ถ้าพูดถึงสุดยอดวรรณกรรมไทยจะต้องมี
"ผู้ชนะสิบทิศ" ของ ยาขอบ
อยู่ในดวงใจคนจำนวนมากแน่นอน
ผู้ชนะสิบทิศเป็นเรื่องราวของ
จะเด็จ หรือ พระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 มหาราช
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพม่า และได้ชื่อว่าเป็นผู้ปราบทั่วทุกทิศ จนได้ชื่อว่า
"พระเจ้าชนะสิบทิศ"
หนังสือผู้ชนะสิบทิศ แต่งในช่วงราวปี 2474 -2476 และมารวมเล่มอีกครั้งในปี พ.ศ 2482
ซึ่งอยู่ใน
ช่วงการปฏิวัติของไทยพอดี ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมส่วนหนึ่ง เพราะกระแสความตื่นตัวของประชาชน
ในเรื่องความเท่าเทียมกัน
(จะเด็จ ประวัติช่วงนั้นบอกว่า มาจากสามัญชน)
แต่พอมาถึงช่วงที่ญี่ปุ่นบุกไทย และไทยจำต้องมีไมตรีด้วยในช่วงราวปีพ.ศ 2484 เป็นต้นไป
นิยาย "ผู้ชนะสิบทิศ"กลับเป็น
หนังสือต้องห้ามเพราะ
1 เป็นการยกย่องกษัตริย์ต่างชาติ หนำซ้ำ เป็นกษัตริย์ที่รบชนะไทย
จึงขัดกับนโยบาย จอมพล ป ที่ปลูกฝังคนไทยให้รักชาติไทย
2 ญี่ปุ่นมีแผนใช้ไทยเป็นฐานในการบุกอังกฤษที่ยึดครองพม่าอยู่ ทางรัฐบาลจึงไม่อยาก
ยกย่องกษัตริย์พม่า ทำลายขวัญตัวเอง
โชติ แพร่พันธุ์ หรือ ยาขอบ ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ เป็นผู้มี
จุดยืนแข็งคนหนึ่ง ครั้งหนึ่ง จอมพล ป
รณรงค์เรื่องการใช้ภาษาโดยเปลี่ยนสรรพนามให้เหลือแค่
ฉัน ท่าน เขา และท้ายประโยคต้องลงท้ายว่า
"จ้ะ"
โชติ ถึงกับประท้วงเงียบด้วยการ
หยุดเขียนไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
แต่แล้ว ยาขอบ ที่เป็นคนแข็งคนหนึ่งซึ่งได้
วางพล็อตเรื่องผู้ชนะสิบทิศไว้เรียบร้อยแล้ว
กลับต้องมาแก้บทประพันธ์ตัวเองเพียงเพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งไปหาถึงสำนักพิมพ์ ผู้หญิงคนนั้นคือ
"พระองค์เจ้าหญิงเฉิดโฉม" พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
เรื่องราวในตอนนี้มีอยู่ว่า....
ผู้ชนะสิบทิศ เขียนมาถึงตอนที่ จะเด็จ จะเข้าพิธีแต่งงานกับ 2 พระนางคือ
ตะละแม่จันทรา และ ตะละแม่กุสุมา พร้อมๆกันโดยความเห็นชอบของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น
พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ หรือแม้แต่ตัว
ตะละแม่จันทราเอง เนื้อเรื่องก็น่าจะราบรื่น แต่บ่ายวันหนึ่ง
องค์หญิงเฉิดโฉมได้ไปหายาขอบ เมื่อพบแล้วจึงพูดว่า
“ไม่มีใครเขาจะพิเรนทร์หรอกพ่อเอ๋ย จะได้เอาผู้หญิงที่ถูกฉุดถูกคร่าจนเนื้อตัวเสียไปเข้ามาสู่พิธีแต่งงาน
เชิดหน้าชูตาพร้อมกับผู้หญิงที่เป็นพรหมจารีและดีเสียเหลือแสนอย่างตละแม่จันทราฯ"
พระราชดำรัสของพระองค์หญิงนั้น เบื้องต้น
