[CR] ไปเสม็ด ไม่เสร็จ แต่เด็ดนะจ๊ะ

สวัสดีเพื่อนๆชาวกิโลทิป(พันทิป)ทุกท่าน วันนี้ผมเองจะมารีวิวการเที่ยวเกาะเสม็ดครั้งแรก(การรีวิวนี่ก็ครั้งแรกเหมือนกัน)ในชีวิตเลยครับ จะเป็นยังไงตามไปดูกันเล้ยยยย
    เริ่มจากเสาร์อาทิตย์นี้แทบจะเป็นเสาร์อาทิตย์แรกที่ผมว่างตั้งแต่เปิดเทอมในรั้วมหาวิทยาลัยเทอมนี้มา ทำให้ผมเองที่เบื่อกับการอยู่มหาวิทยาลัยได้หาโอกาสไปเที่ยวพอดี แต่ว่าผมนั้นก็มีงบไม่เยอะอยากจะไปเที่ยวแบบชิวๆ หลังจากที่ผมได้คุยๆกับเพื่อนที่ว่างๆอยู่ เพื่อนๆก็ตกลงไปเสม็ดกัน โดยตกลงงบกันไว้ว่าไม่เกิน2พัน
    เช้านี้ 8 นาฬิกาผมและเพื่อนได้ออกจากหอพักอันแสนน่าเบื่อเพื่อไปเที่ยวที่เกาะเสม็ดโดยเริ่มแรกผมได้เดินทางไปที่หมอชิตเพื่อไปขึ้นวินรถตู้ กรุงเทพ-ระยอง ตอนเวลา 9โมง ซึ่งตกคนละ 160 บาท
    เมื่อเวลา 9โมงครึ่ง รถตู้ก็ได้ออกเดินทาง ผมก็ได้หลับทันทีไม่ได้สัมผัสบรรยากาศการเดินทางใดๆทั้งสิ้น ตื่นมาตอนเวลาเที่ยงตรง ปรากฏว่าถึงจังหวัดระยองพอดี
    เมื่อถึง บขส จังหวัดระยองแล้ว ผมก็ได้ถามทางไปท่าเรือนวลทิพย์ ที่จะนำเราข้ามฟากไปเกาะเสม็ด ก็ได้รู้มาว่าต้องนั่งรถสองแถวไป ที่ บขส ในตัวเมือง เพื่อที่จะนั่งสองแถวต่อไปยังท่าเรือนวลทิพย์
โดยรวมแล้วจากบขสไปถึงท่าเรือนวลทิพย์ก็กินเวลาเกือบชั่วโมง เพราะต้องรอรถสักพัก

ระหว่างทางไปท่าเรือนวลทิพย์ ผมได้เห็นตลาดร้อยเสา(ซึ่งผมไม่ได้นับดูว่าครบหรือเปล่า)

เมื่อมาถึงท่าเรือนวลทิพย์พวกผมก็ได้ไปซื้อตั๋วเพื่อที่จะข้ามไปยังเกาะเสม็ด โดยผมเน้นประหยัด ได้เลือกเรือช้า ที่มีราคาถูกกว่า ผมได้ซื้อราคาเหมาไป-กลับมาซึ่งได้มาในราคาคนละ 100 บาทเท่านั้นเอง
พอผมซื้อตั๋วเสร็จเท่านั้นแหล้ะ ก็ได้ยินประกาศว่า คนที่จะขึ้นเรือไปเกาะเสม็ดให้มาที่เรือได้แล้ว พวกผมซึ่งนั่งรถมาตั้งแต่หมอชิตมายังไม่ได้พักก็ตกลงกันว่าจะรีบไปทำไม รอรอบหน้าก็ได้ ชิวๆ พวกผมก็ได้ไปหาซื้ออะไรกินกันแบบชิวๆ  ซึ่งก็ได้ มะม่วงดองกับไอติมมา (ไอติมอร่อยมากกกก) ด้วยความที่แดดร้อนมาก ถือไอติมได้แปปเดียวก็เริ่มละลาย
เมื่อซื้อของเสร็จก็ไปรอที่ท่าเทียบเรือเพื่อรอขึ้นซึ่งหลังจากที่ผมไม่ได้ขึ้นเรือรอบนั้นทำให้ผมต้องรอเรืออีกเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงเต็ม

