สวัสดีคะ ดิฉันมีเรื่องอยากจะแชร์และสอบถามข้อมูลค่ะ เมื่อคืนนี้ 9/11/2017 เวลาราว 22:45 ดิฉันและเพื่อนอีก 2คนได้ขึ้นแท็กซี่จากเขตบางนาเพื่อจะไปนานาค่ะ แล้วการสนทนาถึงบุคคลที่ 3 ของเราก็เริ่มต้นขึ้นค่ะ เราคุยกันกับเพื่อนค่ะแชร์แล้วก้บอกว่าบุคคลที่ 3 นั้น มีนิสัยกวนอวัยวะล่างสุด แล้วคนขับก็พุดแสดงถึงความสนใจ
คนขับ : คน... กวนx ขนาดนั้นเลยหรอ?
เรา : ใช่ค่ะพี่ กวนx มาก
แล้วเราก็เริ่มต้นด้วยการเล่าให้ทุกคนในรถฟังรวมถึงคนขับรถด้วย และเราต้องยอมรับตรงนี้ว่าเราพูดเสียงดัง และโดยส่วนตัวเองก็เป็นคนพูดจาเสียงดังอยู่แล้ว
การสนทนาเล่าประสบการณ์ที่เราได้เจอมาและในระหว่างนั้นเพื่อนก็ฟังและมีเออ/ออ ด้วยนิดหน่อย แต่คนขับนั่งเงียบ ..... และจุดถกเถียงก็เริ่มต้นด้วยคำเชิญของคนขับดังนี้
คนขับ : คุณไปนั่งคุยข้างหลังไป (พุดด้วยน้ำเสียงนิ่มแต่แสดงออกถึงความไม่พอใจ)
เราและเพื่อน : งง ...
เรา : (งงมากและไม่เข้าใจว่าคนขับหมายถึงอะไร เพราะเราคุยสนุกๆอยู่คนขับก็ฟังแต่อยู่ๆมาพูดให้ไปนั่งข้างหลัง) จึงพุดไปว่า อะไรหรือค่ะ
เพื่อน 1 : นี้พี่พูดเล่นใช่มั้ย หยอกเล่นใช่ป่ะ
คนขับ : คือถ้าคุณกับแบบเนี่ยคุณไม่นั่งคุยกันข้างหลังไป
เรา : พี่จะจอดก็ได้นะคะ จอดตรงนี้เลย
คนขับ : จอดแต่ผมคิดค่ามีเตอร์นะ
เรา : อ้าวพี่ ได้ไง พี่คือนั่งรถมันก้ต้องคุยกันแล้วมันแปลกตรงไหน ? หนูคิดว่าแค่เราคุยกันมันจะผิดอะไรนี้รถโดยสารเราทำไมเราจะคุยไม่ได้
คนขับ: คุยนะคุยได่แต่ไม่ใช่ตรงนี้ (พุดด้วยอารมณ์) คุยกรอกหูผม กวนx แบบนี้มันไม่ใช่ คุยเสียงดังเราไม่ใช่คนเป็นผัวเป็นเมียกันมาคุยแบบนี้ไม่ได้
เรา : โห คิดไปถึงเรื่องผัวๆเมีย ... (เราก้ตัดคำไป) แล้วคนเขาก็คุยปกติ จะให้หนุไปคุยตรงไหนคะ ข้างหลังพี่ก็ได้ยินอยู่ดี นั่งอยู่ในรถแค่นี้ยังไงก็ได้ยิน
คนขับ : คือคุณมาพูดคำว่า กวนx ใส่หูผมอะ
