ไปปราก อยากรีวิว Day 1 - 2 Prague https://ppantip.com/topic/36926355
ไปปราก อยากรีวิว Day 3 Český Krumlov https://ppantip.com/topic/36929047
ไปปราก อยากรีวิว Day 4 Austria - Hallstatt https://ppantip.com/topic/36936077
ไปปราก อยากรีวิว Day 6 Austria - Innsbruck https://ppantip.com/topic/37120673
ไปปราก อยากรีวิว Day 7 Germany - Munich --> Bangkok https://ppantip.com/topic/37160923

ห่างหายไประยะนึงในเดือนที่พวกเราพร้อมใจกันถวายความอาลัยครับ เลยเพิ่งจะมีโอกาสกลับมาโพสในวันที่ 5 ของทริปนี้ของผมต่อนะครับ

จาก Hallstatt เราเที่ยวเสร็จประมาณ บ่ายแก่ๆแล้ว ทั้งที่มาถึงตอนเที่ยงเองนาาาา หมดแล้ว ตามแผนเดิม จำไม่ได้ว่ากระทู้ที่แล้วได้พูดไหม เราไม่ได้นอนค้างที่ Hallstatt แต่เราจะไปนอนที่ Salzburg กัน

หลังจากรถบัสสาย 543 --> 542 --> และ 150 พาเรามาถึงสถานีรถบัสของ Salzburg ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ Salzburg ด้วยเช่นกัน เราจองโรงแรมที่ชื่อ Achat Plaza โรงแรมเล็กๆครับ แต่การต้อนรับน่ารักดีด้วยช็อคโกแลตที่เป็น Signature ของ Salzburg และที่สำคัญตั้งแต่ที่พักโรงแรมมา โรงแรมนี้เน็ตแรงมากกกกกกก สามบ้านแปดบ้าน ความดีงามแห่ง Salzburg อยู่ที่นี่ นี่เอง (รูปจาก agoda ครับ ผมไม่ได้ถ่าย แย่ๆ 555)



เย็นวันนั้น ก็โดนเพื่อนลวงไปเดินหาร้านอาหารไทยที่ปิดกิจการไปแล้ว เนื่องจากเริ่มจะโหยอาหารแซ่บๆกันแล้ว ด้วยการเดินอ้อมสุดๆ จนเมื่อยล้าและมาได้ร้านอาหารเอเชีย ห่างจากโรงแรมประมาณ 100 เมตร เสร็จจากการกิน ก็ได้พักผ่อนนอนหลับกันไป

เตียงนุ่มนอนสบายสุดแล้ว ตื่นเช้าเบาเบา อาบน้ำแต่งตัวและแพคกระเป๋าพร้อมจะเอาไปฝากที่ Front และก็จะได้เริ่มเที่ยวกัน
ก่อนออกจากโรงแรมสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวคือ อย่าลืมซื้อ Salzburg Card ที่มีขายที่โรงแรม ราคาที่ผมซื้อได้คือ 27 ยูโร ไม่รู้ที่อื่นถูกกว่านี้ไหมนะ แต่ Salzburg Card รวมทุกอย่างที่ต้องใช้ในการเดินทาง บัตร และ ตั๋วต่างๆ ไว้ให้หมดแล้ว ซึ่งทำให้การเที่ยวใน Salzburg ง่ายมากยิ่งขึ้น ผมซื้อแบบ 24 ชั่วโมง ซึ่งไม่เกินการท่องเที่ยววันนี้อยู่แล้ว

เราเดินมาเรื่อยๆ จากโรงแรม มีป้าย tram ผมนั่งรถมาประมาณ 3 ป้ายเอง ลงที่ป้าย Mirabellplatz  จริงๆเดินเอาก็ได้ อากาศดีขนาดนี้


เริ่มตรงที่สวน Mirabellgarten หรือ Mirabell Garden สวนที่เป็นฉากหนึ่งในภาพยนตร์ The Sound of Music เราก็ไปวิ่งกระโดดโลดเต้นกันสนุกสนานกันไปนานพอสมควร