ณ ตอนนี้บ่ายโมงสิบห้านาที(กับวันที่ฉันนั่งเหม่อ) เรือก็ได้ออกจากท่าเป็นที่เรียบร้อย
ณ ตอนนี้ได้เวลา 14.59 (บ่ายสามไม่ได้ เดี๋ยวเป๊ะไป) เราก็ได้มาถึงเกาะเสม็ดแล้วววววววววววววววววว
เมื่อถึงเกาะเสม็ด ผมก็เดินออกมาจากท่าเรือแล้วก็มาหาเช่ามอเตอไซค์เพื่อที่จะได้เดินทางภายในเกาะสะดวกขึ้น โดยราคามอเตอไซค์ที่ให้เช่าจะตกอยู่ที่ 300 บาท ต่อวัน โดยมอเตอไซค์ที่ผมได้เช่าจะเป็น สกูปี้ (ขออภัยที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาครับ)
เมื่อได้มอเตอร์ไซค์มาแล้วทีนี้ก็ได้เวลาแว๊นนน ไปที่พักของเรากันครับซึ่งผมได้สำรองที่พักไว้แล้วนั้นก็คือ บ้านฟ้าใส ซึ่งตอนแรกผมได้จองที่พัก 1 ห้อง 4 คน 2200ไว้ ซึ่งเกิดข้อผิดพลาดอะไรสักอย่างทางที่พักก็ได้บอกว่าได้มีการ error เกิดขึ้นจึงขอทางเราเปลี่ยนห้องเป็น 2 ห้อง ห้องละ 2 คน แต่ราคายังอยู่ในราคาเดิมอยู่ ทางผมซึ่งไม่ได้เดือดร้อนอะไรมากก็ได้ check in และเข้าที่พักเพื่อไปเก็บของทันที โดยบ้านฟ้าใสนั้นเป็นห้องพักที่อยู่ใกล้ๆอ่าว และอยู่ใกล้ 7-11 และโดยรอบๆยังมีร้านอาหารต่างๆอีกมากมาย

เมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อยพวกผมก็ได้เดินมาเที่ยวตรงบริเวณอ่าว ซึ่งบริเวณอ่าวก็มีคนมาเล่นน้ำเยอะพอสมควร
จะเห็นห่วงยางใหญ่ๆนี่ได้เยอะมากกกก
น้ำใสๆ
และเมื่อเดินสำรวจบริเวณอ่าวไปเรื่อยๆก็ได้เจอจุดแลนมาร์คถ่ายรูป จุดหนึ่งที่น่าสนใจพอสมควร นั่นก็คือ รูปปั้นนางเงือก
นางเงือกกับผีเสื้อสมุทร
หลังจากถ่ายรูปที่รูปปั้นเงือกสักพัก พวกผมก็เดินสำรวจต่อก็ไปจนสุดอ่าวผมกับเพื่อนก็คิดว่า ขี่มอไซไปเที่ยวรอบเกาะกันดีกว่า
เมื่อผมได้ขี่มอเตอไซไปจุดชมทิวทัศน์ก็จะมีทางสามแยกให้เลือกว่าจะไปอ่าวไหน ซึ่งมีสองอ่าวให้เลือกคือ อ่าวพร้าว กับ อ่าวปะการังในวันนี้ผมได้ไปทางอ่าวปะการังซึ่งทางที่ขึ้นไปประมาณ 4 กิโลเมตร โดยทางที่ขี่ไปจะมีความชันพอสมควร(ขี่สนุกมาก) โดยอ่าวปะการังนั้นจะมีอ่าวมากมายอยู่ระหว่างทาง และมีจุดชมพระอาทิตย์ตกและขึ้น ซึ่งก่อนจะถึงอ่าวปะการังจะมีจุดชมวิวนึงที่มีคนเยอะพอสมควร
หลังจากที่ผมได้ดูวิวจนสมใจแล้วผมก็ได้ขี่รถต่อไป เพื่อไปดูอ่าวปะการังต่อซึ่งเมื่อถึงอ่าวปะการังแล้วก็จะมีจุดให้เลือกชมวิวสองจุด คือ จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น กับ จุดชมพระอาทิตย์ตก แล้วผมก็ได้เลือกจุดชมพระอาทิตย์ตก เพื่อไปดูพระอาทิตย์ แต่เมื่อไปถึงแล้วกับน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง เพราะ วันนี้เมฆบังพระอาทิตย์ซะมิดเลย ทำให้พวกผมอดได้ชมบรรยากาศสวยๆ แต่ก็ไม่เป็นไร วันนี้ไม่ได้ดูพระอาทิตย์ตก พรุ่งนี้ค่อยมาดูพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้
หลังจากนั้นพวกผมก็ขี่รถกับมาพักผ่อนหย่อนใจที่ห้อง จนถึงเวลาทุ่มครึ่ง พวกผมก็ได้ออกมารับประทานอาหาร และ ชมโชว์ควงกระบองไฟ ที่ร้านพลอยทะเล ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ดังมากในเกาะเสม็ด เนื่องจากอาหารที่อร่อยแล้วยังมีโชว์ควงกระบองไฟที่เป็นที่โจษจันของนักท่องเที่ยง ว่าถ้ามาเกาะเสม็ดนี่ต้องดูโชว์ควงกระบองไฟให้ได้ โดยผมก็ได้นั่งที่นั่งโซนบริเวณทราย ซึ่งจะนั่งบนเสื่อที่เขาเตรียมไว้ให้ ผมได้สั่งอาหารมา 5 อย่าง ซึ่งก็มี ข้าวผัดปู ส้มตำปูม้า ต้มยำรวมมิตร กุ้งแช่น้ำปลา และ กุ้งทอดกระเทียม
ซึ่งเมื่อผมได้กินแล้วก็รู้สึกธรรมดาในรสชาติเพราะ ผมเคยที่อร่อยกว่านี้มาก่อน ขณะที่ผมกินกำลังจะหมด โชว์ควงกระบองไฟก็ได้เริ่มขึ้น โดยการโชว์ควงกระบองไฟนั้นก็จะมีหลายรูปแบบที่เขาจะโชว์ แบบไม้สั้น แบบไม้ยาว แบบใช้ตัวควง แบบต่อตัว เพื่อให้ได้อรรถรสมากขึ้นในการรับชม
และที่พีคที่สุดเลยคือการควงเชือกที่ผูกกับก้อนกากมะพร้าวแล้วจุดไฟ ซึ่งเมื่อนำมาหมุนก็จะเกิดเป็นสะเก็ดไฟมากมาย
และเมื่อการโชว์ควงกระบองไฟจบ ทางร้านก็เปิดเพลงแนวแดนซ์ ก็จะมีกิจกรรมมากมายเช่น ชัก กะเย่อ แล้วก็ เต้น อีกมากมาย ซึ่งทางผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายแต่ไปสะดุดเจออะไรอย่างนึงที่น่าสนใจเข้า นั่นก็คือ เครป ซึ่งผมเห็นคนมาต่อคิวซื้อมากมายผมก็ไปต่อคิว เห็นฝรั่งคนนึงเลือกไส้ นูเทลล่ากับ เม็ดมะม่วง ซึ่งดูน่ากินมาก ผมเลยสั่งตามหลังจากที่สั่งแล้ว ผมก็พึ่งได้มาถามทีหลังว่ากินบาทซึ่งราคาก็ทำผมอึ้งไปแป๊ปนึงนั่นคือ 70 บาท ซึ่งเมื่อพอได้รับประทานดูแล้วผมก็ รู้สึกปลาบปลื้มใจเพราะนูเทลล่ากับเม็ดมะม่วงนี่แน่นจริงๆ ผมเลยกินอย่างเอร็ดอร่อย
หลังจากที่ซื้อเครปกินเสร็จพวกผมก็ได้กับห้องไปนอนเพราะเหนื่อยล้ามาจากการเดินทางทั้งวัน ก่อนที่จะนอนผมก็ได้ตกลงกับเพื่อนไว้ว่าพรุ่งนี้จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้ากัน













พ่ามพ๊ามมมมมมม

ตื่นขึ้นมาอีกที 9โมงครึ่งเอ้า เวรกำละ พระอาทิตย์จะขึ้นถึงตรงกลางท้องฟ้าอยู่ละ พึ่งตื่นกัน ก็ในเมื่อผิดแผนแล้ว พวกผมก็เลยทำตัวชิวๆอาบน้ำแต่งตัวอะไรเสร็จก็ประมาณ 11โมง พวกผมเลยคิดว่าหลังจากเชคเอาท์และกินข้าวเสร็จแล้วก็จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่บนกลางท้องฟ้าแทน555

ซึ่งเมื่อผมได้เชคเอาท์จากฟ้าใสแล้ว ผมก็ได้เดินมาหาอาหารเช้ากินที่ ร้านชิลลี่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับฟ้าใส ซึ่งพวกผมก็ไม่ได้กินอาหารเช้าแบบเบรคฟาสท์หรอก แต่กินเป็นอาหารตามสั่งธรรมดานี่แหละ
ซึ่งหลังจากรับประทานอาหารเสร็จพวกผมก็ได้ออกไปตระเวณทั่วเกาะโดยใช้มอเตอไซค์ที่เช่ามาขี่วนมันไปทั้งเกาะโดยวันนี้ผมจะไม่พิมพ์อะไรมากแต่จะให้ภาพเล่าเรื่องราวของตัวมันเอง
ชื่อสินค้า:   เกาะเสม็ด ท่าเรือนวลทิพย์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่