น เพราะเคยแต่บินกับโลวคอสของไทย แต่ก็ราบรื่นดีค่ะ ไฟลท์นี้ออกเดินทาง 06.15 น. เราออกจากบ้านประมาณตี3นิดๆ ถึงสุวรรณภูมิ เกือบๆตี4 เช็คอินเรียบร้อย รอขึ้นเครื่อง เกทเปิดประมาณตี5 ใช้เวลาประมาณ2ชม. แต่มาเลเซียเวลาเร็วกว่า1ชม. เลยจะถึงKLIA ประมาณ 9โมงกว่าๆ
ระบุขอที่นั่งริมหน้าต่างไว้ทั้ง2เที่ยว
ดูหนังไป หลับไป
ถึงเวลาก็ปลุกมากิน555+
อิ่มแล้วนั่งชมวิวไปสักพัก ก็ถึง KLIA กันแล้ว
ถึงขั้นตอนการผ่าน ตม. ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเข้าง่าย ก็ไปยื่น passport + screen นิ้ว พอ ตม.เห็นเป็นคนไทย หันไปคุยกันว่า"ผู้หญิงๆ" แล้วหันมาบอก "Welcome สวัสดีค่ะ" เรานี่แอบอึ้ง เลยสวัสดีค่ะ+ขอบคุณค่ะ ตอบเค้าไป555
ทริปนี้เราแบกเป้ไปใบเดียว เลยไม่ต้องรอรับ เดินตัวปลิวออกมาเลย เดินตามป้ายไปขึ้นรถไฟ KL Express ไปลงปลายทาง KL sentral ณ จุดนี้ ความพังก็เริ่มบังเกิด ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าโรงแรมที่จองไว้อยู่แถว KLCC ก็นั่งรถไฟต่อไปที่ ส.KLCC พอเดินออกมาจากตึกสถานี ก็เจอโรงแรมชื่อเดียวกับที่จองไว้เลย ก็เดินเข้าไปส่งใบจองให้ front ดู เค้าบอกว่าคุณจองไว้ที่ Bukit bintang ไม่ใช่ KLCC เพล้งงงงงง!! หน้าแตกตามระเบียบ จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในตึกKLCC อีกที เริ่มหิว เลยเดินหาของกินก่อน แต่ไม่ทันเจอของกิน ดันเจอร้านนี้ก่อน
ขอเข้าไปดูแป๊บนึงน่าาา แป๊บๆ อ้าววว ผ่านไป2ชม.!! ลืมความหิวไปชั่วขณะ
สรุปมื้อแรก เป็นขนมกับกาแฟในเซเว่นค่ะ
เดินกลับมาที่ตัวสถานีกัน ต้องขึ้นรถไป ส. Air asia Bukit bintang โดยต้องไปเปลี่ยนขบวนที่ ส.Dang wangi แอบเดินไกล แถมตอนเดินออกมาเจอฝนตกอีก แต่มีร่มให้เดินตลอดทางนะ ดีที่พอออกจากสถานี เดินมาอีกนิดนึงก็เจอโรงแรมเลย สรุปกว่าจะถึงที่พักวันแรกก็บ่าย3โมงแล้ว 555+
ที่พักวันแรก โรงแรม le apple สาขา Bukit bunting ที่นี่ตอนเชคอิน ต้องวางมัดจำ 200 ริงกิต แต่จะได้คืนตอนเชคเอ้าท์ และต้องจ่ายค่า tax สำหรับต่างชาติอีก 10 ริงกิตต่างหากจากค่าห้อง เราจองผ่าน Hotel.com ราคาประมาณ 700 กว่าๆ
ในส่วนของห้องพัก เราจองเป็นห้องเล็กเพราะไปคนเดียว ซึ่งก็เล็กจริงๆ แต่ก็ไม่แย่
เปิดประตูเข้ามา เจอเตียงเลย ห้องน้ำจะอยู่ขวามือ
วิวระเบียง ธรรมดาแต่ดีกว่าห้องทึบๆ
ปลายเตียงเป็นทีวี
ของใช้ภายในห้อง
ทำเลถือว่าดี สำหรับเราคือเหมือนฝั่งนึงคือสยาม พารากอน เซ็นเวิลด์ และอีกฝั่งคือประตูน้ำ เดินเล่นกันเพลิน
จากที่ตอนกลางวันเราไปหลงอยู่แถว KLCC ช่วงเย็นหลังจากกินข้าวเสร็จ เราเลยจะกลับไปถ่ายรูปกับเจ้าตึกแฝด Petronas ซะหน่อย เพราะฝนหยุดแล้ว ฟ้าเปิดอากาศแจ่มใส ไม่ร้อน จากที่พัก เราเดินข้ามถนนไปรอขึ้นรถเมล์ฟรี สาย Green line เพราะผ่านหน้าตึกเลย
มาถึงKL แล้ว ต้องมาแลนด์มาร์กซะหน่อย แต่คนเยอะมาก
จากลานน้ำพุหน้าตึก มองเห็นหอคอยอยู่นะ แต่ขี้เกียจเดินแล้ว 😁
ถ่ายรูปจนพอใจก็กลับไปขึ้นรถเมล์ฟรีสายเดิม กลับโรงแรม จบแล้วสำหรับวันแรก😀
Day 2.