“ยาขอบ”ไม่ยอม เพราะได้วางพล็อตเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว
และการจะเปลี่ยนแนวเรื่องใหม่ที่กุสุมาอดแต่งงานต้องเขียนแนบเนียนและคงต้องใช้เวลา
ในที่สุด พระองค์เจ้าเฉิดโฉมตรัสว่า
“พ่อยาขอบ อย่าให้เสื่อมความจำเริญเสียเพราะความหัวรั้นเลยเอายังงี้เถอะ
อย่าเถียงกันเลยว่าอย่างฉันว่าควร หรืออย่างที่พ่อว่าจะสมควร เอาเพียงว่าพ่อดูฉันซิ
ว่าป่านนี้แล้วจะอยู่ไปได้อีกสักกี่ปี อีกไม่ช้าก็คงตาย พ่อยาขอบช่วยฉันหน่อยได้ไหม
นึกว่าเหมือนหลานช่วยย่า ให้ตายด้วยมีความสุข ว่าลูกหลานไม่ได้ทำความผิด
นึกว่าทำบุญให้คนแก่ตายสบายใจได้ไหม”
ยาขอบรู้สึกเหมือน
" ฟ้าผ่าลงมากลางกบาล" แต่ก็ต้องยอมแก้เหตุการณ์ในเรื่อง
ไม่ให้กุสุมาได้แต่งงานพร้อมกับตละแม่จันทราตามที่คิดไว้แต่เดิม ด้วยการให้
"แม่นางเลาชี"
มารดาของจะเด็จออกมาห้าม โดยขู่ว่า
หากตละแม่กุสุมานั่งเสมอกับตละแม่จันทราเมื่อใด นางก็จะผูกคอตายเมื่อนั้น..
ภาพ ผู้ชนะสิบทิศ ละครที่ฉายทางช่อง 4 บางขุนพรหม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน
นิรุตต์ ศิริจรรยา เป็น จะเด็จ นันทวรรณ เมฆใหญ่ เป็น จันทรา กนกวรรณ ด่านอุดม เป็น กุสุมา
การแก้บทประพันธ์คราวนั้น
ผู้อ่านกลับชื่นชอบเป็นอันมาก คำชมต่างๆหลั่งไหลไปที่ ยาขอบ
อย่างเหนือความคาดหมาย และในช่วง
วันพระราชทานเพลิงศพ องค์หญิงเฉิดโฉม
ยาขอบก็ได้เขียนบทความระลึกถึงพระองค์ ความว่า
“ในฐานะผู้น้อยด้อยศักดิ์ ข้าพเจ้าย่อมหมดโอกาสที่จะไปสักการะพระศพ ด้วยดอกไม้ธูปเทียน
แต่นักประพันธ์เล็กคนหนึ่ง ไม่เคยลืม ความปรารถนาดีที่ใคร ๆ เคยมีต่อมันเลย
จึงขอสักการะพระศพด้วยปากกา ซึ่งไหลออกมาเป็นข้อเขียนชิ้นนี้ แทนดอกไม้ธูปเทียน”
และนี่คือเรื่องราวก็องค์หญิงคนหนึ่งที่ยึดมั่นในกรอบธรรมเนียมประเพณี
จนทำให้นักเขียนที่ยิ่งใหญ่อย่าง ยาขอบ ยอมรับในเหตุผล ยอมแก้ผลงานตัวเองในที่สุด
ป.ล ข้อมูลบางส่วนจากประวัติพระองค์เจ้าหญิงเฉิดโฉม และ เวปเรือนไทย
ป.ล 2 ในเม้นท์ย่อย จะมีเรื่องราวขององค์หญิงท่านนี้
ซึ่งเป็นเรื่องความเชื่อที่เหลือเชื่อจริงๆ
ป.ล 3 เหตุที่องค์หญิงไม่ยอมให้ กุสุมา เข้าพิธีแต่งงานพร้อม จันทรา เพราะ
กุสุมา ถูก สอพินยา ข่มขืนเสียตัว
กลายเป็นผู้หญิงที่มีมลทิน
ป.ล 4 เขียนเรื่องนี้เพราะเป็น
วันคล้ายวันสวรรคตพระเจ้าบุเรงนอง
ป.ล 5 วันนี้วันคล้ายวันเกิด แอ้ด คาราบาว อยากฟังคาราบาวร้องเพลงชุด "ผู้ชนะสิบทิศ"
ป.ล 6 ยาขอบ ยังแต่ง
"สามก๊กฉบับวณิพก" อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ cnck อ่านทุกบทจนขึ้นใจ
ใครอยากให้เขียนก็ส่งกำลังใจมาให้หน่อย 555
