เที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก ภายใน 30 ชั่วโมง l Singapore 1st Time with 30 Hrs.

    เที่ยวสิงคโปร์ครั้งแรก ภายใน 30 ชั่วโมง
    Singapore 1st Time with 30 Hrs.

เห็นช่วงนี้มีโปรโมชั่นของสิงคโปร์มาหลายสายการบิน เมื่อประมาณปีก่อนก็เป็นเหยื่อการตลาดของ Tiger Air จองไปเหมือนกันค่ะ แน่นอนว่าราคาวันเสาร์ – อาทิตย์อาจจะต้องจ่ายมากกว่าวันธรรมดาสักหน่อย แต่ตั้งใจไปแล้วก็เดินหน้าต่อไปค่ะ จ่ายค่าเครื่องกับค่าโรงแรมไป 4,500 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ขึ้นเครื่องจากสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 9 โมง ถึง สิงคโปร์เวลาประมาณเที่ยงของสิงคโปร์ เวลาที่สิงคโปร์จะเร็วกว่าที่ไทย 1 ชม.

ตอนไปวางแผนไปคร่าว ๆ เน้นไปแลนด์มาร์คของสิงคโปร์ไม่กี่ที
- S.E.A. Aquarium
- Merlion
- Sand, Sky Park
- Garden by the Bay
ถ้าเวลาเหลือจริง ๆ ค่อยหาที่เที่ยวต่อ ใครเป็นเซียนสิงคโปร์ก็ฝากติชมด้วยนะคะ ไว้มีโอกาสจะไปแก้ตัวใหม่ ^^

    นับถอยหลัง 30 ชม. ในสิงคโปร์
ลงจากเครื่องอย่างแรกคือการกรอกใบ ตม.ค่ะ มีตัวอย่างเตรียมไว้ให้ดูหลายภาษามาก 1 ในนั้นคือ ภาษาไทย ดูแล้วกรอกตามได้เลยค่ะ
การผ่าน ตม. ที่สิงคโปร์ไม่ยาก ถ้าไม่มีบุคลิกที่น่าสงสัย ไม่รู้ทำไมตอนถึงที่สิงคโปร์จามไม่หยุด จามจนน่ารำคาญ ฟึดฟัดจน ตม. บอกว่า “คุณทำตัวน่าสงสัยนะ” คือแบบเกือบไม่ได้ผ่าน ตม. เพราะ จาม ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ มันจะน่าเศร้ามาก

ส่วนตัวเวลาไปต่างประเทศคนเดียวจะติดมือถือเครื่องเก่าไปซื้อซิมที่นู่นเพราะสะดวกและค่าใช้จ่ายสำหรับการไปคนเดียวมันถูกกว่า ไลน์ไม่หายด้วย ออกจากประตูมา ตามหาเคาน์เตอร์ ชางงี เรคอมเมนด์ (CHANGI RECOMMEND) เพื่อซื้อซิมเวลาซื้อซิมต้องใช้พาสสปอตเพื่อลงทะเบียนด้วย
ราคาซิมที่เคาน์เตอร์สนามบิน
ราคาซิมที่ 7-11

ต่อไปหาซื้อบัตร The Singapore Tourist Pass เพราะอยู่แค่ 2 วันแล้วก็ต้องทำเวลาในการเที่ยวมากใช้แบบนี้คิดว่าคุ้มค่ากว่า
    
มื้อแรกที่สิงค์โปร์

เกิดขึ้นแบบไม่ตั้งใจ เมื่ออาหิวมากต้องหาข้าวกินทันที พอมองเห็นฟูดคอร์ทระหว่างขึ้นรถไฟฟ้า เราเลยลงที่ Rochor MRT Station มันอยู่แถว ๆ Sim Lim Square ถ้าใครอยากหาแหล่งอาหารราคาถูกที่นี่น่าจะเหมาะ แต่สำหรับคนกินยาก (อย่างเรา) มันไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ หาอาหารเด็กกินยากเหลือเกิน สุดท้ายมื้อแรกจริง ๆ สำหรับตัวเองเป็นขนมปังชอคโกแลตแถว ๆ สถานีรถไฟฟ้านั่นแหละ แอบเห็นราคาร้านอาหารญี่ปุ่นดูธรรมดาแถวสถานีรถไฟฟ้าราคาที่เป็นข้าวหน้าต่าง ๆ  ราคาชุดละประมาณ 300 บาท โอ้ว... แรงพอดู