วันนี้ตั้งใจว่าจะไปสนาม แต่ก็...ตื่นสาย! ความพังก็เริ่มมาตามลำดับ หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว วันนี้ไปฝากท้องกับร้าน Old town white coffee จำชื่อไม่ได้แล้วว่าสั่งอะไรบ้าง ให้ภาพเล่าเรื่องแทนแล้วกันนะ
อิ่มมากกกก
ตื่นก็สาย กินก็เยอะ ผ่านไปเกือบครึ่งวันละ ยังไม่โผล่หัวไปสนามเลย555
จากนั้นเราก็เดินหาซื้อของฝากแถวๆนั้นก่อน เพราะคิดว่าคงไม่กลับเข้ามาในตัวเมืองแล้ว ได้พวกขนมช็อคโกแลตมาหลายกล่องอยู่ แล้วระหว่างเดินเล่น ดันเจอแบบนี้อีกแล้ว
กัวลาฯ เมืองนี้น่ากลัวจริงๆ
หักห้ามใจ ไม่เข้าไปเล่น แต่อุปสรรคมันไม่หมดง่ายๆน่ะสิ ระหว่างทางเดินจะไปขึ้นรถไฟฟ้า มาเจอแผงนี้ เห็นแล้วขาดสติเลย
หอบมาทุกสูตร ชอบตรงที่แผ่นใหญ่ แล้วดึงแผ่นมาร์กไปคล้องหู ดึงใต้คางขึ้นมา ใช้แล้วหน้านุ่มดี พอซึมแล้วหน้าไม่เหนอะ แล้วด้วยราคา 1 ริงกิต ถือว่าคุ้ม หอบมาแบบมาร์กกันข้ามปีไปเลย
กว่าจะตั้งสติได้ กว่าจะไปถึง ส. KLCC พอไปถามถึงตั๋วรถบัสไปสนามเซปัง ได้คำตอบว่า ปิดแล้วจ่ะ 〒_〒 มองหน้าแบบ ไปอยู่ไหนมาย่ะหล่อน มาป่านนี้ สนามจะปิดแล้วย่ะ!!
อ่าววว งานเข้าแล้วสิ เพราะคิดว่าไปสนามก่อน ค่อยนั่งแท๊กซี่ไปโรงแรมที่จองไว้ เพราะใกล้กัน ผิดแผน แพลนล่ม พัง!!≥﹏≤
ดูเวลา ถึงลงทุนนั่งแท๊กซี่ไปก็ไม่น่าทัน แอบเสียดาย เห็น Ianกับ Rins จากซูซูกิ มาแจกลายเซ็นด้วย (╥_╥)
ถึงจะติ่งMarc แต่เป็นคนใจกว้าง รักและเชียร์หลายคน Daniก็น่ารัก Doviก็งานดี Zarco ก็ยิ้มละมุน สรุปพลาดหมด555+ โสน๊าหน้าตัวเอง สรุปตรงไปโรงแรมเลยละกัน อุตส่าหาที่ใกล้สนาม มัวลอยไปลอยมา ได้ข่าวสวนกับ MarcและDani ที่เข้าเมืองอีกตะหาก พังมันเข้าไป!😂😂
โรงแรมที่2 นี่คือต้องนั่งแท๊กซี่ หรือมีรถส่วนตัวเท่านั้นถึงจะมาได้ งงกับตัวเอง กล้าจองมาได้ไงคนเดียว แต่ที่พักถือว่าดีอยู่นะ พนักงานน่ารักมาก เสียแค่การเดินทางนี่แหละ อ่อ เรื่องอาหารการกินด้วย ร้านของกินค่อนข้างไกล ที่ใกล้ๆโรงแรมมีที่เดียวแต่ไม่ค่อยอร่อย
ในห้องพักไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะโยนของซะเละแล้ว แต่ห้องเล็กๆพอๆกับคืนแรก แต่ไม่มีหน้าต่าง
และด้วยที่นี่ใกล้สนามแข่ง เค้าเลยมีบริการรถบัสรับ-ส่งคนที่จะไปดูการแข่งขัน เที่ยวละ10ริงกิต ถือว่าถูกกว่าค่าแท๊กซี่เกือบครึ่ง เลยลงชื่อจองไปด้วยเลย แต่ออกช้า ใครจะไปเช้าก็จ่ายแค่ขากลับได้ ทางโรงแรมจะแจ้งคนขับไว้