cnck
ห้องเพลงคนรากหญ้า **พักยกการเมือง** มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม..มีแต่เสียง 9/11/60 เจ้าหญิงผู้พิชิต ผู้ชนะสิบทิศ cnck
อยู่ในดวงใจคนจำนวนมากแน่นอน
ผู้ชนะสิบทิศเป็นเรื่องราวของ จะเด็จ หรือ พระเจ้าบุเรงนอง ซึ่งเป็น 1 ใน 3 มหาราช
ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพม่า และได้ชื่อว่าเป็นผู้ปราบทั่วทุกทิศ จนได้ชื่อว่า "พระเจ้าชนะสิบทิศ"
หนังสือผู้ชนะสิบทิศ แต่งในช่วงราวปี 2474 -2476 และมารวมเล่มอีกครั้งในปี พ.ศ 2482
ซึ่งอยู่ในช่วงการปฏิวัติของไทยพอดี ทำให้หนังสือเล่มนี้ได้รับความนิยมส่วนหนึ่ง เพราะกระแสความตื่นตัวของประชาชน
ในเรื่องความเท่าเทียมกัน (จะเด็จ ประวัติช่วงนั้นบอกว่า มาจากสามัญชน)
แต่พอมาถึงช่วงที่ญี่ปุ่นบุกไทย และไทยจำต้องมีไมตรีด้วยในช่วงราวปีพ.ศ 2484 เป็นต้นไป
นิยาย "ผู้ชนะสิบทิศ"กลับเป็นหนังสือต้องห้ามเพราะ
1 เป็นการยกย่องกษัตริย์ต่างชาติ หนำซ้ำ เป็นกษัตริย์ที่รบชนะไทย
จึงขัดกับนโยบาย จอมพล ป ที่ปลูกฝังคนไทยให้รักชาติไทย
2 ญี่ปุ่นมีแผนใช้ไทยเป็นฐานในการบุกอังกฤษที่ยึดครองพม่าอยู่ ทางรัฐบาลจึงไม่อยาก
ยกย่องกษัตริย์พม่า ทำลายขวัญตัวเอง
โชติ แพร่พันธุ์ หรือ ยาขอบ ผู้แต่งนิยายเรื่องนี้ เป็นผู้มีจุดยืนแข็งคนหนึ่ง ครั้งหนึ่ง จอมพล ป
รณรงค์เรื่องการใช้ภาษาโดยเปลี่ยนสรรพนามให้เหลือแค่ ฉัน ท่าน เขา และท้ายประโยคต้องลงท้ายว่า "จ้ะ"
โชติ ถึงกับประท้วงเงียบด้วยการหยุดเขียนไปช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
แต่แล้ว ยาขอบ ที่เป็นคนแข็งคนหนึ่งซึ่งได้วางพล็อตเรื่องผู้ชนะสิบทิศไว้เรียบร้อยแล้ว
กลับต้องมาแก้บทประพันธ์ตัวเองเพียงเพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งไปหาถึงสำนักพิมพ์ ผู้หญิงคนนั้นคือ
"พระองค์เจ้าหญิงเฉิดโฉม" พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว
เรื่องราวในตอนนี้มีอยู่ว่า....
ผู้ชนะสิบทิศ เขียนมาถึงตอนที่ จะเด็จ จะเข้าพิธีแต่งงานกับ 2 พระนางคือ
ตะละแม่จันทรา และ ตะละแม่กุสุมา พร้อมๆกันโดยความเห็นชอบของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น
พระเจ้าตะเบ็งชะเวตี้ หรือแม้แต่ตัว ตะละแม่จันทราเอง เนื้อเรื่องก็น่าจะราบรื่น แต่บ่ายวันหนึ่ง
องค์หญิงเฉิดโฉมได้ไปหายาขอบ เมื่อพบแล้วจึงพูดว่า
“ไม่มีใครเขาจะพิเรนทร์หรอกพ่อเอ๋ย จะได้เอาผู้หญิงที่ถูกฉุดถูกคร่าจนเนื้อตัวเสียไปเข้ามาสู่พิธีแต่งงาน
เชิดหน้าชูตาพร้อมกับผู้หญิงที่เป็นพรหมจารีและดีเสียเหลือแสนอย่างตละแม่จันทราฯ"
