กลับมาอีกครั้งแล้วนะครับผม หลังจากที่ห่างหายไปนานด้วยภาระหน้าที่การงาน
วันนี้แม่ก็จะมาเล่าเรื่องราวให้ฟังอีกตามเคย คือแม่ได้ไปร่วมทริปปลูกป่า
“โครงการเพาะรักษ์ 2” งานรวมพลชาว 2 ล้อ สายพันธุ์ Scooter ที่ร่วมใจกันไป
ปลูกป่า ณ.อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ในวันที่ 12 – 13 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา
จะสนุกแค่ไหน ตามแม่มาเลยนะคร้าบบบบ
บรรยากาศอ่ะเหรอครับ ก็เป็นเหมือนทุก ๆ ครั้ง คือ ตื่นเต้น ๆ ๆ ที่จะได้ไปเห็นอะไรใหม่ ๆ ได้เจอรอยยิ้ม ได้เจอมิตรภาพ
เสียงหัวเราะ และที่สำคัญเสียงเครื่องรถตอนบิดคันเร่งตอนที่รถจะออกตัวนี่ชอบมาก ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จุดรวมพลก็ยังเป็นที่เดิม
คือ อู่ช่างฮอลล์ อยุธยาที่เดิม แม่กับลูกชายออกจากบ้านที่กรุงเทพฯ ประมาณ 3 ทุ่ม เพราะกว่าจะกลับจากทำงาน
กว่าจะถึงบ้าน รีบอาบน้ำแล้วก็บิดรถอย่างไว เพราะนัดเพื่อนไว้ 2 คัน แถว ๆ งามวงศ์วาน เนื่องจากไม่อยากขี่รถไปคันเดียว
เมื่อไปถึง ก็เจอสองหนุ่มจอดรออยู่แล้ว แล้วเราก็บิดม้วนเดียวถึงอยุธยาเลย และเมื่อไปถึงอยุธยา เราก็ได้รับน้ำใจอีกเช่นเคย
ได้ที่หลับ ที่นอน ได้กินข้าว พักผ่อนนอนหลับเป็นอย่างดี พร้อมสำหรับเช้าที่สดใส
บรรดาหนุ่ม ๆ เค้านั่งทำรถกันทั้งคืน โห.... แล้วจะขับไหวป่ะเนี่ย ทริปนี้ คนที่เคยร่วมทริปกันไม่ได้ไปหลายคนเลย
น่าเสียดายสุด ๆ เนื่องด้วยติดภารกิจ เพราะเป็นวันแม่อ่ะเนอะ สมาชิกก็ทยอยมากันเรื่อย ๆ แม่ก็รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง
ยิ้มแย้ม ทักทายกันไป ขับรถกับก๊วนนี้สนุกดีอ่ะ ชอบ ๆ แบบว่า ชิลล์ ๆ ดี ไม่รีบ ไปเรื่อย ๆ เมื่อทุกคนพร้อม
เราก็เริ่มออกเดินทาง ขณะนี้เป็นเวลา 9 นาฬิกา ตื่นเต้น ๆ ๆ ๆ อีกแร้วววววว ทริปนี้มีรถหลายคันเลย มีคนที่ไม่รู้จัก
แต่ว่าจะไปงานเดียวกันก็เลยมาร่วมขี่ไปด้วยกัน ทางที่ไปก็เป็นทางใหม่ไม่ใช่ทางที่แม่เคยไป ตอนไปทริปเขาใหญ่
แต่รถติดมาก ๆ เลยครับ คงเป็นช่วงวันหยุดติดต่อกัน คนเลยออกต่างจังหวัดเยอะ ขี่ออกมาได้สักพักก็ต้องยันกันแล้ว
เลยต้องจอดปรับจูนเครื่องยนต์กันสักนิด แล้วก็เดินทางกันต่อ วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆฝนเลย
มีแต่แดดล้วน ๆ แดดแรงมาก ๆ เลยครับ แต่ก็ยังดีกว่าโดนฝนนะแม่ว่า
อย่างที่เล่าไปว่า ทริปนี้รถไปกันเยอะ รถก็อาจจะไม่พร้อมบ้าง ขี่ไป จอดซ่อมไป แต่ไม่มีใครบ่น ใครว่าอะไร