ในวันที่2 ที่พังสุดๆ เลยนอนพอกหน้า พักร่างอย่างสงบไปค่ะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน^ω^
[CR] ติ่ง MotoGP สายสโลวไลฟ์ฉายเดี่ยวไป"เซปัง"ครั้งแรก แต่ดันเซไปพังซะงั้น
มาเริ่มเตรียมตัวก่อนเดินทางกันก่อนเลย
1.จองตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์
ทริปนี้ไปกับ Malaysia airline โดยจองตั๋วผ่านทาง Expedia ไป-กลับ ประมาณ3000นิดๆ ไม่เกิน 3,200บาท(จองตั้งแต่เดือนเม.ย.) ตอนมีข่าวเรื่อง overbooking ก็แอบหลอนๆว่าจะเจออะไรมั้ยนะ เพราะไม่ได้จองตรงเลยเอาเลข booking ไปเช็คในเวปของสายการบิน ก็ขึ้นชื่อเราปกติ เลยปริ้นbooking มาจากหน้าเวปอีกที กันพลาด
2.ซื้อตั๋วเข้าสนาม
เราสั่งซื้อกับทางเวปไซด์ของสนาม แต่ดูข้อมูล+ราคาของสนามทั้งหมดในเวป bookmoto จริงๆอยากได้ที่นั่งตรงไดมอนส์แสตน เพราะเป็นติ่งน้องMarc แต่ซื้อไม่ทัน เลยได้เป็นแกรนด์แสตนมาแทน ก็ถือว่าไม่แย่ ^^ ตอนสั่งเป็นเงินริงกิต ราคาประมาณ 200กว่าๆ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500-1,600บาท
3.จองที่พัก
ที่พักเราจองไว้2ที่ คือ
-le apple 1คืน
-de grand boutique 2คืน
คืนแรกนอนในตัวเมือง กะว่าเดินเล่นแถวนั้นพอ หลักๆตั้งใจจะสิงที่สนาม ส่องนักแข่ง เลยไม่เน้นแหล่งเที่ยวเท่าไหร่55+ และอีก2คืนนอนใกล้ๆกับสนาม เพราะใกล้สนามบินด้วย วันกลับจะได้ไม่ต้องรีบ
4.เงินริงกิต
5.เราปริ้นแผนที่สายรถไฟติดไปด้วย แล้วมาร์กจุดสำคัญๆที่จะต้องไปหรือต่อรถ ซึ่งมีแค่ที่พักกับจุดขึ้นรถแค่นั้น55+
ที่เตรียมไปหลักๆของเราประมาณนี้ พร้อมแล้วก็ออกเดินทาง
Day1. วันเดินทาง แอบตื่นเต้น เพราะเคยแต่บินกับโลวคอสของไทย แต่ก็ราบรื่นดีค่ะ ไฟลท์นี้ออกเดินทาง 06.15 น. เราออกจากบ้านประมาณตี3นิดๆ ถึงสุวรรณภูมิ เกือบๆตี4 เช็คอินเรียบร้อย รอขึ้นเครื่อง เกทเปิดประมาณตี5 ใช้เวลาประมาณ2ชม. แต่มาเลเซียเวลาเร็วกว่า1ชม. เลยจะถึงKLIA ประมาณ 9โมงกว่าๆ
ระบุขอที่นั่งริมหน้าต่างไว้ทั้ง2เที่ยว
ดูหนังไป หลับไป
ถึงเวลาก็ปลุกมากิน555+
อิ่มแล้วนั่งชมวิวไปสักพัก ก็ถึง KLIA กันแล้ว
ถึงขั้นตอนการผ่าน ตม. ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเข้าง่าย ก็ไปยื่น passport + screen นิ้ว พอ ตม.เห็นเป็นคนไทย หันไปคุยกันว่า"ผู้หญิงๆ" แล้วหันมาบอก "Welcome สวัสดีค่ะ" เรานี่แอบอึ้ง เลยสวัสดีค่ะ+ขอบคุณค่ะ ตอบเค้าไป555