พระราชดำรัสของพระองค์หญิงนั้น เบื้องต้น“ยาขอบ”ไม่ยอม เพราะได้วางพล็อตเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว
และการจะเปลี่ยนแนวเรื่องใหม่ที่กุสุมาอดแต่งงานต้องเขียนแนบเนียนและคงต้องใช้เวลา
ในที่สุด พระองค์เจ้าเฉิดโฉมตรัสว่า
“พ่อยาขอบ อย่าให้เสื่อมความจำเริญเสียเพราะความหัวรั้นเลยเอายังงี้เถอะ
อย่าเถียงกันเลยว่าอย่างฉันว่าควร หรืออย่างที่พ่อว่าจะสมควร เอาเพียงว่าพ่อดูฉันซิ
ว่าป่านนี้แล้วจะอยู่ไปได้อีกสักกี่ปี อีกไม่ช้าก็คงตาย พ่อยาขอบช่วยฉันหน่อยได้ไหม
นึกว่าเหมือนหลานช่วยย่า ให้ตายด้วยมีความสุข ว่าลูกหลานไม่ได้ทำความผิด
นึกว่าทำบุญให้คนแก่ตายสบายใจได้ไหม”
ยาขอบรู้สึกเหมือน " ฟ้าผ่าลงมากลางกบาล" แต่ก็ต้องยอมแก้เหตุการณ์ในเรื่อง
ไม่ให้กุสุมาได้แต่งงานพร้อมกับตละแม่จันทราตามที่คิดไว้แต่เดิม ด้วยการให้"แม่นางเลาชี"
มารดาของจะเด็จออกมาห้าม โดยขู่ว่า หากตละแม่กุสุมานั่งเสมอกับตละแม่จันทราเมื่อใด นางก็จะผูกคอตายเมื่อนั้น..
ภาพ ผู้ชนะสิบทิศ ละครที่ฉายทางช่อง 4 บางขุนพรหม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน
นิรุตต์ ศิริจรรยา เป็น จะเด็จ นันทวรรณ เมฆใหญ่ เป็น จันทรา กนกวรรณ ด่านอุดม เป็น กุสุมา
การแก้บทประพันธ์คราวนั้น ผู้อ่านกลับชื่นชอบเป็นอันมาก คำชมต่างๆหลั่งไหลไปที่ ยาขอบ
อย่างเหนือความคาดหมาย และในช่วงวันพระราชทานเพลิงศพ องค์หญิงเฉิดโฉม
ยาขอบก็ได้เขียนบทความระลึกถึงพระองค์ ความว่า
“ในฐานะผู้น้อยด้อยศักดิ์ ข้าพเจ้าย่อมหมดโอกาสที่จะไปสักการะพระศพ ด้วยดอกไม้ธูปเทียน
แต่นักประพันธ์เล็กคนหนึ่ง ไม่เคยลืม ความปรารถนาดีที่ใคร ๆ เคยมีต่อมันเลย
จึงขอสักการะพระศพด้วยปากกา ซึ่งไหลออกมาเป็นข้อเขียนชิ้นนี้ แทนดอกไม้ธูปเทียน”
และนี่คือเรื่องราวก็องค์หญิงคนหนึ่งที่ยึดมั่นในกรอบธรรมเนียมประเพณี
จนทำให้นักเขียนที่ยิ่งใหญ่อย่าง ยาขอบ ยอมรับในเหตุผล ยอมแก้ผลงานตัวเองในที่สุด
ป.ล ข้อมูลบางส่วนจากประวัติพระองค์เจ้าหญิงเฉิดโฉม และ เวปเรือนไทย
ป.ล 2 ในเม้นท์ย่อย จะมีเรื่องราวขององค์หญิงท่านนี้ ซึ่งเป็นเรื่องความเชื่อที่เหลือเชื่อจริงๆ
ป.ล 3 เหตุที่องค์หญิงไม่ยอมให้ กุสุมา เข้าพิธีแต่งงานพร้อม จันทรา เพราะกุสุมา ถูก สอพินยา ข่มขืนเสียตัว
กลายเป็นผู้หญิงที่มีมลทิน
ป.ล 4 เขียนเรื่องนี้เพราะเป็นวันคล้ายวันสวรรคตพระเจ้าบุเรงนอง
ป.ล 5 วันนี้วันคล้ายวันเกิด แอ้ด คาราบาว อยากฟังคาราบาวร้องเพลงชุด "ผู้ชนะสิบทิศ"
ป.ล 6 ยาขอบ ยังแต่ง "สามก๊กฉบับวณิพก" อีกด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ cnck อ่านทุกบทจนขึ้นใจ
ใครอยากให้เขียนก็ส่งกำลังใจมาให้หน่อย 555
cnck