สนุกดีซะอีกนะแม่ว่า ได้พักตูดด้วย 55555+ บางครั้งว่ิง ๆ ไปรถเสียซะงั้น ก็ต้องยันกันไปหาที่จอดซ่อมรถ
ถ้าเจอปั๊มก็ดีไป แต่ถ้าไม่เจอ เจอที่ไหนที่พอจะจอดได้ ก็จอดซ่อมลุยกันเลย มันส์ดีครับ
แต่ปัญหาใหญ่ก็คือ แดดครับผม แดดแรงมาก ๆ ยิ่งขี่รถตอนนี้ด้วย เพลียแน่นอน ขณะนี้น่ะเหรอเกือบบ่ายโมงแระ
แต่คณะของเรา ก็ยังอยู่ ลพบุรีอยู่เลยครับ 555555 เห็นก๊วนอื่นเค้าเช็คอินถึงสถานที่จัดงานกันแล้ว แต่มันไม่สำคัญ
เรื่องราวระหว่างทางสำคัญกว่า มิตรภาพ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้ำใจ ที่มอบให้กันและกัน นั้นน่าจดจำกว่าเป็นไหน ๆ
จอดซ่อม จอดนอน มันทุกปั๊มนั่นแหละฮะ ท่านผู้ชม ตอนนี้เราไม่ซีเรียสเรื่องเวลากันแล้วเพราะไหน ๆ ก็ไม่ทันแน่นอน
ความมืดเริ่มมาเยือน พร้อมกับคณะของเราที่ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์พร้อมกับความมืดมิด ตอนนี้ทุกคนแอบกังวล
ในการขี่รถขึ้นเขาค้อท่ามกลางความมืด ด้วยแสงไฟหน้ารถอันน้อยนิด แม่อ่ะเหรอก็กังวลนิดหน่อยนะครับ เพราะสองข้าง
ทางนั้นมีแต่ความมืด เมื่อถึงทางขึ้นเขา เราก็แบ่งชุดกันไป คันไหนมีไฟก็จะเป็นคนนำ แม่เห็นบรรยากาศก็ชักเสียว ๆ
ช่วงเวลาที่ขึ้นเขานั้น เอาจริง ๆ ก็ไม่น่ากลัวนะครับเพราะรถไม่ค่อยมี มีแต่พวกเรา รถแม่ก็จะอืด ๆ หน่อยเพราะซ้อนสอง
บรรยากาศสองข้างทางก็ไม่เห็นอะไรเลย มีแต่แสงไฟส่องสว่าง ที่ทำให้เห็นเส้นประของพื้นถนนเป็นสีเหลืองสวยงาม
แต่สองข้างทางมืดนะ มืดจริง ๆ คงเพราะความมืดนั่นเอง มันเลยบดบังความสูง ความเสียวจึงไม่บังเกิดกับแม่ 55555
และแล้วเราก็มาถึงเขาค้อแร้วววววว และสภาพแต่ละคน ที่ขี่รถตั้งแต่เช้าจนถึง ณ.ตอนนี้ก็ 3 ทุ่ม โดยประมาณ
ตอนนี้น่ะเหรอที่บนเขาค้อนี้ จะเห็นและได้ยินเสียงเครื่องยนต์ ของเหล่าบรรดาชาว 2 ล้อ ที่ขับขี่ Scooter หลาก
หลายสายพันธุ์ ทั้งรถเก่า รถใหม่ บีบแตร ยกมือทักทายกันอยู่เป็นระยะ ๆ คณะของเราก็ขี่เราเข้าไปที่ ๆ เค้าจัดงานนะครับ
แต่รถเยอะมาก เลยขอบาย ขอเข้าไปที่พักเลยดีกว่า เพราะขี่รถกันมาทั้งวันเหนื่อยมาก ๆ แต่ที่สำคัญ คือ หิวข้าวนั่นเอง
เมื่อมาถึงที่พักก็มองมิเห็นอะไรเลย สวยแค่ไหน สูงแค่ไหน ไม่รู้เลย แต่ที่รู้ ๆ คือ หนาวอ่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ
สวัสดีเขาค้อ อากาศเมื่อคืนหนาวมาก ๆ เลยครับ ตอนเช้าได้เห็นวิวแล้ว สวยมาก ๆ เลยครับผม แม่กับลูกชาย
ไปขี่รถเล่นมารอบนึงแล้ว มันรู้สึกดีมาก ๆ เลยนะครับ ที่ได้มองอะไรสุดลูกหู ลูกตา โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น