ทริปนี้เราแบกเป้ไปใบเดียว เลยไม่ต้องรอรับ เดินตัวปลิวออกมาเลย เดินตามป้ายไปขึ้นรถไฟ KL Express ไปลงปลายทาง KL sentral ณ จุดนี้ ความพังก็เริ่มบังเกิด ด้วยความเข้าใจผิดคิดว่าโรงแรมที่จองไว้อยู่แถว KLCC ก็นั่งรถไฟต่อไปที่ ส.KLCC พอเดินออกมาจากตึกสถานี ก็เจอโรงแรมชื่อเดียวกับที่จองไว้เลย ก็เดินเข้าไปส่งใบจองให้ front ดู เค้าบอกว่าคุณจองไว้ที่ Bukit bintang ไม่ใช่ KLCC เพล้งงงงงง!! หน้าแตกตามระเบียบ จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในตึกKLCC อีกที เริ่มหิว เลยเดินหาของกินก่อน แต่ไม่ทันเจอของกิน ดันเจอร้านนี้ก่อน
ขอเข้าไปดูแป๊บนึงน่าาา แป๊บๆ อ้าววว ผ่านไป2ชม.!! ลืมความหิวไปชั่วขณะ
สรุปมื้อแรก เป็นขนมกับกาแฟในเซเว่นค่ะ
เดินกลับมาที่ตัวสถานีกัน ต้องขึ้นรถไป ส. Air asia Bukit bintang โดยต้องไปเปลี่ยนขบวนที่ ส.Dang wangi แอบเดินไกล แถมตอนเดินออกมาเจอฝนตกอีก แต่มีร่มให้เดินตลอดทางนะ ดีที่พอออกจากสถานี เดินมาอีกนิดนึงก็เจอโรงแรมเลย สรุปกว่าจะถึงที่พักวันแรกก็บ่าย3โมงแล้ว 555+
ที่พักวันแรก โรงแรม le apple สาขา Bukit bunting ที่นี่ตอนเชคอิน ต้องวางมัดจำ 200 ริงกิต แต่จะได้คืนตอนเชคเอ้าท์ และต้องจ่ายค่า tax สำหรับต่างชาติอีก 10 ริงกิตต่างหากจากค่าห้อง เราจองผ่าน Hotel.com ราคาประมาณ 700 กว่าๆ
ในส่วนของห้องพัก เราจองเป็นห้องเล็กเพราะไปคนเดียว ซึ่งก็เล็กจริงๆ แต่ก็ไม่แย่
เปิดประตูเข้ามา เจอเตียงเลย ห้องน้ำจะอยู่ขวามือ
วิวระเบียง ธรรมดาแต่ดีกว่าห้องทึบๆ
ปลายเตียงเป็นทีวี
ของใช้ภายในห้อง
ทำเลถือว่าดี สำหรับเราคือเหมือนฝั่งนึงคือสยาม พารากอน เซ็นเวิลด์ และอีกฝั่งคือประตูน้ำ เดินเล่นกันเพลิน
จากที่ตอนกลางวันเราไปหลงอยู่แถว KLCC ช่วงเย็นหลังจากกินข้าวเสร็จ เราเลยจะกลับไปถ่ายรูปกับเจ้าตึกแฝด Petronas ซะหน่อย เพราะฝนหยุดแล้ว ฟ้าเปิดอากาศแจ่มใส ไม่ร้อน จากที่พัก เราเดินข้ามถนนไปรอขึ้นรถเมล์ฟรี สาย Green line เพราะผ่านหน้าตึกเลย
มาถึงKL แล้ว ต้องมาแลนด์มาร์กซะหน่อย แต่คนเยอะมาก
จากลานน้ำพุหน้าตึก มองเห็นหอคอยอยู่นะ แต่ขี้เกียจเดินแล้ว 😁
ถ่ายรูปจนพอใจก็กลับไปขึ้นรถเมล์ฟรีสายเดิม กลับโรงแรม จบแล้วสำหรับวันแรก😀
Day 2.