เรา : อ้าว แล้วคือ ? คือหนูก็คุยถึงคนที่ 3 ป่ะ หนูก็พูดอยู่ว่าคนๆนั้น ไม่ได้พูดสักคำว่าพี่กวนx เราก็รุ้กันอยู่ว่าคุยเรื่องอะไร หนูว่าคนที่3 ถ้าเขาได้ยินเขาโกรธหนูมันไม่ผิดคะ แต่นี้หนุว่าเขาแต่พี่โกรธหนูว่ามันคนละคนกัน หนูก็แชร์ประสบการณ์ชีวิตให้ทุกคนฟังอีกอย่างพี่ก็แสดงถึงความสนใจด้วย ถ้าพี่คิดแบบนี้ไม่ใช่ความผิดหนุแล้วละ เป็นทัศนคติของตัวพี่เองแล้วละ
เพื่อนทั้งสอง : ใช่ น้องเขาก็แชร์ให้ฟัง พี่เองก้แสดงออกถึงความสนใจ น้องก่เล่าต่อก็แค่นั้น
คนขับ : (ยังพุดคำเดิมว่าเราไปว่าเขากวนx) คุณไม่รุ้หรอเขามีกฏหมายห้ามคุยเสียงดัง พุดจาแบบนี้ในรถ
เราและเพื่อน: อ่อ ไม่ทราบค่ะ เพราะไม่เคยนั่ง taxi และคิดๆดูไม่น่าจะมีกฏแบบนี้ (เราและเพื่อนเป็นคนต่างจังหวัดใช้ชีวิตด้วยรถส่วนตัวตลอด)
คนขับ : เอ้าไม่รุ้หรอ นิถามหน่อยเรียนจบจากที่ไหนถึงไม่รู้? ( มีการสอบถามถึงสถาบันจะมากไปแล้วนะ)
เรา: พี่มันไม่สำคัญหรอกค่ะว่าจบที่ไหนมันไม่เกี่ยวกันคะ แต่หนุไม่ทราบจริงๆคะว่ามีกฏนี้
เพื่อน 1: อีกอย่างเราก้นั่งเป็นส่วนตัว ถ้า BTS เราก้คงไม่คุยแบบนี้ ถูกไหมคะ
เรา : เอางี้นะพี่ หนูไม่ทราบจริงๆคะ เด่วหนุจะโทถามตำรวจนะคะ ว่าอะไรย้งไง
คนขับ : ทำไมต้องโทหาตำรวจ เรื่องนี้ตำรวจไม่รู้มันเกี่ยวกับขนส่ง
เรา : โอเคค่ะ งั้นเด่วหนูจะโทหาทั้งสองกรมเลยคะแล้วถ้าหนุผิดหนูจะโพสลง website ดังของไทย เอาเบอร์พี่มาได้เรื่องยังไงจะโทบอกพี่จะส่งลิ้งให้ดูเลย
คนขับ : คุณไม่ต้องมาคุยกับผม คุณจะคุยกับตำรวจก้เรื่องของคุณ ไม่ต้องมายุ่งกับผม
เรา : ไม่ค่ะ ถ้าหนุผิดหนุจะขอโทษคะ แล้วเราก็ถ่ายรูปบัตรคนขับที่โชว์ตรงหน้าเราไว้
คนขับ : นี้คุณถ่ายทำไม?
เรา: ก็ถ่ายไว้ไงค่ะ เวลาขึ้นรถ taxi ก็ต้องถ่ายอยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ถูกต้องไหมค่ะ? เพราะไม่รุ้จะเกิดอะไรขึ้น
คนขับ : เงียบ ...