เมื่อทุกคนตื่น กินข้าวต้มที่ทางเค้าจัดให้ บรรดาหนุ่ม ๆ ก็ตรวจเช็ครถ เพราะเดี๋ยวเรากำลังจะไปเที่ยวกันครับ
ไปขี่รถเล่นเที่ยวที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วกัน คณะของเรามีบางคนต้องกลับกรุงเทพฯ ก็เลยไม่ได้ไปปลูกป่า
กับเค้า แต่จะขี่รถไปเที่ยวกันก่อน แล้วค่อยแยกย้ายเพราะมีบางคันไปต่อ บางคันก็ติดธุระต้องกลับกรุงเทพฯ
และมีบางคันที่อยากไปต่อ แต่สภาพรถไม่พร้อมก็เลยต้องขอบาย แต่ที่แน่ ๆ พวกเราไปด้วยกันก่อนตอนนี้
เมื่อรถพร้อม ทุกคนพร้อม เราไปขี่รถเที่ยวชมวิว แล้วไปต่อกันที่ "วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว" กันครับ
เมื่อมาถึงข้างบนรถเยอะมาก คนก็เยอะมาก คงเป็นเพราะเป็นวันหยุดยาว เมื่อทุกคนถ่ายรูปจนเป็นที่พอใจแล้ว
ก็คงต้องถึงคราวแยกย้าย แม่ไปลุย "ภูทับเบิก" ต่อ คณะของเราจึงแบ่งเป็นสองพวก คือ พวกที่ไปต่อ กับ พวกที่
ต้องกลับกรุงเทพฯ ทางลงเขาก็จะเสียวนิด ๆ เพราะจะเห็นอะไร ต่อมิอะไร ความสูงเอย ทางโค้งเอย ผิดกับตอนมา
สุดท้ายคณะของเราก็มาเจอกันที่ ศาลาพักใจ เพราะรถเสีย ก็จอดคุย จอดซ่อม รอพรรคพวก แล้วก็โบกมือบ้ายบายกัน
เมื่อพร้อมแล้ว ก็ไปลุย "ภูทับเบิก" กับแม่กันต่อเลยนะคร้าบบบบบบ
ใกล้จะถึงแร้ววววนะครับ บรรยากาศโคตรฟินอ่ะครับ ตอนอยู่ข้างล่างนะ ร้อนโคตร ๆ เลย แต่พอขึ้นมาอากาศเย็นแถมมีหมอกด้วย
มันเจ๋งมาก ๆ อ่ะครับ ที่ตัวเราค่อย ๆ วิ่งเข้าไปในหมอก ก็กลัว ๆ เหมือนกันนะครับ เพราะมองไม่ค่อยเห็นอะไร แต่พอวิ่งไปสักพัก
ก็ชิน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจออากาศแบบนี้ ฟินสุด ๆ เลยครับผม ทางก็ไม่ค่อยน่ากลัวนะแม่ว่า รถก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่
และแล้วเราก็มาถึง "ภูทับเบิก" เป็นครั้งแรกของแม่ด้วยนะครับ ที่ได้มาบนนี้ สวยสมคำร่ำลือ เราเข้าที่พักและก็ออกมาหาอะไรกิน
ขี่รถเล่น นอนพัก ดื่มด่ำกับบรรยากาศ เพราะอากาศโคตรดี มีหมอกลอยมาเป็นระยะ ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปจนเบื่อไปเลย แต่ก็เสียดาย
อยากให้มาทุกคน ทุกคันเลย แต่อย่างว่าแหละครับ บางคนติดงาน บางคนรถไม่พร้อม สายลุย "ภูทับเบิก" จึงเหลือกันแค่นี่
ตอนนี้บนภูทับเบิกก็เริ่มได้ยินเสียงรถของพี่น้องชาว 2 ล้อของเราบ้างแล้ว คาดว่าคงปลูกป่ากันเสร็จแล้ว และก็ขึ้นมาเที่ยวที่นี่ต่อ
หนุ่ม ๆ ก็ มีดื่มกันนิดหน่อย มีการปิ้งย่างกัน ก็เข้ากับบรรยากาศดีนะครับ แต่แม่ขอตัวไปนอนพักในห้องดีกว่า สู้อากาศหนาวไม่ไหว