วันนี้ตั้งใจว่าจะไปสนาม แต่ก็...ตื่นสาย! ความพังก็เริ่มมาตามลำดับ หลังจากเช็คเอ้าท์แล้ว วันนี้ไปฝากท้องกับร้าน Old town white coffee จำชื่อไม่ได้แล้วว่าสั่งอะไรบ้าง ให้ภาพเล่าเรื่องแทนแล้วกันนะ
อิ่มมากกกก
ตื่นก็สาย กินก็เยอะ ผ่านไปเกือบครึ่งวันละ ยังไม่โผล่หัวไปสนามเลย555
จากนั้นเราก็เดินหาซื้อของฝากแถวๆนั้นก่อน เพราะคิดว่าคงไม่กลับเข้ามาในตัวเมืองแล้ว ได้พวกขนมช็อคโกแลตมาหลายกล่องอยู่ แล้วระหว่างเดินเล่น ดันเจอแบบนี้อีกแล้ว
กัวลาฯ เมืองนี้น่ากลัวจริงๆ
หักห้ามใจ ไม่เข้าไปเล่น แต่อุปสรรคมันไม่หมดง่ายๆน่ะสิ ระหว่างทางเดินจะไปขึ้นรถไฟฟ้า มาเจอแผงนี้ เห็นแล้วขาดสติเลย
หอบมาทุกสูตร ชอบตรงที่แผ่นใหญ่ แล้วดึงแผ่นมาร์กไปคล้องหู ดึงใต้คางขึ้นมา ใช้แล้วหน้านุ่มดี พอซึมแล้วหน้าไม่เหนอะ แล้วด้วยราคา 1 ริงกิต ถือว่าคุ้ม หอบมาแบบมาร์กกันข้ามปีไปเลย
กว่าจะตั้งสติได้ กว่าจะไปถึง ส. KLCC พอไปถามถึงตั๋วรถบัสไปสนามเซปัง ได้คำตอบว่า ปิดแล้วจ่ะ 〒_〒 มองหน้าแบบ ไปอยู่ไหนมาย่ะหล่อน มาป่านนี้ สนามจะปิดแล้วย่ะ!!
อ่าววว งานเข้าแล้วสิ เพราะคิดว่าไปสนามก่อน ค่อยนั่งแท๊กซี่ไปโรงแรมที่จองไว้ เพราะใกล้กัน ผิดแผน แพลนล่ม พัง!!≥﹏≤
ดูเวลา ถึงลงทุนนั่งแท๊กซี่ไปก็ไม่น่าทัน แอบเสียดาย เห็น Ianกับ Rins จากซูซูกิ มาแจกลายเซ็นด้วย (╥_╥)
ถึงจะติ่งMarc แต่เป็นคนใจกว้าง รักและเชียร์หลายคน Daniก็น่ารัก Doviก็งานดี Zarco ก็ยิ้มละมุน สรุปพลาดหมด555+ โสน๊าหน้าตัวเอง สรุปตรงไปโรงแรมเลยละกัน อุตส่าหาที่ใกล้สนาม มัวลอยไปลอยมา ได้ข่าวสวนกับ MarcและDani ที่เข้าเมืองอีกตะหาก พังมันเข้าไป!😂😂
โรงแรมที่2 นี่คือต้องนั่งแท๊กซี่ หรือมีรถส่วนตัวเท่านั้นถึงจะมาได้ งงกับตัวเอง กล้าจองมาได้ไงคนเดียว แต่ที่พักถือว่าดีอยู่นะ พนักงานน่ารักมาก เสียแค่การเดินทางนี่แหละ อ่อ เรื่องอาหารการกินด้วย ร้านของกินค่อนข้างไกล ที่ใกล้ๆโรงแรมมีที่เดียวแต่ไม่ค่อยอร่อย
ในห้องพักไม่ได้ถ่ายไว้ เพราะโยนของซะเละแล้ว แต่ห้องเล็กๆพอๆกับคืนแรก แต่ไม่มีหน้าต่าง
และด้วยที่นี่ใกล้สนามแข่ง เค้าเลยมีบริการรถบัสรับ-ส่งคนที่จะไปดูการแข่งขัน เที่ยวละ10ริงกิต ถือว่าถูกกว่าค่าแท๊กซี่เกือบครึ่ง เลยลงชื่อจองไปด้วยเลย แต่ออกช้า ใครจะไปเช้าก็จ่ายแค่ขากลับได้ ทางโรงแรมจะแจ้งคนขับไว้
ในวันที่2 ที่พังสุดๆ เลยนอนพอกหน้า พักร่างอย่างสงบไปค่ะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน^ω^
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น