แล้วเราก็โทหาตำรวจ ณ ตอนนั้น .... ผลสรุปจากคุณตำรวจคือ มันไม่ได้มีกฏหมายเรื่องการคุยกันบนรถโดยสาร แต่มันเป็นในเรื่องของมารยาทและความรำคาญของคนขับ
เรา : โอเค งั้นหนูขอโทษนะคะที่พุดเสียงดัง
คนขับ : ไม่เป็นไรครับ (แต่ไม่มีคำขอโทษเลยที่เขาเองก็ก้าวก่ายดูถูกว่าเราจบจากที่ไหน)
คนขับ : นี้คุณจะไปทำงานที่นานาหรอ? (มีการบังคับให้อาชีพอีก มองพวกเราเป็นผู้หญิงกลางคืนอีก)
เพื่อน 1: เรามาเที่ยวกันคะพี่พอดีมาเทรนที่กรุงเทพเลยอยากมาเที่ยวเล่น
คนขับ : ผมก็มารับพวกผู้หญิงแถวอโศก นานา ก็เยอะเขาก็ไม่เห็นจะพูดเสียงดัง พุดเหมือนเป็นเด็กสก๊อย ( น๊านนน ว่าเราเยอะมาก )
เอาเป็นว่านี้คือรายละเอียดของเหตุการณ์
อยากขอความคิดเห็นในเรื่องนี้ค่ะ เรื่องกฏระเบียบผู้โดยสารไม่มีสิทธิ์คุยกันหรือค่ะ แล้วเรื่องที่ทางคนขับเองพูดจาไม่ดีและแสดงท่าทางไม่เต็มใจให้บริการ เราจะทำเช่นไรได้บ้างคะ
เราเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาทำธุระที่ กทม ครั้งแรกและไม่เคยขึ้น taxi จริงๆค่ะ คือขึ้นกับเพื่อนนะคะ ขึ้นคนเดียวเราก็ไม่คุยกับใครอยู่แล้ว เพื่อนเป็นคนพึ่งรุ้จักที่มาเทรนด้วยกันเลยชวนกันเที่ยว ตามที่เคยใช้ชีวิตต่างประเทศเราก็คัยได้ปกตินะคะ
ถ้าพุดถึงเรื่องมารยาท เราอาจจะเผลอลืมตัวเพราะความสนุกเมามันส์ที่คุยกับเพื่อน อันนี้เราก็ยอมรับคะ แต่ความคิดเห็นส่วนต้วคือ คนขับเองก็ไม่สมควรพุดขาแบบไล่ให้ไปนั่ง แทนที่จะบอกให้เบาเสียงหรืออย่างอื่นเราก้เข้าใจได้ แล้วเราก็ไม่ได้แต่งตัวโป๊ด้วยใส่กางเกงยีนขายาวเสื้อสายเดี่ยว เพื่อนคนที่ 1. ใส่เดรสสั้นแต่มีผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่คลุมได้หมดถึงเข่า อีกคนใส่เสือยืดกางเกงผ้าสั้นเลยเขาแต่ดูเรียบร้อยสาวหวาน
มารยาท Taxi
คนขับ : คน... กวนx ขนาดนั้นเลยหรอ?
เรา : ใช่ค่ะพี่ กวนx มาก
แล้วเราก็เริ่มต้นด้วยการเล่าให้ทุกคนในรถฟังรวมถึงคนขับรถด้วย และเราต้องยอมรับตรงนี้ว่าเราพูดเสียงดัง และโดยส่วนตัวเองก็เป็นคนพูดจาเสียงดังอยู่แล้ว
การสนทนาเล่าประสบการณ์ที่เราได้เจอมาและในระหว่างนั้นเพื่อนก็ฟังและมีเออ/ออ ด้วยนิดหน่อย แต่คนขับนั่งเงียบ ..... และจุดถกเถียงก็เริ่มต้นด้วยคำเชิญของคนขับดังนี้
คนขับ : คุณไปนั่งคุยข้างหลังไป (พุดด้วยน้ำเสียงนิ่มแต่แสดงออกถึงความไม่พอใจ)
เราและเพื่อน : งง ...