สวัสดี "ภูทับเบิก" นะจร้าาาา แม่อ่ะกว่าจะปลุกคุณชายให้ตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นได้เกือบไม่ทันแน่ะครับ 55555
และแล้ว เราก็คงต้องกลับบ้านกันแล้ว ขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกคน และทุกคัน นะครับผม เจอกันทริปหน้านะคร้าบบบบ
"เขาใหญ่" ผ่านไป ทริปต่อไปก็ต้อง "เขาค้อ" ซิคร้าบบบบ
เสียงหัวเราะ และที่สำคัญเสียงเครื่องรถตอนบิดคันเร่งตอนที่รถจะออกตัวนี่ชอบมาก ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ จุดรวมพลก็ยังเป็นที่เดิม
คือ อู่ช่างฮอลล์ อยุธยาที่เดิม แม่กับลูกชายออกจากบ้านที่กรุงเทพฯ ประมาณ 3 ทุ่ม เพราะกว่าจะกลับจากทำงาน
กว่าจะถึงบ้าน รีบอาบน้ำแล้วก็บิดรถอย่างไว เพราะนัดเพื่อนไว้ 2 คัน แถว ๆ งามวงศ์วาน เนื่องจากไม่อยากขี่รถไปคันเดียว
น่าเสียดายสุด ๆ เนื่องด้วยติดภารกิจ เพราะเป็นวันแม่อ่ะเนอะ สมาชิกก็ทยอยมากันเรื่อย ๆ แม่ก็รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง
ยิ้มแย้ม ทักทายกันไป ขับรถกับก๊วนนี้สนุกดีอ่ะ ชอบ ๆ แบบว่า ชิลล์ ๆ ดี ไม่รีบ ไปเรื่อย ๆ เมื่อทุกคนพร้อม
เราก็เริ่มออกเดินทาง ขณะนี้เป็นเวลา 9 นาฬิกา ตื่นเต้น ๆ ๆ ๆ อีกแร้วววววว ทริปนี้มีรถหลายคันเลย มีคนที่ไม่รู้จัก
แต่ว่าจะไปงานเดียวกันก็เลยมาร่วมขี่ไปด้วยกัน ทางที่ไปก็เป็นทางใหม่ไม่ใช่ทางที่แม่เคยไป ตอนไปทริปเขาใหญ่
แต่รถติดมาก ๆ เลยครับ คงเป็นช่วงวันหยุดติดต่อกัน คนเลยออกต่างจังหวัดเยอะ ขี่ออกมาได้สักพักก็ต้องยันกันแล้ว
เลยต้องจอดปรับจูนเครื่องยนต์กันสักนิด แล้วก็เดินทางกันต่อ วันนี้อากาศดี ท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆฝนเลย
มีแต่แดดล้วน ๆ แดดแรงมาก ๆ เลยครับ แต่ก็ยังดีกว่าโดนฝนนะแม่ว่า
สนุกดีซะอีกนะแม่ว่า ได้พักตูดด้วย 55555+ บางครั้งว่ิง ๆ ไปรถเสียซะงั้น ก็ต้องยันกันไปหาที่จอดซ่อมรถ
ถ้าเจอปั๊มก็ดีไป แต่ถ้าไม่เจอ เจอที่ไหนที่พอจะจอดได้ ก็จอดซ่อมลุยกันเลย มันส์ดีครับ
แต่คณะของเรา ก็ยังอยู่ ลพบุรีอยู่เลยครับ 555555 เห็นก๊วนอื่นเค้าเช็คอินถึงสถานที่จัดงานกันแล้ว แต่มันไม่สำคัญ
เรื่องราวระหว่างทางสำคัญกว่า มิตรภาพ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ น้ำใจ ที่มอบให้กันและกัน นั้นน่าจดจำกว่าเป็นไหน ๆ
ในการขี่รถขึ้นเขาค้อท่ามกลางความมืด ด้วยแสงไฟหน้ารถอันน้อยนิด แม่อ่ะเหรอก็กังวลนิดหน่อยนะครับ เพราะสองข้าง