บางทีก็ต้องทำเวลา เพราะผมว่า Salzburg มีที่เที่ยวเยอะเลย


ดอกทิวลิปนี่เหมือนดอกไม้ข้างทางจริงๆ ไม่ใช่ไม่สวย แต่มีเยอะ ทั่วไป จนคนแถวนี้ไม่ตื่นเต้นเหมือนเราเลยแหะ




ใช้เวลาขำขันอยู่ในสวนสักพัก ก็ออกมาจากประตู ซึ่งคือ Makartplatz ข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม คือ พิพิธภัณฑ์ Mozart ซึ่งคือบ้านที่ครอบครัวของ Mozart ย้ายมาอยู่ตอนโต ตามรูปตรงที่มีธงคือทางเข้าครับ เราใช้ Salzburg Card ในการเข้าไปเยี่ยมชม ห้ามถ่ายรูปเลยไม่มีอะไรมาให้ดู


อาคารนี้สวยดี



เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำ ซาลส์ซักค์ (Salzach) เพื่อข้ามไปฝั่งพระราชวัง แต่ก่อนที่จะเดินเล่นที่ปราสาท Salzburg เราต้องใช้การ์ดให้คุ้มหน่อย ด้วยการล่องเรือชมทัศนียภาพทางแม่น้ำ ฟรีครับฟรี จริงๆรวมอยู่ในการ์ดแล้ว แต่เราต้อง book ก่อน Counter สำหรับ Booking อยู่บริเวณตีนสะพาน แต่เปิด 11 โมงครับ นี่ก็ใกล้แล้ว ไปหาแซนวิซกับกาแฟอร่อยๆ รอ



เรือที่นั่งชมวิวริมแม่น้ำ มันจะออกแนวอวกาศนิดนึง ถามว่าถ่ายรูปมาไหม ตอบว่าไม่ !! 555 คือเด็กเยอะมาก Book ไปสักพัก อะไรก็ไม่เลวร้ายเท่าเจอขบวนทัศนศึกษา ต้องยืนดูอีกตะหาก เราต้องเสียสละให้เด็กนั่ง เดี๋ยวเสียชื่อชายไทย 555

วิวริมแม่น้ำก็จะประมาณนี้


หลังจากเสร็จจากแม่น้ำ เรากลับมาเดินหาอะไรกินอีกที ตอนนี้อยากกินข้าวมาก ข้าวที่เป็นข้าวจริงๆ โหยมาก เราเดินเล่นเจอร้านอาหารจีนก็จัดไปจนอิ่มหนำ ร้านจะอยู่บนซอยนี้ ที่มีร้าน Brand Name หลายร้านเลย เป๋าตังค์หลุยส์ ก็ได้จากนี่แหละ



เมื่อท้องอิ่มแล้ว มันก็เป็นธรรมดาที่เราจะอยากถึงจุดสุดยอด ใช่ครับ จุดสุดยอดของ Salzburg ก็ต้องไปที่ Unterburg นั่นไง

๊Unterburg เป็นภูเขาสูงมาก มีหิมะปกคลุมตลอดปี ใครมาเที่ยวฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ แล้วต้องการบรรยากาศหิมะของยุโรป ก็เชิญที่นี่
เราใช้ Salzburg Card นั่งรถบัสสาย 25 จากในเมือง ตรงที่เราชอปปิ้งและกินข้าวกัน นั่งยาวไปเลยครับไม่ต้องกังวลเพราะเราลงป้ายสุดท้ายซึ่งคนขับรถเค้าก็จะจอดและลงจากรถไป มีเพื่อนลงเยอะ ระหว่างทางจะผ่าน พระราชวัง Hellbrunn ซึ่งผ่านทั้งขาไปและกลับ ผมถามเพื่อนแล้ว มันไม่ลงกัน เราก็เลยอดเลย

Salzburg Card จะรวมค่าขึ้นกระเช้าไว้ให้แล้ว นั่งได้ไปกลับ 1 รอบ มันก็จะเสียวๆหน่อย


ขึ้นมาถึงแล้วววว กล้วยทอด มันหนาว ลมแรง ลื่น เปียก แฉะ และเสียวมาก ตรงนี้จะมีคาเฟ่เล็กๆอยู่ด้วยสำหรับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไม่อยากไปต่อ