เรา : (งงมากและไม่เข้าใจว่าคนขับหมายถึงอะไร เพราะเราคุยสนุกๆอยู่คนขับก็ฟังแต่อยู่ๆมาพูดให้ไปนั่งข้างหลัง) จึงพุดไปว่า อะไรหรือค่ะ
เพื่อน 1 : นี้พี่พูดเล่นใช่มั้ย หยอกเล่นใช่ป่ะ
คนขับ : คือถ้าคุณกับแบบเนี่ยคุณไม่นั่งคุยกันข้างหลังไป
เรา : พี่จะจอดก็ได้นะคะ จอดตรงนี้เลย
คนขับ : จอดแต่ผมคิดค่ามีเตอร์นะ
เรา : อ้าวพี่ ได้ไง พี่คือนั่งรถมันก้ต้องคุยกันแล้วมันแปลกตรงไหน ? หนูคิดว่าแค่เราคุยกันมันจะผิดอะไรนี้รถโดยสารเราทำไมเราจะคุยไม่ได้
คนขับ: คุยนะคุยได่แต่ไม่ใช่ตรงนี้ (พุดด้วยอารมณ์) คุยกรอกหูผม กวนx แบบนี้มันไม่ใช่ คุยเสียงดังเราไม่ใช่คนเป็นผัวเป็นเมียกันมาคุยแบบนี้ไม่ได้
เรา : โห คิดไปถึงเรื่องผัวๆเมีย ... (เราก้ตัดคำไป) แล้วคนเขาก็คุยปกติ จะให้หนุไปคุยตรงไหนคะ ข้างหลังพี่ก็ได้ยินอยู่ดี นั่งอยู่ในรถแค่นี้ยังไงก็ได้ยิน
คนขับ : คือคุณมาพูดคำว่า กวนx ใส่หูผมอะ
เรา : อ้าว แล้วคือ ? คือหนูก็คุยถึงคนที่ 3 ป่ะ หนูก็พูดอยู่ว่าคนๆนั้น ไม่ได้พูดสักคำว่าพี่กวนx เราก็รุ้กันอยู่ว่าคุยเรื่องอะไร หนูว่าคนที่3 ถ้าเขาได้ยินเขาโกรธหนูมันไม่ผิดคะ แต่นี้หนุว่าเขาแต่พี่โกรธหนูว่ามันคนละคนกัน หนูก็แชร์ประสบการณ์ชีวิตให้ทุกคนฟังอีกอย่างพี่ก็แสดงถึงความสนใจด้วย ถ้าพี่คิดแบบนี้ไม่ใช่ความผิดหนุแล้วละ เป็นทัศนคติของตัวพี่เองแล้วละ
เพื่อนทั้งสอง : ใช่ น้องเขาก็แชร์ให้ฟัง พี่เองก้แสดงออกถึงความสนใจ น้องก่เล่าต่อก็แค่นั้น
คนขับ : (ยังพุดคำเดิมว่าเราไปว่าเขากวนx) คุณไม่รุ้หรอเขามีกฏหมายห้ามคุยเสียงดัง พุดจาแบบนี้ในรถ
เราและเพื่อน: อ่อ ไม่ทราบค่ะ เพราะไม่เคยนั่ง taxi และคิดๆดูไม่น่าจะมีกฏแบบนี้ (เราและเพื่อนเป็นคนต่างจังหวัดใช้ชีวิตด้วยรถส่วนตัวตลอด)
คนขับ : เอ้าไม่รุ้หรอ นิถามหน่อยเรียนจบจากที่ไหนถึงไม่รู้? ( มีการสอบถามถึงสถาบันจะมากไปแล้วนะ)
เรา: พี่มันไม่สำคัญหรอกค่ะว่าจบที่ไหนมันไม่เกี่ยวกันคะ แต่หนุไม่ทราบจริงๆคะว่ามีกฏนี้
เพื่อน 1: อีกอย่างเราก้นั่งเป็นส่วนตัว ถ้า BTS เราก้คงไม่คุยแบบนี้ ถูกไหมคะ
เรา : เอางี้นะพี่ หนูไม่ทราบจริงๆคะ เด่วหนุจะโทถามตำรวจนะคะ ว่าอะไรย้งไง
คนขับ : ทำไมต้องโทหาตำรวจ เรื่องนี้ตำรวจไม่รู้มันเกี่ยวกับขนส่ง
เรา : โอเคค่ะ งั้นเด่วหนูจะโทหาทั้งสองกรมเลยคะแล้วถ้าหนุผิดหนูจะโพสลง website ดังของไทย เอาเบอร์พี่มาได้เรื่องยังไงจะโทบอกพี่จะส่งลิ้งให้ดูเลย
คนขับ : คุณไม่ต้องมาคุยกับผม คุณจะคุยกับตำรวจก้เรื่องของคุณ ไม่ต้องมายุ่งกับผม
เรา : ไม่ค่ะ ถ้าหนุผิดหนุจะขอโทษคะ แล้วเราก็ถ่ายรูปบัตรคนขับที่โชว์ตรงหน้าเราไว้
คนขับ : นี้คุณถ่ายทำไม?
