เข้ามาให้กำลังใจคนขี่จักรยานค่ะ
ที่เค้าบอกกันว่าขี่จักรยานในประเทศไทยมันอันตราย มันก็อันตรายจริงๆ แต่ 50%
มาจากความประมาทและนิสัยของคนขี่ด้วยค่ะ
เราเคยไปรวมกลุ่มกับกลุ่มคนขี่จักรยาน เขาขี่กันลงถนนแบบเร็วมาก
ขี่สวนทางถนน บางทีก็ขี่บนฟุตบาทด้วยความเร็วสูง พยายามวัดกับรถเมล์ รถแท็กซี่(ซึ่งไม่มีประโยชน์เลย)
พูดง่ายๆว่า นิสัยมักง่ายที่เราเห็นมอไซค์ชอบทำ คนขี่จักรยานก็ทำด้วย พอเกิดอุบัติเหตุก็แันตรายค่ะ

การขี่ลงถนนของเราคือเราขับ mtb นะคะ มีหมวก มีกระจกข้าง มีไฟหน้าหลัง
(เพื่อนนักปั่นบางคนเห็นเรามีไฟเยอะๆ แซวว่าเป็นไฟคริสต์มาสมั่ง กระจกเกะกะมั่ง ขาตั้งทำให้น้ำหนักรถเยอะขึ้นมั่งป
คือเราต้องท่องไว้ก่อนว่ามาขี่จักรยานเพื่ออะไร เจตนาเราคือเพื่อให้เร็วกว่านั่งรถเมล์ค่ะ (เราไม่ขับรถเพราะเบื่อที่จอด)
เพราะงั้นแค่เร็วกว่ารถเมล์ก็พอแล้ว (ซึ่งขี่ธรรมดาก็เร็วกว่าแล้ว) แต่ถ้าจะเอาชนะรถแท็กซี่ รถยนตร์มันไม่มีประโยชน์เลย

วิธีลงถนนอย่างปลอดภัยนะ นอกจากอุปกรณ์พร้อมคือ
1 อย่าขี่ฉวัดเฉวียน ขี่สวน ปาด อย่าเอานิสัยคนขี่มอไซค์มาใช้กับจักรยาน
2 เจอรถเมล์หรือแท็กซี่จี้ให้ค่อยๆชะลอลงไปเลยค่ะ ชะลอจนค่อยๆหยุดค้ำฟุตบาธก๋ได้ รถมันจะออกข้างไปเอง
แต่ไม่ใช่หยุดพรวดนะคะ แบบนั่นต่อให้เป็นมอไซค์ก็โดนชนอยู่ดี
3 ถ้าจะข้ามถนนที่อันตราย หรือสะพานที่มีหลายแยก เราใช้วิธีหยุดที่สี่แยก รอไฟแดง แล้วจูงข้ามค่ะ
ถ้าคุณขี่รถเบา หิ้วข้ามสะพานลอยก็ชิวๆค่ะ
4 ล็อกในที่จอดมอไซค์ตามห้าง/ รพ./ รร. / อาคารจอดรถต่างๆ อย่าล้อกข้างทาง

ข้อดีของจักรยานคือมันเหมือน คน+มอไซค์ค่ะ ที่ไหนคนไปได้ จักยานก็ไปได้
แค่ลดอีโก้ลงมาแล้วจูงมันบ้าง อย่างเวลาเราเอาจักรยานไปไหน เราเปิดกูเกิ้ลแบบรถขับ มันต้องวิ่งบนถถน ก็มีต้องกลับรถ หาือทางบังคับ แต่ถ้าเปิดเป็นคนเดินมันจะมีให้ข้ามถนน ข้ามเรือ เราก็ไปพร้อมจักรยานได้ แค่ลงจากรถแล้วจูงเดินบ้าง
แต่ถ้าเลือกจะขี่สวน ก็อันตรายตามที่ทราบๆกันค่ะ

ข้อเสียของจักรยานมีไม่มากไปกว่ามอเตอไซคฺหรอกค่ะ การที่มันขับได้ช้ากว่า เรามองเป็นข้อดี
เพราะทำให้เวลาเกิดอุบัติเหตุอะไรไม่รุนแรง เราโดดทิ้ฃรถเลยได้ ขณะที่มอไซค์อาจล้มทับตัวเราและวิ่งมาแรงก็ล้มแรง
คนขี่จักรยานแค่ต้องจำไว้ว่า เราขี่จักรยาน ไม่ใช่ขี่มอไซค์หรือขับรถ จะได้หวังไปแซง หรือไปวัดกับรถอื่น
สำหรับเรา แค่เร็วกว่านั่งรถเมล์ในเวลาปกติ และเร็วกว่ารถยนตร์ในเวลาเร่งด่วนก็พอแล้วค่ะ

เราบ้านอยู่พระราม7 ขี่จักรยานลงถนนมา 5 ปีได้แล้ว ไม่เคยมีอุบัติเหตุที่เกิดจากรถอื่นค่ะ
มีล้มครั้งเดียวคือลื่นเองเพราะถนนก่อสร้าง ไม่มีคู่กรณีใดๆทั้งนั้น มีหมวกก็ไม่เจ็บตัวค่ะ
เราขี่เข้าเมืองตลอด เพราะสะดวกกว่ารถเมล์มากๆ และเราเบื่อการหาที่จอดรถ
บางทีเราไปเจอลูกค้าที่พาราก้อนวันเสาร์ ขับรถ30 นาที หาที่จอด 45 นาที ขี่จักรยานเราถึงก่อนลูกค้าตลอด
บ้านเราสะพานพระราม7 ถึงพาราก้อนภายใน 20-30 นาที รวมล็อกรถในลานจอดด้วยแล้วโอเคกว่าขับรถมากๆ
(เราขี่ที่ 15-17 กม./ชม. เท่านั้นค่ะ)

ถ้าคุณมาจากสายใต้ใหม่ เข้าเมือง เป็นเราคงเอาขึ้นสะพานลอย ข้ามมาฝั่งตรงข้ามมุ่งหน้าเข้าเมือทว
ปั่นยาวมาจนถึงตรงเส้นสิรินธร ขึ้นสะพานซังฮี้ พอลงสะพานรถยนต์จะบังคับเลี้ยวซ้ายถนนสุโขทัย
แต่ถ้าจักรยานคุณตรงมาพร้อม bus lane ได้ ตรงยาวมาตามเขาดิน / วังสวนจิตร/ ทางรถไฟ/ เลี้ยวขวาตรงรพ.รามา
ตรงยาวมาจนถึงแยกอุรุพงษ์ เลี้ยวซ้ายเป็นถ.เพชรบุรี > ตรงไปถึงสี่แยกราชเทวีเลี้ยวขวา ตรงยาวไปก็เป็นจุฬาแล้วค่ะ

วันแรกๆ อาจจะเกิน 1 ชม. แต่ถ้าปั่นจนชินน่าจะสั้นกว่า 1 ชม.
สะพานที่ปั่นข้ามจากฝั่งธน - พระนคร มากสุดคือ สะพานซังฮี้ค่ะ
แต่ถ้าจากสายใต้ใหม่มาทางปิ่นเกล้า (แนะนำถ้าขับไม่แข็งอย่าขึ้นสะพานตรงบรมแต่ตรงไปทางสิรินธรแล้วเลี้ยวขวาที่แยกบางพลัดดีกว่า ปลอดภัยกว่า) แล้วตรงยาวไปทางศิริราชก็เอาเรือข้ามฟากแล้วปั่นจากท่าช้างไปจุฬาต่อำด้นะ