ถ้าพูดถึงเมสซี่ มันจะมีอยู่หนึ่งเรื่องที่สื่อต่างชาติชอบหยิบมาเป็นประเด็น คือการย้ายมาพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีก ซึ่งผมบอกเลย ว่าผมเห็นด้วยอย่างมาก ผมเองก็อยากรู้ว่านักเตะอย่างเมสซี่ จะเล่นได้ทุกที่ในโลกรึป่าว

แต่ถ้าพูดแบบนี้ มันจะต้องมีพวกที่ไม่เห็นด้วย ออกมาพูดประมาณว่า.. จะให้เมสซี่ย้ายไปเล่นที่อื่นทำไม ก็ในเมื่อลาลีกา คือลีกที่ดีสุดในโลก และบาร์ซ่าก็เป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีสุดในโลก

โอเค..ผมไม่เถียงเลย เพราะความจริงมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ บาร์ซ่าคือสโมสรที่ดีกว่าทุกทีมในอังกฤษ และที่ผ่านมาผลงานในการเจอกันของทั้งสองลีก ทีมจากจากลาลีกา ก็ทำได้ยอดเยี่ยมกว่าทีมจากพรีเมียร์ตลอด

แล้วทำไมเมสซี่ยังต้องย้ายไปเล่นในพรีเมียร์ลีกอีก ?
ก็เพราะว่า..ลาลีกาไม่ใช่ลีกที่ใช้พิสูจน์ตัวเองได้ดีที่สุด

อ้าว..ถึงตรงนี้หลายคนอาจจะงงแล้ว ผมเพิ่งพูดไปเองเมื่อกี้ว่า บาร์ซ่าผลงานดีกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ และตัวเมสซี่เองก็เจอทีมจากอังกฤษมาแล้วไม่รู้กี่ทีม ผลงานถือว่าสอบผ่านเลย แล้วทำไมลาลีกาถึงยังไม่ใช่ลีกที่ใช้พิสูจน์ตัวเองได้ดีที่สุดอีก

โอเคครับ..มาเคลียร์ทีล่ะประเด็นเลย ก่อนอื่นไอตรรกะที่ว่า เมสซี่เคยเล่นงานทีมพรีเมียร์มาแล้วหลายทีม ตรรกะตรงนี้ตัดทิ้งไปได้เลย มันเอามาใช้วัดอะไรไม่ได้แล้ว เพราะนั่นเป็นการเจอกันของสองทีมต่างลีก ที่สไตล์การเล่นไม่เหมือนกัน

ถ้ายัง งงกันอยู่ งั้นเรามาจำลองสถานการณ์กัน ให้บาร์ซ่าเป็นตัวแทนลีกสเปน และแมนยูเป็นตัวแทนจากพรีเมียร์ แล้วมาดูกัน...

เมื่อบาร์ซ่า เจอแมนยู  ทั้งสองทีมจะเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่ต่างกัน บาร์ซ่าจะมาในฟุตบอลตามแบบฉบับของลาลีกา คือเล่นบอลสั้น การทำชิ่งจากเท้าสู่เท้าที่แม่นยำ เน้นเรื่องเทคนิค และชั้นเชิงเป็นหลัก (นี่คือสไตล์ฟุตบอลที่เมสซี่ชื่นชอบ)

ส่วนแมนยูก็เล่นตามสไตล์ลีกอังกฤษ คือ เล่นบอลสั้นสลับกับบอลยาว  เน้นการเข้าบอลที่รุนแรงเด็ดขาด ใช้ลูกหนักเข้าชน เทคนิคไม่ต้องมาก เน้นพละกำลังของนักเตะเป็นหลัก (เดาได้ไม่ยากว่านี่ไม่ใช่ฟุตบอลที่เมสซี่ชื่นชอบ)

จะเห็นได้ว่า..ทั้งสองทีมจะมีอิสระในการเล่นบอลตามสไตล์ที่ตัวเองถนัด ไม่ต้องไปตามเกมของอีกฝ่าย สุดท้ายก็ตัดสินกันด้วยแท็คติก แท็คติกใครดีกว่า ฝ่ายนั้นก็ชนะ และที่ผ่านมาก็เป็นทีมจากสเปนที่ทำได้ดีกว่า ซึ่งเมสซี่อยู่ในทีมและลีกที่รองรับสไตล์การเล่นของตัวเอง

แต่เมื่อใด ที่เมสซี่ได้ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีก ทุกอย่างจะเปลี่ยนไปทันที จะไม่มีฟุตบอลสไตล์บาร์ซ่ามาเกื้อหนุนเมสซี่อีกต่อไป เมสซี่จะต้องถูกบังคับให้เล่นตามแบบฉบับพรีเมียร์อย่างไม่มีทางเลือก เพราะทีมของตัวเองและคู่แข่งต่างก็เล่นแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นฟุตบอลที่แตกต่างจากลาลีกาอย่างสิ้นเชิง

ฟุตบอลในอังกฤษจะสาดใส่กันด้วยเกมที่ไว บอลจากหน้าประตูจะถึงปากประตูอีกฝั่งอย่างรวดเร็ว ไม่มีเวลาให้คิดนาน มีพื้นที่ให้เล่นน้อย ต้องเจอกับการเข้าบอลที่หนักหน่วงรุนแรง เสียบเป็นเสียบ สกัดเป็นสกัด ถ้าก้านคอได้มันก็ทำ ไหนจะลูกล่อลูกชนที่ต้องปะทะกันด้วยพละกำลังตลอดทั้งเกมส์

การที่จะเอาตัวรอดในลีกอันป่าเถื่อนนี้ไปได้ แค่ฝีเท้าอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องมีความแข็งแกร่งทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ทำประกันชีวิตได้ยิ่งดี ต้องพร้อมเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดทุกรูปแบบ จะเล่นฟุตบอลไปแล้วร้องไห้หาแม่ มันไม่ได้ เกมส์ที่นี่จะใส่กันไม่ยั้งตลอด 90 นาทีเต็ม เน้นเอนเตอร์เทนน์คนดูตลอดเวลา พรีเมียร์ลีกจึงได้ชื่อว่าเป็นลีกที่โหดที่สุด และดูสนุกที่สุดในโลก

ตรงนี่แหละจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า เมสซี่จะเจ๋งพอสำหรับพรีเมียร์ลีคอยู่รึป่าว อย่าลืมนะครับว่าที่ผ่านมา มีสุดยอดนักเตะหลายคน ที่เก่งมาจากที่อื่น แต่กลับต้องเอาชื่อเสียงมาทิ้งไว้ที่นี่ เอาแค่ที่นึกออกตอนนี้ก็มี เวรอน เชฟเชนโก้ ดิมาเรีย ฟัลเกา ฟอร์ลัน ๚ล๚ แม้แต่ตัวเมสซี่เองก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นหนึ่งในนักเตะกลุ่มนี้ เมื่อเทียบกับสไตล์การเล่นของเจ้าตัว

ตัวผม ในฐานะแฟนบอลเมสซี่คนหนึ่ง อยากเห็นเมสซี่มาพิสูจน์ตัวเองในพรีเมียร์ลีกสักครั้ง ให้มันรู้ดำรู้แดงไปเลยว่าเล่นได้หรือไม่ได้ จะได้หมดข้อสงสัยเสียที เพราะมันคือข้อกังขาเดียว ที่เมสซี่ยังก้าวข้าม โรนัลโด้ ไปไม่ได้