เรา: ก็ถ่ายไว้ไงค่ะ เวลาขึ้นรถ taxi ก็ต้องถ่ายอยู่แล้ว เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ถูกต้องไหมค่ะ? เพราะไม่รุ้จะเกิดอะไรขึ้น
คนขับ : เงียบ ...
แล้วเราก็โทหาตำรวจ ณ ตอนนั้น .... ผลสรุปจากคุณตำรวจคือ มันไม่ได้มีกฏหมายเรื่องการคุยกันบนรถโดยสาร แต่มันเป็นในเรื่องของมารยาทและความรำคาญของคนขับ
เรา : โอเค งั้นหนูขอโทษนะคะที่พุดเสียงดัง
คนขับ : ไม่เป็นไรครับ (แต่ไม่มีคำขอโทษเลยที่เขาเองก็ก้าวก่ายดูถูกว่าเราจบจากที่ไหน)
คนขับ : นี้คุณจะไปทำงานที่นานาหรอ? (มีการบังคับให้อาชีพอีก มองพวกเราเป็นผู้หญิงกลางคืนอีก)
เพื่อน 1: เรามาเที่ยวกันคะพี่พอดีมาเทรนที่กรุงเทพเลยอยากมาเที่ยวเล่น
คนขับ : ผมก็มารับพวกผู้หญิงแถวอโศก นานา ก็เยอะเขาก็ไม่เห็นจะพูดเสียงดัง พุดเหมือนเป็นเด็กสก๊อย ( น๊านนน ว่าเราเยอะมาก )
เอาเป็นว่านี้คือรายละเอียดของเหตุการณ์
อยากขอความคิดเห็นในเรื่องนี้ค่ะ เรื่องกฏระเบียบผู้โดยสารไม่มีสิทธิ์คุยกันหรือค่ะ แล้วเรื่องที่ทางคนขับเองพูดจาไม่ดีและแสดงท่าทางไม่เต็มใจให้บริการ เราจะทำเช่นไรได้บ้างคะ
เราเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาทำธุระที่ กทม ครั้งแรกและไม่เคยขึ้น taxi จริงๆค่ะ คือขึ้นกับเพื่อนนะคะ ขึ้นคนเดียวเราก็ไม่คุยกับใครอยู่แล้ว เพื่อนเป็นคนพึ่งรุ้จักที่มาเทรนด้วยกันเลยชวนกันเที่ยว ตามที่เคยใช้ชีวิตต่างประเทศเราก็คัยได้ปกตินะคะ
ถ้าพุดถึงเรื่องมารยาท เราอาจจะเผลอลืมตัวเพราะความสนุกเมามันส์ที่คุยกับเพื่อน อันนี้เราก็ยอมรับคะ แต่ความคิดเห็นส่วนต้วคือ คนขับเองก็ไม่สมควรพุดขาแบบไล่ให้ไปนั่ง แทนที่จะบอกให้เบาเสียงหรืออย่างอื่นเราก้เข้าใจได้ แล้วเราก็ไม่ได้แต่งตัวโป๊ด้วยใส่กางเกงยีนขายาวเสื้อสายเดี่ยว เพื่อนคนที่ 1. ใส่เดรสสั้นแต่มีผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่คลุมได้หมดถึงเข่า อีกคนใส่เสือยืดกางเกงผ้าสั้นเลยเขาแต่ดูเรียบร้อยสาวหวาน