S.E.A. Aquarium
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถานที่ของคนรักโลกใต้ทะเล
ตอนแรกแพลนไว้ว่าจะไปสวนนกจู่ล่งแต่ดูจะเสียเวลามากเลยไปที่ S.E.A. Aquarium เลย ตั๋วซื้อไว้แล้วจากเมืองไทย ราคาประมาณ 600 บาท ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงไปที่ สถานี Harbor Front Station เดินต่อไปที่ชั้น 3  Vivo City Shopping Mall เพื่อซื้อตั๋ว The Sentosa Express Monorail ราคา 4$ และขึ้นรถรางไปที่เซนโตซ่า ที่เดียวกับ Universal Studios Singapore (USS)
ในจุดเริ่มต้นเราจะได้เรียนประวัติศาสตร์การเดินทะเลการเดินสมุทรและพบกับหัวเรือเท่าขนาดจริง เขาจำลองไว้ให้เห็นเลยว่าแต่ละชั้นเขาขนอะไรกันได้บ้างเห็นสัตว์จำลองในเรือคิดถึงเรือของโนอาห์เลยทีเดียว
เดินมาต่อที่อุโมงค์ปลา ถ้ามาวันเสาร์ – อาทิตย์ ก็จะมีเพื่อนดูปลาเยอะมาก ต่อจากอุโมงค์ปลาก็เมาเป็นตู้ปลานานาชนิด จุดที่คนถ่ายรูปมากที่สุดน่าจะเป็นโซนแมงกะพรุน มันเหมือนเป็นโซนเรืองแสง แมงกะพรุนไฟสวยใสแต่อันตรายมาก
พอมาถึงตู้ปลาตู้ใหญ่ก็รู้สึกตัวเองตัวเล็กนิดเดียว ปลาในตู้ก็เช่นกัน เขาว่านี่คือหน้าต่างดูปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สุดท้ายก็แวะทักทายกับพี่ฉลามที่ว่ายวนไปวนมา ใครเป็นบ้างเวลาอยู่ในอุโมงค์ปลาแล้วภาวนาว่า “กระจกอย่าแตกนะ”
เสร็จจาก S.E.A. Aquarium ก็เดินเล่นที่ Candylicious Shop ขากลับเห็นคิวขึ้นรถรางยาวมากเลยหาอะไรกินง่าย ๆ ถูกที่ถูกใจมาก ๆ แถวเซนโตซา
ไก่ทอด HOT STAR คิดถึงไต้หวันจัง
ถัดไปอีกนิดเป็น 7-11 ซื้อน้ำ ซื้อของกินรองท้องกันก่อน แต่พอหมดก็กินหมดก็อิ่มมากแล้วล่ะ

Garden by The Bay

นั่งรถไฟฟ้า MRT ต่อไปที่สถานี Bay Front แล้วก็เดินตามป้ายไปที่ โรงแรม Marina Bay Sands เพื่อมาดู Super Tree Grove ตอนกลางคืน เพราะคืนพรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับแล้ว เดินตามผู้คน เพื่อไปตามสะพานลอยข้ามไปยังสวน ตรงนี้ถ่ายรูปวิวกลางคืนสวยดีเหมือนกันนะ
ข้ามสะพาน Dragonfly Lake เดินไปอีกนิดก็ถึงจุดที่ผู้คนมารอดู Super tree Grove ยามค่ำคืนกัน บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวหลงมีเพื่อนเดินด้วยกันเพียบ เวลาโชว์คือ 19.45 น.


Check in Fragrance Hotel – Pearl, Geylang
ลงรถไฟฟ้า MRT ที่สถานี  Aljunied เดินตาม Google Map ประมาณ 10 นาที ก็จะถึงตัวโรงแรม เลือกโรงแรมนี้ดูราคากลาง ๆ ห้อง Superior Room สำหรับ 2 คน คืนละประมาณ 2000 บาท เดินทางสะดวก ไปกับอาจะเลือกนอนโฮสเทลผู้ใหญ่เขาก็จะไม่คุ้นเท่าไหร่ โรงแรมขนาดห้องก็จะพอดีตัว ที่ห้องไม่มีอะแดปเตอร์ต้องพกติดไป ระหว่างทางมีร้านอาหาร มี 7-11 ที่โรงแรมมีกาต้มน้ำร้อน เห็นหลายคนที่ไม่กล้ากินน้ำก๊อกที่เขาว่าสะอาดกินได้ ก็จะแอบต้มน้ำตอนกลางคืนแล้วเอาไว้กินตอนเช้า
โรงแรม อยู่แถวเกลัง ระหว่างทางเดินไปโรงแรมเราก็จะเห็นตึกสวย ๆ ย่านคน จีน เลยมาหน่อยก็จะเป็นย่านคนแขก แล้วเราก็ได้พิสูจน์ว่า ย่านนี้เป็นย่านโสเภณีเป็นเรื่องจริง ตอนกลางคืนก็เห็น ตอนเช้าก็เห็น เลยแอบตั้งคำถามว่า นี่คือรอให้บริการกัน 24 ชม. กันเลยเหรอ