สำหรับเราที่ยังมีใจ สามารถเดินต่อไปได้




เราได้เจอเพื่อนใหม่คนไทย บนจุดสูงสุดนั้น เออเจ๋งดี ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดบ่ายจนเย็น คุยไปคุยมาพักโรงแรมเดียวกันอีก ก็เลยได้เที่ยวด้วยกันตลอดบ่ายวันนั้น และรู้จักกันมาจนวันนี้ก็ยังคุยกันอยู่ ดีจริงจัง

หลังจากลงกระเช้ามาแล้ว เรานั่ง 25 กะว่าจะกลับมาที่ที่เราขึ้นรถ ซึ่งเป็นบริเวณที่จะขึ้นไปปราสาท แต่รถบัสดันข้ามสะพานไปฝั่ง Makartplatz พวกเราซึ่งกลายเป็น 5 คนแล้ว เลยลงตรงป้ายถัดไป แล้วเดินลอดอุโมงค์ข้ามแม่น้ำมา แล้วก็มาเจอกับอะไรเจ๋งๆในเมืองศิลปินแห่งนี้อีกแล้ว


จากนั้นเราเดินขึ้นไปที่ปราสาทกันครับ จะผ่านย่าน คาเฟ่ เยอะๆที่มีอนุเสาวรีย์ใครสักคนอยู่


ในใจคิด เพื่อนเราใครสะบัดฉี่ไม่ดีหรือเปล่าวะ ได้กลิ่นฉี่ เดินมาอีกหน่อย อ่อ ของเจ้าพวกนี้นี่เอง


ก่อนขึ้นปราสาท มีจตุรัส ที่มีลานน้ำพุอยู่ด้านหน้า มีโบสถ์ Salzburg อยู่ตรงนั้น สวยดีนะ ใช้เวลานานเลยกว่าจะได้ขึ้นปราสาท


เฮ้ย ลงมาๆ พันทิปให้อภัยแล้ว ตึ่งโป๊ะ! ไม่ใช่ อันนี้น่าจะเป็นเจ้าของช็อคโกแลตลูกกลมๆ signature ของเมืองนี้ ส่วนตัวผมว่า อนุเสาวรีย์นี้มันดู contrast กับสถาปัตยกรรมโดยรอบไปหน่อย ไม่หน่อยอะมาก


เราขึ้นรถรางไปข้างบนปราสาทกันครับ ด้วยบัตรวิเศษษษษษษษ "Salzburg Card" เสียงพากษ์โดเรม่อน ช่อง 9 การ์ตูน


เราเดินเล่นบนประสาทกันใช้เวลาพอสมควร ซึ่งปิดท้ายการท่องเที่ยวที่ Salzburg ของเราก่อนจะลงไปหอบช็อคโกแลตไปฝากมิตรรักแฟนเพลง และปาเก๋าหลุยส์ตามที่ พรีออเดอร์ มาจากญาติพี่น้อง และคอลลีคนี่น่ารัก ฝากตังค์มาเที่ยว



สุดท้าย เราเสิร์ชหาข้าวกะเพรากิน และไปได้ร้านอาหารเอเชียใกล้ๆโรงแรมร้านเดิม เออ พอแก้ขัดได้เหมือนกัน จากนั้นก็ไปจองตั๋วรถไฟ เอากระเป๋าที่ฝากไว้ และคืนนี้เราจะไปนอนที่ Innbruck กัน ติดตามในรีวิวถัดไปนะครับ

สุดท้ายนี้ ผมขอบคุณที่เข้ามาอ่านเป็นกำลังใจดีๆให้ผม แค่นี้ผมก็สนุกกับการรีวิวแล้วครับ
รูปที่ผมถ่ายอาจจะไม่สวย และมัวไปบ้างตาม effect ของกล้องที่ผมตั้งใจเลือกใช้ ผมไม่ใช่ตากล้องมืออาชีพ หากไม่ถูกใจใครบ้างขออภัยไว้ ณ ที่นี้ครับผม ^^