BEYONG SKYLINE (2017) อสูรท้านรก
⭐⭐⭐1/2 (7/10)
.....น่าจะเปลี่ยนชื่อหนังจาก อสูรท้านรก เป็น ฉะ! อสูรท้านรก ผมว่าจะเหมาะกว่า...
......กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 7 ปี กับภาคที่สองของหนังเเอ็คชั่นไซไฟ ฟอร์มดีอย่าง Skyline ซึ่งภาคนี้ได้ผู้กำกับอย่าง เลียม โอดอนเนลล์ และทีมงานผู้สร้างจากภาคเเรก มาควบคุมดูเเลและสานต่อความมันส์ กับ Beyond skyline อสูรท้านรก
โดยภาคนี้ได้นักเเสดงมาดเข้มอย่าง แฟรงค์ กริลโล
จาก Captain America ภาค winter soldier กับ civil war และ The Purge ภาค 2 และ 3 มารับบทนำ ร่วมด้วยสองนักเเสดงสายบู๊เเดนอิเหนาอย่าง อิโก้ อูไวส์ และ ยายาน รูเฮียน จาก The Raid ทั้งสองภาค มาเสริมทัพความมันส์
......เรื่องราวในภาคนี้ เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่เกิดขึ้นในภาคเเรก เมื่อมียานเอเลี่ยนลำมหึมามาบุกโลกและต้องการที่จะจับตัวมนุษย์ขึ้นมาบนยาน โดยพวกมันจะใช่สำเเสงสีฟ้าเป็นเครื่องมือ ซึ่งถ้าหากไครก็ตามที่มองลำแสงสีฟ้านั้น ก็จะถูกดูดขึ้นไปบนยานของมัน โดยเเฟรงค์ก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกดูดขึ้นไปบนยานลำนั้น แต่เขาสามารถต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนเเละหนีรอดออกมาจากยานได้ พร้อมกับเด็กทารกคนหนึ่ง เเละเขาก็ได้รับความช่วยเหลือสองพี่น้องชาวเอเชีย ที่พาไปยังโบราณสถานแห่งหนึ่ง ที่เป็นป้อมปราการสุดท้ายเพื่อจะใช้ในต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยน...
......ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากดูจบ ผมว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่มีฉากเเอ็คชั่นที่มันส์สะใจดีนะ คือเเบบว่ามนุษย์สู้กับเอเลี่ยน แบบมือเปล่า ขนาดไซส์มันก็คนละไซส์นะ เเต่ไม่น่าเชื่อว่าสามารถสู้กันได้มันส์และลุ้นมาก สำหรับทางด้านนักเเสดง ผมว่าก็เเสดงได้ดีตามบทบาทที่ได้รับ เเต่ดูไม่ค่อยมีมิติ ก็เลยทำให้ไม่ค่อยรู้สึกอินตามกับตัวละครในเรื่องซักเท่าไร เพราะคิดว่าทางผู้สร้างน่าจะต้องการที่จะเน้นทางด้านฉากแอ็คชั่นซะมากกว่า
โดยเฉพาะพระเอกนี่จะเก่งไปไหน ทั้งเก่งทั้งอึด ผมก็คิดว่า Diehard มาเองซะอีก เก่งเเบบว่า ถึงจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็สู้จนสามารถรอดออกมาได้ตลอด พี่เขาเทพจริงๆ
อีกตัวละครหนึ่งที่ผมชอบมาก คือตัวละครที่แสดงโดย อิโก้ อุไวส์ คือเเสดงได้ดูมีมิติมากกว่าตัวละครอื่นๆ การเเสดงของเขาสามารถทำให้ผมอยากรู้ว่าตัวละครตัวนี้ มีความเป็นมายังไง ก่อนที่จะมาเจอกับพวกพระเอก เเล้วทำไมถึงไม่ชอบตำรวจ โดยส่วนตัวแล้วที่ผมมาดูหนังเรื่องนี้ก็เพราะ อิโก้ กับ ยายาน นี่เเหละครับ โดยผมหวังจะได้เห็นฉากต่อสู้สไตล์ปันจักสีลัต จากสองคนนี้ เเละก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ
เเต่เสียดายตัวละครที่เเสดงโดย ยายาน มีบทบาทน้อยไปนิด เเต่ก็ถือว่าก็ยังเด่นเเละเท่ห์อยู่ ส่วนทางด้านเนื้อเรื่อง ก็ไม่มีอะไรมาก หนังดำเนินเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต่างจากภาคเเรก หนังภาคนี้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน โดยครึ่งเเรกของหนังจะเล่าเรื่องราวการต่อสู้เอาตัวรอดของพวกพระเอกที่อยู่ภายในเมืองและอยู่บนยานเอเลี่ยน ส่วนครึ่งหลังจะเป็นเรื่องราวการต่อสู้ที่อยู่ในป่าประเทศลาว(ไม่ใช่อินโดเนเซียนะครับ) หลังจากที่ยานเอเลี่ยนตก และหนังยังสามารถนำปมจากภาคเเรกมาใช้ดำเนินเรื่องในภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนทางด้าน CG ก็ถือว่า ทำออกมาได้ดีตามทุนสร้าง อาจจะมีลอยๆ บ้าง เเต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะภาคที่เเล้วใช่ทุนสร้างเพียงเเค่ 10 ล้านดอลล่าร์ เเต่ยังสามารถทำ CG ออกมาได้ขนาดนั้น ผมก็ถือว่าเทพเเล้ว
สำหรับฉากที่น่าจดจำของหนังเรื่องนี้ จะเป็นฉากไหนไม่ได้เลยนอกจาก ฉากต่อสู้ตอนจบ ที่ทุกคนสู้กับเอเลี่ยนด้วยมีด ด้วยมือเปล่า เเบบหลังชนฝา มันเป็นอะไรที่เท่ห์และมันส์มาก ผมนี่ขนลุกมากกับฉากนี้ อารมณ์มันประมาณว่าคล้ายๆ The Avenger ตอนสู้หลังชนฝา
.....สรุปเป็นหนังแอ็คชั่นไซไฟ อีกเรื่องที่มีฉากเเอ็คชั่นที่มันส์สะใจมาก สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวโย่งของ อิโก้ อุไวส์ กับ ยายาน รูเฮียน และต้องการจะเห็นฉากต่อสู้มือเปล่าสุดมันส์ สไตล์ The raid คุณควรมาดูหนังเรื่องนี้ครับ รับรองไม่ผิดหวังเเน่นอน..
.....เพจมารีวิวหนังกันเถอะครับ....
[CR] รีวิว BEYOND SKYLINE (2017) อสูรท้านรก ⭐⭐⭐1/2 (7/10) ... น่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น ฉะ! อสูรท้านรก...
BEYONG SKYLINE (2017) อสูรท้านรก
⭐⭐⭐1/2 (7/10)
.....น่าจะเปลี่ยนชื่อหนังจาก อสูรท้านรก เป็น ฉะ! อสูรท้านรก ผมว่าจะเหมาะกว่า...
......กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 7 ปี กับภาคที่สองของหนังเเอ็คชั่นไซไฟ ฟอร์มดีอย่าง Skyline ซึ่งภาคนี้ได้ผู้กำกับอย่าง เลียม โอดอนเนลล์ และทีมงานผู้สร้างจากภาคเเรก มาควบคุมดูเเลและสานต่อความมันส์ กับ Beyond skyline อสูรท้านรก
โดยภาคนี้ได้นักเเสดงมาดเข้มอย่าง แฟรงค์ กริลโล
จาก Captain America ภาค winter soldier กับ civil war และ The Purge ภาค 2 และ 3 มารับบทนำ ร่วมด้วยสองนักเเสดงสายบู๊เเดนอิเหนาอย่าง อิโก้ อูไวส์ และ ยายาน รูเฮียน จาก The Raid ทั้งสองภาค มาเสริมทัพความมันส์
......เรื่องราวในภาคนี้ เป็นเหตุการณ์เดียวกันกับที่เกิดขึ้นในภาคเเรก เมื่อมียานเอเลี่ยนลำมหึมามาบุกโลกและต้องการที่จะจับตัวมนุษย์ขึ้นมาบนยาน โดยพวกมันจะใช่สำเเสงสีฟ้าเป็นเครื่องมือ ซึ่งถ้าหากไครก็ตามที่มองลำแสงสีฟ้านั้น ก็จะถูกดูดขึ้นไปบนยานของมัน โดยเเฟรงค์ก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกดูดขึ้นไปบนยานลำนั้น แต่เขาสามารถต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยนเเละหนีรอดออกมาจากยานได้ พร้อมกับเด็กทารกคนหนึ่ง เเละเขาก็ได้รับความช่วยเหลือสองพี่น้องชาวเอเชีย ที่พาไปยังโบราณสถานแห่งหนึ่ง ที่เป็นป้อมปราการสุดท้ายเพื่อจะใช้ในต่อสู้กับเหล่าเอเลี่ยน...
......ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากดูจบ ผมว่าเป็นหนังอีกเรื่องที่มีฉากเเอ็คชั่นที่มันส์สะใจดีนะ คือเเบบว่ามนุษย์สู้กับเอเลี่ยน แบบมือเปล่า ขนาดไซส์มันก็คนละไซส์นะ เเต่ไม่น่าเชื่อว่าสามารถสู้กันได้มันส์และลุ้นมาก สำหรับทางด้านนักเเสดง ผมว่าก็เเสดงได้ดีตามบทบาทที่ได้รับ เเต่ดูไม่ค่อยมีมิติ ก็เลยทำให้ไม่ค่อยรู้สึกอินตามกับตัวละครในเรื่องซักเท่าไร เพราะคิดว่าทางผู้สร้างน่าจะต้องการที่จะเน้นทางด้านฉากแอ็คชั่นซะมากกว่า
โดยเฉพาะพระเอกนี่จะเก่งไปไหน ทั้งเก่งทั้งอึด ผมก็คิดว่า Diehard มาเองซะอีก เก่งเเบบว่า ถึงจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็สู้จนสามารถรอดออกมาได้ตลอด พี่เขาเทพจริงๆ
อีกตัวละครหนึ่งที่ผมชอบมาก คือตัวละครที่แสดงโดย อิโก้ อุไวส์ คือเเสดงได้ดูมีมิติมากกว่าตัวละครอื่นๆ การเเสดงของเขาสามารถทำให้ผมอยากรู้ว่าตัวละครตัวนี้ มีความเป็นมายังไง ก่อนที่จะมาเจอกับพวกพระเอก เเล้วทำไมถึงไม่ชอบตำรวจ โดยส่วนตัวแล้วที่ผมมาดูหนังเรื่องนี้ก็เพราะ อิโก้ กับ ยายาน นี่เเหละครับ โดยผมหวังจะได้เห็นฉากต่อสู้สไตล์ปันจักสีลัต จากสองคนนี้ เเละก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ
เเต่เสียดายตัวละครที่เเสดงโดย ยายาน มีบทบาทน้อยไปนิด เเต่ก็ถือว่าก็ยังเด่นเเละเท่ห์อยู่ ส่วนทางด้านเนื้อเรื่อง ก็ไม่มีอะไรมาก หนังดำเนินเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน ไม่ต่างจากภาคเเรก หนังภาคนี้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน โดยครึ่งเเรกของหนังจะเล่าเรื่องราวการต่อสู้เอาตัวรอดของพวกพระเอกที่อยู่ภายในเมืองและอยู่บนยานเอเลี่ยน ส่วนครึ่งหลังจะเป็นเรื่องราวการต่อสู้ที่อยู่ในป่าประเทศลาว(ไม่ใช่อินโดเนเซียนะครับ) หลังจากที่ยานเอเลี่ยนตก และหนังยังสามารถนำปมจากภาคเเรกมาใช้ดำเนินเรื่องในภาคนี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนทางด้าน CG ก็ถือว่า ทำออกมาได้ดีตามทุนสร้าง อาจจะมีลอยๆ บ้าง เเต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะภาคที่เเล้วใช่ทุนสร้างเพียงเเค่ 10 ล้านดอลล่าร์ เเต่ยังสามารถทำ CG ออกมาได้ขนาดนั้น ผมก็ถือว่าเทพเเล้ว
สำหรับฉากที่น่าจดจำของหนังเรื่องนี้ จะเป็นฉากไหนไม่ได้เลยนอกจาก ฉากต่อสู้ตอนจบ ที่ทุกคนสู้กับเอเลี่ยนด้วยมีด ด้วยมือเปล่า เเบบหลังชนฝา มันเป็นอะไรที่เท่ห์และมันส์มาก ผมนี่ขนลุกมากกับฉากนี้ อารมณ์มันประมาณว่าคล้ายๆ The Avenger ตอนสู้หลังชนฝา
.....สรุปเป็นหนังแอ็คชั่นไซไฟ อีกเรื่องที่มีฉากเเอ็คชั่นที่มันส์สะใจมาก สำหรับใครที่เป็นแฟนตัวโย่งของ อิโก้ อุไวส์ กับ ยายาน รูเฮียน และต้องการจะเห็นฉากต่อสู้มือเปล่าสุดมันส์ สไตล์ The raid คุณควรมาดูหนังเรื่องนี้ครับ รับรองไม่ผิดหวังเเน่นอน..
.....เพจมารีวิวหนังกันเถอะครับ....