นับถอยหลัง 10 ชม. ในสิงคโปร์

Merlion Park
เช้านี้เริ่มต้นกันที่พี่สิงโตพ่นน้ำ นั่งรถไฟ MRT มาลงที่สถานี Raffles Place เดินทะลุ Clifford Center ข้ามสะพาน ไปฝั่ง OUE TOWER แล้วก็เดินตรงตามทางไป ระหว่างทางจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ ใต้ทางเชื่อมก็มีร้านขนมเล็ก ๆ อยู่เหมือนกัน หลายคนรวมทั้งเราก็อาศัยซื้ออาหารระหว่างทางมานั่งกินข้าวเช้า ดูวิว Merlion Park ไปด้วย
ที่นี่คือลานประลองยุทธการคิดค้นท่าทางการถ่ายรูปคู่กับ Merlion

Sand, Sky Park
กลับไปที่เส้นทางเดิม นั่งรถไฟฟ้า MRT ต่อไปที่สถานี Bay Front แล้วก็เดินตามป้ายไปที่โรงแรม Marina Bay Sands วันนี้เราจะขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกเพื่อดูวิวของสิงคโปร์กัน ราคาค่าขึ้นชมประมาณ 550 บาท ก่อนขึ้นลิฟต์ก็จะมีบูธถ่ายรูป เมื่อขึ้นลิฟต์ไปถึงก็จะเห็นว่ารูปของคุณถูกใส่กรอบเป็นแพคเกจสวยให้ซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึก แต่ถ้าขาเข้าไม่ซื้อ ขากลับเขาก็จะตามมาลดราคาแบบแพคเกจที่ถูกกว่าให้ได้ซื้อกลับบ้านไป

Garden by The Bay
เดินข้ามฝั่งมาที่เพื่อขึ้นรถ Shuttle Bus ไปที่ Garden by The Bay อีกครั้ง ค่าเข้าสวนประมาณ 550 บาท
SUPER TREE ไฮไลต์ของที่ถ้าอยากขึ้น Sky Walk เพื่อขึ้นไปดูสวนมุมสูง ค่าขึ้น 8$
มี Locker หยอดเหรียญไว้สำหรับฝากกระเป๋าด้วย

CLOUD FOREST เสมือนมียานแม่ตั้งตระหง่านอยู่เหนือโดม เราสามารถที่จะขึ้นลิฟต์ไปชนบนสุดแล้วก็เดินวนตามทางเวียนลงมาเรื่อย ๆ ได้
FLOWER DOME สวนสวยนานาชาติ มีร้านกาแฟในน้ำจิบชา กาแฟ ทานขนมด้านในด้วย
ใช้เวลาอยู่ที่ Garden by The Bay ประมาณ 4 ชม. ได้ มือเที่ยงก็ฝากท้องไว้กับ Mc Donald ที่นี่

ชั่วโมงสุดท้ายในสิงคโปร์

ขึ้น MRT กลับไปที่สนามบินชางงีแลกบัตร The Singapore Tourist Pass เอาค่ามัดจำบัตรคืน ช้อปปิ้ง ซื้อของฝากใน Duty Free กินข้าวที่สนามบิน ค่าข้าวในสนามบินที่นี่ราคาเท่าข้างนอกก็ดีตรงนี้ นั่งรอเวลาบินตรงกลับประเทศไทยตอน 6 โมงเย็น ถึงไทยประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง

บันทึกถึงสิงคโปร์
มีคนเคยบอกว่า “ให้กลับที่สิงคโปร์ทุก 3 ปี เพราะที่นี่ไม่เคยหยุดนิ่ง” ส่วนตัวของเรานะ เราว่าที่นี่ไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติให้ท่องเที่ยวมากนัก ที่นี่จึงจะเป็นแหล่งสะท้อนว่า ถ้าอนาคตเราไม่มีป่าหลงเหลืออยู่เราก็จะมีความสวยงามแบบจำลองพวกนี้แหละให้เราไว้ได้ดู คนที่ไม่มีเขาก็ขวนขวายที่จะมี ส่วนคนที่มีก็ควรที่จะเห็นค่าและรักษามันไว้

รักเวลากลางคืนของสิงคโปร์มากกว่ากลางวัน เพราะมันไม่ร้อนและแสงสีค่ำคืนที่นี่สวยจริง ๆ

สิงคโปร์ยังมีอีกหลายมุมให้เที่ยว ยังมีคาเฟ่เก๋ ๆ ที่แฮงค์เอาท์คูล ๆ ร้านอาหารอร่อย ๆ สวนสัตว์จูล่งและยูนิเวอร์แซลที่มาครั้งนี้ยังไม่ได้เข้าไป อีก 3 ปีหรืออาจจะไม่ถึง จะกลับมาดูว่าที่นี่จะสร้างความประหลาดใจให้กับโลกนี้อีก

Blogger : www.journeyishappy.com
https://www.facebook.com/journeyishappy/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่