ทางนั้นมีแต่ความมืด เมื่อถึงทางขึ้นเขา เราก็แบ่งชุดกันไป คันไหนมีไฟก็จะเป็นคนนำ แม่เห็นบรรยากาศก็ชักเสียว ๆ
ช่วงเวลาที่ขึ้นเขานั้น เอาจริง ๆ ก็ไม่น่ากลัวนะครับเพราะรถไม่ค่อยมี มีแต่พวกเรา รถแม่ก็จะอืด ๆ หน่อยเพราะซ้อนสอง
บรรยากาศสองข้างทางก็ไม่เห็นอะไรเลย มีแต่แสงไฟส่องสว่าง ที่ทำให้เห็นเส้นประของพื้นถนนเป็นสีเหลืองสวยงาม
แต่สองข้างทางมืดนะ มืดจริง ๆ คงเพราะความมืดนั่นเอง มันเลยบดบังความสูง ความเสียวจึงไม่บังเกิดกับแม่ 55555
หลายสายพันธุ์ ทั้งรถเก่า รถใหม่ บีบแตร ยกมือทักทายกันอยู่เป็นระยะ ๆ คณะของเราก็ขี่เราเข้าไปที่ ๆ เค้าจัดงานนะครับ
แต่รถเยอะมาก เลยขอบาย ขอเข้าไปที่พักเลยดีกว่า เพราะขี่รถกันมาทั้งวันเหนื่อยมาก ๆ แต่ที่สำคัญ คือ หิวข้าวนั่นเอง
เมื่อมาถึงที่พักก็มองมิเห็นอะไรเลย สวยแค่ไหน สูงแค่ไหน ไม่รู้เลย แต่ที่รู้ ๆ คือ หนาวอ่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ
ไปขี่รถเล่นมารอบนึงแล้ว มันรู้สึกดีมาก ๆ เลยนะครับ ที่ได้มองอะไรสุดลูกหู ลูกตา โดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น
ไปขี่รถเล่นเที่ยวที่ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วกัน คณะของเรามีบางคนต้องกลับกรุงเทพฯ ก็เลยไม่ได้ไปปลูกป่า
กับเค้า แต่จะขี่รถไปเที่ยวกันก่อน แล้วค่อยแยกย้ายเพราะมีบางคันไปต่อ บางคันก็ติดธุระต้องกลับกรุงเทพฯ
และมีบางคันที่อยากไปต่อ แต่สภาพรถไม่พร้อมก็เลยต้องขอบาย แต่ที่แน่ ๆ พวกเราไปด้วยกันก่อนตอนนี้
ก็คงต้องถึงคราวแยกย้าย แม่ไปลุย "ภูทับเบิก" ต่อ คณะของเราจึงแบ่งเป็นสองพวก คือ พวกที่ไปต่อ กับ พวกที่
ต้องกลับกรุงเทพฯ ทางลงเขาก็จะเสียวนิด ๆ เพราะจะเห็นอะไร ต่อมิอะไร ความสูงเอย ทางโค้งเอย ผิดกับตอนมา
มันเจ๋งมาก ๆ อ่ะครับ ที่ตัวเราค่อย ๆ วิ่งเข้าไปในหมอก ก็กลัว ๆ เหมือนกันนะครับ เพราะมองไม่ค่อยเห็นอะไร แต่พอวิ่งไปสักพัก
ก็ชิน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมาเจออากาศแบบนี้ ฟินสุด ๆ เลยครับผม ทางก็ไม่ค่อยน่ากลัวนะแม่ว่า รถก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่
ขี่รถเล่น นอนพัก ดื่มด่ำกับบรรยากาศ เพราะอากาศโคตรดี มีหมอกลอยมาเป็นระยะ ๆ ให้เราได้ถ่ายรูปจนเบื่อไปเลย แต่ก็เสียดาย
อยากให้มาทุกคน ทุกคันเลย แต่อย่างว่าแหละครับ บางคนติดงาน บางคนรถไม่พร้อม สายลุย "ภูทับเบิก" จึงเหลือกันแค่นี่
หนุ่ม ๆ ก็ มีดื่มกันนิดหน่อย มีการปิ้งย่างกัน ก็เข้ากับบรรยากาศดีนะครับ แต่แม่ขอตัวไปนอนพักในห้องดีกว่า สู้อากาศหนาวไม่ไหว